บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Tara Vossenkemper, PhD, LPC
. ดร. ทารา วอสเซนเคมเพอร์เป็นผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพที่มีใบอนุญาต ผู้ก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการของ The Counseling Hub, LLC ซึ่งเป็นกิจการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนในโคลัมเบีย รัฐมิสซูรี เธอยังเป็นผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาทางธุรกิจให้แก่ Tara Vossenkemper Consulting, LLC ซึ่งเป็นบริการให้คำปรึกษาแก่เจ้าของกิจการด้านการบำบัดอีกด้วย เธอเชี่ยวชาญการใช้วิธีการบำบัดความสัมพันธ์แบบก็อตแมนกับคู่สมรสที่กำลังจะหย่า มีความขัดแย้ง หรือรู้สึกห่างเหินกัน ดร. วอสเซนเคมเพอร์ได้รับปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยมิสซูรี วิทยาเขตเซนต์หลุยส์ ได้รับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการให้คำปรึกษา จากมหาวิทยาลัยมิสซูรีแบปทิสต์ และได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาผู้ให้คำปรึกษาด้านการศึกษาและการนิเทศ จากมหาวิทยาลัยมิสซูรี วิทยาเขตเซนต์หลุยส์ เธอยังจบการฝึกอบรมวิธีบำบัดคู่สมรสแบบก็อตแมนระดับ 3 ได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการทั้งวิธีการให้คำปรึกษาคู่รักก่อนสมรสโดยใช้ Prepare-Enrich และวิธี PREP สำหรับการให้คำปรึกษาคู่สมรส
มีการอ้างอิง 19 ข้อ
ที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 1,524 ครั้ง
การรู้ว่าคุณกำลังถูกหลอกอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด แต่ก็คงจะน่าหงุดหงิดมากขึ้นถ้าคุณไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคนสำคัญในชีวิตของคุณกำลังทำตัวไม่ซื่อสัตย์หรือไม่ คุณคิดไปเองหรือคุณกำลังจับพิรุธได้ว่าใครบางคนไม่ได้พูดความจริงกันแน่ ในกรณีส่วนใหญ่ถ้าคุณรู้สึกตงิดใจอะไรสักอย่าง นั่นเป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติ ไม่ว่าคุณจะพยายามค้นหาว่าคนรักกำลังนอกใจคุณอยู่หรือไม่ หรือคุณแค่ต้องการสืบถึงต้นเหตุของพฤติกรรมแปลกๆ ของคนอื่นก็ตาม เรามีคำตอบให้คุณ เราจะแนะนำคุณเกี่ยวกับสัญญาณทั่วไปที่ต้องระวังเพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าคนใกล้ชิดกำลังไม่ซื่อสัตย์หรือไม่
ขั้นตอน
-
คุณรู้จักผู้คนในชีวิตของคุณดีกว่าที่คุณคิด. ถ้าคุณสงสัยว่ากำลังถูกหลอกอยู่ แสดงว่าคุณอาจจะค้นพบอะไรที่สำคัญ โดยทั่วไปแล้วคนเรามักจะจับโกหกได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขารู้ว่าพฤติกรรม "ปกติ" ของบุคคลนั้นเป็นอย่างไร ถ้าคุณคิดว่าใครบางคนที่สำคัญในชีวิตกำลังทำตัวไม่ตรงไปตรงมาแล้วล่ะก็คุณควรจะสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เป็นไปได้ที่สัญชาตญาณของคุณจะผิด อาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้นในชีวิตบุคคลนั้นที่ทำให้พวกเขาทำตัวเอาแน่เอานอนไม่ได้ หรือพวกเขาอาจจะทำตัวมีลับลมคมในเพราะพวกเขากำลังพยายามวางแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับคุณ อย่าเพิ่งด่วนสรุป แต่ให้ตระหนักว่าความรู้สึกของคุณนั้นถูกต้อง และถ้าคุณคิดว่ามีบางอย่างกำลังเกิดขึ้นมันก็อาจจะเป็นเช่นนั้น
โฆษณา
-
ถ้าการเล่าเรื่องของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาพูดโกหกเรื่องที่ใหญ่กว่า. คนโกหกจะติดตามรายละเอียดทั้งหมดที่พวกเขาโกหกไว้ได้ยาก และพวกเขาอาจจะลงเอยด้วยการเปลี่ยนเนื้อเรื่องหรือสับสนกับรายละเอียด ถ้าคุณคิดว่าพวกเขากำลังโกหกเกี่ยวกับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ให้ติดตามวิธีที่พวกเขาอธิบายหรือเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเรื่องราวไม่ค่อยเรียงกันนักหรือพวกเขาเพิ่ม/ลบรายละเอียดต่างๆ ก็แสดงว่าพวกเขาอาจจะกำลังโกหก [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณจับได้ว่าบางคนโกหกเรื่องเล็กๆ นั่นคือสัญญาณว่าพวกเขาโอเคกับการโกหกเรื่องใหญ่ๆ ด้วย อย่าปล่อยให้พวกเขาตีเนียนว่าการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเป็น "การจำผิด" หรือ "การทำผิดพลาด"
- ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนรักบอกว่าเมื่อคืนเขากินอาหารเม็กซิกันก่อนกลับบ้าน แต่ต่อมาเขาพูดว่า "เมื่อคืนฉันตรงกลับบ้านเลย" นั่นเป็นสัญญาณว่าเขาลืมเรื่องที่เขาโกหกไว้
- นี่เป็นเรื่องเลวร้ายอย่างยิ่งถ้าเขาพยายามทำให้คุณคิดว่าคุณบ้าไปแล้วหรือคุณจำสิ่งที่เขาพูดผิดเอง สิ่งนี้เรียกว่าการปั่นหัวให้สับสนและนี่คือสัญญาณอันตราย ที่สำคัญมาก ถ้าคุณกำลังคบกับใครสักคนแบบคนรักอยู่
- นี่อาจจะเป็นการต้องเผชิญหน้ากันสักหน่อย แต่คุณอาจจะขอให้เขาเล่าเรื่องย้อนหลังได้ตลอดเวลา คนโกหกจะไม่สามารถเล่าเรื่องย้อนหลังอีกครั้งได้อย่างถูกต้องบ่อยๆ [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Psychological Association ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ผู้คนจะหลบเลี่ยงจากสถานการณ์ที่พวกเขารู้ว่าพวกเขากำลังจะโกหก. ถ้าพวกเขาดูเหมือนไม่สนใจจะเผชิญหน้ากับการสนทนา คุยเรื่องสำคัญกับคุณ หรือพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำไป นั่นเป็นสัญญาณสำคัญว่าพวกเขาอาจจะมีบางอย่างปิดบัง คนที่พูดความจริงมักจะไม่ค่อยมีปัญหาในการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าพวกเขาดูเหมือนจะหายตัวไปเมื่อไรก็ตามที่พวกคุณสมควรจะคุยกัน นั่นก็เป็นสัญญาณสำคัญว่าพวกเขากำลังโกหก ต่อไปนี้คือสัญญาณสองสามข้อที่คุณควรดูเพื่อสังเกตคนหลอกลวงในความสัมพันธ์: [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ปฏิเสธการสนทนาและพูดว่า "เราจะคุยเรื่องนี้กันทีหลัง"
- พูดแบบกว้างๆ ทั่วไปแทนการใช้รายละเอียดเฉพาะ
- พยายามเปลี่ยนเรื่อง
- ใช้สรรพนามที่ไม่ชัดเจน (เช่น พูดว่า "พวกเขา" แทนชื่อบุคคล)
- ลังเลและหยุดนานก่อนจะตอบ
โฆษณา
-
ในความสัมพันธ์ฉันคู่รัก คุณควรให้ความสนใจกับวิธีที่พวกเขาจัดการโทรศัพท์. ถ้าพวกเขาวางโทรศัพท์โดยหงายหน้าจอขึ้นเวลาคุณอยู่ใกล้ๆ แสดงว่าพวกเขาสบายใจที่คุณจะเห็นการแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นมา ถ้าพวกเขาวางแบบคว่ำหน้าจอลงแสดงว่าพวกเขาอาจจะกำลังพยายามซ่อนบางอย่าง สิ่งที่ควรสังเกตอีกข้อหนึ่งคือเขาเคยทิ้งโทรศัพท์ไว้ในที่เปิดโล่งหรือไม่ ถ้าเขาพกติดกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงอยู่เสมอ แม้ว่าเขาจะแค่ไปห้องน้ำหรือไปหยิบขนมในขณะที่คุณสองคนดูหนังก็ตาม แสดงว่าเขาอาจจะกำลังโกหกหรือซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การขอดูโทรศัพท์ของคนรักเป็นการเปิดเรื่องที่เสี่ยงเสมอ ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าเขาไม่ได้ปิดบังอะไรและคุณไม่ได้ถามคำถามอย่างใจดีและด้วยความเห็นอกเห็นใจ เขาก็อาจจะถือว่าคำขอของคุณเป็นการล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวสักหน่อย
- อย่าทึกทักว่าเขากำลังนอกใจคุณถ้าคุณไม่มีหลักฐานอะไรนอกเหนือวิธีที่เขาจัดการกับโทรศัพท์ของเขา
-
ในระหว่างการสนทนาที่รุนแรง ให้ลองเปลี่ยนเรื่องเป็นเรื่องที่เบาๆ ดู. ถ้าคุณกำลังถกเถียงกันเรื่องที่เขาอาจจะโกหก หรือคุณได้เริ่มทำขั้นตอนแรกเพื่อแสดงให้เขารู้เรื่องความไม่ซื่อสัตย์แล้วแต่เขาไม่ยอมรับแล้วล่ะก็ให้ลองเปลี่ยนเรื่องดู ถ้าพวกเขาโกหก พวกเขาจะโล่งใจที่จะออกจากหัวข้อนั้นได้เสียทีและพวกเขาจะผ่อนคลายทันที ถ้าพวกเขาไม่ได้โกหก พวกเขามักจะอยากคุยเกี่ยวกับประเด็นที่ถกเถียงกันนั้นต่อไปเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังทะเลาะกับแฟนหนุ่มอย่างเผ็ดร้อนเรื่องที่เขาไปเที่ยวกับแฟนเก่า ให้ลองพูดว่า “เฮ้ ว่าแต่คืนนี้เราจะกินอะไรกันดี อยากสั่งมากินที่บ้านไหม” ถ้าเขาพูดว่า “อะไรนะ มาสนใจเรื่องกินอะไรกันตอนนี้ ผมไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเจี๊ยบนะ!” แล้วล่ะก็ เขาอาจจะพูดความจริง
- ถ้าคุณคุยอยู่กับเพื่อนที่คุณคิดว่ากำลังโกหกเรื่องไม่ชวนคุณไปงานปาร์ตี้ ลองสุ่มถามพวกเขาว่าคุณทิ้งเสื้อฮู้ดไว้ที่บ้านเขาหรือเปล่า หรือว่าคุณมีการบ้านวิชาเคมีหรืออะไรไหม เขาจะตอบคำถามของคุณและถามคำถามอื่นๆ ตามมาทันทีถ้าพวกเขาไม่ซื่อสัตย์
โฆษณา
-
คนโกหกจะพยายามพลิกสถานการณ์กลับมาที่คุณ. ถ้าคนโกหกคิดว่าตัวเองกำลังถูกจับผิด พวกเขาอาจจะพยายามใช้คำกล่าวหาโต้กลับเพื่อผลักแรงกดดันของบทสนทนาให้ย้อนกลับไปที่คุณ ถ้าพวกเขาเริ่มพยายามกล่าวหาคุณในสิ่งที่พวกเขาสงสัยว่าคุณกำลังกล่าวหาว่าพวกเขาทำ นั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่สำคัญว่าพวกเขาไม่ได้พูดความจริง [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคิดว่าภรรยาของคุณอาจจะซ่อนเงินจากคุณและคุณถามว่าเธอมีเงินสดแบ่งเก็บไว้ในบัญชีลับหรือไม่ เธออาจจะพูดว่า “ฉันตรงไปตรงมาเกี่ยวกับทุกอย่างเลยนะ แล้วคุณล่ะ ไหนมาดูใบแจ้งยอดธนาคารของคุณกัน! ฉันพนันได้เลยว่าคุณนั่นแหละที่กำลังซ่อนอะไรอยู่”
- นี่ยังอาจจะอยู่ในรูปแบบของระบบเผด็จการได้เช่นกัน ถ้าคุณบอกว่าคุณอารมณ์เสียที่คุณคิดว่าแม่ลืมวันเกิดของคุณและเธออ้างว่าไม่ได้ลืม แม่ของคุณอาจจะพูดว่า “งั้น แล้วที่ลูกลืมวันแม่เมื่อปีที่แล้วล่ะ ว่าไง”
-
ถ้าพวกเขา "พูดผิด" ในการสนทนา นั่นอาจจะเผยความลับของพวกเขาได้. คนส่วนใหญ่มักจะคุยไปเรื่อยๆ โดยที่พวกเขาไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับทุกสิ่งที่พวกเขากำลังพูด ถ้าคุณคบกับคนที่ไม่ซื่อสัตย์ พวกเขาอาจพลั้งปากและพูดความจริงออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างการสนทนาที่ยาวนานขึ้น ถ้าพวกเขาพูดสับสนหลายอย่างหรือพวกเขาเอาแต่พูดว่า “เอ้ย ขอโทษ ฉันหมายถึง…” พวกเขาอาจจะพยายามหลอกคุณอยู่ [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล
- ยกตัวอย่างเช่น ถ้าพวกเขาพูดว่า “…และหลังจากปาร์ตี้ ฉันกับเหมียว…เอ้ย ฉันหมายถึง ฉันกับทราย ขอโทษที เหมียวไม่ได้อยู่ที่นั่น” ก็เป็นไปได้อย่างมากว่าจริงๆ แล้วเหมียวอยู่ที่นั่น
โฆษณา
-
คนโกหกอาจจะไม่ได้เตรียมใจกับคำถามเยอะแยะเพิ่มเติม. ถ้าคุณคิดว่าบางคนกำลังโกหก ให้เริ่มสงสัย ถามคำถามมากมายเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขากำลังบอกคุณ ถ้าพวกเขาสับสน พูดผิด ตอบคำถามไม่ได้ หรือเริ่มพูดติดอ่างและเงอะงะ แสดงว่าพวกเขาอาจจะกำลังพยายามโกหกคุณอยู่ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณกำลังหาคำตอบว่าลูกชายไปปาร์ตี้เมื่อคืนนี้หรือไม่ คุณอาจจะถามว่า “เมื่อคืนลูกอยู่กับใคร” "ลูกไปไหนมา" “ลูกกลับบ้านกี่โมง” และ “ลูกใช้เงินไปเท่าไร”
- ถ้าคุณคิดว่าสามีอาจจะโกหกเรื่องการไปกินอาหารเย็นเมื่อคืนนี้ คุณอาจจะถามว่า “คุณสั่งอะไร” “คุณกินข้าวที่ไหนมา” หรือ “เมื่อคืนคุณได้เจอใครไหม”
- พยายามถามคำถามเดิมหลายครั้ง แค่พูดว่า "อ้าว ฉันลืมไปแล้ว คุณบอกว่าคุณอยู่กับใครนะ" ถ้าเขาให้คำตอบที่แตกต่างกันเล็กน้อย แสดงว่าเขาอาจจะกำลังโกหกอยู่
-
วิธีที่ใครบางคนพูดนั้นมีความสำคัญพอๆ กับสิ่งที่พวกเขาพูด. คนโกหกอาจจะชดเชยกับการหลอกลวงมากเกินไปโดยการพูดเรื่อยเปื่อยหรือพูดชักชวนให้คุณเปลี่ยนความคิด บ่อยครั้งที่พวกเขาจะขึ้นเสียงเล็กน้อยเพื่อเป็นกลไกในการป้องกันตัวเช่นกัน คุณรู้ว่าปกติแล้วบุคคลนี้พูดอย่างไร ดังนั้นให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติในรูปแบบการพูดและระดับเสียง ความเปลี่ยนแปลงในการพูดเหล่านี้อาจจะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าพวกเขาพูดไม่จริง [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พวกเขาอาจจะพูดบางประโยคหรือบางคำซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้าคนรักของคุณเอาแต่พูดว่า “ผมไม่ได้นอกใจ! ผมไม่ได้นอกใจนะ!” หรือแม่ของคุณเอาแต่พูดว่า “แม่สนับสนุนการตัดสินใจของลูกสุดๆ แม่ไม่มีอะไรนอกจากจะสนับสนุนการตัดสินใจของลูกจริงๆ” นี่เป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังโกหก [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พวกเขาอาจจะใช้คำย่อมากกว่าปกติ ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะพูดว่า “ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้นนะ” พวกเขามักจะพูดว่า “ฉันเปล่าทำงั้นนะ” การโกหกอาจจะเป็นเรื่องยาก และคำย่อเป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังเร่งรีบให้ผ่านๆ ไปเพราะรู้สึกไม่สบายใจ
โฆษณา
-
คนโกหกมักจะมองไปทางอื่นถ้าพวกเขาไม่พูดความจริง. ถ้าปกติคนรักมีนิสัยชอบสบตาเวลาคุยกับคุณ แต่จู่ๆ เขาก็เริ่มละสายตาหรือมองไปทางอื่น นั่นก็อาจจะเป็นสัญญาณของความไม่ซื่อสัตย์ การมองใครสักคนเมื่อคุณตั้งใจจะโกหกนั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้นคนโกหกอาจจะสบตา มองต่ำ หรือมองไปทางอื่นสลับกันไปในขณะที่คุณคุยกัน [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล
- สัญญาณการโกหกแบบเดิมๆ หลายอย่าง (การมองไปทางอื่น การยืนแบบป้องกันตัวเอง กระสับกระส่าย ฯลฯ) นั้นไม่ถูกต้องเสมอไป งานวิจัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าสัญญาณเหล่านี้ไม่เป็นสากล ดังนั้นให้จำใส่ใจไว้ [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- ในบางครั้ง ผู้คนจะมองไปทางอื่นไกลๆ เวลาพวกเขากำลังคิดหนักมากๆ หรือพยายามพิจารณาว่าจะใช้ถ้อยคำอย่างไร ถ้าพวกเขามองไปทางอื่นตอนคุณถามคำถาม แต่จากนั้นพวกเขาก็กลับมาสบตาตามปกติ แสดงว่าพวกเขาอาจจะแค่นึกถึงสิ่งที่คุณพูดก็ได้ [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- ถ้าพวกเขาเป็นคนหลอกตัวเอง พวกเขาอาจจะจ้องตรงมาที่คุณโดยไม่กะพริบตาหรือละสายตาเลย การสบตานานๆ อย่างน่าอึดอัดอาจจะบ่งบอกว่าพวกเขากำลังโกหกก็ได้เช่นกัน [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คนโกหกอาจจะพยายามเลิกโกหกด้วยภาษากาย. ถ้าคนรักกำลังโกหก เขาจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับเรื่องนี้ นี่อาจจะทำให้เขากอดอกหรือจับที่คอ เขาอาจจะหันตัวออกจากคุณ หรือไขว้ขาเหมือนปวดฉี่มากๆ บางคนอาจจะลากเท้าไปมาหรือเด้งเข่าขึ้นลง ให้ใส่ใจกับวิธีที่พวกเขานั่งหรือยืนอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่าพวกเขาอาจจะโกหกอยู่หรือไม่ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าพวกเขาออกห่างจากคุณ (เช่น พวกเขาถอยหลังออกไปเล็กน้อย หรือพยายามเดินหนี) ในระหว่างที่พูดคุยกัน ก็เป็นสัญญาณสำคัญอีกข้อหนึ่งที่พวกเขากำลังไม่พูดความจริง
โฆษณา
-
ถ้าบางคนโกหก ให้ใส่ใจกับสิ่งที่พวกเขาทำกับมือ. เมื่อคุณคุยกับใครสักคนตามปกติ คุณน่าจะวางมือสบายๆ ไว้ได้สักที่หนึ่ง แต่คนโกหกจะบิดนิ้วโป้ง หยิบของมาเล่น หรือเริ่มจับหู จมูก และปาก ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าพวกเขาวางมือไว้นิ่งๆ ไม่ได้ ก็อาจจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ United States Courts ไปที่แหล่งข้อมูล
- พวกเขายังอาจจะชี้นิ้วบ่อยๆ อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาพยายามจะพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นต่อเหนือคุณโดยกล่าวหาว่าคุณทำอะไรบางอย่าง [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
บ่อยครั้งที่การโกหกนั้นง่ายกว่าการพูดความจริง. ผู้คนมักจะโน้มน้าวตัวเองว่าการโกหกเล็กๆ น้อยๆ นั้นไม่เป็นไรหรอก แต่ปัญหาคือสิ่งนี้จะกลายเป็นนิสัย การโกหกเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เกิดการโกหกขึ้นอีก และจากนั้นคุณต้องโกหกเรื่องอื่นเพื่อปกปิดการโกหกชุดแรก สุดท้ายคุณอาจจะโกหกหลายสิบเรื่อง บางครั้งอาจจะไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำ สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าใครบางคนในชีวิตของคุณอาจจะไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อทำร้ายความรู้สึกของคุณ และไม่ใช่สัญญาณว่าพวกเขาไม่แคร์คุณเสมอไป [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บางครั้งคนเรามีแนวโน้มจะบอกกับตัวเองว่าไม่เห็นการโกหก เพราะการแสร้งทำเป็นว่าปัญหาไม่มีอยู่จริงนั้นเป็นเรื่องง่ายกว่า ถ้าเป็นไปได้ พยายามถอยออกจากความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับสถานการณ์และมองพฤติกรรมของคนจากมุมมองที่เป็นกลางมากขึ้น
โฆษณา
-
การโกหกบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องเป็นปัญหาถ้าคุณยอมรับได้. ทุกคนเคยโกหกสีขาวบ้างเป็นครั้งคราว การโกหกสีขาวหมายถึงการโกหกที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะพูดเพื่อรักษาความรู้สึกของใครบางคนไว้ ถ้ามีคนในชีวิตของคุณพูดโกหกเล็กน้อยเป็นครั้งคราวเพื่อรักษาความรู้สึกของคุณ ก็อาจจะไม่คุ้มที่จะเสียพลังงานไปกับมัน ในแง่หนึ่งการโกหกสีขาวเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าใครบางคนห่วงใยคุณ เพราะต้องใช้ความเข้าอกเข้าใจที่จะรับรู้ว่าบางเรื่องอาจจะทำให้คุณอารมณ์เสียและเห็นอกเห็นใจที่จะพยายามทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น [20] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Greater Good Magazine ไปที่แหล่งข้อมูล
- ตัวอย่างที่คลาสสิกเลยก็คือ “ฉันใส่ชุดนี้แล้วดูอ้วนไหม” ความจริงอาจจะทำร้ายความรู้สึกของใครบางคน และปกติแล้วจะไม่มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเลยจากการบอกใครสักคนว่าชุดที่พวกเขาตื่นเต้นที่จะใส่นั้นไม่เหมาะกับเขาเอาเสียเลย
- ถ้าบางคนกำลังโกหกเรื่องใหญ่ๆ กับคุณ หรือพวกเขากำลังโกหกคุณด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากการรักษาความรู้สึกของคุณ ก็คุ้มค่าที่จะพูดถึงมันอย่างแน่นอน
-
ถ้าคุณมีหลักฐานความไม่ซื่อสัตย์ ก็บอกให้พวกเขารู้. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสิ่งนี้คือให้ตรงไปตรงมา แสดงหลักฐาน และใจเย็นและมีเหตุผลเข้าไว้ อย่าทำเหมือนว่าคุณกำลังโกรธ (แม้ว่าคุณจะโกรธก็ตาม) ถ้าคุณอยากให้พวกเขาเผยความลับและเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าพวกเขายอมรับ คุณสามารถพยายามต่อจากตรงนี้ได้ ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับ คุณก็สามารถเลือกได้ว่าอยากเดินออกจากความสัมพันธ์นี้ หรือประเมินใหม่อีกครั้งว่าคุณเข้าใจถูกหรือไม่ [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจเผชิญหน้ากับคนรักโดยพูดว่า “ฟังนะ ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันจำเป็นต้องรู้ความจริง คุณเล่าเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้สามครั้งแต่มันไม่เหมือนกันสักครั้ง และคุณดูวิตกกังวลและมองไปทางอื่นไม่หยุดเลย เกิดอะไรขึ้น”
- คุณสามารถเผชิญหน้ากับเพื่อนที่ไม่ซื่อสัตย์โดยพูดว่า “ฉันรู้ว่าเธอบอกว่ามาปาร์ตี้ของฉันไม่ได้เพราะเธอไม่สบาย แต่เธอหลบเลี่ยงฉันและบอกว่าเธอออกไปเที่ยวคืนนั้น แล้วทำไมเธอไม่มาปาร์ตี้ล่ะ”
- ถ้าการโกหกไม่ได้สำคัญขนาดนั้น คุณไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องนี้ให้พวกเขารู้ถ้าคุณไม่ต้องการ แค่เก็บข้อมูลนี้ไว้ในใจ ถ้าพวกเขาตั้งใจโกหกคุณเกี่ยวกับเรื่องไม่สำคัญ พวกเขาก็อาจจะตั้งใจโกหกคุณเกี่ยวกับเรื่องใหญ่ๆ ด้วยเหมือนกัน [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าบางคนไม่ซื่อสัตย์และคุณไม่อยากพยายามเพื่อสร้างความสัมพันธ์ใหม่อีกครั้ง คุณก็ไม่มีอะไรที่ต้องรู้สึกแย่ อย่าลังเลที่จะตัดคนหลอกตัวเองออกไปและไม่หันหลังกลับถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.nbcnews.com/better/health/how-tell-if-someone-lying-according-behavioral-experts-ncna786326
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/toxic-relationships/201801/how-secrets-and-lies-destroy-relationships
- ↑ https://www.apa.org/monitor/2016/03/deception
- ↑ https://www.today.com/health/32-emotional-signs-he-s-cheating-t102346
- ↑ https://www.today.com/health/he-cheating-me-8-warning-signs-never-ignore-t78406
- ↑ https://www.today.com/health/he-lying-his-body-may-tell-truth-2D80555436
- ↑ https://www.insider.com/signs-partner-is-lying-2018-4
- ↑ https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?contenttypeid=1&contentid=528
- ↑ https://time.com/77940/detect-lying/
- ↑ https://hbswk.hbs.edu/item/how-to-spot-a-liar
- ↑ https://www.independent.co.uk/life-style/signs-someone-lying-not-telling-truth-a7606246.html
- ↑ https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?contenttypeid=1&contentid=528
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6158306/
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4753696/
- ↑ https://www.independent.co.uk/life-style/signs-someone-lying-not-telling-truth-a7606246.html
- ↑ https://www.independent.co.uk/life-style/signs-someone-lying-not-telling-truth-a7606246.html
- ↑ https://www.uscourts.gov/sites/default/files/75_3_5_0.pdf
- ↑ https://www.independent.co.uk/life-style/signs-someone-lying-not-telling-truth-a7606246.html
- ↑ https://www.nbcnews.com/better/health/how-tell-if-someone-lying-according-behavioral-experts-ncna786326
- ↑ https://greatergood.berkeley.edu/article/item/whats_good_about_lying
- ↑ https://www.wfmynews2.com/article/news/local/should-you-someone-out-lying-blanca-cobb-body-language/83-84935af3-a75d-49a3-a1bf-c4d6494f5094
- ↑ https://www.nbcnews.com/better/lifestyle/what-should-you-do-when-you-catch-someone-lie-ncna961271
- ↑ https://www.thecut.com/2017/12/ask-polly-how-do-i-leave-my-lying-cheating-boyfriend.html