ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คุณกำลังวางแผนจะไปเที่ยวในที่ที่ต้องอวดหุ่นในชุดว่ายน้ำใช่รึเปล่า หรือกำลังพยายามยัดตัวเองลงไปในชุดเพื่อนเจ้าสาวอย่างเอาเป็นเอาตายก่อนที่จะถึงวันสำคัญของเพื่อน ถ้าคุณอยากลดน้ำหนักแบบถาวรล่ะก็ คุณคงต้องพยายามลดอย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายจึงจะได้ผลดีที่สุด แต่ถ้าคุณอยากมีหุ่นผอมเพรียวเปรี้ยวจี๊ด แต่ดันมีเวลาแค่สัปดาห์เดียว เรามีคำแนะนำที่คุณสามารถนำไปใช้ได้มาฝาก ไม่รอช้า เราไปอ่านคำแนะนำและเทคนิคการสร้างหุ่นเพรียวใน 1 สัปดาห์กันเลยดีกว่า
ขั้นตอน
-
งดเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำเปล่า. หนึ่งวิธีการกำจัดแคลอรี่ส่วนเกินอันน่าหงุดหงิดคือการดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่ไม่ดีต่อสุขภาพ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- รู้หรือไม่ว่าเครื่องดื่มเกลือแร่ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ไม่สามารถดับความกระหายของคุณได้อย่างแท้จริง มันแค่เพิ่มแคลอรี่อันไร้ประโยชน์เข้าไปในร่างกายของคุณเท่านั้น
- แม้แต่เครื่องดื่มที่ปราศจากน้ำตาลก็อาจส่งผลเสียต่อน้ำหนักของคุณ เพราะงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลก็มีส่วนทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้นได้เช่นเดียวกัน [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การดื่มน้ำ 8 ออนซ์สัก 2 แก้วก่อนอาหารแต่ละมื้อจะช่วยลดความหิวและทำให้คุณไม่ทานอาหารมากจนเกินไป [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองหาซื้อขวดเติมน้ำและพกติดตัวไปทุกที่ วิธีการนี้จะทำให้คุณเติมน้ำให้กับร่างกายได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องวิ่งวุ่นหาซื้อเครื่องดื่มผสมน้ำตาลหรือน้ำอัดลม
-
ทานข้าวขาวและผลิตภัณฑ์จากนมให้น้อยลง. การงดอาหารที่ทำให้ท้องอืดจะให้คุณดูผอมเพรียวขึ้นโดยที่ไม่ทันตั้งตัวเลยเชียวล่ะ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คาร์โบไฮเดรตจะทำให้คุณมีอาการท้องอืด และหน้าท้องของคุณก็เป็นส่วนที่จะป่องออกมามากที่สุดจนเห็นได้ชัด
- นอกจากนี้คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวยังเป็นสารอาหารที่ย่อยง่าย อาหารประเภทนี้จึงทำให้คุณหิวเร็วขึ้นทั้งที่คุณอัดแคลอรี่เข้าไปเป็นจำนวนมาก
- ผลิตภัณฑ์จากนมอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหากร่างกายของคุณไม่ถูกกับหรือแพ้น้ำตาลแลคโตสในนม [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าคุณมีอาการในลักษณะนี้ ให้ลองเปลี่ยนไปทานอาหารชนิดอื่นแทนนม แต่ถ้าไม่มีอาการใดๆ ล่ะก็ นมถือเป็นอีกหนึ่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพของคุณ
-
ทานไฟเบอร์. รู้หรือไม่ว่า การทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและนานขึ้น นอกจากนี้ ไฟเบอร์ยังช่วยขับไขมันออกไปจากระบบย่อยอาหาร ซึ่งจะทำให้ไขมันที่ร่างกายดูดซึมเข้าไปมีปริมาณน้อยลงนั่นเอง [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองเปลี่ยนซีเรียลในมื้อเช้าเป็นข้าวโอ๊ตหรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติโรยหน้าด้วยเมล็ดแฟลกซ์
- แทนที่จะทานพาสต้า ลองเพิ่มอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ อย่างเช่น ถั่วเลนทิล ถั่วแห้ง และผักเข้าไปในมื้ออาหารของคุณ
-
ทานผักให้เยอะๆ. เพราะคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในผักจะใช้เวลาในการย่อยนานกว่าคาร์โบไฮเดรตในพิซซ่าและขนมปัง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้ในผักยังมีน้ำอยู่ในปริมาณมาก ผักจึงช่วยกำจัดน้ำหนักส่วนเกินจากน้ำได้เป็นอย่างดี
- ผักเป็นอาหารที่มีความหนาแน่นสูงแต่แคลอรี่ต่ำสุดๆ การทานผักจึงทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้เร็วกว่าทั้งที่ทานแคลอรี่เข้าไปน้อยกว่า
-
งดของหวาน. เพราะนอกจากจะเพิ่มปริมาณแคลอรี่ที่ไม่จำเป็นแล้ว หลังจากทานจนอิ่มหมี น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตซึ่งมีอยู่เป็นปริมาณมากในของหวานยังอาจทำให้คุณเกิดอาการพุงป่อง [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าอยากทานอะไรหวานๆ ลองเปลี่ยนเป็นผลไม้หรือดาร์กช็อกโกแลตชิ้นเล็กๆ เพราะดาร์กช็อกโกแลตเป็นของหวานที่ดีต่อสุขภาพ!
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่จะกระตุกต่อมความอยากของหวาน ไม่ว่าจะเป็นเบเกอรี่ร้านโปรด ร้านอาหาร แผนกเบเกอรี่ในห้าง หรือแม้แต่โซนจำหน่ายขนมในร้านขายยา
-
อย่าทานอาหารแบบรีบเร่ง. หากคุณมีชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา คุณอาจต้องไปนั่งทานอาหารในรถ ที่โต๊ะทำงาน หรือแม้กระทั่งขณะยืนอยู่บ่อยๆ แต่รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมแบบนี้แหละที่ทำให้ร่างกายไม่ยอมส่งสัญญาณบอกเมื่อมันรู้สึกอิ่ม [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณค่อยๆ ทานอย่างช้าๆ สมองของคุณจะมีเวลาสื่อสารกับกระเพาะ และบอกคุณได้ว่าเมื่อไรที่ได้เวลาต้องหยุดทานแล้วล่ะ
- หยุดทานเมื่อรู้สึกว่าอิ่มกำลังดีแล้ว
-
จำกัดปริมาณแคลอรี่. ถ้าอยากลดน้ำหนักจริงๆ ล่ะก็ คุณต้องตั้งใจลดปริมาณแคลอรี่ในมื้ออาหารของคุณ
- ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องทานอาหารไม่เกิน 1,200-1,500 แคลอรี่ต่อวันเพื่อให้น้ำหนักลดอย่างคงที่ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แม้จะอยู่ในช่วงลดแคลอรี่ แต่ก็ต้องแน่ใจว่าคุณยังได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ โดยเคล็ดลับก็คือให้ลดอาหารที่ไม่ค่อยให้สารอาหารแก่ร่างกาย (เช่น เครื่องดื่มผสมน้ำตาล ของหวาน และอาหารขยะ) และเก็บท้องไว้สำหรับผักผลไม้สดและเนื้อแดง
- หากคุณลดปริมาณแคลอรี่แบบหักดิบมากเกินไป ร่างกายของคุณจะเข้าสู่ภาวะจำศีลและเก็บกักไขมันไว้ใช้มากขึ้น
โฆษณา
-
ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ. การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้น จึงถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการกำจัดแคลอรี่และลดน้ำหนัก สิ่งสำคัญคือ คุณจะต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและเป็นประจำทุกวันหากต้องการลดน้ำหนักให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เลือกวิธีการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ โดยอาจจะเป็นการวิ่ง วายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเล่นเครื่องเดินวงรีก็ได้
- ตั้งนาฬิกาปลุกเมื่อได้เวลาต้องไปฟิตเนสหรือเริ่มออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นตัวคุณเอง วิธีการนี้จะทำให้การออกกำลังกายกลายเป็นอีกหนึ่งกิจวัตรที่ต้องทำเป็นประจำ แถมยังช่วยเตือนเมื่อถึงเวลาต้องออกตัวอีกด้วย
- ชวนเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกัน เพราะการมีใครสักคนไปช่วยกระตุ้นไม่ให้คุณขี้เกียจจะทำให้การไปฟิตเนสหรือการวิ่งง่ายขึ้นอีกแยะ แถมยังทำให้การออกกำลังกายกลายเป็นเรื่องสนุกขึ้นอีกด้วย
- ถ้าอยากเผาผลาญแคลอรี่ได้เร็วขึ้น คุณจะต้องออกกำลังกายให้หนักขึ้น ถ้ากำลังเล่นเครื่องเดินวงรีหรือลู่วิ่งไฟฟ้า ให้ลองเพิ่มความชันหรือระดับการออกกำลังกายดู
- การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะได้ผลดีที่สุดเมื่อทำเป็นเวลา 40-60 นาที [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เพราะฉะนั้น คุณจึงควรตั้งเป้าว่าจะออกกำลังกายให้ได้ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวัน
-
ออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา. การออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา คือการออกกำลังกายที่ต้องออกแรงแบบสุดแรงเกิดเป็นเวลาสั้นๆ สลับกับการออกแรงเบาๆ การออกกำลังกายแบบหนักสลับเบาจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่า [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ออกกำลังกายแบบหนักสลับเบาควบคู่ไปกับการออกกำลังกายที่ทำอยู่เป็นประจำ เช่น ถ้าคุณชอบวิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ อยู่แล้ว ให้ลองวิ่งเต็มฝีเท้าสักแป๊บร่วมด้วย หรือถ้าปกติคุณออกกำลังกายด้วยเครื่องเดินวงรี ลองตั้งโปรแกรมเครื่องให้เพิ่มระดับขึ้นทุกๆ 5-10 นาที
- การออกกำลังกายแบบหนักสลับเบาจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
วิดพื้นหรือออกกำลังกายด้วยท่าลันจ์ (lunge). การวิดพื้นหรือทำท่าลันจ์สัก 2-3 ชุดเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้กล้ามเนื้อตึงตัวและทำให้คุณดูผอมเพรียวขึ้นเมื่อครบสัปดาห์ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณจะต้องสวมชุดที่เผยให้เห็นลำตัวส่วนบน (เช่น เสื้อบิกินี่หรือเดรสเกาะอก) คุณคงต้องวิดพื้นให้มากขึ้นสักหน่อย เพราะการวิดพื้นเป็นท่าที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อบริเวณลำตัวส่วนบน และทำให้ช่วงแขนและไหล่ฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น
- หากคุณจะต้องสวมชุดที่เผยให้เห็นลำตัวช่วงล่าง (เช่น กางเกงขาสั้นหรือกระโปรง) การทำท่าลันจ์จะทำให้ช่วงก้น สะโพก และต้นขาของคุณดูเฟิร์มขึ้น
-
เดินขึ้นบันได. พยายามใส่การออกกำลังกายเข้าไปในชีวิตประจำวันให้มากที่สุด เพื่อให้คุณได้เผาผลาญแคลอรี่และฟิตกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง
- อย่าขี้เกียจและใช้ทางลัด ถ้าปกติจะใช้ลิฟต์ ให้ลองหันมาเดินขึ้นบันได หรือถ้าจะขับรถไปที่ทำการไปรษณีย์ซึ่งอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่ซอย ให้ลองเปลี่ยนเป็นเดินไปแทน หรือเมื่อเปิดไฟในครัวทิ้งไว้ ลองลุกขึ้นเดินไปปิดเองแทนที่จะขอให้คุณแฟนเดินไปปิดให้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ดื่มน้ำให้มากๆ เพราะบางครั้งที่คุณคิดว่าตัวเองหิวข้าว แท้จริงแล้วคุณอาจแค่หิวน้ำก็ได้ และอย่าลืมดื่มน้ำสักแก้วประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนทานข้าว เพราะน้ำจะช่วยลดความอยากอาหารของคุณ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอตลอดทั้งสัปดาห์ เพื่อไม่ให้ตื่นขึ้นมาหิวโหยในวันถัดไป เพราะงานวิจัยชี้ให้เห็นเมื่อคุณพักผ่อนไม่เพียงพอ ระดับฮอร์โมนเลปตินในร่างกายจะลดลงและทำให้คุณอยากอาหารมากขึ้น [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เมื่ออิ่มก็จงหยุดทาน อย่าพยายามฝืนตัวเองให้ทานอาหารจนหมดจาน
- การทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้น อย่าอดอาหารเป็นอันขาด!
- อย่าฝืนตัวเองมากเกินไป คุณต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเองและใช้ความรู้นี้ให้เกิดประโยชน์ เช่น ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองวิดพื้นได้แค่ 40 ครั้ง ลองตั้งเป้าว่าวันนี้ฉันจะวิดให้ได้ 41 หรือ 42 ครั้ง แม้จะเป็นแค่ก้าวเล็กๆ แต่ก็ยังถือเป็นการก้าวไปอีกขั้น และก็เป็นการก้าวอย่างถูกทางซะด้วย
- การออกกำลังกายด้วยท่าครันช์ สควอท และการบริหารกล้ามเอว (oblique) จะช่วยให้ร่างกายของคุณฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น จึงควรทำให้ได้อย่างน้อยท่าละ 50 ครั้งต่อวัน
- เมื่อจะตักอาหาร ลองคำนวณปริมาณที่คุณต้องการและตักให้พอดี แทนที่จะทานจานที่ 1 แล้วค่อยเติมจานที่ 2 แล้วต่อด้วยจานที่ 3 พูดง่ายๆ ก็คือให้ตักอาหารมาพอดีอิ่มและทานเท่าที่ตักมาให้หมดโดยไม่ตักเพิ่มอีก
- วางเมนูอาหารสำหรับสัปดาห์หน้า และออกไปหาซื้อวัตถุดิบที่จะใช้ทั้งหมดในคราวเดียว ข้อดีของวิธีการนี้คือ เมื่อไรที่คุณเกิดอยากทานอะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพ คุณจะมีตัวเลือกอื่นที่ดีต่อสุขภาพรอไว้ก่อนแล้ว
- ไม่ควรทานอาหารในช่วง 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพราะการทานอาหารก่อนนอนจะทำให้ร่างกายไม่เผาผลาญแคลอรี่ในอาหาร
- ลองทานอาหารด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดเพื่อให้ทานได้ช้าลง เพราะฉะนั้นถ้าคุณเป็นคนถนัดขวา ให้ลองทานด้วยมือซ้าย แต่ถ้าคุณเป็นคนถนัดซ้าย ให้ลองทานด้วยมือขวา
โฆษณา
คำเตือน
- หากรู้สึกวิงเวียนหรือหน้ามืดระหว่างที่ออกกำลังกาย ควรนั่งลงดื่มน้ำและหาอะไรทานสักหน่อย ไม่ควรฝืนตัวเองมากจนเกินไป
- ถ้ายังไม่เลิกทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีประโยชน์ล่ะก็ ระวังจะเป็นโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว
- การลดปริมาณแคลอรี่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงควรทานในปริมาณที่เหมาะกับรูปร่างของคุณ
- ไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้ปริมาณเกลือในร่างกายลดลง
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ของสด
- อาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์
- ขวดน้ำ
- บัตรสมาชิกฟิตเนส (ถ้ามี)
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 1.2 http://www.cosmopolitan.com/advice/health/drop-5-pounds-in-a-week-0509
- ↑ http://www.huffingtonpost.com/2011/06/29/diet-soda-weight-gain_n_886409.html
- ↑ http://www.cnn.com/2010/HEALTH/08/23/drink.water.lose.weight/index.html
- ↑ http://abcnews.go.com/GMA/OnCall/dr-mehmet-oz-tips-avoid-bloating/story?id=8858561
- ↑ http://abcnews.go.com/GMA/OnCall/dr-mehmet-oz-tips-avoid-bloating/story?id=8858561
- ↑ http://www.caloriesperhour.com/tutorial_fiber.php
- ↑ http://www.fitnessmagazine.com/weight-loss/expert-advice/quick-answers/beat-belly-bloat/?page=2
- ↑ http://science.howstuffworks.com/life/human-biology/eat-slower.htm
- ↑ http://www.dummies.com/how-to/content/setting-a-reasonable-calorie-level-for-weight-loss.html
- ↑ http://voices.yahoo.com/how-thin-two-weeks-7170526.html?cat=5
- ↑ http://www.caloriesecrets.net/how-much-cardio-to-lose-weight-fast/
- ↑ http://www.mayoclinic.com/health/interval-training/SM00110
- ↑ http://www.nytimes.com/2007/05/03/fashion/03Fitness.html?pagewanted=all&_r=0
- ↑ http://www.webmd.com/diet/features/lose-weight-while-sleeping
โฆษณา