ถึงโปรแกรม Excel จะไม่เน้นนำเสนอรูปภาพหรือกราฟฟิก แต่คุณก็ใช้สร้าง timeline ได้หลายวิธี ถ้าคุณใช้ Excel 2013 หรือใหม่กว่า ก็ใช้ pivot table สร้าง timeline ได้อัตโนมัติเลย แต่ถ้าเป็นเวอร์ชั่นก่อนๆ ต้องใช้ SmartArt, เทมเพลต หรือเรียงเซลล์ใน spreadsheet เอาเอง
ขั้นตอน
-
สร้าง spreadsheet ใหม่. SmartArt ใช้สร้าง graphic layout หรือหน้าตาเอกสารใหม่สำหรับใส่ข้อมูล แต่ใช้แก้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วไม่ได้ ต้องสร้าง spreadsheet ใหม่โล่งๆ สำหรับ timeline
-
เปิดเมนู SmartArt. อันนี้แล้วแต่ว่าคุณใช้ Excel เวอร์ชั่นไหน ปกติให้คลิก tab SmartArt ในเมนู ribbon หรือคลิก tab Insert แล้วคลิกปุ่ม SmartArt ถ้าใช้ Excel 2007 หรือใหม่กว่า
-
เลือก timeline จากในเมนูย่อย Process. คลิก Process ในเมนู ribbon SmartArt ในกลุ่ม Insert Smart Art Graphic พอเมนูขยายลงมา ให้เลือก Basic Timeline (ลูกศรชี้ไปทางขวา)
- คุณใช้กราฟฟิกอื่นๆ ของ Process ใน timeline ได้ ถ้าอยากเห็นชื่อของแต่ละรูป ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ไอคอน แล้วรอจนมีข้อความโผล่ขึ้นมา
-
เพิ่มเหตุการณ์ (event). ตามค่า default จะมีแค่ไม่กี่เหตุการณ์ ถ้าจะเพิ่ม ให้เลือก timeline จะมีกรอบ Text โผล่มาทางซ้ายของกราฟฟิก ให้คลิกปุ่ม + ทางด้านบนของกรอบ text เพื่อเพิ่มเหตุการณ์ใน timeline ได้เลย
- ถ้าอยากขยาย timeline โดยไม่เพิ่มเหตุการณ์ใหม่ ให้คลิก timeline เพื่อแสดงกรอบของช่อง จากนั้นก็ลากกรอบขวาหรือซ้ายขยายออกไปได้เลย
-
แก้ไข timeline. พิมพ์ข้อความในช่องของกรอบ Text ถ้าอยากเพิ่มรายการ หรือ copy-paste ข้อมูลลง timeline แล้วให้ Excel จัดระเบียบเอาเอง เสร็จแล้วแต่ละคอลัมน์ข้อมูลจะเป็นแต่ละ entry ของ timelineโฆษณา
-
เปิด spreadsheet ที่มี pivot table . ถ้าอยากสร้าง timeline อัตโนมัติ ก็ต้องป้อนข้อมูลไว้ใน pivot table และต้องมีเมนู analyze ของ pivot table ใน Excel 2013 เป็นต้นไป [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คลิกตรงไหนก็ได้ใน pivot table. เพื่อเปิด “PIVOT TABLE TOOLS” ในเมนู ribbon ด้านบน
-
คลิก “Analyze”. เพื่อเปิด ribbon ที่มีตัวเลือกจัดการข้อมูลในตาราง
-
คลิก “Insert Timeline”. หน้าต่าง dialog จะโผล่มาพร้อมช่องระบุฟอร์แมตวันที่ ถ้าพิมพ์วันที่เองจะใช้ไม่ได้
-
เลือกช่องที่เกี่ยวข้อง แล้วคลิก OK. จะมีหน้าต่างใหม่โผล่มา ใช้ไปยังจุดต่างๆ ของ timeline
-
เลือกวิธีคัดกรองข้อมูล. อันนี้แล้วแต่ข้อมูลที่มี คุณเลือกได้ว่าจะ filter หรือคัดกรองข้อมูลยังไง (เช่น เรียงตามเดือน ปี หรือไตรมาศ)
-
ตรวจสอบข้อมูลรายเดือน. พอคลิกเดือนในหน้าต่าง Timeline Control แล้ว pivot table จะแสดงข้อมูลเฉพาะของเดือนนั้นๆ
-
ขยายขอบเขตข้อมูลที่เลือก. โดยคลิกแล้วลากด้านข้างของแถบเลื่อนโฆษณา
-
ลองดาวน์โหลดเทมเพลตมาใช้. จริงๆ ก็ไม่จำเป็น แต่ถ้าใช้เทมเพลตจะช่วยประหยัดเวลาและแรงงานไปได้ เพราะมีโครงสร้าง timeline พร้อมใช้ ลองเช็คดูก่อน บางทีอาจมีเทมเพลต timeline อยู่แล้ว โดยไปที่ File → New หรือ File → New from Template หรือค้นหาเทมเพลต timeline ที่ผู้ใช้ด้วยกันสร้างจากในเน็ต ถ้าไม่อยากใช้เทมเพลต ก็อ่านขั้นตอนต่อไปได้เลย
- ถ้าจะใช้ timeline ติดตามความคืบหน้าของโครงการสาขาต่างๆ ให้ลองใช้เทมเพลต "Gantt chart" แทน [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สร้าง timeline จากเซลล์ธรรมดา. คุณสร้าง timeline พื้นฐานจาก spreadsheet ว่างๆ ธรรมดาก็ได้ โดยพิมพ์วันที่ใน timeline แถวเดียวหลายๆ วัน จากนั้นเว้นวรรคด้วยเซลล์ว่างตามเวลาที่คั่นกลาง
-
พิมพ์ entry ต่างๆ ของ timeline. ในเซลล์ด้านบนและด้านล่างของแต่ละวันที่ ให้เขียนคำอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดในวันนั้นๆ ไม่ต้องลงรายละเอียดมาก
- ถ้าสลับคำอธิบายบน/ล่างวันที่ไปเรื่อยๆ จะทำให้ timeline อ่านง่าย
-
วางแนวคำอธิบาย. เลือกแถวที่มีคำอธิบาย คลิก tab Home ในเมนู ribbon แล้วมองหาปุ่ม Orientation ในกลุ่ม Alignment (บางเวอร์ชั่น ปุ่ม Orientation จะเป็นตัวอักษร abc แทน) ให้คลิกปุ่มนี้แล้วเลือกลักษณะการวางแนวของข้อความตามต้องการ พอหมุนตัวอักษรแล้ว คำอธิบายก็น่าจะพอดีกับ timeline
- ถ้าใช้ Excel 2003 หรือเก่ากว่า ให้คลิกขวาเซลล์ที่เลือกไว้ จากนั้นเลือก Format Cells แล้วเลือก tab Alignment ต่อมาพิมพ์องศาที่จะหมุนตัวอักษร แล้วคลิก OK [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าไม่ชอบใจตัวเลือกต่างๆ เท่าไหร่ ให้เปลี่ยนไปใช้ PowerPoint แทน เพราะตั้งค่ากราฟฟิกต่างๆ ได้ละเอียดกว่าเยอะเลย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา