PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การหัวเราะอาจเป็นยารักษาโรคที่ดีที่สุดได้จริงๆ เพราะมันทำให้เราได้ออกแรงอย่างแข็งขันเพื่อกระชับหน้าท้องและทำให้หัวใจแข็งแรง และการหัวเราะเป็นประจำอาจช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันด้วย แต่การใช้ชีวิตที่เร่งรีบและจริงจังอาจทำให้การหัวเราะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวมากกว่าจะเกิดขึ้นเป็นประจำ ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่มีความสุข มีสุขภาพดี และเต็มไปด้วยความเบิกบาน คุณต้องเรียนรู้ที่จะหัวเราะ อ่านบทความด้างล่างนี้เพื่อเรียนรู้ที่จะทำให้การหัวเราะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

หาอารมณ์ขัน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า คนจะหัวเราะมากขึ้นขณะคาบหลอดไว้ระหว่างฟันมากกว่าเวลาคาบไว้ระหว่างริมฝีปาก นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของคุณตอบสนองจากจิตใต้สำนึกต่อความรู้สึกถึงรอยยิ้มและคาดว่าการหัวเราะจะเกิดขึ้นตามมา ถ้าคุณพร้อมที่จะเริ่มหัวเราะให้บ่อยขึ้นแล้ว การยิ้มให้บ่อยขึ้นก็จะหลอกให้ร่างกายหัวเราะได้เอง [1]
    • หลายคนเวลาทำหน้าเฉยๆ จะดูบึ้งตึง ฝึกให้ตัวเองยิ้มขณะทำงาน วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือแม้แต่ขณะที่คุณกำลังตั้งใจอ่านหนังสือ ทำให้การยิ้มเป็นสีหน้าประจำของคุณ
    • ขณะที่คุณเดินไปทำงานหรือเดินไปขึ้นรถเมล์ ให้ตั้งเป้ายิ้มให้คนแปลกหน้าทุกคนที่คุณเดินผ่าน มันเป็นวิธีการที่ดีที่จะได้ฝึกและเตรียมพร้อมสำหรับการหัวเราะ และยังเป็นสิ่งที่สุภาพด้วย
  2. คุณพร้อมที่จะออกไปสนุกกับเพื่อนๆ ในค่ำคืนนี้ แต่เพื่อนสมัยมัธยมของรูมเมตสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของคุณกลับเริ่มบ่นเรื่องงาน ถ้าคุณเองก็หดหู่อยู่แล้วแถมยังหัวเราะยากอีก มันก็จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ถ้าคุณอยู่ท่ามกลาง "ยัยแก่ขี้บ่น" เพราะฉะนั้นแทนที่จะสังสรรค์กับคนที่ยิ่งทำให้คุณหดหู่ ให้ใช้เวลากับเพื่อนๆ ที่ทำตัวตลกโปกฮาตลอดเวลาและทำให้คุณหัวเราะได้ดีกว่า
    • ควบคุมการสนทนาแบบกลุ่มที่เอาแต่บ่น ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มของคนขี้บ่น ให้เปลี่ยนเรื่องคุย ถ้าทุกคนเอาแต่พูดถึงสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ให้พูดถึงสิ่งที่คุณชอบ คนเรามักจะไหลไปเรื่อยๆ และทำตามคนอื่น เพราะฉะนั้นคนหนึ่งคนสามารถสร้างเสียงหัวเราะได้เรื่อยๆ หลายระดับ นำเสียงหัวเราะกลับมาด้วยการถามคำถามไร้สาระหรือเล่าเรื่องเบาสมองให้พวกเขาฟัง
    • คุณไม่จำเป็นต้องทิ้งเพื่อนที่ไม่ตลกไปเลย แต่พยายามหาเพื่อนใหม่ที่ทำให้คุณหัวเราะและพร้อมจะหัวเราะด้วย เพราะเวลาที่คุณอยู่พวกเขา คุณก็จะพร้อมหัวเราะไปด้วย
    • คุณอาจจะส่งมุกตลกหรือคลิปไปให้เพื่อนๆ ก็ได้ เพราะมันอาจจะทำให้พวกเขาหัวเราะ และพวกเขาก็อาจจะทำให้คุณหัวเราะบ้างด้วยการส่งอะไรตลกๆ มาให้คุณดูด้วย
  3. แม้ว่ารสนิยมของคุณจะไปทางภาพยนตร์ดรามาหรือสยองขวัญมากกว่า ก็ให้พักจากนิสัยปกติของตัวเองก่อนแล้วเปลี่ยนไปดูอะไรที่มีตุ๊กกี้เล่นด้วย หาสิ่งที่ทำให้คุณหัวเราะตัวงอและใช้เวลาไปกับการหัวเราะมากกว่าจะคิดหนักเรื่องพล็อตหรือรู้สึกหดหู่จากการดูภาพยนตร์สารคดี
    • ถ้าภาพยนตร์ตลกสมัยใหม่ไม่ถูกใจคุณ ลองย้อนกลับไปดูภาพยนตร์ที่โจวซิงฉือเล่น ดูโกยเถอะโยมที่น้องพีกับโก๊ะตี๋ปล่อยมุกกันฮากระจาย หรือตั๊ดสู้ฟุดที่เลียนแบบยุคมาเฟียในฮ่องกง “ผีหัวขาด” และ “สตรีเหล็ก” ก็ฮาสุดๆ เหมือนกัน หรือจะให้เก่ากว่านั้นก็คือ “กลิ่นสีและกาวแป้ง” “สติแตกสุดขั้วโลก” “หวานมันส์ ฉันคือเธอ” ลองดูเรื่องเท่งป๊ะต๊ะติ๊งโหน่ง รักเธอเท่าช้าง และยอดตาหลก เพื่อให้รู้ว่าภาพยนตร์ตลกรุ่นปู่ย่าตายายเป็นอย่างไร
    • มันไม่สำคัญว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ทอมแอนด์เจอร์รี่ก็ตลก เทซีเรียลเคลือบน้ำตาลลงในชามแล้วสร้างเช้าวันเสาร์ในวัยเด็กขึ้นมาอีกครั้ง
  4. คุณจะหัวเราะได้ยากขึ้นถ้าคุณเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยการดูข่าวความโหดร้ายและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในช่องไทยรัฐทีวี เพราะฉะนั้นให้ดาวน์โหลดพอดแคสต์ตลกๆ หรือฟังรายการวิทยุตลกๆ แทน แล้วค่อยรับข่าวสารจากการอ่านหนังสือพิมพ์ในช่วงหลังของวัน
    • ถ้าคุณก็อยากรู้ข่าวสารบ้านเมืองสักหน่อยแต่ก็ขอให้มีอารมณ์ขั้นอยู่บ้าง ให้ลองฟังรายการพูดคุยตลกๆ อย่างสัพเพHEYไรว้าาา ที่ทำให้คุณติดตามประเด็นต่างๆ ในสังคมได้ (เกือบ) เท่าคนอื่นๆ แต่เบาสมองกว่ามาก
    • ถ้าคุณติดการอ่านหนังสือพิมพ์ ให้เริ่มจากเรื่องตลกและเรื่องราวความสนใจของมนุษย์ก่อนที่คุณจะดำดิ่งไปกับเรื่องราวที่ชวนหดหู่ พลิกกลับไปกลับมาเพื่อให้อารมณ์ของคุณเบิกบาน อย่าจมดิ่งกับความมืดหม่นมากนัก
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เรียนรู้ที่จะผ่อนคลาย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเรียนรู้ที่จะหัวเราะตัวเองเป็นความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างคนที่มีความสุขกับคนที่เศร้าหมอง ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนช่วงเวลาที่น่ากระอักกระอ่วน ความผิดพลาด หรือข้อบกพร่องของตัวเองให้เป็นโอกาสที่คุณจะได้หัวเราะใส่ตัวเองดังๆ ได้ สิ่งเหล่านั้นก็จะมีผลกับคุณน้อยลง [2]
    • การหัวเราะตัวเองยังช่วยแยกระหว่าง "คนที่คุณเป็น" กับ "สิ่งที่คุณทำ" ออกจากกันด้วย ทุกคนต้องมีช่วงเวลาที่ทำพลาดกันบ้าง และก็ไม่จำเป็นว่ามันจะต้องมานิยามคุณในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง การหัวเราะตัวเองเป็นการสื่อสารทั้งกับตัวเองและคนรอบข้างว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่
  2. เสียงหัวเราะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และตราบใดที่เสียงหัวเราะของคุณสุภาพและเป็นที่มาของความสนุกสนานที่เหมาะสม คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเสียงหัวเราะของคุณจะ "น่าเกลียด" เพราะมันไม่มีจริงหรอก
    • ถ้าคุณตึงเครียดเรื่องการหัวเราะและกังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับคุณตลอดเวลา มันก็ยากที่คุณจะปลดปล่อยและสนุกสนานได้จริงๆ ถ้าคุณคบหากับกลุ่มคนที่ล้อเลียนเวลาที่คนอื่นหัวเราะ ให้หาเพื่อนใหม่
    • โดยทั่วไปคนเรามักจะมองข้ามเสียงหัวเราะแปลกๆ เพราะส่วนใหญ่เรากำลังตอบสนองต่อเรื่องที่มันตลกมากกว่า
  3. คุณอาจจะเป็นคนที่ยุ่งตลอดเวลา แต่การเรียนรู้ที่จะหาเวลาให้ตัวเองและใช้เวลาไปกับการเป็นตัวของตัวเองจะทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้นอย่างมาก ทำให้ใจของคุณสงบและพร้อมที่จะหัวเราะ ความทะเยอทะยานและความพยายามเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องให้พอเหมาะพอควร เพราะฉะนั้นเรียนรู้ที่จะลดทอนการทำตามเป้าหมายและการแข่งขันด้วยการยินดีที่จะหัวเราะตัวเองและมีความสุขกับชีวิต
    • ทำในสิ่งที่คุณชอบทุกวัน ผ่อนคลายด้วยการเล่นแผ่นเสียงและยิ้มให้ตัวเอง ดื่มเครื่องดื่มที่ชอบ ควบคุมอารมณ์ให้ดี
    • พยายามใส่ 15 นาทีในแต่ละวันที่คุณสามารถทำเรื่องสนุกอย่างการดูอะไรตลกๆ สักตอนหรือดูรูปตลกๆ ในอินเทอร์เน็ต ถ้าทำได้ให้พยายามจัดตารางช่วงเวลานี้ไว้ถัดจากช่วงเวลาที่ตึงเครียดที่สุดของวัน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ฝึกหัวเราะ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาที่คุณอยู่บ้านคนเดียวหรือเวลาที่ขับรถไปทำงาน ลองหัวเราะออกมาสัก 2-3 ครั้งอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด เพราะบ่อยครั้งที่ร่างกายต้องได้รับการกระตุ้นก่อนถึงจะมีอารมณ์หัวเราะได้ แม้ว่าคุณอาจจะไม่เจออะไรที่ตลกเป็นพิเศษจนทำให้หัวเราะออกมาได้ แต่การทำให้ตัวเองหัวเราะก็สามารถทำให้คุณเริ่มหัวเราะออกมาได้อย่างอารมณ์ดีจริงๆ
    • เริ่มจากการออกเสียง "ฮ่า" สั้นๆ 3 ครั้งและฝืนหัวเราะออกมาให้ได้หลายๆ รอบเพื่อกระตุ้นอารมณ์ แล้วคุณจะประหลาดใจว่าเสียงหัวเราะที่คุณฝืนออกมามันกลายเป็นการหัวเราะจริงๆ ได้ในพริบตา
    • คิดถึงอะไรที่มันตลกๆ ในอดีตแล้วหัวเราะออกมา นึกถึงมันระหว่างที่หัวเราะเพื่อกระตุ้นเสียงหัวเราะ
  2. การหัวเราะเป็นประจำช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มออกซิเจนในเลือด เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง และหลั่งสารเคมีที่ดีต่อสุขภาพเข้าไปในสมองที่ทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้น เวลาที่คุณหัวเราะ ให้วางมือไว้ที่กระบังลมแล้วสัมผัสมัน เวลาที่คุณฝึกหัวเราะในอนาคต คุณต้องรับรู้ถึงเสียงหัวเราะลึกๆ ในร่างกายของคุณ
    • การทำเหมือนว่าการหัวเราะเป็นการออกกำลังกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อที่ไวต่อเรื่องตลกแข็งแรงขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายท่านถึงกับแนะนำการหัวเราะให้คนไข้โรคหัวใจและมะเร็งควบคู่ไปกับการรักษาอื่นๆ เช่น การรักษาด้วยคีโม ในฐานะส่วนหนึ่งของวิธีการรักษาแบบองค์รวม ฝึกหัวเราะกว้างๆ และหัวเราะจากช่องท้อง หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกดีขึ้น
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Klare Heston, LCSW

    นักสังคมสงเคราะห์ทางแพทย์
    แคลร์ เฮสตันเป็นนักสังคมสงเคราะห์ทางแพทย์อิสระที่มีใบอนุญาตในโอไฮโอ เธอได้รับปริญญาโทด้านสังคมสงเคราะห์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียคอมมอนเวลธ์ในปี 1983
    Klare Heston, LCSW
    นักสังคมสงเคราะห์ทางแพทย์

    รู้หรือไม่ งานวิจัยด้านการแพทย์แสดงให้เห็นว่า การหัวเราะเป็นประจำช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น! ถึงมันจะไม่ถึงขั้นทำให้คุณไม่ป่วยเลย แต่การหัวเราะช่วยสร้างการปกป้องร่างกาย เพราะฉะนั้นคุณก็จะไม่ป่วยบ่อยๆ

  3. ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่าคุณจะหัวเราะให้บ่อยขึ้น พยายามทำให้ตัวเองหัวเราะอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ฝึกหัวเราะหลายๆ รอบระหว่างเดินไปทางไปทำงาน หรือหลังจากที่คุณกลับบ้านแล้วอยากจะผ่อนคลายสักหน่อย
    • ที่ทำงาน ให้หาเวลาพักเพื่อมาหัวเราะเป็นประจำ การหาเวลา 15 นาทีมาจัดคิววิดีโอตลกๆ ใน YouTube และหัวเราะอย่างอารมณ์ดีสักหน่อยนั้นช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและผ่อนคลายด้วย ดีกว่าการไปพักสูบบุหรี่เสียอีก
  4. ถ้าคุณรู้สึกว่าการกระตุ้นการหัวเราะเป็นเรื่องยากเวลาที่อยู่คนเดียว หลายจังหวัดมีกลุ่ม "โยคะหัวเราะ" ที่เป็นการฝึกหัวเราะตามแนวทางที่กำหนดไว้ โยคะหัวเราะก็เหมือนโยคะทั่วไปตรงที่จะมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกอบรมมาแนะแนวทางให้คุณหัวเราะได้ราวกับเป็นกิจวัตรการออกกำลังกาย แม้ว่าการหัวเราะต่อหน้าคนแปลกหน้ากลุ่มใหญ่จะดูเป็นเรื่องไร้สาระ แต่หลายคนก็พิสูจน์แล้วว่าโยคะหัวเราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีผลต่ออารมณ์จริงๆ [3]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สร้างอารมณ์ขันขึ้นมาเองด้วย สร้างมุกตลกขึ้นมาเอง อะไรก็ได้ที่คุณรู้สึกว่ามันตลกจริงๆ
  • แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการหัวเราะที่ดีที่สุดจะมาจากบุคคล แต่การค้นหาคำพูด มุก ภาพ เรื่องราว และอื่นๆ ที่ตลกในอินเทอร์เน็ตก็ช่วยคุณได้เหมือนกัน
  • หลายคนไม่ชอบเวลาที่ตัวเองหัวเราะเพราะภาพลักษณ์ที่ออกมาขณะหัวเราะมากกว่าจะเป็นเสียงหัวเราะจริงๆ ถ้าคุณเป็นแบบนั้น อย่าลืมว่าคุณก็แค่เอามือขึ้นมาปิดปากเวลาหัวเราะก็ได้
  • คุณต้องแน่ใจว่าการหัวเราะของคุณเป็นสิ่งที่คนอื่นรับได้ด้วยการมองไปรอบๆ ขณะหัวเราะ (ถ้าพวกเขาโอเค ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ พยายามกลั้นเอาไว้)
  • ทำหน้าตลกๆ ในกระจกที่ทำให้คุณยิ้มและหัวเราะออกมาได้ในที่สุด
  • เล่ามุกตลกๆ
  • คิดถึงความทรงจำที่มีความสุขหรือตลก การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณหัวเราะออกมาได้ง่ายขึ้น
  • คิดภาพหรือเหตุการณ์บ้าๆ บอๆ ในหัว เช่น ภาพหนูวิ่งไล่กระทิง
  • อาหารที่ดีต่อสุขภาพช่วยเพิ่มระดับพลังงานและอารมณ์ที่ดีโดยทั่วไป!
โฆษณา

คำเตือน

  • การหัวเราะเป็นสิ่งที่ดีก็จริง แต่ก็ไม่ได้ถูกกาลเทศะเสมอไป คุณต้องพร้อมที่จะพูดคุยแบบจริงจังเมื่อสถานการณ์บังคับด้วย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,747 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา