จุดซ่อนเร้นเป็นบริเวณที่บอบบางของร่างกายที่ต้องการการดูแลอย่างถูกต้องเพื่อรักษา ความสะอาดและสุขภาวะที่ดี ตามปกติแล้วจุดซ่อนเร้น (รูเปิดด้านในที่เป็นทางเข้าสู่ปากมดลูก) เป็นอวัยวะที่ทำความสะอาดตัวเองและไม่จำเป็นต้องล้าง แต่คุณก็ต้องทำความสะอาดบริเวณปากช่องคลอด (ด้านนอกของอวัยวะเพศ) และบริเวณรอบๆ ทวารหนักให้สะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคืองในจุดซ่อนเร้น กำหนดกิจวัตรประจำวันในการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นเพื่อให้บริเวณโดยรอบสะอาด และคุณยังสามารถรักษาความสะอาดได้ด้วยการสร้างสุขลักษณะที่ดีจนเป็นนิสัย เช่น ใส่กางเกงในผ้าฝ้ายที่ระบายอากาศ และเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลังเวลาเข้าห้องน้ำ
ขั้นตอน
-
ล้างบริเวณรอบๆ อวัยวะเพศอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง. ตลอดทั้งวันจะมีเหงื่อและความชื้นสะสมอยู่ตรงบริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ล้างบริเวณนี้เป็นประจำทุกวันขณะที่อาบน้ำหรือสระผมตามปกติเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อวัยวะเพศและกลิ่นไม่พึงประสงค์ [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Health Service (UK) ไปที่แหล่งข้อมูล
- ถ้าเป็นช่วงที่มีประจำเดือน คุณควรล้างอวัยวะเพศมากกว่าวันละ 1 ครั้ง
-
ใช้สบู่ธรรมดาไม่มีกลิ่นทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ. เวลาที่คุณทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ให้ใช้น้ำอุ่นกับสบู่อ่อนไม่มีกลิ่น สบู่ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น หรือสบู่เหลวถูตัว เพราะสบู่ออกฤทธิ์แรงและผสมน้ำหอมอาจทำให้ปากช่องคลอดและช่องคลอดระคายเคือง และอาจทำให้ค่า pH ตามธรรมชาติในช่องคลอดเสียสมดุลจนอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Health Service (UK) ไปที่แหล่งข้อมูล
- บางคนก็สามารถใช้สบู่ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้โดยไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อและระคายเคือง ให้ลองเปลี่ยนไปใช้สบู่ที่ไม่มีกลิ่นหรือสบู่สำหรับผิวแพ้ง่าย
- คุณสามารถใช้มือหรือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ นุ่มๆ ทำความสะอาดปากช่องคลอดได้ แต่อย่าใช้ผ้าสากๆ หรือใยบวบ เพราะการขัดถูบริเวณนั้นอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แหวกแคมนอกและซอกรอบๆ คลิตอริส. ขณะที่คุณล้างอวัยวะเพศ ให้ทำความสะอาดกลีบและซอกรอบๆ ช่องคลอดทั้งหมด ค่อยๆ แหวกแคมนอก (เนื้อนูนนิ่มๆ ขนาดใหญ่หรือ “กลีบ” ที่อยู่ด้านนอกของปากช่องคลอด) และถูบริเวณซอกที่อยู่ด้านใน และอย่าลืมทำความสะอาดหัวคลิตอริสและบริเวณรอบนอกของทางเข้าช่องคลอด [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ระวังอย่าให้สบู่เข้าไปในช่องคลอด เพราะมันจะทำให้ช่องคลอดแห้งและระคายเคือง
-
ทำความสะอาดบริเวณทวารหนักเป็นขั้นตอนสุดท้าย. เมื่อคุณทำความสะอาดปากช่องคลอดเสร็จแล้ว ให้ทำความสะอาดฝีเย็บ (บริเวณที่อยู่ระหว่างอวัยวะเพศกับทวารหนัก) จากนั้นก็ทวารหนักและบริเวณที่อยู่ระหว่างแก้มก้น ขณะทำความสะอาดให้ล้างจากด้านหน้าไปด้านหลังเสมอ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่อวัยวะเพศ [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- การล้างจากด้านหลังมาด้านหน้าอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อที่อวัยวะเพศหรือ การติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ
-
เสร็จแล้วล้างสบู่ออกให้หมด. หลังจากที่คุณล้างบริเวณอวัยวะเพศทั้งหมดแล้ว ให้ใช้น้ำอุ่นธรรมดาล้างสบู่ออกให้หมด อย่าลืมล้างฟองสบู่ที่เหลือออกให้หมด เพราะฟองสบู่ที่เหลืออยู่อาจทำให้ผิวหนังรอบๆ อวัยวะเพศแห้งหรือระคายเคืองได้ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณใช้ฝักบัวแรงดันสูงแบบถอดได้ ระวังอย่าให้ฝอยน้ำกระเด็นเข้าไปในช่องคลอด การฉีดน้ำเข้าไปในช่องคลอดอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ทำให้ค่า pH ตามธรรมชาติในช่องคลอดเสียสมดุล หรือทำให้แบคทีเรียที่ไม่พึงประสงค์เล็ดลอดเข้าไปในมดลูกได้ [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
-
หลังล้างสบู่แล้วให้ใช้ผ้าเช็ดตัวสะอาดซับให้แห้ง. เมื่อคุณทำความสะอาดและล้างสบู่ออกหมดแล้ว ให้ใช้ผ้าเช็ดตัวที่แห้งและสะอาดซับบริเวณอวัยวะเพศให้แห้ง แต่อย่าถูเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้คุณยังสามารถผึ่งปากช่องคลอดและบริเวณขาหนีบให้แห้งได้ด้วยไดร์เป่าผม โดยตั้งค่าให้เป็นลมเย็นอ่อนๆ
-
อย่าใช้อุปกรณ์ฉีดล้างช่องคลอด ทิชชู่เปียกผสมน้ำหอม และสเปรย์ดับกลิ่น. ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์มากมายที่อ้างว่าสามารถช่วยรักษาสุขอนามัยที่ดีของอวัยวะเพศและทำให้มีกลิ่นหอมสดชื่น แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและกำจัดแบคทีเรียที่ดีออกไปได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ เพราะฉะนั้นอย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมตรงบริเวณปากช่องคลอดหรือในช่องคลอดเด็ดขาด และอย่าใช้อุปกรณ์ฉีดล้างช่องคลอดใดๆ ก็ตามยกเว้นว่าเป็นคำแนะนำของแพทย์ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หลีกเลี่ยงน้ำมันอาบน้ำที่มีกลิ่นหอมหรือเจลอาบน้ำที่ทำให้เกิดฟอง เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อที่อวัยวะเพศได้
รู้หรือไม่ อวัยวะเพศที่มีสุขภาวะที่ดีจะมีจำนวนแบคทีเรียที่มีประโยชน์จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยควบคุมเชื้อราและแบคทีเรียที่ไม่ดีเอาไว้ได้ เมื่อประชากรแบคทีเรียที่ดีเสียสมดุล สิ่งมีชีวิตที่ไม่พึงประสงค์ก็จะเข้าไปข้างในและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใส่กางเกงในผ้าฝ้ายเพื่อป้องกันการระคายเคืองและลดความอับชื้น. วัสดุสังเคราะห์ เช่น ไนลอนและโพลีเอสเตอร์กักเก็บความอับชื้นและความร้อนรอบบริเวณจุดซ่อนเร้นเอาไว้ ซึ่งทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ คุณควรเลือกกางเกงในผ้าฝ้ายที่ระบายอากาศได้มากกว่า และเปลี่ยนกางเกงในวันละ 1 ครั้ง (หรือมากกว่านั้นถ้ากางเกงในของคุณชื้นหรือซับเหงื่อ)
- เลี่ยงกางเกงในจีสตริงและเลกกิ้งหรือกางเกงขายาวรัดรูป เพราะมันกักเก็บความร้อนและความชื้น ทำให้ปากช่องคลอดระคายเคือง [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไม่ใส่กางเกงในนอนหรือใส่กางเกงบ็อกเซอร์ผ้าฝ้ายตัวหลวมตอนกลางคืนแทน
-
ซักกางเกงในตัวใหม่ก่อนใส่. กางเกงในที่ซื้อมาใหม่อาจจะมีสีย้อมหรือสารเคมีตกค้างที่ทำให้ปากช่องคลอดและช่องคลอดเกิดการระคายเคือง เพราะฉะนั้นให้ซักกางเกงในตัวใหม่ทุกครั้งก่อนใส่ครั้งแรก [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เวลาที่ซักกางเกงใน ให้ใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนไม่ผสมน้ำหอม และอาจจะล้างน้ำเพิ่มอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าล้างน้ำยาซักผ้าออกหมดแล้ว
-
หลังเข้าห้องน้ำให้เช็ดจากหน้าไปหลัง. ทุกครั้งที่คุณเข้าห้องน้ำ ให้เช็ดเบาๆ จากหน้าไปหลัง แม้ว่าคุณจะแค่ปัสสาวะอย่างเดียวก็ตาม เพราะการเช็ดจากหลังมาหน้าอาจแพร่แบคทีเรียจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอดหรือท่อปัสสาวะได้ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะติดเชื้อที่อวัยวะเพศหรือทางเดินปัสสาวะ [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- หลีกเลี่ยงกระดาษชำระที่มีส่วนผสมของน้ำหอม สี หรือโลชั่น เพราะอาจทำให้ปากช่องคลอดและช่องคลอดเกิดการระคายเคือง เพราะฉะนั้นใช้กระดาษชำระสีขาวธรรมดาเท่านั้น [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้น้ำมันแร่ทำความสะอาดหลังจากท้องผูก. แพทย์ไม่แนะนำให้คุณใช้ทิชชูเปียก แม้จะเป็นแบบที่ไม่ผสมน้ำหอมก็ตาม ถ้าคุณรู้สึกว่าการเช็ดด้วยกระดาษอย่างเดียวหลังขับถ่ายมันไม่สะอาดและสดชื่น คุณก็สามารถหยดน้ำมันแร่หรือสบู่ไม่ผสมน้ำหอม (เช่น สบู่เหลวของโดฟและเซตาฟิล) เล็กน้อยลงบนกระดาษชำระเพื่อให้เช็ดง่ายขึ้นได้ เสร็จแล้วก็ล้างน้ำเล็กน้อยและซับให้แห้ง [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- งานวิจัยพบว่า การใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นนั้นนอกจากจะทำให้แสบและระคายเคืองแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะด้วย [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ถอดเสื้อผ้าที่เปียกทันทีหลังจากว่ายน้ำหรือออกกำลังกาย. หลังจากว่ายน้ำหรือออกกำลังกายแล้ว ให้ถอดเสื้อผ้าที่เปียกออกทันทีและเช็ดตัวให้แห้งสนิท [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การใส่เสื้อผ้าที่เปียกหรือชุ่มเหงื่อจะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและเชื้อราข้างในและรอบๆ ช่องคลอด
- นอกจากนี้คุณก็ควรอาบน้ำทันทีหลังจากออกกำลังกายหรือว่ายน้ำเพื่อชำระล้างเหงื่อไคล สิ่งสกปรก หรือคลอรีนออกไป
-
ระหว่างมีประจำเดือนให้เปลี่ยนผ้าอนามัยและผ้าอนามัยแบบสอดบ่อยๆ. ถ้าคุณมีประจำเดือน ให้เปลี่ยนผ้าอนามัยหรือผ้าอนามัยแบบสอดบ่อยๆ [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อย่าใส่ผ้าอนามัยหรือผ้าอนามัยแบบสอดนานเกินกว่า 8 ชั่วโมง เพราะอาจเกิดกลุ่มอาการท็อกซิกช็อกที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และพยายามเปลี่ยนผ้าอนามัยอย่างน้อยทุก 3-4 ชั่วโมงแม้ว่าประจำเดือนจะไม่ได้เยอะมากก็ตาม [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่าใช้ผ้าอนามัยหรือผ้าอนามัยแบบสอดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม และถ้าเป็นไปได้ให้ใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าฝ้าย 100% เท่านั้น [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ถุงยางอนามัย เมื่อมีเพศสัมพันธ์ และหลังจากมีเพศสัมพันธ์ให้ปัสสาวะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ. ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์ คุณสามารถลดโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์หรือการติดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ขอให้คู่นอนของคุณใส่ถุงยางอนามัย หรือ ใช้ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง เพื่อปกป้องอวัยวะเพศของคุณ
- นอกจากนี้คุณก็ควรปัสสาวะและอาบน้ำทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ด้วย [24] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล เพราะวิธีนี้ช่วยชะล้างแบคทีเรีย เหงื่อ และสารคัดหลั่งอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้
ข้อควรระวัง : แม้ว่าการล้างอวัยวะเพศหลังมีเพศสัมพันธ์จะช่วยป้องกันปัญหา เช่น การติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์หรือ การตั้งครรภ์ ได้ การใช้ถุงยางอนามัยเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่ง [23] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล นอกจากนี้ยังเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ดีด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใช้ร่วมกับการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน
-
แช่น้ำเบกกิ้งโซดาเพื่อลดกลิ่นแรงและตกขาว. กลิ่นอ่อนๆ และตกขาวส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องธรรมชาติและปกติดี แต่ถ้ามันกวนใจคุณ คุณก็สามารถแช่น้ำเบกกิ้งโซดาเพื่อทำความสะอาดปากช่องคลอดและลดกลิ่นได้ เติมน้ำอุ่นๆ ลงในอ่างน้ำพอประมาณและคนเบกกิ้งโซดา 4-5 ช้อนโต๊ะ (60-70 กรัม) ลงไป แล้วแช่ตัววันละ 1-3 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้การแช่น้ำเบกกิ้งโซดายังช่วยลดอาการคันและอาการแสบร้อนที่เกิดจากการระคายเคืองหรือการติดเชื้อได้ด้วย
เคล็ดลับ
- ถ้าคุณสังเกตว่าอวัยวะเพศมีกลิ่นแรงหรือกลิ่นเหม็น หรือถ้าคุณสังเกตว่ามีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น รอยแดง คัน แสบร้อน หรือมีของเหลวที่ผิดปกติไหลออกจากช่องคลอด ให้นัดพบแพทย์หรือนรีแพทย์ แพทย์จะสามารถระบุได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรและรักษาได้อย่างถูกต้อง [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แม้ว่าผู้หญิงหลายคนจะโกนหรือเล็มขนอวัยวะเพศด้วยเหตุผลในเรื่องสุขอนามัย แต่งานวิจัยกลับพบว่า การกำจัดขนที่อวัยวะเพศไม่ได้เอื้อประโยชน์ในด้านสุขภาพอย่างชัดเจนนอกจากการป้องกันโลนเท่านั้น [27] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Health Service (UK) ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้าคุณอยากกำจัดขนที่อวัยวะเพศจริงๆ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดก็คือการใช้กรรไกรเล็มขนแทนที่จะโกน แวกซ์ หรือใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดขนที่เป็นสารเคมี [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
สิ่งของที่ใช้
กำหนดกิจวัตรประจำวันในการทำความสะอาด
- สบู่อ่อนที่ไม่ผสมน้ำหอม
- น้ำอุ่น
- ผ้าขนหนูผืนเล็กนุ่มๆ (ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)
- ผ้าเช็ดตัวที่สะอาดและแห้ง
รักษาสุขอนามัยที่ดีของจุดซ่อนเร้น
- กางเกงในผ้าฝ้าย 100%
- กระดาษชำระที่ไม่ย้อมสีและไม่มีน้ำหอม
- น้ำมันแร่หรือสบู่เหลวไม่ผสมน้ำหอม
- ผ้าอนามัยและผ้าอนามัยแบบสอดที่ไม่มีกลิ่นหอมและทำจากผ้าฝ้าย 100%
- ถุงยางอนามัย
- เบกกิ้งโซดา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.nhs.uk/live-well/sexual-health/keeping-your-vagina-clean-and-healthy/
- ↑ https://www.nhs.uk/live-well/sexual-health/keeping-your-vagina-clean-and-healthy/
- ↑ https://uihc.org/health-topics/vulvar-skin-care-guidelines
- ↑ https://youngwomenshealth.org/2017/04/19/vulvar-and-vaginal-care-and-cleaning/
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4660700/
- ↑ https://youngwomenshealth.org/2017/04/19/vulvar-and-vaginal-care-and-cleaning/
- ↑ https://www.womenshealth.gov/a-z-topics/douching
- ↑ https://uihc.org/health-topics/vulvar-skin-care-guidelines
- ↑ https://youngwomenshealth.org/2017/04/19/vulvar-and-vaginal-care-and-cleaning/
- ↑ https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bacterial-vaginosis/symptoms-causes/syc-20352279
- ↑ https://www.health.com/sexual-health/best-underwear-vagina
- ↑ https://uihc.org/health-topics/vulvar-skin-care-guidelines
- ↑ https://youngwomenshealth.org/2017/04/19/vulvar-and-vaginal-care-and-cleaning/
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4660700/
- ↑ https://uihc.org/health-topics/vulvar-skin-care-guidelines
- ↑ https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/j.1542-2011.2012.00183.x
- ↑ https://www.prevention.com/health/a19839905/how-to-clean-your-vagina/
- ↑ http://www.berkeleywellness.com/self-care/sexual-health/article/vaginal-infections-vaginitis-causes-and-treatments
- ↑ https://youngwomenshealth.org/2017/04/19/vulvar-and-vaginal-care-and-cleaning/
- ↑ https://kidshealth.org/en/kids/pads-tampons.html
- ↑ https://www.abc.net.au/news/health/2017-09-12/a-gynaecologists-guide-to-good-vulva-and-vagina-health/8892230
- ↑ https://youngwomenshealth.org/2017/04/19/vulvar-and-vaginal-care-and-cleaning/
- ↑ https://www.cdc.gov/std/prevention/default.htm
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4660700/
- ↑ https://uihc.org/health-topics/vulvar-skin-care-guidelines
- ↑ https://youngwomenshealth.org/2017/04/19/vulvar-and-vaginal-care-and-cleaning/
- ↑ https://www.nhs.uk/news/lifestyle-and-exercise/many-women-think-shaving-pubic-hair-is-hygienic/
- ↑ https://uihc.org/health-topics/vulvar-skin-care-guidelines