ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การกำจัดไขมันต้นแขนอย่างรวดเร็วอาจจะดูเป็นเรื่องที่ยากจนรู้สึกท้อ แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ทำได้นะ! โดยคุณไม่สามารถที่จะกำจัดแค่ไขมันต้นแขนแต่ยังสามารถกำจัดไขมันได้ทั่วทั้งร่างกายจึงจะทำให้ต้นแขนดูเล็กลง เป้าหมายคือการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ 3 ครั้งต่อสัปดาห์รวม 90 นาทีเพื่อให้แขนดูกระชับ เผาผลาญไขมันโดยการเพิ่มการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่หนักระดับปานกลางอีกอย่างน้อย 75-150 นาทีต่อสัปดาห์ จัดการกับปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดการสะสมไขมันต้นแขนและพยายามนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้นและรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ยกน้ำหนักเพื่อให้ต้นแขนกระชับ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ยืนตรงถือดัมเบลไว้ให้ฝ่ามือหันออกนอกลำตัว จากนั้นหายใจออกขณะยกดัมเบลขึ้นอย่างช้าๆ จนถึงระดับหัวไหล่ ให้งอกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้าขณะยกดัมเบล เมื่องอกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้าเต็มที่แล้วหายใจออกและลดดัมเบลกลับมาไว้ด้านข้างลำตัวอย่างช้าๆ ทำ 10-15 ครั้ง 2-3 เซตของแขนแต่ละข้าง [1]
  2. ท่า shoulder press จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่และช่วยให้กล้ามเนื้อหัวไหล่กระชับ ถือดัมเบลในมือแต่ละข้างและยกให้เหนือระดับไหล่โดยหันฝ่ามือเข้าหากัน ยืนให้ขากว้างเท่าระดับหัวไหล่และงอเข่าเล็กน้อย ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ ค้างไว้ 1 วินาทีแล้วเอากลับลงมาที่ระดับหัวไหล่โดยนับให้ถึง 3 ทำ 10-15 ครั้ง 2-3 เซต [2]
    • เริ่มด้วยดัมเบล 2, 5, 10 ปอนด์ขึ้นกับความแข็งแรงและระดับที่รู้สึกว่าทำได้สบาย
  3. การยืนยกแขนเป็นรูปตัววีสามารถช่วยให้เผาผลาญไขมันและกล้ามเนื้อหัวไหล่ได้ทำงาน ถือดัมเบลไว้ในมือแต่ละข้างและยืนให้เท้าห่างกันระดับหัวไหล่ เริ่มจากแขนสองข้างอยู่ข้างลำตัวและยกขึ้นช้าๆ ให้อยู่ในรูป “V” แขนเหยียดตรงและยกขึ้นจนถึงระดับที่ขนานกับพื้น ค้างท่านี้ไว้ 1 วินาทีจากนั้นเอาแขนลง ทำ 12-15 ครั้ง 2-3 เซต [3]
  4. Sit-up pullover จะช่วยให้กล้ามเนื้อหลังแขนและหน้าท้องทำงานละช่วยเผาผลาญไขมัน ถือน้ำหนักไว้ในมือแต่ละข้างและนอนบนเสื่อออกกำลังกายให้แขนสองข้างเหยียดตรงขึ้นเหนือลำตัว โดยงอเข่าสองข้างและวางเท้าราบกับพื้น ยกลำตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อยกศีรษะ สะบัก และหลังให้พ้นพื้น เหยียดแขนขึ้นและเคลื่อนไหวแบบสบายๆ ในแนวโค้งเข้าหาเข่าสองข้าง ค้างไว้ในท่านี้สัก 1 วินาที จากนั้นลดตัวกลับลงมาเช่นเดิม ทำ 10-15 ครั้ง 2-3 เซต [4]
  5. เลือกน้ำหนักเล็กๆ สัก 1 หรือ 2 ปอนด์ไว้ในมือข้างละอันแล้วยืนให้เท้าห่างจากกันเท่ากับความกว้างสะโพก ชกกำปั้นขวาออกไปด้านหน้าโดยไม่ล็อคแขน จากนั้นดึงกลับมาให้เร็วแล้วชกข้างซ้ายในทิศขึ้น สลับกันทำท่าดังกล่าวนี้ 60 วินาที ทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [5]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ออกกำลังกายแบบอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ท่า triangle pushups จะช่วยให้กล้ามเนื้อไหล่และหน้าอกทำงานรวมทั้งยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่อีกด้วย ทำบนเสื่อออกกำลังกายโดยอยู่ในท่า pushup ปกติให้แขนห่างจากกันเท่าความกว้างของช่วงไหล่และเหยียดแขนออกไปเพื่อรองรับลำตัวช่วงบน ขยับมือเข้าหากันให้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยมในแนวใต้ต่อหน้าอกโดยให้นิ้วชี้สองข้างแตะกันด้านยอดสามเหลี่ยมและนิ้วโป้งสองข้างแตะกันเป็นรูปฐานสามเหลี่ยม หย่อนตัวลงจนเกือบถึงพื้นแล้วยันตัวกลับขึ้นมาท่าเดิม [6]
    • triangle pushups จะช่วยให้ได้กล้ามเนื้อหลากหลายมากกว่า pushups แบบดั้งเดิม
    • กระตุ้นกล้ามเนื้อลำตัวเพื่อให้ลำตัวตรงขณะขึ้นและลง
    • การออกกำลังกายนี้สามารถทำได้โดยเหยียดขาให้สุดหรือจะวางเข่าบนพื้นก็ได้
    • ทำให้ได้ 10-15 ครั้ง 2-3 เซต
  2. การกระโดดเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ทำให้สร้างกล้ามเนื้อต้นแขนได้ด้วย ขณะกระโดดเชือกให้นับเป็นนาทีว่ากระโดดได้กี่ครั้ง [7]
    • ซื้อเชือกกระโดดที่คุณภาพดีจากร้านขายอุปกรณ์ออกกำลังกายหรือทางออนไลน์เพื่อให้กระโดดได้ง่านขึ้น เลือกที่จับที่สามารถจับได้สบาย
  3. การใช้ rowing machine จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่และกระชับกล้ามเนื้อต้นแขน การใช้เครื่องนี้ให้รัดเท้าไว้แล้วยื่นมาไปจับที่จับด้านหน้า หลังตรงและงอเข่า ออกแรงขาถีบและดึงที่จับเข้าหาหน้าอก จากนั้นเหยียดแขนและงอเข่าอีกครั้งให้มือจับกลับไปที่ท่าตั้งต้น [8]
  4. การออกกำลังกายโดยใช้ร่างกายเป็นแรงต้านคือการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้น้ำหนักหรืออุปกรณ์ใดๆ เพียงแค่ใช้น้ำหนักตัวในการสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญแคลอรี่ การออกกำลังกายที่ใช้ร่างกายเป็นแรงต้านที่พบบ่อยๆ ได้แก่ การกระโดดตบ, burpee, และ push ups
  5. การเผาผลาญที่ต่ำและขาดการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสามารถทำให้น้ำหนักตัวขึ้นได้ และจะยิ่งแย่เพิ่มขึ้นตามอายุ กำจัดไขมันส่วนเกินออกไปโดยออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับหนักอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ กิจกรรมอย่างเช่นการขี่จักรยาน, การเดิน, การว่ายน้ำ, การเล่นสกี, การวิ่งเหยาะๆ, และการเล่นโรลเลอร์เบลดก็เป็นตัวเลือกที่ดี [9]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำให้สุขภาพดีขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปัญหาสุขภาพกาจทำให้ร่างกายสะสมไขมันไว้ที่ต้นแขนและบริเวณอื่นทั่วร่างกาย ได้แก่ ปัญหาไทรอยด์หรือเบาหวาน แพทย์สามารถใช้การตรวจระดับฮอร์โมนจากการตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีระดับที่ไม่สมดุลหรือไม่ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ต่ำสามารถทำให้มีการสะสมไขมันที่ต้นแขน, ต้นขา, และหน้าท้องส่วนล่างได้ [10]
    • แพทย์อาจวินิจฉัยให้รักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน หรือ ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อให้ระดับเทสโทสเตอโรนสูงขึ้น
  2. การนอนเป็นส่วนสำคัญในการเผาผลาญไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อซึ่งจะเกิดขึ้นได้ดีเมื่อมีการใช้พลังงานน้อยลง นอนหลับให้ได้ระหว่าง 7-9 ชั่วโมงในแต่ละคืนโดยมีการกำหนดวิธีการนอนให้ปฏิบัติตาม ได้แก่ 60-90 นาทีให้ผ่อนคลายก่อนเข้านอน ในช่วงเวลานี้ให้ปิดโทรศัพท์มือถือและทำสิ่งที่ผ่อนคลายอย่างเช่น การอ่านหนังสือหรือสวดมนต์ [11]
    • การนอน 7-9 ชั่วโมงในแต่ละคืนยังช่วยให้พลังงานกลับมาเพียงพอสำหรับการออกกำลังกายในวันถัดไปด้วย
  3. การขาดโปรตีนสามารถทำให้ระดับเทสโทสเตอโรนต่ำลง ทำให้เกิดการสะสมไขมันที่ต้นแขน อาหารที่มีไขมันสูงยังสามารถทำให้เกิดการสะสมไขมันที่ต้นแขนได้จากการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งแขนก็เช่นดัน จุดประสงค์คือการรับประทานโปรตีนสูงร่วมกับรับประทานผักให้มาก [12]
    • เพิ่มอาหารจำพวกเนื้อไก่ล้วนและเนื้อปลา, โยเกิร์ต, รวมถึงเมล็ดธัญพืชและถั่วเข้าไปในอาหารที่รับประทานด้วย
    • ตัดอาหารจานด่วน ของว่างที่มีรสหวาน รวมถึงการใส่เครื่องเคียงและซอสมากๆ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,402 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา