ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แมวทุกตัวนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารในบางครั้งและโรคท้องเสียในแมวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ปกติแล้วแมวจะท้องเสียประมาณ 1 วันหรือมากกว่านั้นและก็จะหายไปเอง หรือมันอาจจะมีอาการหลายวันและทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ น้ำหนักลด และเซื่องซึม เมื่อแมวของคุณมีอาการเหล่านี้ คุณจำเป็นจะรักษามันด้วยการใช้ยาหรือพิจารณาในเรื่องอาหารการกินของมัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ใช้ยารักษาอาการท้องเสียของแมว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าแมวของคุณท้องเสียและมีอาการมากกว่า 2-3 วัน มีอาการอาเจียน หรือมันดูเซื่องซึม (ดูเหนื่อยมากกว่าปกติ) มันก็ควรไปพบสัตวแพทย์ ให้โทรศัพท์หาสัตวแพทย์และถามว่าคุณควรนำตัวอย่างของอุจจาระของแมวไปให้สัตวแพทย์ด้วยหรือไม่ในกรณีที่สัตวแพทย์ต้องการที่จะวิเคราะห์ตัวอย่าง
  2. ให้นำตัวอย่างอุจจาระของแมวที่มีระยะเวลาน้อยกว่า 12 ชั่วโมงไปด้วย เลือดสีแดงเล็กน้อยในอุจจาระอาจจะเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่หากอุจจาระเป็นสีดำและดูเหนียว (หรือเหมือน “น้ำมันดิน”) นั่นอาจจะหมายความว่าเลือดที่ปนอยู่ในอุจจาระนั้นมาจากกระเพาะและแมวมีแผลในกระเพาะอาหาร สัตวแพทย์อาจจะทำการทดสอบบางอย่าง (ตรวจเลือด, ตรวจอุจจาระเพื่อดูพยาธิลำไส้ เอ็กซเรย์ และอัลตราซาวด์) และจะจ่ายยามาให้
    • หากสัตวแพทย์พบพยาธิลำไส้ในอุจจาระ สัตวแพทย์จะจ่ายยาที่เหมาะสม หากมันไม่ใช่พยาธิลำไส้ สัตวแพทย์จะจ่ายยาเพื่อลดความถี่ของอาการท้องเสีย เช่น เมโทรนิดาโซล (Metronidazole) เพรดนิโซโลน (Prednisolone) หรือ ไทโลซิน (Tylosin)
  3. พาแมวมาในห้องเล็กๆ และปิดประตูไว้ จับแมวแน่นๆ ด้วยมือข้างซ้าย (หากคุณถนัดขวา) และห่อตัวมันด้วยผ้าขนหนูให้เหมือนดักแด้ถ้ามันยอมให้คุณทำ ให้ยาแมวโดยใช้ไซรินจ์ (หรือกระบอกยาหยอดตา) ที่มุมปากหนึ่งของแมวและค่อยๆ ให้ยาที่ละน้อยๆ แต่ละครั้ง
    • ขอให้แน่ใจว่าแมวกลืนยาลงไปและไม่ปล่อยให้ยาไหลออกมา สัตวแพทย์จะจ่ายไซรินจ์หรือที่กระบอกยาหยอดตามาให้เมื่อสัตวแพทย์จ่ายยาน้ำ อาจจะลองขออีกอันหนึ่งไว้ก็ได้ถ้าคุณอยากมีสำรองไว้
    • คุณอาจจะต้องให้แมวกลืนน้ำที่มีอุณหภูมิห้องในปริมาณเล็กน้อยผ่านไซรินจ์อันที่สอง นี่จะช่วยขจัดรสยาในปากของแมว
  4. ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ถามสัตวแพทย์ว่าคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของแมวได้เร็วเท่าไหร่ อาการเรื้อรังบางอย่าง เช่น ลำไส้อักเสบเรื้อรัง อาจจะต้องให้ยาหลายเดือนหรือบางทีอาจจะตลอดชีวิต [1] [2] [3] หากแผนการรักษานั้นเป็นไปด้วยดี อาการท้องเสียจะดีขึ้นหรือหายไป
    • สัญญาณของโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD) ได้แก่ น้ำหนักลด มีภาวะขาดน้ำ อาเจียน และท้องเสีย สัตวแพทย์จำเป็นต้องทำการทดสอบเพื่อระบุว่าแมวของคุณเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง อาการท้องเสียเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งลำไส้ หรือเป็นแค่ท้องเสียทั่วๆ ไป
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เปลี่ยนแปลงอาหารการกินของแมว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากอาการท้องเสียเกิดขึ้นภายใน 1 วันเมื่อเปลี่ยนอาหารแมวหรือลองให้แมวกินอาหารแบบใหม่ สาเหตุของอาการท้องเสียอาจจะเป็นเพราะอาหารแบบใหม่ ให้กลับไปใช้อาหารแบบเดิมที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาและทำให้อุจจาระของแมวกลับมาเป็นปกติ เมื่อแมวอุจจาระเป็นก้อน ให้ค่อยๆ เปลี่ยนอาหารแมว โดยเปลี่ยนเป็นอาหารใหม่ทีละน้อยๆ
  2. ถ้าคุณสงสัยว่าแมวของคุณแพ้อาหาร ให้ลองเปลี่ยนอาหารของมันดู แมวนั้นแพ้อาหารได้และอาจจะท้องเสีย ดังนั้น เมื่อคุณเปลี่ยนแปลงการทานอาหารของแมว ขอให้แน่ใจว่าอาหารแบบใหม่นั้นมีส่วนผสมที่ไม่เหมือนกับอาหารแบบเดิม มิฉะนั้นแล้ว มันก็จะไม่เกิดผลแตกต่างอะไรเลย
    • สัตวแพทย์อาจจะพูดคุยเกี่ยวกับการให้แมวกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งอาจจะเป็นการใช้อาหารที่สัตวแพทย์จ่ายให้โดยสามารถซื้อได้จากสัตวแพทย์เท่านั้น และไม่มีที่ร้านขายอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงทั่วไป ผู้ผลิตอาหารสัตว์ยี่ห้อ Royal Canin, Hill’s Prescription Diets และ Purina นั้นมีอาหารที่สัตวแพทย์จะจ่ายให้เท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่ผลิตเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
  3. สำหรับแมวบางตัว คุณอาจจะค่อยๆ ทำให้มันคุ้นเคยกับอาหารแบบใหม่ สัดส่วนของอาหารที่ดีควรจะเป็นอาหารปัจจุบัน 90 เปอร์เซ็นต์และอาหารแบบใหม่ 10 เปอร์เซ็นต์ ค่อยๆ เพิ่มปริมาณจนกว่าจะเป็นอาหารแบบใหม่ทั้งหมดภายใน 10 วัน ให้เจ้าเหมียวบอกคุณเองว่าจะต้องใช้เวลาเร็วเท่าไหร่ในการเปลี่ยนเป็นอาหารแบบใหม่
    • แมวตัวอื่นๆ อาจจะชอบการเพิ่มอาหารใหม่ 10 เปอร์เซ็นต์และอยู่ในสัดส่วนแบบนี้ 3-5 วันก่อนที่จะเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์ การเปลี่ยนอาหารแมวนั้นไม่มีกฎที่จะต้องทำอย่างรวดเร็วหรือที่ทำตามได้ยากและนี่ก็ไม่ใช่การแข่งขัน
  4. การเพิ่มเมตามิวซิลที่ไม่มีรสชาติครึ่งช้อนชาไปในอาหารของแมว 1-2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 5-7 วันจะช่วยทำให้แมวอุจจาระเป็นก้อน ฟักทองธรรมดาในกระป๋องนั้นก็สามารถใช้ได้ ทั้งเมตามิวซิลและฟักทองกระป๋องนั้นมีไฟเบอร์สูง
  5. โพรไบโอติกส์นั้นเป็น “แบคทีเรีย” ลำไส้ที่ดีในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมันก็จะช่วยสร้างความสมดุลให้กับระบบ และจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องท้องเสีย [4] อีกทางเลือกหนึ่งที่ทั้งง่ายและอร่อยก็คืออาหารเสริม FortiFlora สำหรับแมว ผลิตภัณฑ์จาก Purina อาจจะซื้อได้ตามอินเตอร์เน็ตหรือร้านขายอาหารสัตว์
  6. การสูญเสียน้ำนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นพร้อมกับอาการท้องเสียและแมวของคุณก็อาจจะมีภาวะขาดน้ำ ในการดูว่าแมวของคุณมีภาวะขาดน้ำหรือไม่ อาจจะดึงเบาๆ ที่ผิวหนังหย่อนๆ ของแมวที่บริเวณหลังคอ ถ้าแมวมีความชุ่มชื้นปกติ ผิวหนังก็จะร่วงลงไปแบบเดิม ถ้าผิวหนังที่ดึงขึ้นมาค่อยๆ กลับไปเป็นแบบเดิมช้า หรืออยู่ค้างไว้แบบนั้น นั่นแปลว่าแมวมีภาวะขาดน้ำ ถ้ามีอาการเช่นนี้ ให้พาแมวไปหาสัตวแพทย์ทันที
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากเป็นไปได้ ให้ระบุว่าอาการท้องเสียของแมวนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไรเพื่อที่คุณจะได้ป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้ สาเหตุอย่างภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (hyperthyroidism) การแพ้อาหาร ไตวาย มะเร็ง ได้รับสารพิษ (จากพืช ยาเบื่อหนู ยาของมนุษย์ เป็นต้น) และพยาธิ นั้นสามารถทำให้ท้องเสียได้ สัตวแพทย์จำเป็นต้องทำการทดสอบเพื่อหาสาเหตุ
  • ความเครียดก็สามารถทำให้ท้องเสียได้เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงภายในบ้านที่แมวอยู่อาศัยอย่างการมีคนใหม่เข้ามา สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ ย้ายไปอยู่ที่ๆ ใหม่ ก็สามารถสร้างความเครียดให้กับแมวได้ ลองดูผลิตภัณฑ์เฟลิเวย์ (Feliway) ที่สามารถซื้อได้ตามเคาน์เตอร์ยาทั่วไป มันสามารถควบคุมความเครียดของแมวได้ ในกรณีที่มีความเครียดรุนแรง แมวของคุณอาจจะต้องใช้ยาที่สัตวแพทย์จ่ายให้ ให้ปรึกษาสัตวแพทย์สำหรับคำแนะนำ
  • ถ้าแมวออกไปนอกบ้าน ให้ดูว่าเพื่อนบ้านของคุณไม่ได้ให้อาหารแมว การกินอาหารมากเกินไปหรือกินอาหารที่แมวไม่คุ้นเคยก็จะทำให้แมวท้องเสีย
  • ตรวจดูที่สนามหญ้าและสนามหญ้าของเพื่อบ้านว่ามีพืชที่เป็นพิษที่แมวอาจจะไปเล็มกินหรือไม่ สัตวแพทย์สามารถให้รายชื่อของพืชที่เป็นพิษได้
  • คุณอาจจะต้องปูหนังสือพิมพ์หรือผ้าที่สามารถดูดซับของเหลว (absorbent pads) เพื่อจะได้ทำความสะอาดง่ายขึ้น
  • จำกัดให้แมวอยู่แต่ในห้องที่ไม่มีพรมแต่มีอาหารและกระบะทรายจนกว่าอาการท้องเสียจะสามารถควบคุมได้ นี่จะช่วยในเรื่องของการทำความสะอาด แต่อย่าทำเช่นนี้ถ้ามันจะทำให้แมวของคุณเครียดกว่าเดิม
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่า ดุด่าแมวสำหรับเหตุการณ์เช่นนี้ แมวไม่ได้ตั้งใจและนี่จะเพิ่มความเครียดที่จะมีแต่ทำให้อาการท้องเสียแย่ลง
  • ขณะนี้สัตวแพทย์ได้เตือนการใช้ยา Pepto Bismol และ Kaopectate ซึ่งมันเป็นพิษกับแมวเพราะว่าแมวอาจจะมีภาวะเป็นพิษจากยาในกลุ่ม Salicylate ให้ตรวจเช็คกับสัตวแพทย์เกี่ยวกับยาที่เหมาะสมและปริมาณยาที่เหมาะกับน้ำหนักและอายุของแมว
  • หากคนในบ้านของคุณมีอาการท้องเสีย ให้พาแมวของคุณไปหาสัตวแพทย์และพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที มีพยาธิที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (โรคไกอาร์เดียและโรคทอกโซพลาสโมซิส) ที่สามารถติดในมนุษย์ได้ (โรคสัตว์สู่คน) และเป็นเรื่องลำบากที่จะขจัดมันออกไป พยาธิเหล่านี้นั้นเป็นอันตรายต่อเด็กๆ ผู้สูงวัย และผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง จนอาจจะถึงแก่ชีวิต
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&S=0&C=0&A=598
  2. http://www.vet.cornell.edu/FHC/health_resources/brochure_ibd.cfm
  3. http://www.vcahospitals.com/main/pet-health-information/article/animal-health/inflammatory-bowel-disease-in-cats/291
  4. Jergens A. Feline idiopathic inflammatory bowel disease: what we know and what remains to be unraveled. Journal Of Feline Medicine And Surgery [serial online]. July 2012;14(7):445-458.
  5. http://www.merckvetmanual.com/mvm/index.jsp Vet reference, somewhat technical.

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 355,225 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา