ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เล็บเจลเป็นเล็บที่วาดขึ้น มีความทนทาน ซึ่งดูคล้ายกับเล็บจริงมาก มีใครหลายคนไปที่ร้านเสริมสวยเพื่อที่จะลบมันออกโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้ด้วยการล้างมันออกที่บ้านแทนนี่แหละ อ่านข้อมูลเหล่านี้เพื่อรู้วิธีการล้างเล็บเจลสามวิธีด้วยกัน ทั้งวิธีแช่, ตะไบ และลอกมันออก
ขั้นตอน
-
เทอะซิโตนลงไปในชาม. อะซิโตนเป็นสารเคมีที่จะส่งผลให้เล็บเจลคลายตัวออกและหลุดออกจากเล็บจริงของคุณ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มักพบในน้ำยาล้างเล็บอยู่แล้ว แต่ในการล้างเล็บเจลนั้น คุณควรที่จะใช้อะซิโตนบริสุทธิ์มากกว่า [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ปิดฝาชามที่มีอะซิโตนอยู่ข้างในด้วยแรปพลาสติกหรือกระดาษฟอยล์ จากนั้นใช้หนังยางรัดรอบปากชามเอาไว้ให้มันอยู่กับที่
- ใส่ชามอะซิโตนลงไปในชามที่ใส่น้ำอุ่นใบใหญ่ เพื่อที่อะซิโตนจะได้อุ่นขึ้น ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 3 ถึง 5 นาที จากนั้นให้นำชามอะซิโตนออกมาเพื่อไม่ให้มันร้อนเกินไป ระวังขั้นตอนนี้ให้ดี เพราะว่าสารอะซิโตนสามารถติดไฟได้ เก็บมันให้ห่างออกจากแหล่งกำเนิดไฟ และอุ่นมันเบาๆ ด้วยความระมัดระวัง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ป้องกันผิวรอบๆ เล็บด้วยปิโตรเลียมเจล. อะซิโตนนั้นอาจทำให้ผิวของคุณแห้งหรือเสียหายได้ ฉะนั้นการปกป้องเล็บของคุณด้วยปิโตรเลียมเจลถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคุณไม่มีปิโตรเลียมเจลล้วนๆ จะใช้โลชั่นหรือบาล์มที่มีส่วนผสมของมันด้วยก็ย่อมได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จุ่มก้านสำลีลงไปในปิโตรเลียมเจล แล้วทารอบๆ ขอบเล็บของคุณ จากนั้นให้ทาปกคลุมนิ้วจนไปถึงข้อนิ้วบนสุด
- อย่าทาปิโตรเลียมเจลโดนเล็บมากเกินไป เพราะอะซิโตนจะไม่สามารถเข้าไปละลายเจลบนเล็บได้
-
หุ้มเล็บด้วยอะซิโตน. จุ่มก้อนสำลีลงไปในอะซิโตนให้ชุ่ม จากนั้นแปะค้างไว้บนเล็บแล้วหุ้มด้วยแถบกระดาษอลูมิเนียมฟอยล์เพื่อให้มันอยู่กับที่ ทำซ้ำแบบนี้กับเล็บที่เหลือ แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าอะซิโตนไม่ทำให้ผิวคุณระคายเคืองใดๆ คุณก็สามารถจุ่มนิ้วลงไปในชามอะซิโตนได้โดยตรง แทนที่จะใช้ก้อนสำลีกับอะลูมิเนียมฟอยล์ โดยให้แน่ใจว่าไม่ทิ้งมันไว้นานเกิน 30 นาที
-
แกะฟอยล์และก้อนสำลีออก. แกะฟอยล์ออก แล้วแกะก้อนสำลีออกจากเล็บ เนื้อเจลจะหลุดออกมาด้วยเมื่อคุณเช็ดมันด้วยก้อนสำลี หากมันได้ผล ก็ให้ทำซ้ำกับเล็บอื่นที่เหลือ
- อาจลอกเจลออกไปด้วยนิดหน่อยก็ได้
- ถ้าลองแกะออกมาแล้วเจลยังติดบนเล็บแน่นอยู่ ให้แปะสำลีก้อนที่จุ่มอะซิโตนกลับไปที่เล็บ แล้วพันด้วยฟอยล์ ก่อนจะทิ้งไว้อีก 10 นาที ก่อนที่จะลองแกะออกมาดูใหม่ ให้ทำต่อไปเรื่อยๆ จนมันอ่อนลงและสามารถล้างเล็บเจลออกจากเล็บจริงได้ แต่ถ้าวิธีนี้ยังไม่ได้ผลภายใน 1 ชั่วโมง แสดงว่ามันติดแน่นจนไม่สามารถล้างออกได้ด้วยอะซิโตน และให้ลองวิธีอื่น
-
บำรุงเล็บของคุณ. ล้างอะซิโตนออกแล้วตะไบเล็บจริงด้วยที่ตะไบเล็บ จากนั้นขัดเล็บเพื่อกำจัดขอบเล็บคมๆ ออก แล้วเพิ่มความชุ่มชื้นให้เล็บและมือด้วยโลชั่นหรือน้ำมันทามือ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตะไบไปในแนวเดียวกันเท่านั้น จะได้ไม่ทำให้เล็บเกิดความเสียหาย หลีกเลี่ยงการตะไบไปในแนวทางของเลื่อย
- อะซิโตนอาจทำให้เล็บคุณแห้งได้ ให้คอยบำรุงอย่างอ่อนโยนไปอีกสักสองสามวัน คุณอาจต้องรออีกประมาณสัปดาห์ก่อนที่จะแต่งเล็บเจลใหม่อีกครั้ง
โฆษณา
-
ตัดเล็บออก. ใช้กรรไกรตัดเล็บตัดเล็บส่วนที่เกินออกมา โดยตัดให้สั้นที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วใช้ตะไบเล็บตะไบให้เรียบร้อย
-
ตะไบหน้าเล็บ. ใช้ตะไบเล็บเนื้อหยาบประมาณ 150 ถึง 180 กริท (หน่วยความละเอียดของตะไบเล็บ) โดยใช้ด้านที่เป็นรูปตารางตะไบให้สม่ำเสมอกัน เปลี่ยนที่ตะไบไปรอบๆ เพื่อที่คุณจะได้ไม่รู้สึกแสบผิวอยู่ที่เดียว [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานานหน่อยนะ อย่าไปเร่งความเร็วมัน หรือตะไบไม่ทั่วล่ะ ไม่อย่างนั้นมันอาจไปทำให้เนื้อเล็บจริงเสียหายได้
- เช็ดเศษที่เป็นฝุ่นออกบ่อยๆ นี่จะทำให้คุณมองเห็นได้ชัดว่ายังเหลือเจลอยู่มากแค่ไหนก่อนจะตะไบถึงเนื้อเล็บจริง
-
สังเกตว่าเริ่มตะไบเข้าใกล้เล็บจริงแล้วหรือยัง. เมื่อเริ่มถึงเล็บจริงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องตะไบต่อไปอีก เพราะอาจเกิดความเสียหายกับเนื้อเล็บได้ ซึ่งมีวิธีสังเกตดังต่อไปนี้:
- เศษเล็บเจลที่กลายเป็นฝุ่นออกมาจำนวนมาก
- เห็นแนวเล็บจริงของตัวเอง
-
ตะไบเจลที่เหลือด้วยตะไบเล็บที่ละเอียดกว่าเดิม. ค่อยๆ ตะไบอย่างอ่อนโยนเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ไปตะไบผิวหน้าเล็บของคุณเข้า แม้จะยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหายกับเล็บจริง ฉะนั้นให้ค่อยๆ ตะไบอย่างอ่อนโยน ตะไบไปเรื่อยๆ จนเล็บเจลหลุดออกไปหมด [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
บำรุงเล็บ. ใช้ที่ขัดเล็บขัดผิวหน้าเล็บของคุณ ที่อาจถูกขัดจนเป็นรอยจากการตะไบเมื่อครู่ บำรุงให้เล็บและมือชุ่มชื้นด้วยโลชั่นหรือน้ำมัน และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีหรือสารใดๆ ที่มีความกระด้างกับเล็บของคุณไปอีกสองสามวัน และรออีกสักสัปดาห์ก่อนที่จะทำเล็บเจลอีกครั้งโฆษณา
-
รอจนกว่าเล็บเจลส่วนใหญ่จะลอกออกมาเป็นเศษแผ่น. เจลจะลอกออกมาเป็นแผ่นเองหลังจากผ่านไปหนึ่งหรือสองสัปดาห์ การรอให้มันหลุดออกมาเองแล้วค่อยดึงนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด จะได้ไม่ทำร้ายผิวหน้าเล็บของคุณมากนัก [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สอดไม้แคะหนังกำพร้าหรือไม้ส้ม (Cuticle stick) ใต้ผิวของเล็บเจล. แคะเจลออกเบาๆ จนกว่าเจลจะค่อยๆ เผยอขอบขึ้นมา อย่ามือหนักมาก ไม่อย่างนั้นเล็บจริงของคุณอาจเป็นรอยได้ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลอกเจลออก. ใช้นิ้วหรือแหนบจับขอบเนื้อเจลแล้วลอกออก ทำซ้ำกับเล็บอื่นจนเอาเล็บเจลออกหมด
- ห้ามฉีกเจลออกมา ไม่อย่างนั้นชั้นเล็บจริงอาจติดมาด้วย
- ถ้ายากเกินกว่าจะลอกเจลออกมาได้ ให้ลองใช้วิธีอื่นในการลบออก
-
บำรุงเล็บ. ตะไบให้ขอบเล็บเรียบ และใช้ที่ขัดเล็บขัดให้หน้าเล็บเรียบเนียน ถูเล็บและมือด้วยโลชั่นหรือน้ำมัน รออีกสักสัปดาห์ก่อนที่จะไปลงเล็บเจลใหม่อีกครั้งโฆษณา
เคล็ดลับ
- เล็บตามธรรมชาติของคุณนั้นบอบบางและไวต่อสารเคมี หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เมื่อล้างเล็บเจลออกไปแล้ว แนะนำให้ใส่ถุงมือป้องกันขณะทำความสะอาดไปอีกหลายๆ สัปดาห์เลย [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Academy of Dermatology ไปที่แหล่งข้อมูล
- หากคุณมีความอดทนพอ ให้รอจนกว่าเล็บจริงจะงอกออกมาเรื่อยๆ แล้วตัดเล็บออกอย่างสม่ำเสมอจนกว่าจะกำจัดเจลที่เคลือบเล็บออกได้ทั้งหมด มันใช้เวลานานมาก แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดและเป็นธรรมชาติที่สุดในการกำจัดมัน
- สามารถใช้วิธีเหล่านี้ในการล้างเล็บอะคริลิคได้เช่นกัน
- ถ้าคุณคิดไว้ล่วงหน้านานพอ จะลองใช้ “วิธีลอกอย่างช้าๆ” ก็ได้นะ ในแต่ละวันที่ต้องการกำจัดเล็บเจลออกไป ก็เพียงแค่ลอกผิวเจลออกทีละน้อยโดยไม่ต้องใช้สารอะซิโตนเลย โดยการเติมน้ำอุ่นใส่ชาม (อุ่นพอที่มือจะรับไหว) แล้วแช่เล็บเอาไว้สัก 15 นาที จากนั้นอุ่นน้ำมันมะกอกเล็กน้อยก่อนจะนำมานวดมือและนิ้วมือ นวดโดยเฉพาะตรงจมูกเล็บและส่วนที่เล็บเจลเผยอขึ้นมา จากนั้นให้แคะและนวดบริเวณระหว่างเล็บเจลและเล็บจริงของคุณ แต่อย่าฉีกเล็บเจลออกในครั้งเดียวเด็ดขาดเลยนะ ทำแบบนี้ไปอีกหลายๆ วัน (วันละครั้ง) แล้วเล็บเจลจะหลุดออกไปภายใน 4 ถึง 5 วัน
โฆษณา
คำเตือน
- หลีกเลี่ยงการสูดดมอะซิโตนขณะที่เตรียมการหรือแช่เล็บอยู่ วิธีนี้ควรทำในบริเวณที่อากาศโปร่ง [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไม่ควรใช้น้ำตาลละลายมาแต่งเล็บ ไม่อย่างนั้นมันอาจทำให้แสบผิวได้
- การลอกเล็บอาจทำให้เล็บจริงของคุณเสียหายได้ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อะซิโตนติดไฟได้เร็วมาก ห้ามนำไปอุ่นในไมโครเวฟหรือเตาแก๊สเด็ดขาด และขอให้ระมัดระวังกับการใช้มันกับน้ำอุ่นเช่นกัน
โฆษณา
สิ่งที่ต้องใช้
วิธีแช่
- อะซิโตน
- ชาม
- ก้อนสำลีหรือทิชชู่
- อลูมิเนียมฟอยล์
- ตะไบเล็บ
- ที่ขัดเล็บ
- โลชั่นหรือน้ำมันทาผิว
วิธีตะไบ
- ตะไบเล็บเนื้อหยาบ
- ตะไบเล็บเนื้อละเอียด
- ที่ขัดเล็บ
- โลชั่นหรือน้ำมันทาผิว
วิธีลอก
- ไม้แคะหนังกำพร้า (Cuticle stick)
- แหนบ
- ตะไบเล็บ
- ที่ขัดเล็บ
- โลชั่นหรือน้ำมันทาผิว
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.self.com/story/to-acetone-or-not-the-healthie
- ↑ https://pubchem.ncbi.nlm.nih.gov/compound/acetone
- ↑ https://www.self.com/story/how-to-remove-gel-nail-polish
- ↑ https://www.allure.com/story/how-to-remove-gel-manicure-without-ruining-nails
- ↑ https://www.self.com/gallery/how-to-strengthen-nails-after-gel
- ↑ https://www.nailsmag.com/article/108747/the-ultimate-file-guide
- ↑ https://www.salonsdirect.com/blog/everything-need-know-nail-files/
- ↑ https://www.thetrendspotter.net/how-to-remove-gel-nails-at-home/
- ↑ https://www.refinery29.com/en-us/how-to-remove-gel-nails-at-home
- ↑ https://www.aad.org/media/news-releases/gel-manicures-dermatologists-share-tips-to-keep-nails-healthy
- ↑ https://toxtown.nlm.nih.gov/chemicals-and-contaminants/acetone
- ↑ https://www.webmd.com/beauty/features/more-beautiful-nails-a-dozen-tips
- HealthyBeautySpot.com on removing gel nails
- http://www.nailcaresalon.com/gel-nails.html
โฆษณา