ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ตับเป็นอวัยวะภายในที่ใหญ่เป็นอันดับสองของร่างกาย และเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุด เพราะตับทำหน้าที่กรองสารพิษที่เป็นอันตรายออกจากกระแสเลือด มีวิธีทางการแพทย์สำหรับการล้างพิษออกจากตับมากมาย แต่การหันมาพึ่งธรรมชาติ ใช้ชีวิตอย่างง่ายๆ หลายวิธี ก็สามารถช่วยให้ตับสะอาดและสุขภาพดี การทำดีท็อกซ์หรือการล้างตับโดยใช้อาหารนั้นไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนด้วย คุณจึงควรระวังหากคิดล้างพิษตับโดยใช้อาหาร และคอยปรึกษาแพทย์เป็นระยะ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ดื่มสิ่งที่ควรดื่ม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แอลกอฮอล์และคาเฟอีนต่างเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สุดที่จะทำให้สารพิษสะสมอยู่ในตับของคุณ และทำให้ตับทำงานได้ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น ล้างพิษตับด้วยการลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน อย่างไรก็ดี งานวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้กล่าวว่า กาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนอาจช่วยลดระดับเอนไซม์ที่เพิ่มสูงขึ้นในตับได้ ให้แทนการดื่มเครื่องดื่มที่กล่าวมานี้ด้วยเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพื่อให้ตับได้ฟื้นสภาพ ล้างตัวของมันเองให้สะอาด และทำงานได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น อ่านต่อเพื่อจะได้ทราบว่ามีเครื่องดื่มอะไรบ้างที่ดีต่อตับ
  2. ล้างและชะล้างสารพิษออกจากตับด้วยการดื่มน้ำอย่างน้อยราวๆ 2 ลิตรทุกวัน การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้คุณไม่ขาดน้ำ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูสภาพเซลล์ตามธรรมชาติ และน้ำยังทำให้ตับกรองสารพิษและสิ่งตกค้างออกได้มากขึ้น ทำให้ตับทำงานได้เร็วขึ้นและเพิ่มระดับพลังงานให้คุณด้วย
  3. ดื่มน้ำเลม่อนกับน้ำเปล่าหรือชาวันละครั้ง น้ำเลม่อนช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีเพื่อไปช่วยขับสารพิษออก ทั้งยังช่วยป้องกันการก่อตัวของนิ่ว และทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น และช่วยให้ตับทำงานดีขึ้นจากน้ำย่อยที่หลั่งออกมา
  4. ชาเขียวอุดมด้วยคาเทชิน (Catechin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ และยังช่วยลดการเก็บสะสมไขมันในตับด้วย [1]
  5. ผลไม้อย่างสตรอเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ ต่างช่วยเสริมสร้างสุขภาพของตับ ผลไม้เหล่านี้มีกรดออร์แกนิค ซึ่งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยให้เผาผลาญไขมัน ลดโอกาสในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับไขมันในตับ [2]
  6. อดอาหารด้วยน้ำผักผลไม้. การอดอาหารเป็นวิธีที่แน่นอนที่สุดในการล้างพิษตับ การงดอาหารส่วนมากจะใช้วิธีทานแค่ผลไม้และผักเท่านั้น หรือดื่มแต่น้ำผักและผลไม้สักระยะหนึ่ง มีวิธีล้างพิษตับมากมายที่คนใช้กัน--คุณต้องเลือกวิธีที่เหมาะกับร่างกายของคุณ
    • คุณควรคิดปรึกษานักโภชนาการหรือแพทย์ก่อนงดอาหาร
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาหารแปรรูป และอาหารที่ใส่สารถนอมอาหาร มีไขมันและคอเลสเตอรอลปริมาณมาก จะทำให้ตับอยู่ในภาวะอุดตัน และเต็มไปด้วยไขมันตกค้าง ล้างพิษตับของคุณโดยการเลี่ยงการทานอาหารมันและอาหารแปรรูปเพื่อให้ตับขับสิ่งอุดตันออกด้วยตัวเอง และให้เซลล์ได้ฟื้นฟูสภาพ [3]
    • เลี่ยงอาหารฟาสต์ฟู้ด. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารที่ทอดด้วยน้ำมันเยอะๆ หรือเนื้อสัตว์แปรรูป (เช่น ไส้กรอก เบค่อน เนื้อบดปรุงรส ฯลฯ)
    • เลี่ยงทานไขมันไม่ดี. เนื้อแดงติดมัน อาหารทอดด้วยน้ำมันมากๆ และไขมันแปรรูป เป็นสิ่งที่ควรเลี่ยงทั้งหมด เนื่องจากมันจะทำให้ตับอุดตันได้ ไขมันแปรรูป ได้แก่ เนยเทียม เนยขาว และน้ำมันที่มีการเติมไฮโดรเจน
    • เลี่ยงสารให้ความหวาน สีผสมอาหาร และสารถนอมอาหารที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ วิธีที่ดีที่สุดคือให้เลือกอาหารที่มาจากธรรมชาติเวลาที่คุณล้างพิษตับ
  2. ผักบางชนิดมีสารอาหาร เช่น เบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยกระตุ้นเซลล์ตับ และปกป้องตับจากสารพิษ ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ และกระตุ้นการทำงานตับ ขณะที่บีทรูทช่วยปกป้องท่อน้ำดีไม่ให้ถูกสารพิษทำลาย ตั้งเป้าหมายในการทานผักให้ได้ 5 ส่วนบริโภคทุกวัน และให้เพิ่มการรับประทานผักที่มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงตับ
    • ผักใบเขียวที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพตับ ได้แก่ ใบแดนดิไลออน มะระ ใบร็อคเก็ต ผักกาดเขียวปลี ชิโครี และผักโขม
  3. กระเทียมมีสารประกอบที่มีส่วนผสมของซัลเฟอร์ ซึ่งช่วยกระตุ้นเอนไซม์ตับที่ทำหน้าที่ขับสารพิษทั้งหลายที่อยู่ในระบบออก กระเทียมยังมีอัลลิซิน (allicin) และซีลีเนียม (selenium) ซึ่งสารอาหารสองชนิดนี้ช่วยปกป้องไม่ให้ตับถูกสารพิษทำร้าย และยังเป็นตัวช่วยในกระบวนการขับสารพิษด้วย
    • หากรสชาติของกระเทียมเป็นอะไรที่คุณไม่ได้เพราะคุณไม่ชอบกิน(หรือเพราะคุณเป็นแวมไพร์) จะหาซื้อกระเทียมที่เป็นอาหารเสริมจากร้านขายของบำรุงสุขภาพใกล้บ้านมาทานแทนก็ได้
  4. เกรปฟรุตอุดมด้วยวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ช่วยล้างพิษตับให้ตับมีสุขภาพดี เกรปฟรุตช่วยเพิ่มเอนไซม์ในการขับสารพิษในตับ และมีสารประกอบฟลาโวนอยด์ (flavonoid) ที่รู้จักกันในชื่อ นาริงจินิน (naringenin) ซึ่งทำให้ตับย่อยไขมันแทนที่จะเก็บสะสมไขมันไว้ แต่คุณก็ต้องระวังด้วย เพราะการทานเกรปฟรุตปริมาณมากอาจไปยับยั้งเอนไซม์ ไคโตโครม พี540 (cytochrome P450) ของตับ ซึ่งอาจไปกระทบต่อการแตกตัวของอาหารและยาบางประเภทในร่างกาย
  5. อะโวคาโดอร่อยและมีสารประกอบที่ช่วยสร้างกลูตาไธโอน (glutathione) ด้วย. สารประกอบเหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้มีสารพิษอยู่ในตับมากเกิน
  6. วอลนัตมีระดับแอล-อาร์จินีน (กรดอะมิโนชนิดหนึ่ง) กลูตาไธโอน และกรดไขมันโอเมก้า 3 ในประมาณที่สูง ซึ่งจะช่วยล้างแอมโมเนียที่เป็นตัวก่อให้เกิดโรคออกจากตับ สารสกัดต่างๆ จากเปลือกวอลนัตถูกนำมาใช้ในสูตรสำหรับล้างพิษตับหลายๆ สูตรด้วย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ใช้สมุนไพร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนต่างเชื่อกันว่า สมุนไพรธรรมชาติ เช่น รากโกโบ (burdock) และรากแดนดิไลออนช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องเซลล์ตับ และช่วยให้ตับทำงานดีตามปกติ อาหารเสริมที่กล่าวมาอาจอยู่ในรูปแคปซูลหรือยาเม็ด ส่วนรากของแดนดิไลออนมีในรูปแบบของชาสมุนไพรด้วย ทานอาหารเสริมเหล่านี้เพิ่มจากอาหารที่ทานตามปกติอาจช่วยล้างพิษตับ และควบคุมให้ตับทำงานตามปกติ
  2. เม็ดเลซิตินจากถั่วเหลืองมี ฟอสโฟลิพิด (phospholipids) ซึ่งช่วยปกป้องตับ [4] . เม็ดเลซิตินจากถั่วเหลืองหาซื้อได้ตามร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแทบทุกแห่ง
  3. แมกนีเซียมช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำดี ซึ่งจะช่วยเสริมการล้างพิษตับ คุณสามารถทานอาหารเสริมแมกนีเซียมเพื่อช่วยให้สุขภาพตับดีขึ้นได้ [5]
    • อีกวิธีที่จะช่วยให้คุณได้รับแมกนีเซียมเพิ่ม คือ นำดีเกลือ 1 ช้อนโต๊ะไปละลายน้ำอุ่น และดื่มส่วนผสมนั้นหนึ่งหรือสองครั้งต่อเดือน ดีเกลือมีปริมาณแมกนีเซียมสูง
  4. ขมิ้นชันกระตุ้นให้ตับสามารถผลิตน้ำดีได้ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในกระบวนการล้างพิษตับ และเป็นที่ทราบกันด้วยว่า ขมิ้นชันช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับที่ถูกทำลายไปแล้วได้ด้วย [6]
  5. มิลค์ทิสเซิ่ลช่วยเร่งการเติบโตและช่วยให้เซลล์ตับมีสุขภาพดี มิลค์ทิสเซิ่ลมีไซลิมาริน (silymarins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยต้านการรวมตัวของอ๊อกซิเจนกับสารอื่น ซึ่งเป็นกระบวนการที่สร้างความเสียหายให้เซลล์ตับ อีกทั้งยังเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนในตับได้อีกด้วย
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ล้างสารพิษให้กับชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สถานการณ์ชวนเครียดจะทำให้ฮอร์โมนต่างๆ และเอ็นโดรฟินถูกหลั่งสู่กระแสเลือด ซึ่งจะทำให้สารพิษถูกเก็บอยู่ในตับและยับยั้งการทำงานของตับ กำจัดความเครียดไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องใดก็ตามถ้าทำได้
    • ลองพิจารณากิจกรรมที่ช่วยลดความเครียดอย่าง โยคะ และ การทำสมาธิ
  2. เวลาที่คุณต้องเผชิญกับสารเคมี ตับของคุณต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อจะรักษาสุขภาพของคุณ ลดปริมาณของสารเคมีที่คุณต้องเผชิญลงโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ทำจากส่วนผสมธรรมชาติ การใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคและของธรรมชาติยังช่วยในเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคลด้วย
  3. ยิ่งมีสารพิษในอากาศมากเท่าไหร่ ตับของคุณก็ต้องทำหน้าที่ขจัดสารพิษออกจากร่างกายมากเท่านั้น เครื่องกรองอากาศเป็นการลงทุนที่คุ้มมาก หากคุณต้องใช้ชีวิตในเมือง หรือใกล้ทางด่วน เนื่องจากรถยนต์ต่างปล่อยสารพิษมากมายเข้าสู่อากาศ
  4. ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคไขมันพอกตับ การออกกำลังกายยังช่วยปรับปรุงการทำงานของเอนไซม์ตับ อย่างไรก็ตาม การออกกำลังแบบเวทเทรนนิ่งมีความเชื่อมโยงกับเอนไซม์ตับที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นเหตุที่ว่าคุณควรจะหยุดออกกำลังกายเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะตรวจการทำงานของตับ
    โฆษณา

คำเตือน

  • นิ่วมักจะเกิดกับผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วน และคนที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง เลี่ยงอาหารมัน และทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสามารถลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วได้ [7]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,331 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา