PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ใครเล่น Minecraft ก็จะรู้กันดี ว่าหลงทางในเกมทีนึงยุ่งขนาดไหน ถ้าคุณไม่อยากทิ้งบ้านแสนรัก แล้วไปเริ่มบุกเบิกกันใหม่แต่ต้นในถิ่นรกร้าง บทความวิกิฮาวนี้ก็มีเคล็ดลับดีๆ มาพาคุณกลับบ้านกัน คราวหน้าถ้าจะออกเดินทางสำรวจโลกเมื่อไหร่ ที่ต้องใช้คือพิกัด แผนที่ รวมถึง landmark หรือจุดสนใจต่างๆ จะได้ไม่หลงทางหาบ้านไม่เจออีก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

สำรวจยังไงไม่ให้หลงทาง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. จะมีวิธีไหนแน่นอนไปกว่าการบันทึกเส้นทางด้วยแผนที่ แต่บอกเลยว่าเปลืองไอเท็มชะมัด คุณต้อง craft หรือสร้างแผนที่ก่อน โดยวางเข็มทิศกลาง crafting table แล้วเอากระดาษล้อมรอบ ให้ใช้แผนที่ตอนอยู่ที่บ้าน เพื่อเริ่มบันทึกบรรยากาศรอบบ้านตรงกลางพอดี
    • ถ้าเล่น Minecraft เวอร์ชั่น legacy console ใช้แผนที่แค่แผ่นเดียวก็ครอบคลุมทั้งโลกแล้ว หรืออย่างน้อยก็แทบทั้งหมด ส่วนใครเล่น Minecraft เวอร์ชั่น Java และเวอร์ชั่นใหม่ๆ (เช่น Minecraft เวอร์ชั่นใหม่ของ Xbox One เวอร์ชั่น Android และ iOS ไปจนถึงเวอร์ชั่น Windows 10 ตอนนี้เรียกรวมๆ กันว่า Minecraft หมด) โลกจะไม่มีจุดสิ้นสุด ถ้าจะเดินทางสำรวจไกลๆ ก็ต้องใช้แผนที่หลายแผ่นใน inventory และคอยจดจำว่าอันไหนเป็นอันไหน
  2. ถ้าอยากสร้างแผนที่ขนาดใหญ่ ให้วางแผนที่กลาง crafting table แล้วล้อมด้วยกระดาษ จะได้ออกมาเป็นแผนที่ขนาดใหญ่ ตรงกลางคือตำแหน่งปัจจุบันของคุณ [1]
  3. ให้นึกถึงเรื่องแฮนเซลกับเกรเทล ที่โรยเศษขนมปังให้ตามรอยกลับบ้านได้ ทุกครั้งที่จะออกเดินทางสั้นๆ ไปรวบรวมวัตถุดิบ ให้เก็บ dirt หรือดินกองหนึ่ง หรืออะไรก็ได้ที่ไม่จำเป็นไปด้วย ทุกๆ 2 - 3 ก้าว ให้ทิ้งบล็อกดินไว้ ทีนี้พอขากลับ ก็ตามแนวบล็อกที่ทิ้งไว้กลับบ้านได้เลย
    • หรือทิ้งคบเพลิงไว้เป็นเครื่องหมาย ขากลับจะได้ตามแสงไฟไป สะดวกมากโดยเฉพาะตอนกลางคืนหรือในความมืด
  4. ถ้าต้องเดินทางไกล ให้สร้างหอคอยสูงๆ ที่เห็นเด่นเป็นสง่าทั้ง 2 ฝั่ง วิธีสร้างได้ง่ายที่สุดก็คือมองลงไปที่พื้นตรงๆ กระโดด แล้ววางบล็อกใต้เท้า ทำซ้ำเร็วๆ จนคุณยืนอยู่บนหอคอยสูง จะใช้คบเพลิง, glowstone (หินเรืองแสง) หรือ beacon ด้วยก็ได้ landmark ของคุณจะได้เห็นชัดตอนกลางคืน
    • แต่ละหอคอยต้องมองเห็นกันและกัน
    • เวลาลงจากหอคอยต้องระวัง ถ้าขี้เกียจสร้างบันไดเยอะๆ ก็ต้องลงจากหอคอยโดยที่คอยเบรคตัวเองจากการตกเป็นระยะด้วยบล็อกดิน บอกเลยถ้า "คลิกผิด" จะอันตรายมาก
  5. ขากลับให้ทำลาย landmark จะได้ไม่งงเวลาเดินทางคราวหน้า หรือใช้อะไรวางเป็นรูปลูกศรข้าง landmark โดยชี้ไปทางที่มีบ้านของคุณ
  6. พระอาทิตย์จะขึ้นในทิศทางเดิม และตกในทิศทางตรงกันข้ามเสมอ ถ้าออกเดินทางสำรวจบนดิน ลองสังเกตดูว่าตัวเองกำลังเดินไปทางไหน โดยอ้างอิงจากพระอาทิตย์ขึ้นและตก
    • ถ้าไม่เห็นพระอาทิตย์ ก็ปลูกดอกทานตะวันแทน เพราะจะหันหน้าไปทางตำแหน่งปัจจุบันของพระอาทิตย์เสมอ
  7. ตอนอยู่ใต้ดิน ให้ปักคบเพลิงที่กำแพงแค่ด้านเดียว เช่น ถ้าคบเพลิงเรียงกันอยู่บนกำแพงข้างขวาตอนขาไป คุณจะรู้ตัวว่ากำลังกลับบ้านถ้าเห็นคบเพลิงไปอยู่ทางซ้ายแทน
    • อาจจะปักป้ายไม้พร้อมรายละเอียดแทน หรือใช้ขนสัตว์ย้อมสีเป็นรหัสลับ เช่น ขนสัตว์สีแดงแปลว่า "ทางนี้มีลาวา" ส่วนขนสัตว์สีน้ำเงินก็แปลว่า "ทางออกอยู่ทางนี้"
    • ถ้าหลงทางจริงๆ ก็ให้ขุดขึ้นไปข้างบนตรงๆ จนถึงพื้นดิน แล้วมองหา landmarks เป็นวิธีที่ค่อนข้างเสี่ยง เพราะหินกรวด (gravel) หรือลาวาด้านบนจะทำคุณตายได้
  8. ถ้าคุณมักเดินทางไป-มาระหว่างสถานที่ 2 แห่งเป็นประจำ ให้สร้างเส้นทางที่มีจุดสนใจ เช่น คบเพลิง, ทางเดิน, รั้ว หรือสัญลักษณ์อื่นๆ พอคุณบุกเบิกพัฒนาโลกไปเรื่อยๆ อาจจะถึงขั้นสร้างทางรถไฟ (powered railways) ด้วยรถราง (mine carts) ไว้ใช้เดินทางระยะไกล หรือสร้างสถานีตามถนนหลายๆ จุด เอาไว้ค้างแรมตอนกลางคืน
    • ถ้าอยากเดินทางไกลแบบด่วนทันใจ ให้สร้างถนนตัดผ่าน the Nether ถ้าสร้าง Nether portal ใกล้บ้านแล้ว ก็ให้สร้าง portal ตรงตำแหน่งที่คุณอยู่ปัจจุบัน จากนั้นก็ค้นหา portal เก่าใน Nether ได้เลย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ใช้พิกัด และ/หรือฆ่าตัวตาย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. กด F3 ทางด้านบนของคีย์บอร์ดตอนอยู่ใน Minecraft จะมีข้อความแสดงพิกัดขึ้นมา แกน X กับแกน Y จะบอกตำแหน่งเหนือ-ใต้ (North-South) และออก-ตก (East-West) ส่วนแกน Z จะบอกว่าคุณอยู่ใต้หรือเหนือกว่าระดับน้ำทะเลแค่ไหน จะเห็นว่าพอคุณขยับไปไหน พิกัดนี้ก็จะเปลี่ยนตาม
    • ถ้าใช้คอมของ Apple ให้กด fn กับ F3 พร้อมกัน โดยปุ่ม fn จะอยู่ทางซ้ายล่างของคีย์บอร์ด Apple ส่วนใหญ่
  2. ให้จดแกน X กับแกน Y ไว้ หรือแคปหน้าจอตอนที่ข้อมูลพิกัดขึ้น ถ้าอยู่ที่บ้าน ก็ให้จดพิกัดไว้ จะได้กลับบ้านเร็วทันใจ แต่ถ้าหลงทางเรียบร้อย ก็ยังแนะนำให้จดพิกัด จะได้ใช้วิธีการด้านล่างฆ่าตัวตายเพื่อกลับบ้าน แล้วกลับมาเอาไอเท็มที่ตกไว้ได้ ไม่เสียอะไรไป
    • ถ้าอยู่ใน Hardcore mode จะใช้วิธีนี้ไม่ได้ เพราะถ้าตายเมื่อไหร่ โลกของคุณจะถูกลบหายไป
  3. ถ้ากลัวตายแล้วไอเท็มไหนหาย ให้สร้างหีบแล้วเอาไอเท็มใส่ไว้ ถ้าเล่นในโลก single-player (เล่นคนเดียว) ต้องวางหีบไว้ในตำแหน่งที่เห็นชัดเจน เช่น ที่ยอดหอคอย ถ้าเล่นแบบมีมอนสเตอร์ด้วย ก็ต้องป้องกันไม่ให้หีบระเบิดเพราะ Creepers โดยสร้างเกราะป้องกันล้อมรอบ
    • ถ้าคุณมี "ender chest" ก็ใช้ของข้างในได้ตลอดเวลา จากหีบ ender ไหนก็ได้ในโลก ไม่ต้องกลับไปตำแหน่งที่มีหีบ
    • ถ้าเปิดสูตรโกงไว้ ให้กด T เพื่อเปิดหน้าต่างแชท แล้วพิมพ์ /gamerule keepInventory true ในช่องสูตรโกง เพื่อให้ไอเท็มยังอยู่ใน inventory แม้คุณจะตาย ประหยัดเวลาตามล่าหาไอเท็มไปได้เยอะเลย
  4. เช่น กระโดดจากจุดที่สูงๆ ปล่อยให้มอนสเตอร์ฆ่า หรือจะวิธีไหนก็ตามสะดวก พอตายแล้วคุณจะกลับมาโผล่บนเตียงล่าสุดที่นอน แต่ไม่ได้ไอเท็มติดมาด้วย ถ้าไม่มีเตียง หรือเตียงถูกย้าย ทำลาย หรือวัตถุอื่นทับหรือปิดบังอยู่ คุณจะกลับไปที่ world spawn point หรือก็คือตำแหน่งแรกที่คุณโผล่มาในโลกนั้นแทน
  5. ถ้าจำ world spawn point ไม่ได้ ให้ทำลายเตียงที่คุณโผล่มา แล้วฆ่าตัวตายรอบสอง ถ้ายังมีเตียงเหลือในบ้านอีก คุณก็จะโผล่มาข้างๆ เอง
    • ถ้าคุณโผล่มาข้าง world spawn point แทนเตียง แล้วบ้านไม่ได้อยู่แถวนั้น ก็ต้องใช้แผนที่หรือสูตรโกงหาบ้านอีกที หรือสร้างบ้านใหม่ซะเลย
  6. กด F3 อีกรอบเพื่อดูพิกัดแล้วจดไว้ นั่นแหละพิกัดบ้านคุณ ถ้าเดินจะเห็นแกน x กับแกน y เปลี่ยนไป จากนั้นก็เดินไปตามพิกัดของหีบที่มีไอเท็มได้เลย
    • พูดง่ายๆ ให้เห็นภาพก็คือ สมมุติว่าพิกัดของบ้านคุณคือ x-50 y-100 ส่วนของหีบคือ x-50 y-300 ก็ให้เดินไปทางไหนก็ได้ ที่แกน x ไม่เปลี่ยน (ใกล้ x-50) เปลี่ยนแต่ค่าของแกน y (เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 300)
    • พอรู้พิกัดของบ้านตัวเอง ตอนนี้คุณคงหาทางกลับบ้านง่ายขึ้นแล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ใช้เข็มทิศ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แต่ละโลกของ Minecraft จะมี world spawn point หรือจุดที่ผู้เล่นใหม่ "เกิด" มาในโลก เข็มทิศจะชี้ไปที่จุดนี้เท่านั้น เพราะงั้นถ้าสร้างบ้านแถวนั้นก็จะสะดวกหน่อย แต่เข็มทิศจะ ไม่ ชี้ไปที่ individual spawn point หรือเตียงที่คุณนอนล่าสุด
    • ถ้าจะตามหาบ้านที่อยู่ไกลจาก world spawn point มาก ให้ใช้วิธีอื่นดีกว่า
  2. ถ้าจะทำเข็มทิศ ต้องใช้ iron ingot หรือแท่งเหล็ก 4 แท่ง กับ redstone 1 ก้อน เวลาจะขุดหาเหล็ก ต้องใช้พลั่วหิน (stone pickaxe) หรืออะไรที่ดีกว่า ส่วนเวลาจะขุดหา redstone ต้องใช้พลั่วเหล็ก (iron pickaxe) หรืออะไรที่ดีกว่า เท่านี้ก็จะมีวัตถุดิบ แร่เรดสโตน (redstone ore) จะเป็นบล็อกหินแต้มด้วยสีแดง อยู่ลึกลงไปในดิน เหนือหินดินดานหรือ bedrock ขึ้นมาไม่เกิน 16 บล็อก [2] ส่วนบล็อกแร่เหล็กจะแต้มสีเบจ หาค่อนข้างง่าย
    • อีกวิธีหา redstone ก็คือฆ่าแม่มด (witch) หรือแลก (trade) กับชาวบ้าน ไม่ก็ปล้น (loot) เอาจากวิหารกลางป่า
  3. สร้างเตาเผา (furnace) แล้วคลิกเพื่อเริ่มหลอมเหล็ก จะใช้เชื้อเพลิง (fuel) ชนิดไหนก็ได้ เช่น ถ่านหิน (coal) หรือไม้ (wood) โดยวางในช่องด้านล่าง แล้วเอาแร่เหล็กใส่ในช่องด้านบน เพื่อหลอมแร่เหล็กเป็นแท่งเหล็กหรือ iron ingot
  4. คลิก crafting table แล้ววาง redstone 1 ก้อนที่ช่องกลาง วางแท่งเหล็ก 4 แท่งที่ช่องบน ล่าง ซ้าย และขวาของ redstone แล้วเข็มทิศจะโผล่มาในช่องผลลัพธ์ คุณลากไปใส่ inventory ได้เลย
    • ถ้าอยากประหยัดวัตถุดิบ อาจจะหาเข็มของเข็มทิศ (compass needle) แล้วเอากลับไปที่ inventory แทนตัวเข็มทิศ เพราะเข็มของเข็มทิศในไอคอน จะชี้ไปที่ spawn point เหมือนตอน equip หรือติดตั้งเข็มทิศแล้วอยู่ดี แต่อาจจะลำบากหน่อยถ้าใช้เข็มทิศจำเป็นนี้เวลาเดินทางไกล
  5. ถือเข็มทิศ แล้วจะเห็นรูปเข็มทิศใหญ่ๆ โผล่มาในมือคุณ โดยที่เข็มของเข็มทิศจะชี้ไปทาง world spawn point คุณเดินไปไหนก็จะปรับหมุนให้ชี้ไปทางเดิม คุณก็เดินตามทิศทางที่เข็มชี้ไปจนเจอบรรยากาศที่เริ่มคุ้นเคย
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้สูตรโกง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในเซิร์ฟเวอร์แบบ multiplayer (หลายผู้เล่น) แอดมินจะเป็นคนกำหนดว่าจะเปิดสูตรโกงได้ไหม แต่ถ้าเป็นโลกแบบ single-player (ผู้เล่นเดียว) คุณก็เลือกตามสบาย ว่าจะใช้สูตรโกงได้ไหม ตั้งแต่ตอนสร้างโลกเลย แต่จะเลือกเปิดสูตรโกงเฉพาะเกมตานี้ก็ได้ โดยไปที่เมนูแล้วคลิก Open to LAN เลือก "Enable Cheats" แล้วคลิก Start LAN World [3]
  2. กด T ที่คีย์บอร์ด เพื่อเปิดหน้าต่างแชท จากนั้นพิมพ์ /tp (username ของคุณ) (ชื่อของผู้เล่นอื่น) แบบไม่ต้องพิมพ์วงเล็บ เพื่อเทเลพอร์ตไปยังผู้เล่นนั้น คุณจะเทเลพอร์ตไปได้พร้อมไอเท็มทั้งหมดเลย ถ้าเล่นแบบ single-player หรือไม่รู้จักผู้เล่นอื่นแถวบ้านหรือ landmark ที่คุ้นเคย ก็จะเทเลพอร์ตไปได้แค่ตามพิกัดที่ระบุ ให้พิมพ์ /tp (username ของคุณ) (x) (y) (z)
    • ถ้าอยากรู้รายละเอียดให้อ่านวิธีการ 2 "ใช้พิกัด และ/หรือฆ่าตัวตาย"
  3. ใน creative mode ตัวคุณจะไม่มีวันตาย (เว้นแต่ตกลงไปใน the Void หรือใช้คำสั่ง /kill) แถมเหาะได้ด้วย เลยหาบ้านตัวเองเจอง่ายนิดเดียว ให้คุณเปิดหน้าต่างแชทแล้วพิมพ์ /gamemode creative (username ของคุณ) แบบไม่มีวงเล็บ พอเจอบ้านแล้วก็ร่อนลงไปที่พื้น แล้วพิมพ์ /gamemode survival (username ของคุณ) หรือ /gamemode adventure (username ของคุณ) เพื่อกลับไปยังโหมดเก่าได้เลย
    • ถ้ายังหลงทางไม่เลิก ให้ไปที่เมนู แล้วเลือก render distance สูงสุด ข้อเสียคืออาจทำเกมแล็ก แต่อย่างน้อยก็เห็นได้ไกลกว่าเคย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ผู้เล่น Minecraft ส่วนใหญ่ต้องเคยเสียบ้านไปแล้วอย่างน้อยคนละ 1 หลัง เพราะถอดใจจะตามหา ถ้าคุณจะเดินทางไกล ยังไงก็จะเจอวัตถุดิบใหม่ๆ น่าตื่นตาตื่นใจให้ได้ใช้สร้างบ้านใหม่ที่ดีกว่าอยู่แล้ว หรืออีกทีคือเจอละแวกดีๆ ที่น่าสร้างบ้านกว่าเดิม
  • ถ้าเล่น Minecraft PE ให้ขุดลงไปลึกที่สุด จนบาดเจ็บแล้วตายไป ก็จะกลับมาที่หมู่บ้านหรือบ้านเอง
  • ถ้าเล่นเกมเวอร์ชั่น 1.9 หรือใหม่กว่า แล้วจะเดินทางไกลบนดิน ให้เตรียมพลั่วแบบ shovel ไปหลายๆ อัน แล้วใช้แตะหรือคลิกขวาที่บล็อกหญ้า บล็อกหญ้าก็จะกลายเป็นสีเหลือง เหมือนทางเดิน
  • ถ้าเล่นแบบ multiplayer ให้อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เพราะเดี๋ยวต้องมีคนช่วยสู้ไม่ก็ขุดจนได้
  • สร้างหอคอยจากบล็อกดินที่หน้าบ้านเลย จากนั้นวางคบเพลิงด้านบน เท่านี้คุณก็ได้ beacon แล้ว! ต่อไปก็หาทางกลับบ้านสะดวก หรือถ้ามี จะใช้ glowstone ก็ได้ เพราะสว่างกว่าเยอะเลย
  • ควรสร้างบ้านแถวๆ spawn point หรือวางบล็อกเป็นแนวทางให้ตามกลับมาถึงบ้านได้ ถ้าอยู่ไกล
  • ให้สร้างบ้านด้วยแผ่นไม้โอ๊ค (oak wood plank) แล้วใช้แผนที่ช่วยตามหาเวลาหลงทาง
  • ให้เรียงบล็อกดินต่อกันสูงๆ แล้วมองไปรอบๆ เผื่อจะเห็นบ้านตัวเองหรือบรรยากาศที่คุ้นเคย
  • ลองเดินย้อนรอยตัวเองดู แต่ระวังหลงทางกว่าเดิม
  • จดพิกัดบ้านตัวเองไว้ แล้วใช้คำสั่ง /tp เทเลพอร์ตกลับไป
  • ถ้าหลงจนถอดใจ ก็สร้างบ้านใหม่ซะเลย คราวนี้อย่าลืมจดพิกัดไว้ด้วย ถ้าอยากตามหาบ้านเก่าเมื่อไหร่ก็ทำได้ อย่างน้อยก็เท่ากับมีบ้านสำรองแล้ว
  • หรือติดตั้ง minimap mod เอาไว้ช่วยหา landmark ต่างๆ ที่น่าสนใจ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 46,572 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา