ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
มันถือเป็นเรื่องยากเลยแหละที่จะห้ามใจไม่ให้สักมือได้ บทความวิกิฮาวนี้จะสอนให้คุณสักได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม มันก็อาจเป็นอันตรายได้นะ ฉะนั้นก็ขอให้รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ก่อนที่ผลเสียจะตกอยู่กับผิวของคุณเอาได้
ขั้นตอน
-
1ซื้อหรือรวบรวมชุดสำหรับสักด้วยตัวเอง. องค์ประกอบหลักของชุดสักด้วยตัวเองคือเข็มสักและหมึกสัก เข็มนั้นจะเป็นแบบไหนก็ได้ตราบใดที่มันใหม่และสะอาด ส่วนหมึกนั้นใช้เป็นหมึกสักจะดีกว่า แต่มันก็ใช่ว่าจะหาง่าย ฉะนั้นจะใช้เป็นหมึกอินเดียหรือหมึกซูมิแทนก็ได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ชุดอุปกรณ์สักที่บ้านถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่าและมีทั้งอุปกรณ์กับคำแนะนำในการใช้ควบคู่มาด้วย [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ขอให้ใช้หมึกอินเดียสีดำจะดีกว่า เพราะหมึกสีอื่นอาจเป็นพิษได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณจะใช้เข็มแบบไหนก็ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นเข็มเย็บผ้า เข็มหมุด หรือแม้กระทั่งเข็มกลัดก็ใช้ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือมันต้องเป็นเข็มใหม่และสะอาด [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามใช้เข็มเก่า ห้ามแบ่งเข็มกันใช้ เพราะการทำแบบนี้จะทำให้คุณเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างร้ายแรงได้
-
2เตรียมอุปกรณ์. คุณต้องเตรียมอะไรอีกสักหน่อยก่อนจะเริ่มจิ้มเข็มลงบนเนื้อด้วยนะ ให้เตรียมหลอดด้าย น้ำหนึ่งแก้ว แอลกอฮอล์ล้างแผล และผ้าสะอาด [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เตรียมปากกาเคมีแบบลบหมึกได้เอาไว้วาดแบบของรอยสักก่อนด้วย [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้ามีชามก้นตื้นให้เทหมึกอินเดียลงไปก็ดีเหมือนกัน
- สิ่งสำคัญคือทุกอย่างที่ใช้จะต้องสะอาด ล้างชามที่จะใช้ด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ และสำหรับการป้องกันเพิ่มเติม ก็ให้สวมถุงมือขณะที่หยิบจับอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ไปด้วยเลย
-
3ทำความสะอาดและโกนขนส่วนที่คุณเลือกจะสัก. ไม่ว่าคุณตัดสินใจจะสักตรงส่วนใดของร่างกายก็ตาม ก็ให้ล้างให้สะอาดด้วยสบู่กับน้ำอุ่นด้วยล่ะ และโกนขนเว้นออกไปให้ใหญ่กว่าจุดที่จะสักจริงสักหนึ่งนิ้ว
- หลังจากที่โกนขนไปแล้ว ให้ฆ่าเชื้อที่ผิวด้วยแอลกอฮอล์ล้างแผล โดยใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ และรอให้แอลกอฮอล์ระเหยไปหมดก่อนจะไปยังขั้นตอนต่อไป
-
วาดแบบรอยสักบนผิวหนัง. ลอกแบบหรือวาดลายรอยสักที่ต้องการในจุดที่อยากจะสัก จะให้คนอื่นวาดให้ก็ได้ แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อยในการบอกเขาว่าคุณจะเอารอยสักแบบไหน รูปนี้คือรูปที่คุณจะต้องใช้เพื่อสักในขั้นตอนการเริ่มต่อไป
- เพราะคุณจะต้องสักด้วยตัวเอง ฉะนั้นให้เลือกยังจุดที่จะสักง่ายๆ หน่อยก็ดี คุณอาจต้องคอยนั่งจิ้มมันอยู่สักสองสามชั่วโมงได้เลยล่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบรอยสักด้วย พวกตรงหน้าอกหรือไหล่นั้นจะทั้งยากและดูประหลาดๆ ถ้าต้องสักมือเอง ฉะนั้นนั่นจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไรนัก
- การสักด้วยมือจะได้ผลกับรอยสักที่ดูเรียบและเล็กมากกว่า ถ้าคุณอยากได้รอยสักที่ค่อนข้างซับซ้อน เราแนะนำให้ไปที่ร้านสักเลยจะดีกว่า [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ฆ่าเชื้อเข็ม. วิธีฆ่าเชื้อเข็มก่อนใช้ที่ดีที่สุดคือใช้เปลวไฟ โดยให้ถือเข็มเหนือเปลวไฟของเทียนหรือไฟแช็กจนกว่าเข็มจะสว่างขึ้น โดยอย่าลืมใช้ผ้าจับถือไว้ด้วยนะ ไม่งั้นก็อาจร้อนนิ้วได้ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เมื่อฆ่าเชื้อเข็มเสร็จแล้ว ให้ใช้ด้ายพันเข็มด้วย โดยให้เริ่มพัน 1/8 นิ้ว (0.3 ซม.) จากปลาายเข็มและหมุนหลอดด้ายไปด้านหน้าด้านหลังประมาณ ¼ นิ้ว (0.6 ซม.) บนเข็ม จนด้ายที่พันอยู่ทับๆ กันเป็นทรงวงรี มันจะช่วยซับน้ำหมึกบางส่วนตอนที่คุณจุ่มมันลงไปในชามใส่หมึกนั่นเอง [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าอยากเพิ่มความมั่นคงกว่าเดิม ก็ให้ติดเข็มไว้กับปลายดินสอ โดยปักหัวเข็มเข้าไปในส่วนที่เป็นยางลบของดินสอ แล้วใช้ด้ายพันให้แน่น [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เริ่มสัก. จุ่มเข็มลงไปในหมึกดินเดีย แล้วนำมาจิ้มบนผิวหนังของคุณให้เกิดรูเล็กๆ ขึ้น เลือดอาจจะออกนิดหน่อยแต่ก็ไม่มากหรอก เพราะคุณจิ้มไปถึงแค่ผิวหนังชั้นนอกหนึ่งถึงสองชั้นเท่านั้นเอง [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณทำถูก ตอนดึงเข็มออกมาก็จะรู้สึกว่าเข็มติดกับเนื้อหน่อยๆ และอาจได้ยินเสียง "ป๊อก" ตอนที่ดึงออกมาในแต่ละชั้นด้วย [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
จิ้มไปเรื่อยๆ ตามเส้น. คอยจิ้มให้มันเป็นรูเรียงไปเรื่อยๆ ในเส้นที่คุณวาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ แล้วใช้ก้านสำลีหรือผ้าซับเลือดหรือน้ำหมึกที่เกินออกมาเอา [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผิวจะบวมขึ้นมาตอนที่จิ้มลงไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้รอยสักดูไม่ชัดได้ คุณอาจต้องมาตกแต่งใหม่อีกทีตอนที่อาการบวมหายไปเพื่อลายเส้นของรอยสักที่เรียบสวย [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
4ทำความสะอาดบริเวณที่สักไปแล้ว. เมื่อสักเสร็จแล้ว ก็ให้ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลเช็ดบริเวณรอยสัก ทิ้งหมึกที่เหลือกับเข็มไปซะ ตอนนี้มันไม่สะอาดอีกต่อไปแล้ว ถ้าหากว่าคุณจะตกแต่งเพิ่มเติมในครั้งหน้าก็ให้ใช้เข็มกับหมึกชามใหม่เลย
-
พันแผลที่รอยสักใหม่. ทาครีมทาแผลตกสะเก็ดตรงบริเวณนั้น โดยทาบางๆ ให้พอที่ผิวจะดูมันวาวขึ้นมา จากนั้นก็ใช้แผ่นแปะแผลปิดรอยสักเอาไว้ [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้ครีมทาแผลตกสะเก็ดในสองสามวันแรกเพื่อฟื้นฟูรอยสักของคุณพอ ถ้าทานานกว่านั้นอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงกับผิวได้ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ครีมทาแผลตกสะเก็ดเป็นครีมที่มีวิตามินเอและดีผสมอยู่ ใช้เพื่อรักษาแผลเลือดออก แผลไหม้ และผิวที่แตกแห้ง ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แปะแผ่นแปะแผลเอาไว้สัก 2-4 ชั่วโมง แต่อย่าให้นานกว่า 8 ชั่วโมง [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รักษาความสะอาดรอยสัก. แกะแผ่นแปะแผลออก แล้วค่อยๆ ล้างบริเวณนั้นด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ไร้กลิ่น อย่าขัดถูแผล และใช้มือสะอาดๆ ล้างเท่านั้น [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทาโลชั่นบนรอยสัก. หลังจากที่ผ่านสองสามวันไป ก็ให้เปลี่ยนมาทาโลชั่นไร้กลิ่นแทน ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้ยี่ห้อ Lubriderm หรือ Aquaphor โดยทาให้บางๆ ผิวของคุณต้องได้รับอากาศที่ไหลผ่านบ้างเพื่อจะได้ฟื้นฟูรอยสักอย่างเหมาะสม [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทาโลชั่นที่รอยสักสัก 3-5 ครั้งต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยสัก ถ้าผิวเริ่มดูแห้งเมื่อไร ก็บีบโลชั่นมานิดนึงแล้วทาซะ [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
4ปล่อยให้รอยสักฟื้นฟูตัว. ในช่วงประมาณสัปดาห์แรก ขอให้ระมัดระวังกับรอยสักเอาไว้มากๆ ผิวจะเริ่มลอกออกมา และคุณก็ต้องดูแลมันเป็นพิเศษเลยล่ะ นอกจากจะล้างและคอยให้ความชุ่มชื้นมันแล้ว ก็ต้องเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างด้วย [24] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เลี่ยงที่จะว่ายน้ำ ปกติแล้วในน้ำจะมีแบคทีเรียอยู่เยอะมาก ซึ่งจะทำให้รอยสักเกิดติดเชื้อได้ ส่วนน้ำในสระว่ายน้ำก็มีคลอรีนอยู่ ซึ่งมันไม่ดีต่อรอยสักของคุณเช่นกัน [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เลี่ยงกิจกรรมใดๆ ที่ใช้กำลังมากหรือที่ทำให้เหงื่อออกมาก [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สวมเสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อที่อากาศจะได้ผ่านเข้ารอยสักบ้าง เสื้อผ้าที่พอดีตัวจะเป็นการกันอากาศแทน [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ระวังอาการติดเชื้อ. รอยดูรอยแดงหรือแผลถลอกที่มากเกินไปรอบๆ รอยสัก รวมถึงเลือดที่ซึมออกมาหรืออาการบวมด้วย เพราะมันอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้ [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ด้วยการรักษาความสะอาดของอุปกรณ์และดูแลรอยสักให้ดี แต่คุณก็ยังมีสิทธิ์ติดเชื้ออยู่ดี ถ้าคุณสงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อก็ควรไปปรึกษาแพทย์ [29] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
คำเตือน
- หนทางที่จะได้รอยสักมาอย่างปลอดภัยที่สุดคือไปที่ร้านสัก อย่าลองทำด้วยตัวเองถ้ายังรู้สึกไม่สบายใจกับความเสี่ยงที่อาจได้รับเมื่อสักด้วยตัวเอง
- การสักด้วยตัวเองอาจเสี่ยงให้เกิดการติดเชื้อร้ายแรงได้ และอาจผิดกฎหมายในบางแห่ง ฉะนั้นให้ศึกษาถึงความเสี่ยงก่อนจะเริ่มสักด้วย [30] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้หมึกสักหรือหมึกอินเดียในการสักเท่านั้น หมึกชนิดอื่นอาจเป็นพิษและทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงขึ้นได้
- ใช้เฉพาะเข็มที่ใหม่และสะอาด และต้องฆ่าเชื้อเข็มก่อนเริ่มสักด้วยล่ะ ห้ามนำเข็มเก่ามาใช้ และห้ามแบ่งเข็มใช้กับคนอื่น
- การแบ่งเข็มใช้กับคนอื่นนั้นเสี่ยงต่อการทำให้ติดเชื้อเฮชไอวี ไวรัสตับอักเสบ ติดเชื้อจากแบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัส (Staph) ติดเชื้อ MRSA และอาจติดโรคอื่นๆ ที่แพร่เชื้อได้ [31] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.vice.com/read/stick-v14n4
- ↑ http://stickandpoketattookit.com/
- ↑ http://www.xojane.com/beauty/fun-with-needles-how-to-give-yourself-a-tattoo-forreal
- ↑ http://www.vice.com/read/stick-v14n4
- ↑ http://www.vice.com/read/stick-v14n4
- ↑ http://www.vice.com/read/stick-v14n4
- ↑ http://www.xojane.com/beauty/fun-with-needles-how-to-give-yourself-a-tattoo-forreal
- ↑ http://www.vice.com/read/stick-v14n4
- ↑ http://www.vice.com/read/stick-v14n4
- ↑ http://www.xojane.com/beauty/fun-with-needles-how-to-give-yourself-a-tattoo-forreal
- ↑ http://www.xojane.com/beauty/fun-with-needles-how-to-give-yourself-a-tattoo-forreal
- ↑ http://www.xojane.com/beauty/fun-with-needles-how-to-give-yourself-a-tattoo-forreal
- ↑ http://www.vice.com/read/stick-v14n4
- ↑ http://www.xojane.com/beauty/fun-with-needles-how-to-give-yourself-a-tattoo-forreal
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://www.drugs.com/mtm/a-d-topical.html
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
- ↑ http://www.betterhealth.vic.gov.au/bhcv2/bhcarticles.nsf/pages/Home_tattooing
- ↑ http://uniqueinktattoo.com/tattoos/tattoo-aftercare/
