ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อาการตาล้า เป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในหมู่คนสมัยนี้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้สายตาในการจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือมือถือติดต่อกันเป็นเวลานาน การเพ่งมองอยู่ที่จุดเดิมเป็นระยะเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้อซิลิอารีที่อยู่ในดวงตาเกิดการตึง ส่งผลให้ดวงตาเกิดการเมื่อยล้า และทำให้ตาพร่ามัวชั่วคราวได้ และอาการตึงนี้หากเกิดขึ้นในเด็กจะสามารถส่งผลให้เกิดปัญหาสายตาสั้นได้ด้วย [1] ซึ่งเกิดขึ้นจากความเสียหายของการทำงานของกล้ามเนื้อตาในการปรับโฟกัสของสายตา ทำให้เลนส์ตาแบนลง อาการตาล้านี้ยังทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ตาแห้ง หรือแม้แต่ตาพร่ามัว ข่าวดีคือ มีหลากหลายวิธีในการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการตาล้านี้ และวิธีส่วนมากก็สามารถทำได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง หรืออาจไม่ต้องใช้เงินเลยสักนิด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ผ่อนคลายสายตา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณกำลังทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ให้พักสายตาอย่างน้อย 20 วินาทีโดยการมองไปที่สิ่งต่างๆ ที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต (6 เมตร) หลังจากที่ใช้คอมพิวเตอร์แล้ว 20 นาที หากบริเวณนั้นมีหน้าต่าง การมองออกไปด้านนอกก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเช่นกัน [2]
    • อีกวิธีหนึ่งคือ ให้เปลี่ยนตำแหน่งการมองจากสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ไปยังสิ่งที่อยู่ไกลออกไป โดยมองสลับไปมาทุกๆ 10 วินาทีอย่างน้อย 10 ครั้ง เพื่อเป็นการบริหารดวงตา [3]
  2. ในบางครั้งอาการตาล้าอาจเกิดขึ้นเนื่องจากคุณกระพริบตาน้อยเกินไปในขณะที่สายตากำลังโฟกัสอยู่ที่บางสิ่ง เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ ดังนั้นจึงควรกระพริบตาให้บ่อยขึ้นในขณะที่ทำงานอยู่ [4]
  3. การหลับตาและกรอกตาไปมาสามารถช่วยหล่อลื่นดวงตาของคุณได้ ทั้งยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อดวงตาได้ด้วย
    • ปิดตาลงและกรอกตาเป็นวงกลม โดยเริ่มกรอกตาตามเข็มนาฬิกาก่อน แล้วจึงกรอกตาทวนเข็มนาฬิกา วิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้ดวงตารู้สึกผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณรู้สึกดีอีกด้วย [5]
  4. หลังจากเพ่งมองหน้าจอติดต่อกันเป็นเวลานาน ให้พักสายตาโดยการมองไปรอบห้องช้าๆ พยายามเคลื่อนไหวดวงตาให้คงที่ และมองไปยังสิ่งต่างๆ ที่มีระยะห่างออกไปจากตัวคุณ [6]
  5. ปิดตาลงและชำเลืองตาขึ้นไปด้านบนให้มากที่สุดโดยที่ไม่รู้สึกอึดอัด ค้างไว้สักครู่แล้วจึงมองลงไปด้านล่างโดยที่ตายังคงปิดอยู่ [7]
    • ทำซ้ำประมาณ 2-3 ครั้ง แล้วพักสายตาสักครู่
    • จากนั้นให้ปิดตาลงเหมือนในตอนแรก มองไปทางขวาแล้วจึงมองไปทางซ้าย ทำซ้ำอีก 2-3 ครั้ง [8]
  6. กล้ามเนื้อดวงตาก็เหมือนกับสปริงที่ไม่ควรยืดออกมากเกินไปเป็นเวลานาน ไม่เช่นนั้นความสามารถในการหดตัวกลับที่เดิมก็จะแย่ลง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น มีหลายวิธีที่สามารถช่วยผ่อนคลายดวงตาของคุณได้ การใช้ฝ่ามือประกบนี้เป็นการพักสายตาและทำให้ดวงตาอุ่นขึ้นด้วยความร้อนจากการเสียดทาน โดยมีวิธีทำดังต่อไปนี้ [9]
    • ใช้ฝ่ามือถูกันเพื่อสร้างความร้อน
    • หลับตาลง
    • นำฝ่ามือปิดตาทั้ง 2 ข้างเบาๆ สักครู่ประมาณ 2-3 นาที
    • เพิ่มความอุ่นให้ฝ่ามือซ้ำได้หากจำเป็น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มุมในการมองจอภาพมีผลต่อความล้าของดวงตา ให้เริ่มต้นโดยการปรับตำแหน่งการจัดวางจอภาพให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย [10]
    • ด้านบนของจอภาพควรอยู่ในแนวเดียวกับระดับสายตาเมื่อมองตรงไปข้างหน้า
    • การจัดวางจอภาพในมุมนี้จะทำให้คออยู่ในตำแหน่งปกติ และส่งผลให้ดวงตาทำงานน้อยลง
  2. พยายามปรับตำแหน่งศีรษะให้อยู่ไกลจากจอภาพมากที่สุด โดยควรห่างประมาณ 20-40 นิ้วหรือ 50-100 ซม. [11]
    • วิธีนี้อาจดูเหมือนทำให้ดวงตาทำงานหนักมากขึ้น แต่จริงๆ แล้วดวงตาจะรู้สึกผ่อนคลายในระยะห่างเท่านี้
    • คุณอาจต้องการจอภาพที่กว้างขึ้นหรือขนาดตัวอักษรบนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นในระยะห่างเท่านี้
  3. ปรับลดระดับความสว่างลงและเพิ่มระดับความเปรียบต่าง วิธีนี้จะทำให้รู้สึกสบายดวงตาขึ้น [12]
    • หน้าจอที่สว่างจนเกินไปจะทำให้ดวงตาทำงานหนักมากขึ้น
    • ความเปรียบต่างระหว่างสีดำและสีขาวที่ต่ำเกินไปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ส่งผลให้ดวงตาทำงานหนักมากขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากดวงตาจะต้องจำแนกระหว่างสิ่งที่แตกต่างกันมากขึ้น ทำให้ดวงตาเกิดอาการล้าได้ [13]
  4. การทำความสะอาดจอภาพจะช่วยกำจัดอนุภาคไฟฟ้าสถิตที่ปล่อยออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งอนุภาคเหล่านี้จะทำให้เศษฝุ่นเข้าตา ส่งผลให้ดวงตาเกิดการระคายเคืองและอ่อนล้าได้ นอกจากนี้ การทำความสะอาดจอภาพยังช่วยลดแสงจ้าได้ด้วย [14]
    • เช็ดหน้าจอเป็นประจำทุกวัน โดยนำสารต้านไฟฟ้าสถิตฉีดลงบนผ้า
  5. ควรจัดให้สภาพแวดล้อมมีแสงสว่างใกล้เคียงกับจอภาพของคุณ พื้นที่ทำงานที่เหมาะสมจะต้องมีแสงอ่อนๆ มีแสงธรรมชาติเข้ามาเพียงพอ ไม่ใช้แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ และมีพื้นผิวที่ไม่สะท้อนแสงมากเกินไป [15]
    • ลักซ์หรือแสงที่ผ่านเข้ามายังพื้นผิวควรมีปริมาณที่พอดี ซึ่งลักซ์คือหน่วยที่ใช้ในการวัดแสงสว่าง พื้นที่ทำงานโดยทั่วไปควรมีความสว่างในห้องประมาณ 500 ลักซ์ [16] คุณสามารถเลือกหลอดไฟที่มีลักซ์ในปริมาณที่เหมาะสมได้โดยดูจากข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์
    • การเปลี่ยนหลอดไฟหรือปรับมู่ลี่ในพื้นที่ทำงานอาจช่วยลดอาการปวดตาได้
    • หากไม่สามารถปรับความสว่างของห้องได้ ให้ปรับสีของจอภาพ หรือที่เรียกกันว่าการปรับอุณหภูมิสี โดยการปรับลดปริมาณสีฟ้าเล็กน้อยนั้นสามารถลดอาการตาล้าได้ [17] คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows สามารถปรับสีได้ในคอนโทรลพาเนล
    • สามารถมองหาซอฟต์แวร์ที่จะช่วยปรับสีของหน้าจอตามเวลาโดยอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะกับแสงธรรมชาติขณะนั้น [18] เช่น ซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า f.lux [19] ซึ่งช่วยให้สามารถมองดูหน้าจอในที่ที่มีแสงน้อยหรือในเวลากลางคืนได้ง่ายยิ่งขึ้น [20]
  6. แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่สว่างจ้าเกินไปก็สามารถทำให้ดวงตาล้าได้เช่นเดียวกัน [21] หากคุณไม่สามารถควบคุมแสงสว่างในพื้นที่ทำงานได้ อาจหาซื้อแผ่นกันแสงสะท้อนสำหรับจอภาพหรือแว่นตากันแสงสะท้อนมาใช้
    • แผ่นกันแสงสะท้อนยังมีประโยชน์ในการเพิ่มความเป็นส่วนตัว เนื่องจากแผ่นกันแสงสะท้อนนี้จะทำให้ผู้อื่นที่ไม่ได้นั่งอยู่หน้าจอโดยตรงมองเห็นสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้ยากขึ้น
    • แผ่นกันแสงสะท้อนสำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่าแล็ปท็อป
  7. อาจหาซื้อจอภาพที่มีความคมชัดสูง เพื่อให้ดวงตาทำงานน้อยลง
    • จอภาพที่ยิ่งเก่ามักจะมีการสั่นไหวมากขึ้น ในขณะที่จอภาพรุ่นใหม่ที่มีความคมชัดสูงจะมีแสงที่สม่ำเสมอ หน้าจอที่สั่นไหวนั้นจะทำให้ดวงตาล้ามากขึ้น [22]
    • จอภาพที่ยิ่งเก่ายังมีอัตราการรีเฟรชของหน้าจอช้าลง ส่งผลให้ดวงตาต้องปรับทุกครั้งที่มีการรีเฟรชภาพบนหน้าจอ [23]
  8. การเคลื่อนไหวดวงตาสามารถเพิ่มความล้าให้กับดวงตา และจะมีอาการแย่ลงหากไม่เริ่มทำการบริหารดวงตา เพื่อหลีกเลี่ยงอาการตาล้าที่อาจเกิดขึ้น ให้ซื้อที่ตั้งสำหรับหนังสือและกระดาษเพื่อให้หาที่ตั้งได้ง่ายขึ้น ให้วางที่ตั้งไว้ด้านข้างจอภาพ เพื่อที่ดวงตาจะได้ไม่ต้องเคลื่อนไหวมากเกินไป [24]
    • การเคลื่อนไหวดวงตาอยู่เรื่อยๆ จะทำให้ดวงตาต้องโฟกัสที่วัตถุต่างๆ ซ้ำหลายครั้ง
    • หากวัตถุชิ้นหนึ่งอยู่ห่างจากวัตถุอีกชิ้นหนึ่งเพียงไม่กี่นิ้ว ดวงตาของคุณจะไม่ต้องโฟกัสภาพซ้ำอีกครั้ง [25]
    • จะดียิ่งขึ้นหากคุณสามารถพิมพ์สัมผัสได้อย่างชำนาญจนไม่ต้องมองแป้นพิมพ์หรือหน้าจอ เพราะคุณจะสามารถมองที่วัตถุอื่นได้ในขณะที่กำลังพิมพ์อยู่ เพื่อลดเวลาที่ต้องจ้องอยู่หน้าจอ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รับมือกับอาการล้าที่รุนแรง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณมีอาการตาล้าจนทำให้รู้สึกระคายเคืองอย่างรุนแรงหรือส่งผลต่อการมองเห็นของคุณ ให้ละสายตาจากคอมพิวเตอร์และแสงที่สว่างจ้าทันที หากเป็นไปได้ ให้ออกไปข้างนอกในที่ที่มีแสงธรรมชาติ หรืออาจหรี่ไฟภายในบ้านลง และปล่อยให้ตัวเองได้พักจากแสงสว่างทุกชนิด ก็อาจทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้เช่นกัน
  2. หากคุณไม่มีแว่นตาในขณะที่จำเป็นต้องสวม หรือแว่นตาที่มีอยู่ไม่ตรงกับค่าสายตาของคุณ ก็อาจทำให้ดวงตาล้ามากขึ้นได้ ควรแน่ใจว่าแว่นตาที่ใช้ตรงเหมาะสมกับสายตา เพื่อที่ดวงตาของคุณจะได้ไม่ต้องทำงานหนักมากเกินจำเป็น
    • หากคุณสวมแว่นตาสองชั้น คุณอาจต้องเอียงศีรษะในมุมที่ไม่สะดวกสบายในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์ ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาเพื่อมองหาเลนส์สายตาที่ใช้งานได้ดีกว่า
    • แว่นตาสำหรับคอมพิวเตอร์ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาได้เช่นกัน โดยแว่นตาชนิดนี้จะช่วยให้ดวงตาโฟกัสได้ง่ายขึ้น จึงช่วยลดอาการตาล้าได้ [26]
    • นอกจากนี้ ควรหาซื้อแว่นตาที่มีเลนส์ที่เคลือบสารกันแสงสะท้อน ซึ่งสามารถช่วยลดแสงจ้าจากคอมพิวเตอร์ได้ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการสวมแว่นสายตา ก็สามารถหาซื้อแว่นตาเคลือบสารกันแสงสะท้อนที่เป็นเลนส์ธรรมดาได้เช่นกัน
    • ลองมองหาแว่นตาที่มีเลนส์สีอ่อนๆ ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ อาจหาซื้อแว่นตาที่มีเลนส์สีชมพูอ่อนที่ช่วยลดแสงจ้า หรือแว่นตาที่เคลือบสารป้องกันแสงสีฟ้าที่ก่อให้เกิดปัญหาอาการตาล้าได้ [27]
  3. หากอาการแย่ลงหรือไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที
    • ควรไปพบแพทย์โดยเร็วหากอาการตาล้านั้นเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ [28] คุณอาจต้องตรวจสายตาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังสวมแว่นตาที่ตรงกับค่าสายตาของตนเอง
    • คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้แว่นตาสองชั้นหรือแว่นตาประเภทอื่นเพื่อลดปัญหาอาการตาล้า
    • คุณอาจมีอาการโรคไมเกรนเกิดขึ้นด้วย ซึ่งโรคไมเกรนเป็นอาการปวดหัวอย่างรุนแรงที่สามารถรักษาทางการแพทย์ได้ คุณอาจต้องตรวจหาสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน เพื่อที่คุณจะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการขึ้นได้ [29]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ดื่มน้ำให้มาก เนื่องจากตาแห้งสามารถก่อให้เกิดอาการตาล้าได้ โดยคุณสามารถหลีกเลี่ยงทั้งสองอาการได้โดยดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว [30]
  • ใช้น้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาเมื่อรู้สึกตาแห้ง [31]
  • เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาตาแห้งเมื่อต้องทำงานในอาคาร ให้ใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อกรองฝุ่นและเพิ่มความชื่นในอากาศ [32]
โฆษณา

คำเตือน

  • อาการตาล้าอย่างรุนแรงหรืออาการตาล้าที่มีอาการอื่นเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ ไมเกรน หรือตาพร่ามัว จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ ควรไปพบจักษุแพทย์หรือไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
  • เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ กล้ามเนื้อดวงตาก็ต้องการการบริหาร แสงที่สว่างพอดี รวมถึงการพักผ่อน หากคุณยังคงมีอาการตาล้าหลังจากที่ทำตามวิธีเหล่านี้ไปแล้ว ให้ไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือ หรือหากคุณมีอาการเจ็บตาควบคู่กับอาการล้า ก็ควรปรึกษาแพทย์โดยทันที
โฆษณา
  1. http://www.webmd.com/eye-health/news/20041115/heavy-computer-use-linked-to-glaucoma
  2. http://www.webmd.com/eye-health/news/20041115/heavy-computer-use-linked-to-glaucoma
  3. http://www.allaboutvision.com/cvs/irritated.htm
  4. http://www.allaboutvision.com/cvs/irritated.htm
  5. http://www.theatlantic.com/health/archive/2012/09/how-to-keep-computer-screens-from-destroying-your-eyes/263005/
  6. http://www.allaboutvision.com/cvs/irritated.htm
  7. http://www.engineeringtoolbox.com/light-level-rooms-d_708.html
  8. http://www.wired.com/2013/09/flux-eyestrain/
  9. http://www.wired.com/2013/09/flux-eyestrain/
  10. https://justgetflux.com/
  11. http://www.pcworld.com/article/238611/flux.html
  12. http://www.allaboutvision.com/cvs/irritated.htm
  13. http://www.eizoglobal.com/library/basics/eyestrain/#tab03
  14. http://www.allaboutvision.com/cvs/irritated.htm
  15. http://www.allaboutvision.com/cvs/irritated.htm
  16. http://office-ergo.com/eyestrain-neck-pain/
  17. http://www.allaboutvision.com/cvs/computer_glasses.htm
  18. http://www.allaboutvision.com/cvs/faqs.htm
  19. http://www.webmd.com/eye-health/eye-fatigue-causes-symptoms-treatment?page=2
  20. http://www.thinkaboutyoureyes.com/articles/diseases-conditions/digital-fatigue
  21. http://news.essilorusa.com/stories/detail/dehydrated-how-not-drinking-enough-water-impacts-your-eyes
  22. http://www.m.webmd.com/eye-health/eye-fatigue-causes-symptoms-treatment
  23. http://news.essilorusa.com/stories/detail/dehydrated-how-not-drinking-enough-water-impacts-your-eyes

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,255 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา