ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าการฝันกลางวันของคุณหรือการใจลอยจินตนาการบางสิ่งส่งผลกระทบกับกิจกรรมอื่นๆ ของวัน มันอาจจะเป็นสัญญาณว่าคุณจะต้องปรับปรุงเรื่องสมาธิของคุณและต้องเก็บความฝันนั้นให้อยู่ตอนกลางคืนแทน คุณควรที่จะเข้าใจหน้าที่และจุดประสงค์ของการฝันกลางวันก่อนเพื่อที่จะลดการฝันกลางวันลงได้ จากนั้นคุณก็ใช้เทคนิคช่วยลดการฝันกลางวันในบทความนี้ มีสมาธิเพิ่มขึ้น และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้คุณมีความสนใจอย่างต่อเนื่องจนไม่เผลอฝันกลางวัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

วิเคราะห์รูปแบบการฝันกลางวันของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การรู้ว่าทำไมคุณถึงฝันกลางวันเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะต้องรู้ไว้เพื่อที่จะสามารถปรับเปลี่ยนมันได้ ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดมันถึงได้เกิดขึ้น (อะไรที่เป็นปัญหาจริงๆ) คุณก็จะหาทางออกได้ยาก บางครั้งการฝันกลางวันของแต่ละคนอาจจะเป็นทางหนึ่งในการหลีกเลี่ยงความเครียดและความรู้สึกเจ็บปวดอื่นๆ [1] โลกในจินตนาการจะทำให้สามารถหลีกหนีกับการจัดการกับภาวะทางอารมณ์ในแง่ลบ การฝันกลางวันยังเป็นวิธีในการปลอบเยียวยาตนเองโดยเป็นการจินตนาการว่าความปรารถนาของคุณได้สำเร็จไปแล้ว [2] นอกจากนี้ การฝันจินตนาการยังเชื่อมกับความต้องการที่อยากจะลืมข้อมูลบางอย่าง (แผลฝังใจ สถานการณ์ที่เจ็บปวด เป็นต้น) จริงๆ แล้วการฝันกลางวันจะส่งผลให้ลืมความทรงจำหรือข้อมูลที่เพิ่งรู้ก่อนหน้านั้น [3]
    • เขียนประเภทของการฝันกลางวันของคุณออกมาเป็นข้อๆ และสิ่งที่คุณคิดว่าอะไรเป็นหน้าที่ของจินตนาการนั้น เช่น คุณอาจจะระบุว่าคุณฝันกลางวันบ่อยๆ เกี่ยวกับบทสนทนากับเพื่อนซึ่งหน้าที่ของมันคือช่วยให้คุณเดาว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในบทสนทนานั้นและคุณก็จะคิดว่าจะตอบบทสนทนานั้นอย่างไร ตัวอย่างอีกอันหนึ่งก็คือคุณอาจจะจินตนาการถึงการซื้อบ้าน หน้าที่ของมันคืออาจจะช่วยให้คุณคิดถึงวันที่สดใสและมีความหวังในอนาคต
    • ถามตัวเองว่า “อะไรคือจุดประสงค์ของการฝันกลางวันของฉัน?” คุณฝันกลางวันเพื่อหลบหนีบางอย่าง หันเหความสนใจของตนเอง ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หรือแค่ทำให้เวลาผ่านไป?
  2. รู้รูปแบบของจินตนาการในฝันของคุณอาจจะช่วยให้คุณสามารถลดการฝันกลางวันและจัดการกับการฝันแต่ละแบบได้ [4] คุณฝันกลางวันที่โรงเรียนหรือที่ทำงานบ่อยๆ หรือไม่? มีสถานการณ์บางอย่างหรือไม่ที่กระตุ้นให้คุณมีพฤติกรรมใจลอยฝันกลางวัน?
    • รู้ว่าคุณฝันกลางวันบ่อยแค่ไหน ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 1 ชั่วโมง ขีดทดว่าคุณเผลอใจลอยฝันกลางวันไปกี่ครั้งใน 1 ชั่วโมงนั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสังเกตว่าคุณเผลอฝันกลางวัน ให้ขีดทดไว้บนกระดาษ นี่จะช่วยให้คุณตระหนักว่าจริงๆ แล้วคุณได้ฝันกลางวันไปมากเท่าไหร่ บางครั้งคุณอาจจะต้องใช้เวลาสองสามนาทีกว่าจะรู้ตัวว่ากำลังฝันกลางวันอยู่และนี่ก็เป็นเรื่องที่รับได้ แค่ต้องทดไว้เมื่อคุณเผลอฝันกลางวันแต่ละครั้ง
  3. ถ้าการฝันกลางวันทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันนั้นยากขึ้น เช่น เป็นการขัดขวางการทำงานในที่ทำงานหรือที่โรงเรียนส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆ หรือส่งผลต่อภาระหน้าที่ส่วนตัวของคุณ ดังนั้น คุณอาจจะฝันกลางวันมากเกินไปและมันก็ส่งผลเสียขึ้น นอกจากนี้ การใจลอยฝันจินตนาการก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุข [5]
    • เขียนผลเสียที่ตามมาเป็นข้อๆ จากการฝันกลางวัน ผลเสียนั้นอาจจะเช่น ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนน้อยลง เรียนไม่ทันเพราะๆไม่สมารถมีสมาธิตั้งใจเรียนได้ ไม่สามารถทำงานทั้งหมดให้เสร็จเพราะว่าได้ฝันกลางวันไป และเพื่อนและครอบครัวรู้สึกว่าคุณไม่ตั้งใจฟังสิ่งที่พวกเขาพูดเพราะคุณกำลังใจลอยฝันกลางวันอยู่
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ใช้เทคนิคลดการฝันกลางวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณจะต้องตระหนักว่าคุณกำลังฝันกลางวันก่อนเพื่อที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงมัน เมื่อคุณสามารถระบุจุดประสงค์ รูปแบบ และผลที่ตามมาจากการฝันกลางวันของคุณได้แล้ว มันจะช่วยให้คุณสังเกตตัวเองเมื่อคุณกำลังฝันจินตนาการอยู่ [6]
    • สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังฝันกลางวัน ได้แก่ ไม่สบตาขณะที่กำลังสนทนาอยู่กับอีกบุคคลหนึ่ง มีสมาธิสนใจงานที่ทำอยู่ได้ยาก ไม่สามารถจำได้ว่าคุณเพิ่งพูดอะไรไปขณะที่สนทนา คิดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น และมีบทสนทนาในจินตนาการกับคนอื่นๆ หรือจินตนาการเหตุการณ์ต่างๆ ในหัว
  2. เมื่อคุณรู้ตัวว่ากำลังฝันกลางวัน ให้หยุดทันทีและเขียนบันทึกลงไปว่าคุณฝันถึงอะไรรวมถึงเวลาที่คุณฝัน สถานการณ์ที่ฝัน สถานที่ในฝัน และจดว่าคุณใจลอยฝันกลางวันไปนานเท่าไหร่ [7] [8] นี่จะช่วยให้คุณตระหนักเมื่อคุณฝันกลางวันและจะช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบพฤติกรรมของคุณได้ดีขึ้น
    • ตั้งคำถามเกี่ยวกับประโยชน์ของการฝันกลางวัน ถามตัวเองว่า การฝันกลางวันได้ช่วยเหลืออะไรฉันบ้าง?
  3. ตั้งแนวทางและข้อจำกัดในการฝันกลางวันของคุณ. ฝันกลางวันบางประเภทอาจจะมีผลเสียได้ ตัวอย่างเช่นการฝันจินตนาการถึงคนที่คุณไม่ค่อยรู้จักอาจจะเป็นทำให้ยิ่งรู้สึกเหงา [9] อย่างไรก็ตาม การจินตนาการถึงบุคคลที่สนิทจะทำให้ยิ่งรู้สึกใกล้ชิดและทำให้พึงพอใจกับชีวิตทั่วไป [10]
    • กำหนดเส้นแบ่งที่เมื่อคุณข้ามไปแล้วมันจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณควรที่จะหยุดฝันกลางวัน เช่น ความใกล้ชิดที่อาจจะมากเกินไป การได้ใช้เงินจำนวนมาก หรือความรุนแรงมากๆ
    • บางครั้งคุณอาจจะหลงอยู่ในความฝันของคุณและมันก็เป็นเรื่องเสียเวลา แค่ดูที่นาฬิกาของคุณ พกนาฬิกาไว้เพื่อเตือนใจคุณว่าเวลานั้นเป็นสิ่งมีค่าและคุณควรที่จะใช้มันอย่างคุ้มค่าเพราะมันจะไม่สามารถย้อนกลับได้อีก!
  4. อาการใจลอยจินตนาการถึงสิ่งต่างๆ อาจจะเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวคุณเองและเป็นการทำให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงในความฝัน [11] เทคนิคการจินตนาการและการนึกเป็นภาพนั้นเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในการบำบัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาความกังวลและความซึมเศร้า โดยการใช้เทคนิคจินตนาการให้เป็นภาพจะทำให้คุณสามารถฝันกลางวันถึงสิ่งที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายขึ้นได้
    • ตัวอย่างหนึ่งของการฝึกจินตนาการก็คือให้หลับตา จินตนาการว่าคุณอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย [12] สถานที่แห่งนั้นอาจจะเป็นชายหาด ห้องนอนของคุณ โบสถ์ หรือสถานที่ใดก็ได้ที่คุณรู้สึกปลอดภัย อุ่นใจ และผ่อนคลาย จินตนาการว่ามันเป็นความรู้สึกเช่นไรเมื่ออยู่ที่สถานที่นั้น สังเกตอุณหภูมิและกระแสลมในห้องที่จินตนาการ ดูว่าร่างกายของคุณรู้สึกอย่างไรและสังเกตอารมณ์ความรู้สึกอื่นๆของคุณ จินตนาการว่าสถานที่ปลอดภัยนั้นมีกลิ่นอะไรและมีเสียงอะไร มีคนอื่นๆ ที่อยู่ในสถานที่ปลอดภัยด้วยหรือไม่? คุณกำลังทำอะไรอยู่? ให้จินตนาการอยู่ในที่ปลอดภัยจนกระทั่งคุณผ่อนคลายอย่างเต็มที่และค่อยลืมตาขึ้น
    • แหล่งข้อมูลออนไลน์อื่นๆ ที่จะช่วยแนะนำเทคนิคการจินตนาการให้กับคุณ [13] [14]
  5. ทันทีที่คุณสังเกตว่าคุณกำลังฝันกลางวัน ให้ตื่นขึ้นมาและทำอะไรที่กระฉับกระเฉง นี่จะเป็นการทำให้คุณได้ใช้พลังงานในร่างกายของคุณและจะช่วยให้คุณเปลี่ยนความสนใจไปที่เรื่องใหม่และลดการฝันกลางวันตามลำดับ [15]
    • ลองยืดแขนขาดู ลองยืดแขนไปที่ท้องฟ้าให้สูงที่สุดเท่าที่คุณทำได้ จากนั้นให้ยืดขาออกจากกันขณะที่ยืนอยู่และก้มลงไปที่พื้น (แค่ก้มต่ำลงไปแบบที่คุณพอทำได้)
    • คุณอาจจะกระโดดตบ วิ่งอยู่กับที่ หรือสะบัดแขน หาอะไรที่กระฉับกระเฉงและปลอดภัย และควรเหมาะสมกับสถานการณ์และสถานที่ที่คุณอยู่
  6. ทุกครั้งเมื่อคุณสามารถทำงานให้เสร็จโดยที่ไม่เผลอฝันกลางวัน ก็ต้องให้รางวัลตัวเองด้วย ความคิดนี้มาจากการเสริมแรงทางบวก (Positive Reinforcement) ซึ่งเป็นองค์ประกอบของการวางเงื่อนไขด้วยการกระทำ (Operant Conditioning) รายงานวิจัยได้ระบุว่าการเพิ่มพฤติกรรมในแง่บวก (เช่น การรักษาสมาธิ) [16] จะทำให้คุณกำหนดเส้นแบ่งส่วนตัวของคุณ (เช่น คุณจะไม่ทำอะไรที่สนุกๆ ถ้าคุณยังทำงานไม่เสร็จ) และทำให้คุณมีสิ่งที่คุณคาดหวังถึง (รางวัลที่จะมอบให้ตัวเอง)
    • ลองให้บางสิ่งเป็นรางวัลสำหรับตัวเองเช่น ลูกอมหรือขนม
    • คุณสามารถให้รางวัลตัวเองเป็นการพักเหนื่อยสัก 5 นาทีขณะที่ทำงานอยู่ การพักเหนื่อยอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานของคุณ ใช้เวลาในช่วงพักในการทำบางสิ่งที่คุณสนุกเช่น เล่นเกมหรือส่งข้อความหาเพื่อน
  7. การฝันกลางวันที่มากเกินไปจะกลายเป็นปัญหาได้ถ้ามันทำให้บางเรื่องในชีวิตของคุณยุ่งยาก เช่น เรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่น เรื่องที่โรงเรียน ความสามารถในการทำงาน หรือกิจกรรมในแต่ละวันอื่นๆ ถ้าเป็นกรณีดังกล่าว การเข้ารับการรักษาก็เป็นตัวเลือกที่ดี [17]
    • ติดต่อนักจิตวิทยา (ตำแหน่ง PsyD, PhD) นักบำบัดที่เกี่ยวกับครอบครัวและชีวิตแต่งงาน (ตำแหน่ง MFT) หรือจิตแพทย์ (ตำแหน่ง MD)
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

เพิ่มความสามารถในการสนใจและมีสมาธิ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณกำลังฝันกลางวันอยู่ มันหมายความว่าคุณให้ความสนใจไปกับโลกในจินตนาการของคุณหรือความคิดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรนักกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวคุณ การมีสมาธิก็คือการอยู่กับปัจจุบันในขณะนี้ [18]
    • ลองทานผลไม้ที่คุณชอบและเพ่งความสนใจว่าขณะที่ทานรู้สึกอย่างไร มันมีลักษณะอย่างไร และมันมีรสชาติอย่างไร
    • หาแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการมีสมาธิและลองฝึกเทคนิคที่ทำให้มีสมาธิ [19]
  2. ใช้เทคนิค Grounding หรือเทคนิคที่ช่วยให้กลับมาสู่ความเป็นจริง. การ Grounding จะช่วยให้คุณปลดตัวเองออกจากความเจ็บปวดทางอารมณ์ มันมีประโยชน์มากเมื่อต้องจัดการกับสถานการณ์และอารมณ์ที่ยากลำบาก และมันเป็นสิ่งแทนที่การฝันกลางวันหรือโลกจินตนาการของคุณได้ดีและมีประโยชน์ การ Grounding สามารถทำได้ไม่ว่าจะอยู่ในเวลาใดหรือสถานการณ์ใด มันจะช่วยให้คุณกลับมามีสมาธิอีกครั้ง เมื่อคุณได้ใช้เทคนิคนี้แล้ว ให้กลับไปทำงานหรือหน้าที่ต่อ คุณอาจจะพบว่าคุณสามารถมีสมาธิหลังจากได้ลองเทคนิคเก็บตัว
    • กล่าวถึงวัตถุต่างๆ ในห้องและประโยชน์ต่างๆ ของมัน
    • คุณสามารถกล่าวถึงสีหรือสัตว์ต่างๆ ที่คุณนึกถึง
    • ขอให้จำไว้ว่าอย่าใช้เทคนิค Grounding มากเกินไปหรืออย่าใช้มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการฝันกลางวัน ให้จำกัดตัวเองแค่ประมาณ 1 นาที จากนั้นกลับไปทำสิ่งที่คุณกำลังทำก่อนหน้า
  3. การนอนหลับไม่เพียงพอมีความเกี่ยวข้องกับการฝันกลางวัน โดยจะทำให้คุณฝันกลางวันเพิ่มขึ้น [20] ถ้าคุณไม่ให้จิตใจของคุณพักผ่อนในตอนกลางคืน มันก็จะยิ่งทำงานมากขึ้นในช่วงระหว่างวัน ผู้ที่มีปัญหาการนอนจะเผชิญกับภาวะซึมเศร้า ความกังวล และปัญหาสุขภาพในอัตราที่สูงขึ้น [21]
    • ปรับตารางการนอนให้ดีขึ้น (ช่วงเวลาเข้านอนและการตื่น) และนอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อคืน
    • ลองเทคนิคการผ่อนคลายและการหายใจเข้าออก มันจะช่วยให้คุณหลับในตอนกลางคืนได้
  4. ถ้าคุณพบว่ามีความคิดบางอย่างทำให้ความสนใจของคุณไขว้เขว การได้หาเวลาพักก็อาจจะช่วยคุณได้ [22] บางครั้งเมื่อความสนใจและสมาธิของเราถูกทำให้ไขว้เขวไปมันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราทำงานหนักเกินไป จริงๆ แล้ว การลองหาเวลาพักจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของเรา โดยเฉพาะงานที่ต้องระดมความคิด [23]
    • ลองออกไปเดินเล่นหรือไปเดินทอดน่องที่ถนน
    • ทำสิ่งที่คุณรู้สึกสนุกเป็นเวลาสองสามนาที กินขนม ฟังเพลง หรือดูอะไรสักอย่างในโทรทัศน์
  5. ถ้าคุณมักจะเริ่มฝันกลางวันเมื่อคุณไม่มีสมาธิที่จะทำอะไรบางอย่าง เช่น นั่งเอ้อระเหย ให้ลองทำอะไรบางอย่างที่กระฉับกระเฉงดู การทำตัวให้งุ่นง่านกระฉับกระเฉงจริงๆ แล้วจะช่วยให้ให้มีสมาธิดีขึ้น [24] [25]
    • คว้าหมอน ตุ๊กตายัดนุ่น หรือลูกบอลที่ยืดหยุ่น โดยเป็นสิ่งที่คุณสามารถบีบจับมันได้
    • บางคนพบว่าการฟังเพลงขณะที่ทำงานง่ายๆ จะช่วยทำให้มีสมาธิมากขึ้น [26] เพราะว่ามันเป็นการทำให้จิตใจบางส่วนของคุณหันเหไป ดังนั้นคุณก็จะสามารถมีสมาธิกับสิ่งที่สำคัญกว่าได้
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ทำกิจกรรมที่จะทำให้มีสมาธิได้นาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำกิจกรรมที่สนุกๆ ที่จะทำให้คุณมีสมาธิขึ้น
    • ทำบางสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณ เช่น ปีนเขาท่ามกลางสถานที่ที่สวยงาม การทำสมาธิ การดูงานศิลปะ เป็นต้น
    • ลองฝึกฝนทักษะต่างๆ เช่น การอบขนม การปีนเขา การเล่นกีฬา การเต้น การออกกำลังกายแอโรบิก และการเล่นโยคะ
    • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะทำให้คุณฝันกลางวันยิ่งขึ้นเช่นการดูโทรทัศน์มากเกินไป โดยเป็นไปได้ว่าการดูโทรทัศน์มากเกินไปจะลดความคิดสร้างสรรค์ของคุณและเพิ่มพฤติกรรมฝันกลางวันยิ่งขึ้น [27]
  2. ผู้ที่ได้รับแรงสนับสนุนทางสังคมอย่างเพียงพอจะมีแนวโน้มว่าจะมีสุขภาพจิตโดยรวมที่ดีขึ้น [28] พวกเราล้วนต้องการแรงสนับสนุนทางสังคมในการจัดการกับทุกปัญหา ซึ่งรวมถึงเรื่องการใจลอยฝันกลางวันมากเกินไปหรือเรื่องจิตใจที่ไขว้เขว
    • เลือกคนที่คุณสนิทและรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ด้วย จากนั้น ถามพวกเขาดูว่าพวกเขาสามารถคุยตอบโทรศัพท์ของคุณหรือคุยกับคุณได้หรือไม่เมื่อคุณเริ่มมีพฤติกรรมหมกมุ่นฝันกลางวัน
    • คุณสามารถขอให้เพื่อนหรือครอบครัวเตือนคุณด้วยก็ได้เมื่อพวกเขาสังเกตว่าคุณเริ่มฝันกลางวัน นี่จะทำให้คุณรู้สึกตัวและเป็นการขยายช่วงเวลาที่คุณมีสมาธิ
  3. การวางแผนก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการฝันกลางวันเพราะว่าคุณใช้เวลาจำนวนมากในการนึกถึงสถานการณ์ต่างๆ โดยไม่ได้ใช้เวลาในการทำให้อะไรสำเร็จเลย ถึงเวลาที่จะหยุดฝันแล้วและเริ่มทำสักที!
    • จัดตารางเวลาและทำตามนั้น ถ้าคุณพบว่าคุณกำลังฝันกลางวัน ให้ตื่นขึ้นมาและออกมาจากสถานการณ์นั้นหรือทำอะไรที่ก่อประโยชน์
    • ถ้าคุณเผลอฝันกลางวัน ให้ดึงตัวเองออกมาและทำสิ่งที่คุณกำลังทำก่อนหน้า ให้ยอมรับและไม่ตำหนิตัวเอง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทำตามความฝันของคุณ ถ้าคุณมีความฝันที่คุณรู้ว่าคุณสามารถทำมันให้สำเร็จได้ ก็ให้ทำมันให้เป็นจริงซะ! การไล่ล่าทำตามความฝันที่สามารถเป็นจริงได้จะเป็นการหยุดความฝันกลางวันอื่นๆ


โฆษณา
  1. http://www.researchgate.net/profile/Aubrey_Litvack/publication/51751132_How_daydreaming_relates_to_life_satisfaction_loneliness_and_social_support_The_importance_of_gender_and_daydream_content/links/0922b4f4fa8afef692000000.pdf
  2. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3779797/
  3. http://www.get.gg/imagery.htm
  4. http://www.getselfhelp.co.uk/docs/ImagerySelfHelp.pdf
  5. http://www.getselfhelp.co.uk/docs/SafePlace.pdf
  6. http://imp.sagepub.com/content/18/1/83.short
  7. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1311006/pdf/jaba00085-0053.pdf
  8. http://somer.co.il/articles/2002Malaptdaydr.contemp.psych.pdf
  9. http://www.getselfhelp.co.uk/docs/Mindfulness.pdf
  10. http://www.getselfhelp.co.uk/docs/NOW.pdf
  11. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3946719/
  12. http://ps.psychiatryonline.org/doi/10.1176/appi.ps.56.3.332
  13. http://www.scientificamerican.com/article/mental-downtime/
  14. http://www.researchgate.net/profile/Paul_Paulus/publication/232593209_Effects_of_task_instructions_and_brief_breaks_on_brainstorming/links/00b495277d67be9c22000000.pdf
  15. http://link.springer.com/article/10.1007%2Fs10802-015-0011-1
  16. http://www.npr.org/sections/ed/2015/05/14/404959284/fidgeting-may-help-concentration-for-students-with-adhd
  17. http://www.getselfhelp.co.uk/docs/Music.pdf
  18. http://www.kerenor-chen.co.il/wp-content/uploads/2014/07/Influence%20of%20TV%20on%20Daydreaming%20and%20Creative%20Imagination.pdf
  19. http://publish.uwo.ca/~pakvis/StressResourcesSocialSupportonMentalHealth.pdf

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,566 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา