PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อถึงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มแล้วจะมีการประทับรอยจูบ รอยจูบคือรอยที่ดูเหมือนรอยฟกช้ำบนผิว เนื่องจากรอยจูบคล้ายกับรอยฟกช้ำ คุณจึงสามารถลบรอยจูบได้ด้วยวิธีเดียวกับการลบรอยฟกช้ำ [1] คุณยังสามารถปิดรอยจูบด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับ และเครื่องสำอางได้อีกด้วย เพราะรอยจูบอาจเป็นเรื่องน่าอาย จึงเป็นธรรมดาที่คุณจะต้องการปกปิดหรือลบมันออก

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ลบรอยจูบเองที่บ้าน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การวางถุงน้ำแข็งบนรอยจูบจะช่วยลดการบวมของรอยได้ ซึ่งจะทำให้รอยจางลง และน้ำแข็งก็จะช่วยลดอาการเจ็บตรงรอยได้อีกด้วย [2]
    • ห่อถุงน้ำแข็งด้วยผ้าสะอาดเพื่อไม่ให้คุณถูกน้ำแข็งกัด [3] คุณยังสามารถใช้ช้อนเย็นๆ ประคบรอยจูบได้ด้วย แต่ระวังอย่าถูมันกับผิวคุณล่ะ [4]
    • คุณยังสามารถใช้ถุงใส่ผักแช่แข็ง เช่น ถั่ว หรือถ้วยโฟมใส่น้ำแช่แข็งได้ หากคุณไม่มีถุงน้ำแข็ง
    • ประคบน้ำแข็งตรงรอยจูบเป็นเวลาประมาณ 20 นาทีต่อครั้ง ทิ้งช่วงสักหนึ่งชั่วโมงหรือสองชั่วโมงก่อนจะประคบอีกครั้ง ประคบน้ำแข็งประมาณสองถึงสามครั้งต่อวัน คุณอาจจะประคบแค่วันเดียวหรือติดต่อกันนานสองวันก็ได้ [5]
  2. หลังจากประคบรอยจูบด้วยน้ำแข็งได้สองถึงสามวันแล้ว คุณก็สามารถใช้ความร้อนกับรอยจูบได้ [6] การรักษาด้วยความร้อนจะเป็นการช่วยขยายหลอดเลือดและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะช่วยเสริมการรักษารอย [7]
  3. ว่านหางจระเข้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติ มันจะช่วยเสริมการรักษารอยจูบ ทาเจลจากว่านหางจระเข้ที่รอยจูบ ทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วจึงเช็ดออกด้วยกระดาษทิชชู ทำวันละสองครั้งจนกว่ารอยจูบจะหายไป [10]
  4. การประคบเปลือกกล้วยด้านในกับรอยจูบจะช่วยทำให้ผิวเย็นลง ซึ่งอาจจะช่วยลดขนาดของรอยจูบได้ ปอกเปลือกกล้วยและประคบเปลือกด้านในกับรอยจูบ ประคบไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงเช็ดคราบจากเปลือกกล้วยออกด้วยกระดาษทิชชูหรือผ้าชุบน้ำ [11]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เร่งการรักษา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การขาดวิตามินเคและซีอาจจะทำให้รอยช้ำกว่าเดิม คุณควรจะคิดถึงการซื้ออาหารเสริมวิตามินซี และเค หรือกินอาหารที่มีวิตามินซีและเคมากขึ้น
    • ตัวอย่างอาหารที่มีวิตามินเคสูง คือ ผักเคล ผักโขม บร็อคโคลี่ ตับ และไข่ [12]
    • อาหารที่เป็นแหล่งรวมวิตามินซี คือ สตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ มันเทศ และพริกแดง [13]
    • จะเป็นการง่ายกว่าหากคุณเพิ่มปริมาณอาหารแทนการเปลี่ยนไปกินอาหารเสริม แต่คุณก็สามารถปรึกษาแพทย์เรื่องอาหารเสริมได้ คุณยังสามารถปรึกษาพ่อแม่เรื่องอาหารเสริมได้อีกด้วย หากคุณไม่อยากจะอธิบายเหตุผลล่ะก็ คุณก็สามารถพูดประมาณว่า "วันนี้มีเรียนเกี่ยวกับความสำคัญของวิตามิน และผมก็คิดว่าผมควรจะกินวิตามินเสริมบ้าง"
  2. หยุดสูบบุหรี่ . หากคุณสูบบุหรี่หรือใช้ยาสูบชนิดอื่นอยู่ล่ะก็ ให้หยุดสูบช่วงที่คุณมีรอยจูบ การสูบบุหรี่จะทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ลดลง และจะทำให้รอยจูบหายช้าลงตามไปด้วย [14]
    • ปรึกษาแพทย์หากคุณต้องการจะเลิกสูบบุหรี่ แพทย์จะมียาและแผนการเลิกบุหรี่ที่จะช่วยให้คุณเลิกสูบได้ง่ายขึ้น
    • หากคุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ การสูบบุหรี่ก็ถือเป็นความคิดที่ไม่ดีมากๆ ร่างกายของคุณอยู่ในช่วงพัฒนา และการสูบบุหรี่ก็จะเป็นการรบกวนกระบวนการนั้น คุณควรปรึกษาพ่อแม่หากคุณเริ่มสูบบุหรี่ อธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่าคุณอยากจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น และต้องการจะเลิกสูบ แม้ว่าคุณอาจจะต้องเจอกับปัญหาบ้าง แต่ผลจากการเลิกสูบก็จะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้นมาก
  3. หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณรอยจูบ แม้ว่าคุณอาจจะอยากลองนวดดูก็ตาม [15] ผลที่ตามมาอาจจะแย่ลง คุณอาจจะทำให้ผิวช้ำ และรอยก็จะยิ่งชัดขึ้น คุณควรหลีกเลี่ยงการระบายเลือดออกจากรอยด้วยเข็มเช่นกัน วิธีนี้อาจจะทำให้มีแผลมากขึ้น และยังเจ็บมากอีกด้วย
  4. แม้ว่าการรักษาบางอย่างอาจจะช่วยเร่งให้รอยจูบหายเร็วขึ้น และช่วยทำให้รอยจางลงได้ แต่มันก็ยังต้องใช้เวลาในการรักษา หากการประทับรอยจูบเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติเวลาที่คุณเล้าโลม คุณก็ควรคุยกับคนรักให้เปลี่ยนไปจูบบริเวณอื่นที่มองไม่เห็นหรือบริเวณที่ไม่มีรอยจูบอยู่แทน [16]
    • รอยจูบ รอยฟกช้ำ หรือภาวะเลือดออกในเนื้อเยื่อ เป็นอาการบาดเจ็บอย่างหนึ่ง คุณจึงควรปล่อยให้บริเวณเหล่านั้นได้ฟื้นตัว เช่นเดียวกับเวลาที่คุณทำกับรอยฟกช้ำตามปกติ [17]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ปกปิดรอยจูบ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีนี้จะช่วยปกปิดรอยจูบได้ตลอดทั้งวัน สวมเสื้อคอเต่าที่ปิดคอได้มิด หรือจับปกเสื้อของเสื้อเชิ้ตตั้งขึ้น [18]
    • เสื้อคอเต่าอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะปกเสื้อเชิ้ตอาจจะไม่สามารถปิดรอยจูบได้สนิท
    • ผู้คนอาจจะสงสัยได้ ถ้าคุณสวมเสื้อที่ปิดคอตัวเองติดต่อกันหลายวัน ใช้วิธีสวมเสื้อปกปิดสักหนึ่งหรือสองวัน แล้วจึงค่อยเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่น
  2. วิธีนี้เป็นการปกปิดรอยจูบแบบน่ารัก และยังเป็นการเพิ่มสีสันให้กับชุดของคุณอีกด้วย ทั้งผ้าพันคอแบบพัน ผ้าพันคอแบบผูก รวมถึงเครื่องประดับติดเพชรพลอย อย่างสร้อยคอ ก็สามารถช่วยปกปิดรอยจูบได้ชั่วคราวเช่นกัน [19]
    • เช่นเดียวกับการปกปิดรอยจูบด้วยเสื้อผ้า ผู้คนอาจจะสงสัยหากคุณใช้วิธีนี้ติดต่อกันนานเกินไป ให้ลองเปลี่ยนไปใช้เครื่องประดับหลายๆ แบบ และเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นหลังจากผ่านไปหนึ่งหรือสองวันแล้ว
  3. หากคุณมีผมยาว คุณก็จะสามารถใช้ผมปิดบริเวณคอได้ วิธีนี้อาจจะใช้ไม่ได้ผลดีนักสำหรับการปกปิดตลอดทั้งวัน แต่คุณก็สามารถใช้ได้หากต้องการปกปิดรอยจูบชั่วคราว ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะต้องซ่อนรอยจูบจากพ่อแม่ เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องอย่างไม่ให้ทันตั้งตัว คุณก็สามารถปัดผมให้ปิดรอยจูบได้ [20]
  4. ปกติแล้วรอยจูบจะมีสีม่วง คอนซีลเลอร์สีเขียวจะช่วยปรับโทนสีให้รอยจูบจางลงได้ [21]
    • ทาคอนซีลเลอร์ที่รอยจูบ อย่ากลัวที่จะทาเยอะ ยิ่งเยอะเท่าไร ก็สามารถปกปิดรอยจูบได้เนียนขึ้นเท่านั้น
    • ใช้คอนซีลเลอร์ที่เข้ากับสีผิวของคุณ ลงคอนซีลเลอร์สีนี้ทับคอนซีลเลอร์สีเขียวด้วยแปรงแต่งหน้า
    • ค่อยๆ แต้มบริเวณรอบๆ คอนซีลเลอร์ด้วยฟองน้ำแต่งหน้า จนกว่ามันจะจางจนเนียนไปกับสีผิวของคุณ และมองไม่เห็นเมื่อลองส่องกระจกดู
  5. ปกปิดด้วยคอนซีลเลอร์สีชมพูเมื่อรอยจูบเปลี่ยนสี. รอยจูบมักจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือเขียวเมื่อเริ่มดีขึ้น เมื่อผิวฟื้นตัวจนถึงจุดนี้ ให้เปลี่ยนไปใช้คอนซีลเลอร์สีชมพูจางๆ แทน วิธีนี้จะช่วยปกปิดรอยจูบได้ดีขึ้น [22] ลงคอนซีลเลอร์ด้วยวิธีเดียวกับที่คุณลงคอนซีลเลอร์สีเขียว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คุณสามารถใช้วิธีรักษาเช่นเดียวกับรอยฟกช้ำได้ เนื่องจากทั้งรอยจูบและรอยฟกช้ำเกิดจากการรวมตัวของเลือดเหมือนกัน
โฆษณา

คำเตือน

  • มีผลิตภัณฑ์และวิธีรักษามากมายที่ว่ากันว่าจะช่วยลบรอยจูบและรอยฟกช้ำได้ แต่คุณควรระวังการใช้วิธีเหล่านี้ โปรดจำไว้ว่ารอยจูบกับรอยฟกช้ำจะหายไปเมื่อเลือดที่ออกใต้ผิวหนังตรงรอยช้ำถูกดูดซึมกลับเข้าระบบหมุนเวียนเลือด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถเร่งได้ [23] การกินอาหารเสริมที่ไม่ได้มีการรับรองว่าได้ผลจริง หรือการรักษาด้วยตัวเองที่บ้านอาจจะไม่สามารถช่วยให้รอยจูบหายเร็วขึ้นได้ และอาจจะทำให้คุณต้องกินยาอื่นเพิ่มแทน
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • คอนซีลเลอร์ รองพื้น หรือไพรเมอร์
  • ถุงประคบร้อนและถุงประคบเย็น

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 399,492 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา