ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถึงแม้ว่าขนาดเด็กๆ ยังเต้นได้ ก็ไม่ได้แปลว่าคนทุกคนจะเต้นได้ดี หากคุณต้องการเรียนเต้นล่ะก็ ก่อนอื่นเลยคุณต้องเลือกให้ได้ก่อนว่าจะเต้นสไตล์ไหน จากนั้น คุณก็สามารถใช้เวลาศึกษาด้วยตัวเองได้แล้ว หรือจะไปลงเรียนเต้นที่โรงเรียนใกล้บ้านเพื่อพัฒนาทักษะก็ยังได้ อย่าลืมล่ะว่า คุณจะต้องให้ความรักความเอาใจใส่ร่างกายตัวเองด้วยการทานอาหารที่ดีและการออกกำลังกาย เพื่อให้คุณเป็นนักเต้นระดับท็อป

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ตัดสินใจให้ได้ว่าคุณชอบอะไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเต้นแต่ละสไตล์ก็มีอารมณ์ที่ต่างกันไป เช่น การเต้นแท็ปที่มีจังหวะเร็วก็จะต่างจากการเต้นบัลเลต์ที่มีการเยื้องย่างอย่างสง่างาม หรือต่างจากการเต้นฮิปฮอปที่มีการเคลื่อนไหวไปมาตลอด บางครั้งคุณอาจจะลองเต้นรำแบบบอลรูมกับคู่เต้น หรือจะลองเต้นรำแบบไอริชดูก็ยังได้ [1]
  2. ลองดูวิดีโอต่างๆ เพื่อให้เข้าใจพื้นฐานของการเต้นรูปแบบต่างๆ บางทีเข่าของคุณอาจจะไม่แข็งแรงพอสำหรับการเต้นแท็ป บางทีคุณอาจจะไม่ชอบการที่ต้องงอเท้าเวลาเต้นบัลเลต์ สังเกตดูว่าอะไรที่ดึงดูดใจคุณ
  3. หนังสือเหล่านี้บรรยายหลักพื้นฐานการเต้น ซึ่งจะช่วยให้คุณพอทราบว่าคุณจะต้องเจอกับอะไร
    • ลองไปหานิตยสารจากห้องสมุดดู. การลองสำรวจตัวเลือกของคุณไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรใดๆ
    • ทำความเข้าใจประวัติศาสตร์การเต้นอย่างลึกซึ้ง มันอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเลือกการเต้นรูปแบบนั้นๆ ได้
  4. ไปชมการแสดงสดตามชุมชนใกล้บ้าน มันไม่จำเป็นต้องเป็นโชว์ที่แพงอะไร บางทีที่วิทยาลัยแถวบ้านอาจมีสถาบันสอนเต้นก็ได้ อย่างไรก็ดี การได้ชมนักเต้นเต้นสดๆ ด้วยตาตัวเองจะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากการดูวิดีโอ การแสดงนั้นจะทำให้คุณนั่งไม่ติดเลยล่ะ [2]
    • หากคุณดูใครสักคนเต้น คุณจะได้อารมณ์ของการเต้นมากกว่า คุณจะได้เห็นท่าเต้นเจ๋งๆ และได้แนวคิดในจากมืออาชีพ หากคุณไม่สามารถจ่ายเงินไปชมการแสดงสดได้ ลองหาภาพยนตร์ที่มีการเต้นมาดู เช่น ภาพยนตร์มิวสิคัล ให้ความสนใจกับนักเต้น เพื่อดูว่าเค้าทำอะไรกัน พวกเขาดูสับสนหรือไม่ เทคนิคการเต้นเป็นอย่างไร อารมณ์ของพวกเขาช่วยเติมเต็มบทเพลงรึเปล่า หากคุณสังเกตเห็นสิ่งที่ทำให้คุณเกิดแรงบันดาลใจในการเต้นของคนเหล่านั้น มันอาจช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกการเต้นแบบที่ใช่สำหรับคุณได้
  5. หลายๆ ชุมชนมีคลาสเต้นเบื้องต้นให้เรียน มันอาจช่วยให้ให้คุณรู้จักรูปแบบการเต้นที่หลากหลายได้เลยทันที ลองไปติดต่อแผนกสันทนาการและสวยสาธารณะหรือห้องสมุดดู
    • หากชุมชนของคุณไม่มีสิ่งนี้ ลองไปดูตามวิทยาลัยชุมชนใกล้บ้าน คลาสเรียนเต้นที่วิทยาลัยชุมชนราคาไม่แพงเลย
  6. หากคุณมีสภาพร่างกายที่ดี และมีความสามารถในการยืดขาและพ้อยต์เท้า ให้ลองเต้นบัลเลต์คลาสสิค ไม่ใช่ไปเลือกเต้นฮิปฮอป เวลาที่คุณศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการเต้น ให้แน่ใจว่าคุณรู้ที่ทางของร่างกายของตนเอง ดูว่าแบบไหนที่คุณน่าจะเต้นได้ดี อย่างไรก็ดี ให้ระลึกไว้เสมอว่า คุณกำลังเรียนรู้ คุณสามารถทำได้และคุณจะพัฒนาร่างกายให้มีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้นได้
  7. ถึงคุณจะลองเต้นสไตล์อื่นๆ ได้เสมอในภายหลัง ก็ให้เริ่มต้นด้วยการเต้นประเภทเดียวก่อน ให้ตั้งใจเรียนการเต้นประเภทนั้นก่อนที่จะเปลี่ยนไปเต้นอย่างอื่น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เต้นตามจังหวะของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องการพื้นที่ในการฝึกซ้อม เลือกที่ที่มีพื้นแข็งแรง ซึ่งคุณสามารถใช้เสียงได้
  2. หลายๆ เพลงจะมีเวอร์ชั่นแดนซ์รีมิกซ์ แต่คุณสามารถเต้นไปกับเกือบเพลงเกือบทุกเพลงที่มีจังหวะที่คงที่
  3. คนบางคนมีปัญหากับการได้ยินจังหวะเพลง หากที่กล่าวมานี้ใช่คุณล่ะก็ ลองฟังเพลงช่วงต้นเพลง ขอให้คนที่รู้เรื่องดนตรีมาช่วยนับจังหวะ เคาะเท้าให้ทันจังหวะ เมื่อคุณจับจังหวะได้ คุณก็สามารถทำได้เองแล้ว [3]
  4. เมื่อคุณรู้สึกถึงจังหวะเพลงแล้ว พยายามขยับร่างกายไปตามจังหวะเพลง แล้วค่อยไปกังวลเรื่องเทคนิคการเต้นทีหลัง ณ จุดนี้ แค่เพียงเรียนรู้ที่จะขยับร่างกายให้ทันจังหวะเพลงก็พอ [4]
    • คุณอาจลองเริ่มจากการขยับแขนก่อน แล้วค่อยเพิ่มการขยับขา (หรือจะกลับกันก็ได้) มันง่ายกว่าที่จะฝึกแค่ส่วนเดียวก่อน ให้ฟังจังหวะให้ดีๆ เพื่อเวลาเต้นท่าต่างๆ จะได้ทันกัน
  5. แน่นอนกว่าคุณคงอยากจะเป็นนักเต้นสุดเจ๋งทันที แต่การเต้นต้องอาศัยเวลาเรียนรู้ หากคุณพยายามเร่งรัดมันมากไป คุณอาจทำให้ตัวเองเจ็บได้
  6. การเริ่มต้นจากขั้นแรกจะช่วยให้คุณเลี่ยงความหงุดหงิดใจได้ มันจะช่วยปรับปรุงเทคนิคของคุณ เพื่อให้คุณเต้นท่าที่มีความซับซ้อนได้ ใช้คลิปสอนเต้นออนไลน์หรือหนังสือเพื่อช่วยในการเรียนรู้การเต้นพื้นฐานไปก่อน
    • สำหรับการเต้นบัลเลต์ ลองท่าพื้นฐานก่อน เช่น เริ่มจากตำแหน่งที่หนึ่ง ตำแหน่งที่หนึ่ง คือ จุดที่ส้นเท้าจะอยู่ติดกัน แต่เท้าจะชี้ไปคนละทาง มันอาจต้องใช้เวลาสักพักเพื่อจะเต้นท่านี้ได้ แต่ก็ให้ใช้สะโพกช่วยเพื่อให้เต้นได้ถูกต้อง แขนของคุณควรตีวงโค้งออกจากหัวไหล่ [5]
  7. ผับบาร์เป็นที่ที่ดีเยี่ยมที่ให้คุณลองท่าเต้นบางอย่าง เช่น เต้นฮิปฮอป เต้นคันทรี่ หรือ เต้นสวิง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ยกระดับการเต้นของคุณไปอีกขั้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจเคยลงเรียนเต้นเพื่อลองเลือกดูว่าจะเต้นประเภทไหนดี แต่ตอนนี้ คุณควรจะมุ่งไปที่การเต้นประเภทใดประเภทหนึ่ง(หรือมากกว่าหนึ่ง) ที่คุณชอบ และเช่นเคย ให้หาที่เรียนเต้นในชุมชนหรือตามวิทยาลัยชุมชนใกล้บ้านคุณ เลือกชั้นเรียนสำหรับผู้หัดเต้น เพราะคุณกำลังเรียนรู้อยู่
  2. การดูนักเต้นมืออาชีพจะช่วยสร้างแผนภาพในสมอง ที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ การดูมืออาชีพเต้นจะช่วยทำให้คุณเต้นท่าต่างๆ นั้นได้ดียิ่งขึ้น เพราะสมองของคุณได้เห็นการเคลื่อนไหวเหล่านั้นไปแล้ว [6]
    • คุณสามารถไปชมการแสดงใกล้บ้านตามที่กล่าวข้างต้น และให้ตั้งใจดูครูฝึกให้ดีเวลาที่ครูแสดงวิธีเต้นให้คุณดู
  3. หากคุณชวนเพื่อนมาเรียนเต้นด้วยกันได้ คุณสามารถใช้เวลานอกชั้นเรียนฝึกฝนไปด้วยกัน วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถให้ความเห็นต่อการเต้นของกันและกัน และยังได้พัฒนาการเต้นไปด้วยกัน [7]
  4. วิธีเดียวที่จะฝึกฝนร่างกาย คือ การฝึกอย่างสม่ำเสมอ นี่จะช่วยให้ร่างกายของคุณเกิดการจดจำ แล้วคุณก็จะสามารถเต้นได้โดยไม่ต้องคิดว่าจะต้องขยับร่างกายส่วนไหนอย่างไร [8]
  5. อัดวิดีโอไว้ และดูว่าตนเองเต้นเป็นอย่างไรบ้าง คุณอาจลองโพสต์วิดีโอการเต้นของตัวเองขึ้นบนเว็บไซด์ที่เกี่ยวกับการเต้นเพื่อถามเคล็ดลับจากนักเต้นคนอื่นๆ [9]
  6. ฝึกหน้ากระจก.การฝึกเต้นหน้ากระจกจะช่วยให้คุณเห็นว่าคุณกำลังเต้นท่าไหนผิดเดี๋ยวนั้นเลย คุณจะได้ไม่ต้องฝึกท่าเต้นที่ผิดๆ [10]
  7. ออกไปหากลุ่มละครเวทีใกล้บ้าน และลองเล่นละครเวทีดู คุณอาจลองดูว่าชุมชนของคุณมีกลุ่มเต้นที่คุณเข้าร่วมได้บ้างหรือไม่
    • หนึ่งในวิธีที่จะค้นเจอกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ คือ ให้คุณตรวจดูจากประกาศกิจกรรมต่างๆ บนหนังสือพิมพ์ คุณจะทราบว่าใครจะเปิดการแสดงอะไรบ้าง และคุณจะได้รู้ว่าใครจะเปิดการแสดงอะไรใกล้บ้านคุณ
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

สร้างร่างกายของตนให้ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเป็นเรื่องสารอาหาร อาหารประเภทดังกล่าวให้สารอาหารในปริมาณมาก ร่างกายของคุณต้องการวิตามินและแร่ธาตุเหล่านั้น เพื่อให้มันทำงานได้ปกติดี คุณจึงควรทานผักผลไม้ทุกวัน [11]
  2. หากคุณเต้นเป็นประจำ คุณควรทานประมาณครึ่งหนึ่งของแคลอรี่ที่ได้จากคาร์โบไฮเดรต อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือให้แบ่งออกเป็น ไขมันประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ และโปรตีนอีก 15 เปอร์เซ็นต์ [12]
    • คาร์โบเฮเดรตช่วยให้พลังงานกับกล้ามเนื้อที่ต้องใช้ในการเต้น ซึ่งให้พลังงานกับคุณ
    • โปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อใหม่อีกครั้ง. การเต้นหนักๆ เป็นจริงเป็นจัง กล้ามเนื้อจะเกร็งและไฟเบอร์จะแตกตัว ซึ่งโปรตีนจะเข้ามาช่วยซ่อมแซมส่วนนี้ [13]
  3. เลี่ยงน้ำตาลทรายขาว ขนมปังขาว และข้าวขาว ให้เลือกทานโฮลเกรนและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้คาร์โบไฮเดรตแทน [14]
  4. คุณต้องเติมของน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป นอกจากนี้ การขาดน้ำอาจทำให้คุณเฉื่อยลงได้ [15]
    • ตั้งเป้าที่ 8 แก้วต่อวัน แก้วละประมาณ 230 มิลลิลิตร
    • ในการเต้นที่หนักและเอาจริงเอาจัง คุณควรดื่มน้ำประมาณ 4 แก้วต่อชั่วโมงเพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไป [16]
  5. ทานปลาหรือไก่เพื่อให้ได้โปรตีน เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวต่ำกว่าเนื้อแดง คุณสามารถทานโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเมล็ดและถั่วฝัก ได้เช่นกัน [17]
  6. เพื่อช่วยสร้างร่างกาย ลองออกกำลังกายประเภทอื่นๆ เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อและความอดทนของร่างกาย
    • ตัวอย่างเช่น การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกายที่ดีมาก ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยคลายความแข็งตึงออกจากบริเวณข้อต่อต่างๆ ด้วย ท่ากรรเชียง เป็นท่าที่เหมาะสมอย่างยิ่งหากต้องการให้ร่างกายส่วนบนคลายตัว [18]
    • เพื่อสร้างกล้ามเนื้อขา ให้ลองปั่นจักรยาน มันเป็นวิธีที่ดีมากที่จะเพิ่มความทนทานโดยรวมของร่างกายอีกด้วย ให้แน่ใจว่าคุณนั่งตัวตรงเวลาขี่จักรยาน ไม่เช่นนั้น มันอาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใกล้ๆ สะโพกของคุณหดตัวได้ [19]
    • เพื่อความยืดหยุ่นและความแข็งแรง ไปเรียนโยคะดู โยคะช่วยยืดกล้ามเนื้อได้ และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับแกนกลางลำตัวได้ด้วยเช่นกัน [20]
  7. การยกน้ำหนักช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ คุณจะเต้นท่าบางท่าได้นานขึ้น หรือเต้นท่าที่คุณไม่คิดว่าจะเต้นได้มาก่อน คุณจะยกน้ำหนักท่ามาตรฐาน เช่น ท่าไบเซป เคิร์ล หรือท่าสควอทขาเดียวก็ได้ แต่แค่คุณบริหารร่างกายสามเซ็ต เซ็ตละหกหรือแปดครั้ง โดยใช้น้ำหนักที่หนักกว่าที่คุณใช้ตามปกติ น้ำหนักที่มากขึ้น (แต่ไม่ต้องเพิ่มจำนวนครั้ง) จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายโดยไม่ต้อง เพิ่มน้ำหนักให้กล้ามเนื้อต้องออกแรงมากไป [21]
    • สำหรับท่าไบเซปเคิร์ล ถือดัมเบลไว้ในมือทั้งสองข้าง ผ่ามือหันเข้าหาตัว ยกแขนทั้งสองข้างเล็กน้อยเพื่อให้ฝ่ามือหันขึ้นข้างบน ยกแขนขึ้นหาหัวไหล่สลับไปมา [22]
    • สำหรับการสควอท ให้คุณยืนให้เท้าสองข้างห่างกันเท่าความกว้างของหัวไหล ถือดัมเบลไว้ข้างหน้า ย่อเข่าสองข้างพร้อมกัน ย่อตัวลงและยืดตัวกลับมาในท่ายืน ทำท่าเดิมซ้ำๆ [23]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากคุณต้องระมัดระวังการใช้เงินเป็นพิเศษ ให้หาวิดีโอสอนเต้นออนไลน์มาดู มันเร็วและฟรี แถมยังสอนท่าเต้นให้คุณด้วย
  • การเริ่มด้วยสเต็ปการเต้นบัลเลต์ง่ายๆ เพื่อให้ได้เทคนิคที่สามารถนำไปใช้กับการเต้นรูปแบบอื่นก็เป็นสิ่งที่ควรทำเช่นกัน
  • หากคุณจะเต้นฮิปฮอป ดูวิดีโอเพื่อช่วยสอนคุณเต้นฮิปฮอป หรือวิดีโอการเต้นแบบไหนก็ได้
  • คุณสามารถเรียนเต้นได้ทุกประเภท เช่น บัลเลต์ แจ๊ส ฮิปฮอป และแบบอื่นๆ จำไว้ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบเต้น คุณอาจลองเล่นยิมนาสติกดูก็ยังได้ และหากว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่ใช่สำหรับคุณ นั่นก็เป็นเรื่องที่โอเค!
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่างพยายามเต้นท่าที่เกินระดับของคุณ/ท่าที่อันตราย จนกว่าจะได้เรียนท่าเต้นเหล่านั้นแล้ว มันอาจทำให้คุณบาดเจ็บได้ง่ายๆ
  • อย่าให้บริเวณที่คุณเต้นมีอะไรมาขวาง คุณจะได้ไม่ปัดหรือชนถูกอะไร ถ้าไม่ทำ คุณอาจบาดเจ็บได้
  • ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ การเรียนกับมืออาชีพ แต่ให้ดูที่ท่าเต้นที่เหมาะกับความสามารถของคุณก่อนเพื่อความปลอดภัย
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 20,459 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา