PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

หนองในเทียมที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ คลามายเดีย แทรโคมาทิสนั้น เป็นการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ที่พบได้บ่อยและรักษาได้ แต่ก็อันตรายเพราะมันอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนและปัญหาสุขภาพต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความสามารถในการมีบุตร โชคร้ายที่หนองในเทียมมักไม่แสดงอาการจนกว่าจะมีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้นแล้ว มีเพียง 14% ของผู้ชายที่ติดเชื้อเท่านั้นที่แสดงอาการ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีอาการ คุณต้องรู้ว่ามันคืออาการของหนองในเทียมและเข้ารับการรักษาทันที [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สังเกตอาการตรงบริเวณอวัยวะเพศ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ของเหลวที่ว่านี้อาจจะเป็นน้ำใสๆ หรือเป็นสีขาวคล้ายนม ขุ่น ๆ และเป็นน้ำหนองสีขาวเหลือง [2] อย่างไรก็ตามของเหลวที่ไหลออกมามักจะใส และมักจะไหลออกมาก็ต่อเมื่อท่อปัสสาวะถูก “บีบคลึง” [3]
  2. เพราะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณทั่วไปที่บ่งบอกว่า คุณอาจจะติดเชื้อหนองในเทียม [4]
  3. สังเกตว่าคุณรู้สึกแสบร้อนหรือคันตรงรูองคชาตหรือบริเวณรอบๆ หรือเปล่า. อาการที่ว่านี้จะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวและสังเกตได้ และอาจจะทำให้คุณสะดุ้งตื่นตอนกลางคืน [5]
  4. สังเกตว่าลูกอัณฑะข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างหรือถุงอัณฑะมีอาการปวดหรือบวมหรือไม่. คุณอาจจะรู้สึกปวดบริเวณรอบๆ แต่ไม่ได้ปวดในลูกอัณฑะ [6]
  5. ปรึกษาแพทย์เรื่องอาการปวดบริเวณทวารหนัก มีเลือด หรือของเหลวไหลออกมา. อาการปวดหรือของเหลวที่ไหลออกมาจากทวารหนักก็เกี่ยวข้องกับหนองในเทียมเช่นเดียวกัน การติดเชื้อของคุณอาจะเกิดจากทวารหนักหรืออาจจะลุกลามมาจากองคชาต [7]
  6. เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจจะเป็นอาการของหนองในเทียมที่ทำให้ติดเชื้อ และจากนั้นก็ทำให้หลอดน้ำอสุจิอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดและบวมที่ลูกอัณฑะ [8] อย่าลืมบอกแพทย์หากคุณมีอาการปวดที่ลูกอัณฑะ
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

รู้อาการของหนองในเทียมที่แสดงออกทางกาย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. สังเกตอาการปวดหลังช่วงล่าง ปวดท้อง และปวดท้องน้อยโดยทั่วไป. อาการปวดต่างๆ เหล่านี้หรือที่รู้จักกันว่าเป็นโรคข้ออักเสบรีแอคตีฟ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อหนองในเทียม [9] ประมาณ 1% ของผู้ชายที่มีอาการท่อปัสสาวะอักเสบจะนำไปสู่โรคข้ออักเสบรีแอคตีฟ และประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยเหล่านี้จะเป็นโรคข้ออักเสบรีแอคตีฟสามจุดแบบสมบูรณ์ (RAT) ที่เมื่อก่อนเรียกว่าโรคข้ออักเสบไรเตอร์ (ข้ออักเสบ ม่านตาอักเสบ และท่อปัสสาวะอักเสบ) [10]
    • อาการปวดและบวมที่ถุงอัณฑะเป็นอาการที่พบมากที่สุด ถ้าไม่ได้รับการรักษา ขณะที่หนองในเทียมลุกลาม คุณจะรู้สึกจุกในท้องซึ่งเกิดจากการติดเชื้อที่หลอดน้ำอสุจิ ที่จะนำไปสู่อาการปวดบริเวณช่วงล่างอื่นๆ
  2. ถ้าคุณเพิ่งทำรักด้วยปากและมีอาการเจ็บคอ ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะติดเชื้อหนองในเทียมจากคู่นอนผ่านการรักด้วยปาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงอาการก็ตาม [11]
    • หนองในเทียมสามารถติดต่อได้จากองคชาตสู่ปาก รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดและทวารหนัก
  3. ผู้ชายที่ติดเชื้อหนองในเทียมอาจจะมีไข้และเริ่มคลื่นไส้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการติดเชื้อลามไปถึงท่อไต [12]
    • โดยทั่วไปอาการไข้ก็คือ การที่อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เข้าใจหนองในเทียม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนที่มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันและการมีคู่นอนหลายคนนั้นมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหนองในเทียม หนองในเทียมเกิดจากแบคทีเรีย “คลามายเดีย แทรโคมาทิส’’ ซึ่งสามารถติดเชื้อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ปาก หรือทวารหนักเมื่อเยื่อเมือกมาสัมผัสกับแบคทีเรีย ใครก็ตามที่มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำควรเข้ารับการตรวจการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ รวมทั้งการตรวจหาหนองในเทียมด้วย [13]
    • คุณจะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นหากคุณมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับคนที่เป็นหนองในเทียมหรือติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ หนองในเทียมสามารถป้องกันได้ด้วยถุงยางอนามัยที่ผลิตจากยางพาราและแผ่นยางอนามัย
    • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำที่อายุน้อยจะมีความเสี่ยงมากกว่า
    • ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อหนองในเทียมมากกว่า
    • คุณมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากขึ้นหากคุณเคยได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
    • การแพร่เชื้อผ่านทางการทำรักด้วยปากนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่าการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทวารหนัก การติดต่อทางปากสู่ช่องคลอดหรือทางปากสู่ทวารหนักนั้นยังไม่เป็นที่รู้แน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้หรือไม่ แต่การติดต่อทางปากสู่องคชาตและองคชาตสู่ปากนั้นเกิดขึ้นได้แน่นอน [14]
  2. เป็นไปได้ว่าอาจมีการติดเชื้อแฝงอยู่และคุณก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นคุณควรเข้ารับการตรวจเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน [15]
    • ผู้ชายที่ไม่เข้ารับการรักษาอาจนำไปสู่อาการที่เรียกว่าโรคหนองในเทียม (NGU) ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะ (ท่อที่เป็นทางผ่านของปัสสาวะ) และนอกจากนี้ก็อาจจะเป็นโรคก้านอัณฑะอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อที่หลอดน้ำอสุจิ ซึ่งเป็นท่อที่ลำเลียงน้ำอสุจิจจากอัณฑะ
    • หนองในเทียมสามารถทำลายร่างกายของผู้หญิงได้แม้ว่าเธอจะไม่มีอาการใดๆ เลยก็ตาม การติดเชื้อโดยไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เกิดภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ ซึ่งสุดท้ายจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นและภาวะเป็นหมันในคู่นอนที่เป็นผู้หญิง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมการตรวจคัดกรองจึงเป็นเรื่องสำคัญ
    • ถ้ามีอาการเกิดขึ้น มันมักจะเกิดขึ้นภายใน 1-3 สัปดาห์หลังจากติดเชื้อ
    • แม้ว่าคุณจะไม่แสดงอาการ แต่ถ้าคู่นอนของคุณบอกว่าเธอเป็นหนองในเทียม ให้เข้ารับการตรวจทันที
  3. ติดต่อคลินิกสุขภาพใกล้บ้าน แพทย์ คลินิกวางแผนครอบครัว หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่มีบริการตรวจการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ หลายกรณีสามารถเข้ารับการตรวจได้ฟรี [16]
    • การตรวจมักจะเลือกทำวิธีใดวิธีหนึ่งจากสองวิธี อาจเป็นการเก็บตัวอย่างเชื้อจากอวัยวะเพศบริเวณที่ติดเชื้อแล้วนำไปวิเคราะห์ ซึ่งสำหรับผู้ชายก็คือการใช้ไม้พันสำลีสอดเข้าไปในปลายองคชาตหรือทวารหนัก แต่การเก็บตัวอย่างปัสสาวะก็ใช้ได้เหมือนกัน และมักใช้วิธีนี้มากกว่าเพราะมันได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเท่ากับการเก็บตัวอย่างเชื้อ [17]
  4. ถ้าคุณเข้ารับการตรวจแล้วเป็นหนองในเทียมจริงๆ การรักษาก็มักจะเป็นการจ่ายยาปฏิชีวนะแบบรับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอะซิโธรมัยซินหรือด็อกซีไซคลิน ถ้าหากรับประทานยาปฏิชีวนะครบตามแพทย์สั่ง อาการติดเชื้อก็น่าจะหายไปภายใน 1 หรือ 2 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นหนองในเทียมแบบรุนแรง ก็อาจจะมีการให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ [18]
    • ถ้าคุณเป็นหนองในเทียม คู่นอนของคุณก็ควรเข้ารับการตรวจด้วยและคุณทั้งคู่ก็ต้องเข้ารับการรักษาเพื่อไม่ให้ติดเชื้อกันไปมาอีก และในระหว่างนี้ก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์
    • คนที่เป็นหนองในเทียมก็มักจะเป็นหนองในแท้ด้วย ซึ่งการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชนิดที่สองนี้ก็มักจะได้รับการรักษาโดยอัตโนมัติ เพราะจริงๆ แล้วการรักษานั้นมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการตรวจหาเชื้อ [19]

เคล็ดลับ

  • เนื่องจากว่ามีผู้ชายเพียง 50% และผู้หญิงเพียง 30% เท่านั้นที่แสดงอาการของหนองในเทียม คุณจึงต้องเข้ารับการตรวจการติดเชื้อเป็นประจำทุกปีหากคุณมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำและมีความเสี่ยงสูง (เช่น มีคู่นอนหลายคน มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน และการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ค้าบริการ) การติดเชื้อหนองในเทียมที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของระบบสืบพันธุ์ที่เป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ทั้งที่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยยาปฏิชีวนะและการคุมกำเนิดแบบมีสิ่งกีดขวาง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,827 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม