ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หลายคนจำเป็นต้องย้อมผมดำด้วยหลายสาเหตุด้วยกัน ข้อเสียมากๆ ของการย้อมผมดำ คือตอนจะล้างสีย้อมดำออกในภายหลัง จะทำได้ยากมาก ขั้นตอนการล้างสีดำออกจากผมนั้น จริงๆ แล้วก็คล้ายๆ กันกับล้างสีย้อมสีอื่น แต่ต้องใช้เวลาล้างสีผมนานกว่า ใช้น้ำยาแรงกว่า แถมกว่าสีผมเดิมของคุณจะกลับมาคือต้องรอผมใหม่ยาว ถ้าคุณกำลังเครียด อยากหาวิธีล้างสีดำออกจากผม วันนี้คุณมาถูกบทความวิกิฮาวแล้ว เราจะมาหาทางแก้ไข ให้สีผมคุณออกมาสวย ใกล้เคียงกับสีผมธรรมชาติของคุณมากที่สุด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ล้างสีผมด้วยของใช้ในบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การย้อมผมแบบสระเป็นวิธีการย้อมผมที่นุ่มนวลที่สุดโดยการผสมยาย้อมในแชมพู แชมพูจะเจือจางน้ำยาย้อมลง (ทำให้มีโอกาสแพ้น้อยลง) และช่วยกระจายให้ทั่วศีรษะ คุณอาจต้องทำหลายหน ขึ้นอยู่กับว่าต้องการให้ผมเปลี่ยนสีแค่ไหน [1]
    • เริ่มจากผมที่ยังไม่ล้าง น้ำมันจากธรรมชาติจะช่วยป้องกันหนังศีรษะระคายเคือง
    • ผสมผงย้อมทีละ 20 ตามคู่มือข้างซอง
    • เติมแชมพูลงไปในส่วนผสมตามสัดส่วนที่เท่ากัน
    • ล้างผมให้เปียกแล้วป้ายส่วนผสมลงไปที่ผมด้วยมือหรือหวี (แต่อย่าเพิ่งลงส่วนผสมไปถึงรากผม!)
    • หยุดป้ายเมื่อส่วนผสมอยู่เกือบถึงรากผมแค่ 1 นิ้ว มันจะย้อมเร็วกว่าและออกมาจางกว่าถ้าคุณย้อมมันพร้อมกันทั้งศีรษะ
    • พอย้อมเส้นผมถึงปลายแล้ว รอสัก 10-15 นาทีก่อนลงส่วนผสมไปที่รากผม [2]
    • พอรากผมเริ่มมีสีเดียวกับส่วนอื่น ก็ล้างออก
  2. ก็เหมือนวิธีล้างสีผมแบบอื่นๆ วิตามินซีก็ช่วยปรับสีผมดำให้อ่อนลงได้ 1 - 2 เฉดเลยทีเดียว แต่จะเหมาะกับการล้างสีผมกึ่งถาวร เพราะกรดจะมีผลเหมือนน้ำมะนาว ช่วยกัดสีผมให้อ่อนลง [3]
    • บดวิตามินซีเม็ดผสมกับน้ำให้เหนียวข้น
    • ทาวิตามินซีที่ผสมแล้วลงบนเส้นผมเปียกหมาด
    • ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
    • ล้างวิตามินซีออกจากผม
  3. ปกติน้ำผึ้งดิบแค่ใช้ปรับสีผมให้อ่อนลง เลยอาจจะไม่ช่วยเรื่องกัดสีย้อมเท่าไหร่ เป็นวิธีที่สร้างเปอร์ออกไซด์ (peroxide) เป็นเหมือนน้ำยาฟอกขาวรูปแบบหนึ่ง แนะนำให้ใช้น้ำผึ้งดิบ น้ำผึ้งที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์ หาซื้อได้ตามตลาด ฟาร์มผึ้ง หรือร้านขายสินค้าออร์แกนิก [4]
    • ผสมน้ำผึ้งดิบ 4 ส่วน กับน้ำ 1 ส่วน
    • ทิ้งส่วนผสมไว้ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
    • ลงน้ำผึ้งที่ผมเปียกหมาด
    • คลุมผมแล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
    • ล้างผมแล้วทำซ้ำตามต้องการ ประมาณ 2 - 3 ครั้งต่ออาทิตย์ สีผมจะค่อยๆ อ่อนลงเอง
  4. แน่นอนว่าไม่ถนอมผมเท่าแชมพู ต้องใช้ครีมนวดเข้มข้นบำรุงผมตาม
    • ผสมน้ำยาล้างจาน 5 หยด กับแชมพูที่บีบออกมาขนาดเท่าเหรียญ 5 บาท
    • นวดส่วนผสมที่ผมเปียกหมาด
    • ทิ้งไว้ 2 - 3 นาที
    • ล้างออกแล้วทำซ้ำตามต้องการ
  5. การใช้แชมพูล้างสีผมนี่แหละ ที่ทำให้ผมดำสีอ่อนลงได้ง่ายที่สุด จะเห็นผลเร็วกว่าการสระผมแน่นอน [5]
    • ใช้แชมพูดีทอกซ์ผม (clarifying shampoo) หรือก็คือล้างคลอรีนออกจากผม จะช่วยล้างสีผมดำได้
    • แชมพูขจัดรังแคก็ว่าช่วยกัดสีย้อมบางประเภทจากผมได้ ซึ่งจะยิ่งได้ผลไปกว่าเดิม ถ้าผสมกับเบคกิ้งโซดาในสัดส่วนที่เท่ากัน ให้หมักผมทิ้งไว้สัก 2 - 3 นาทีแล้วล้างออก จากนั้นเช็คสีผมที่ได้
    • อาจจะต้องสระหลายรอบหน่อย กว่าสีผมจะจางลงตามต้องการ แต่ละครั้งที่สระผม สีผมจะหลุดลอกไหลไปตามน้ำ แต่ระวังอย่าสระเยอะเกินวันละ 3 ครั้งล่ะ
  6. เหมาะสำหรับล้างสีย้อมที่เป็นเฮนน่า คราม หรือสีย้อมชั่วคราว ไม่เหมาะกับการใช้ล้างสีผมถาวร และอาจจะล้างสีผมได้ไม่เร็วทันใจเท่าการสระผมเพื่อล้างสีส่วนเกิน [6]
    • เลือกประเภทน้ำมัน (น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว อาร์แกนออยล์ เป็นต้น) หรือซื้อน้ำมันใส่ผมโดยเฉพาะก็ได้ จะซื้อแบบผสมเสร็จมาใช้ก็ดี แต่จะผสมใช้เองก็ได้ แนะนำให้เตรียมไว้พอจะล้างสีผมได้ 2 ครั้ง
    • ลงน้ำมันปริมาณพอสมควร ให้ทั่วทั้งหัว
    • หมักผมทิ้งไว้ 2 - 3 ชั่วโมง ถ้าเป็นไปได้ ให้คลุมผมแล้วทิ้งไว้ข้ามคืนเลย จะช่วยล้างสีผมได้ดีกว่าเดิม
    • สระผมด้วยแชมพูเพื่อล้างน้ำมันออก อย่าลืมว่าน้ำกับน้ำมันจะไม่เข้ากัน เพราะฉะนั้นอาจจะต้องสระผม 2 - 3 ครั้ง น้ำมันถึงจะหมด
    • วิธีนี้ช่วยลดโอกาสเกิดผมเสีย เพราะน้ำมันจะช่วยบำรุงผมไปพร้อมๆ กับการลอกสีย้อม
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้ชุดอุปกรณ์ล้างสีผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ชุดอุปกรณ์ล้างสีย้อม เอาไว้สำหรับล้างสีย้อมถาวรไม่พึงประสงค์ออกจากเส้นผมของคุณ เดี๋ยวนี้มีชุดอุปกรณ์แบบนี้ให้เลือกเยอะ แต่ละยี่ห้อก็ใช้สารเคมีต่างกัน มีขั้นตอนการใช้งานแตกต่างกันไป แต่ชุดอุปกรณ์นี้จะใช้ล้างสีย้อมผมสำเร็จรูปแบบกึ่งถาวรไม่ได้ เพราะอาจจะมีเกลือโลหะ (metallic salts) กับสารย้อมตามธรรมชาติ ที่ชุดอุปกรณ์ไม่มีผล
    • เลือกสูตรที่แรงที่สุด เพราะสีดำล้างออกยากที่สุด ในบรรดาสีย้อมผม
    • ผมคุณยาวแค่ไหน และย้อมผมเข้มแค่ไหน บางทีอาจต้องใช้น้ำยาล้างผมถึง 2 กล่องด้วยกัน ก็ต้องเตรียมเผื่อไว้ โดยเฉพาะคนที่ผมยาวหรือผมหนาเป็นพิเศษ
    • คุณหาซื้อชุดอุปกรณ์ล้างสีผมได้ตามร้านขายเครื่องสำอางและยาทั่วไป
    • ถ้าหาซื้อชุดอุปกรณ์ล้างสีผมไม่ได้ ให้ซื้อชุดกัดสีผมมาใช้แทน จะต่างกันที่ชุดอุปกรณ์ล้างสีผม จะกำจัดเฉพาะสีย้อม แต่น้ำยาฟอกผมหรืออุปกรณ์กัดสีผมจะกำจัดทั้งสีย้อมและเม็ดสีผมตามธรรมชาติของคุณไปด้วย
  2. ต้องอ่านคู่มือหรือคำแนะนำการใช้งานในกล่องให้ละเอียด แล้วทำตามขั้นตอนทั้งหมดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
    • เช็คผลข้างเคียงทั้งหมดที่เป็นไปได้ เช่น สีที่เปลี่ยนไป หรือทำให้ผมแห้งเป็นพิเศษ อาจจะต้องใช้ครีมบำรุงผมภายหลังด้วย
    • ย้อมสีอื่นทับสีดำ เช่น สีน้ำตาล จะไม่ทำให้ผมกลายเป็นสีน้ำตาล เพราะสีดำได้ซึมลึกเข้าไปในเกล็ดผมแล้ว
  3. [7] ก็เหมือนตอนจะย้อมผม คือต้องสวมเสื้อผ้าที่เปื้อนได้ ถุงมือ และเตรียมสภาพผมก่อนเริ่มใช้สารเคมี อาจจะต้องเอาผ้าขนหนูคลุมไหล่ก่อน เผื่อสารเคมีไหลหยด
    • สวมเสื้อผ้าที่เปื้อนได้ เช่น เสื้อยืดเก่า
    • ถ้าเอาผ้าคลุมไหล่ไว้ ให้เลือกผ้าที่สีเข้มหน่อย
    • หวีผมก่อนลงน้ำยา. ไม่งั้นสารเคมีจะไปติดตามช่อผมที่พันกัน ทำให้น้ำยาไม่ทั่วถึง
    • ใช้บาล์มอย่างวาสลีนทาตามหน้าและกรอบหน้า ป้องกันน้ำยาเลอะเป็นคราบ หรือทำปฏิกิริยากับผิว สารเคมีจะได้ไม่เกาะผิวเยอะเกินไป แนะนำว่าคราวหน้าที่ย้อมผมให้ทำแบบนี้ด้วย สีย้อมจะได้ไม่ติดผิว [8]
    • สวมถุงมือแล้วเริ่มผสมน้ำยา พอเตรียมพร้อมใช้น้ำยาล้างสีผม ให้อ่านขั้นตอนโดยละเอียด แล้วผสมให้เสร็จก่อนเริ่มลงที่เส้นผม บางชุดอุปกรณ์ก็จะมีกลิ่นฉุนรบกวน เหมือนซัลเฟอร์หรือไข่เน่า แนะนำให้เปิดพัดลมในห้องน้ำจะดีกว่า
  4. แนะนำให้ทดสอบน้ำยาล้างสีผมแค่ช่อหรือปอยเล็กๆ ก่อนลงน้ำยาจริงทั้งหัว ให้เลือกปอยผมที่ซ่อนอยู่ เผื่อมีอะไรผิดพลาดหลังลงน้ำยา หลังจากนั้นก็ทำตามขั้นตอน เช็คสีที่ปอยผมว่าล้างได้หรือไม่ ถ้าทุกอย่างโอเค ก็เริ่มลงน้ำยาทั้งหัวต่อไปได้เลย
    • แนะนำให้ทดสอบน้ำยาตรงปอยผมที่ซ่อนอยู่ใต้ผมช่อใหญ่ เช่น ตรงท้ายทอย
    • อันนี้แล้วแต่ว่าผมจริงของคุณเป็นสีอะไร สีน่ะออกแน่ แต่ผลที่ได้ก็ต่างกันไป จะไม่ถึงกับเปลี่ยนจากผมดำเป็นผมบลอนด์ทอง แต่อาจจะแค่เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลแดง
  5. พอเตรียมน้ำยาพร้อมแล้ว แนะนำให้ลงน้ำยาที่ผมให้ทั่วถึง บางชุดอุปกรณ์ล้างสีผมจะเหลวเป็นน้ำมากกว่ายี่ห้ออื่น
    • ลงน้ำยาที่ผมทีละช่อ ช่อละ 1 นิ้ว (2.5 ซม.) โดยลงจากครึ่งล่างของผมขึ้นไปถึงกระหม่อม เพื่อให้ลงน้ำยาสม่ำเสมอทั้งหัว แบบนี้จะควบคุมได้ด้วย ว่าน้ำยาจะโดนผมเยอะแค่ไหน
    • คลุมผมแล้วรอสักพัก ถ้าน้ำยาใช้กับความร้อนได้ดี ให้ปรับไดร์เป่าผมไปที่โหมดถนอมผม แล้วเป่าลงจากด้านบน โดยที่นั่งอยู่กับพื้น
  6. ล้างผมแล้วสระด้วยแชมพูหลังลงน้ำยาล้างสีผมเสร็จ. ต้องล้างน้ำยาล้างสีผม กับสีย้อมผมตกค้าง ออกไปจากผมให้หมด โดยล้างน้ำให้สะอาด แล้วสระด้วยแชมพูตามปกติ แนะนำให้อ่านและทำตามขั้นตอนการล้างน้ำยาที่ฉลากบอกไว้อย่างเคร่งครัด
    • บางชุดอุปกรณ์ล้างสีผม จะมีแชมพูเฉพาะมาให้ใช้หลังล้างสีผมเสร็จ
    • ต้องขยี้ผมหน่อยตอนสระด้วยแชมพู จะได้ล้างทั้งน้ำยาและสีย้อมออกมาทั้งหมด แต่ระวังอย่าถูแชมพูกับหนังหัว!
    • อาจจะต้องใช้น้ำยาโกรกหลังสระด้วย อาจจะติดมากับชุดอุปกรณ์ล้างสีผม ลองเช็คว่าชุดอุปกรณ์ของคุณมีให้หรือเปล่า ถ้ามี ห้ามข้ามขั้นตอนนี้เด็ดขาด
  7. ให้เตรียมไว้แต่แรก เผื่อผมเสียหรือแห้งขาด ต้องการการบำรุงหลังล้างสีผม [9] ใช้ครีมหมักผม หรือพักผมชั่วคราว คือไม่จัดแต่งทรงด้วยความร้อนมากเกินไปหรือใช้ไดร์เป่าผม เพื่อให้เส้นผมได้ฟื้นคืนสภาพ
  8. ถ้าใช้ชุดอุปกรณ์ล้างสีผมด้วยตัวเองที่บ้าน อาจจะต้องย้อมผมใหม่เลยหลังล้างสีดำเสร็จ เพราะผมจะสีอ่อนกว่าสีผมจริงมาก หลังล้างสีผมดำเสร็จ บางคนก็ว่ารับได้ แต่ส่วนใหญ่แนะนำให้เติมสีเพื่อให้ออกมาสวยเป็นธรรมชาติขึ้น
    • หรือจะรอสัก 1 - 2 อาทิตย์ขึ้นไป พักผมให้ฟื้นคืนสภาพ แล้วค่อยย้อมใหม่ก็ได้ แต่ชุดอุปกรณ์ล้างสีผมส่วนใหญ่จะบอกว่าย้อมต่อหลังล้างสีผมเสร็จได้ ปลอดภัยดี ขอแค่รอสัก 24 ชั่วโมงเป็นพอ
    • ทดสอบสีบนผิวก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ปรึกษาช่างทำผมที่มีประสบการณ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น่าจะเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาพอสมควร กว่าจะเปลี่ยนผมที่ย้อมดำกลับเป็นผมสีเดิมของคุณได้ ให้พิจารณาว่าระหว่างขั้นตอนต้องทำอะไรกับเส้นผมบ้าง และอยากได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบไหน
    • แต่ละครั้งช่างอาจจะกัดสีผมแล้วปรับสีให้เป็นเฉดที่โอเคสำหรับคุณ
    • ช่างทำผมมืออาชีพอาจจะทำให้สีผมคุณอ่อนลงโดยใช้น้ำยากัดสีที่ไม่ผสมน้ำยาฟอกขาว และน้ำยาล้างสีผมเกรดร้านทำผมก็ได้
    • อาจจะต้องล้างสีผมกับช่างหลายรอบหน่อย แต่ยังไงช่างมืออาชีพก็รู้วิธีลดขั้นตอนทำร้ายเส้นผม และจะแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ไว้ให้ไปดูแลเส้นผมต่อที่บ้านด้วย
    • กัดสีหรือล้างสีผมแล้วอาจจะมีช่วงที่ผมกลายเป็นสีส้ม แต่ถ้าทำที่ร้าน ช่างจะช่วยแต่งสีให้ดูดีขึ้น
    • ถ้าเป็นช่างมืออาชีพที่คุณวางใจ ก็ปรึกษาทางเลือกต่างๆ ได้เลย
  2. ขั้นตอนล้างสีดำจากผมนั้นค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แนะนำให้พิจารณาดีๆ หลายๆ ร้าน จนเจอร้านที่ช่างเก่ง รวมถึงคุณภาพและราคาไปด้วยกัน
    • การหาช่างที่คุณวางใจ และสบายใจให้เขาดูแลเส้นผมของคุณ ก็สำคัญพอๆ กับเรื่องราคาที่ถูกใจ ถ้าต้องพิจารณาหลายที่หน่อยก็เป็นเรื่องปกติ
    • บริการของร้านทำผมก็ตามราคาเลย ถ้าเลือกร้านถูกที่สุด ก็ต้องเผื่อใจว่าผมอาจออกมาไม่สวยตรงใจเท่ากัดสีหรือล้างสีผมเองที่บ้านก็ได้
  3. ปล่อยให้ผมยาวตามธรรมชาติ แล้วให้ช่างเติมสีที่โคน ไม่ว่าจะเป็นสีผมเดิมของคุณหรือสีใหม่ที่ต้องการก็ตาม วิธีนี้ช้าหน่อยแต่บอกเลยว่าไม่ทำให้ผมเสียเท่าวิธีอื่นๆ แถมผมไม่แห้งเสียเป็นสีส้มด้วย
    • ช่างผมอาจสามารถทำไฮไลท์เพื่อช่วยให้สีผมธรรมชาติของคุณกลมกลืนไปกับสีที่ย้อมตรงปลายผม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าผมผ่านการย้อมสีดำทับสีดำอีกที ให้ล้างสีที่ปลายผมก่อน รอสัก 10 นาทีแล้วค่อยล้างสีผมทั้งหัว เพราะเวลากัดสีผม สีย้อมดำจะออกยากแถวปลายผม
โฆษณา

คำเตือน

  • ถึงน้ำยาฟอกขาวจะกัดสีย้อมของผ้าได้ แต่ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาวกับเส้นผมโดยตรงเด็ดขาด เว้นแต่จะไม่เหลือวิธีการอื่นแล้วจริงๆ เพราะน้ำยาฟอกขาวจะกัดสีผมคุณจนกลายเป็นสีแดงหรือส้ม ผมจะแห้งขาด หรือถึงขั้นผมร่วงได้เลย ถ้าร้านทำผมไหนใช้สารฟอกขาวกัดสีผม ก็จะทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ รู้วิธีใช้สารกัดสีผมคุณภาพสูง รวมถึงจะมีการบำรุงผมในภายหลัง เพื่อป้องกันหรือลดผมเสียด้วย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 39,805 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา