ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ถ้าหมู่นี้คุณเจอ error “Page Not Found” บ่อยๆ ทั้งที่ต่อเน็ตอยู่ ก็น่าจะลองล้าง DNS cache บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการล้าง DNS Cache ใน Windows, Mac และ Linux ให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
เปิดหน้าต่าง command prompt. คุณต้องใส่คำสั่ง flush DNS ใน command prompt วิธีการเปิด command prompt จะแตกต่างกันไปบ้างตามเวอร์ชั่นของ Windows ที่คุณใช้
- Windows 8 - กด Windows + X แล้วเลือก “Command Prompt (Administrator)”
- Windows 7/Vista - คลิกเมนู Start แล้วพิมพ์ “cmd” ในแถบค้นหา คลิกขวาที่ Command Prompt แล้วเลือก “Run As Administrator”
- Windows XP - คลิกเมนู Start แล้วคลิก Run จากนั้นพิมพ์ “cmd” ในช่อง Run แล้วกด Enter
-
ใช้คำสั่ง flush DNS. พิมพ์
ipconfig /flushdns
แล้วกด Enter จะมีข้อความขึ้นว่า “Windows IP configuration successfully flushed the DNS Resolver Cache” -
ออกจาก command prompt. พิมพ์
exit
แล้วกด Enter เพื่อปิดหน้าต่าง command promptโฆษณา
-
เปิด Terminal. จะอยู่ในแอพ Terminal ในโฟลเดอร์ Utilities ที่อยู่ในโฟลเดอร์ Applications อีกที
-
ใช้คำสั่ง flush DNS. คำสั่งที่ใช้จะแตกต่างกันออกไปตามเวอร์ชั่นของ Mac OS X ที่คุณใช้
- 10.5 หรือใหม่กว่า - ให้ใช้
dscacheutil -flushcache
เพื่อ flush DNS และใช้sudo killall -HUP mDNSResponder
เพื่อรีโหลด DNS - 10.4 หรือเก่ากว่า - ให้ใช้
lookupd -flushcache
เพื่อ flush DNS และใช้sudo killall -HUP mDNSResponder
เพื่อรีโหลด DNS
- 10.5 หรือใหม่กว่า - ให้ใช้
-
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าคุณใช้ Microsoft Windows คุณก็ปิด DNS caching ชั่วคราวได้ โดยเปิด "cmd" แล้วพิมพ์ "net stop dnscache" ในหน้าต่างหลัง command prompt แล้วกด "Enter" เพื่อหยุดกระบวนการ DNS caching ไว้จนกว่าจะรีสตาร์ทเครื่องคราวหน้า
- คุณปิด DNS caching ของ Windows แบบถาวรเลยก็ได้ โดยใช้โปรแกรม "services.msc." ให้พิมพ์ "services.msc" ในหน้าต่าง run หรือแถบค้นหาในเมนู Start แล้วแต่ว่าคุณใช้ Windows เวอร์ชั่นไหน พอหน้าต่างเปิดขึ้นมาให้มองหา "DNS Client" จากนั้นดับเบิลคลิกเลย แล้วคลิก "Stop" ถ้าจะเปิด DNS caching ใหม่อีกรอบก็ให้ทำตามเดิม แต่คราวนี้ให้คลิก "Start" แทน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา