ลำดับเลขคณิตคืออนุกรมของจำนวนที่แต่ละพจน์เพิ่มขึ้นด้วยปริมาณที่คงที่ ถ้าเราต้องการหาผลบวกของลำดับเลขคณิต เราสามารถนำจำนวนทั้งหมดมาบวกกันเลยก็ได้ แต่ถ้าจำนวนในลำดับเลขคณิตนั้นมีค่ามาก การนำจำนวนทั้งหมดมาบวกกันอาจทำได้ยากลำบาก เราจึงต้องหาผลบวกของลำดับเลขคณิตด้วยการนำจำนวนพจน์ที่มีทั้งหมดในลำดับเลขคณิตนั้นมาคูณกับค่าเฉลี่ยของพจน์แรกและพจน์สุดท้าย
ขั้นตอน
-
ดูสิว่าจำนวนเหล่านั้นเป็นลำดับเลขคณิตไหม. ลำดับเลขคณิตคือชุดตัวเลขซึ่งเรียงไปตามลำดับ โดยที่การเปลี่ยนแปลงในจำนวนเหล่านั้นเป็นไปอย่างคงที่ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง สูตรการหาผลบวกของลำดับเลขคณิตจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อชุดตัวเลขที่เรามีเป็นลำดับเลขคณิตเท่านั้น
- ถ้าอยากรู้ว่าชุดตัวเลขเหล่านั้นเป็นลำดับเลขคณิตหรือไม่ หาผลต่างระหว่างตัวเลขสองสามตัวแรกและตัวเลขสองสามตัวสุดท้าย ดูสิว่าตัวเลขเหล่านั้นมีผลต่างเท่ากันหรือเปล่า
- ตัวอย่างเช่น ชุดตัวเลข 10, 15, 20, 25, 30 เป็นลำดับเลขคณิต เพราะผลต่างของแต่ละพจน์นั้นเท่ากัน (5)
-
นับสิว่าพจน์ในลำดับเลขคณิตของเรามีกี่พจน์. จำนวนแต่ละจำนวนคือพจน์แต่ละพจน์ ถ้าพจน์มีเพียงไม่กี่พจน์ เราสามารถนับเองได้ แต่ถ้าเรารู้พจน์แรก พจน์สุดท้าย และผลต่างร่วมกัน (ผลต่างระหว่างแต่ละพจน์) ก็จะสามารถใช้สูตรเพื่อหาว่าพจน์ในชุดนั้นมีกี่พจน์ ตอนนี้ให้แทนจำนวนของพจน์ด้วยตัวแปร ก่อน
- ตัวอย่างเช่น ถ้ากำลังหาผลบวกของลำดับเลขคณิต 10, 15, 20, 25, 30 ให้ เพราะในลำดับเลขคณิตนี้มีพจน์อยู่ 5 พจน์
-
ดูสิว่าพจน์ใดเป็นพจน์แรกและพจน์ใดเป็นพจน์สุดท้ายของลำดับนั้น. เราจะต้องรู้ว่าพจน์ใดเป็นพจน์แรกและพจน์ใดเป็นพจน์สุดท้ายเพื่อหาผลบวกของลำดับเลขคณิตนั้น โดยปกติจำนวนแรกจะเป็น 1 แต่ก็ไม่เสมอไป เราจะให้ตัวแปร แทนพจน์แรกในลำดับเลขคณิตนั้นและ แทนพจน์สุดท้ายของลำดับเลขคณิตนั้น
- ตัวอย่างเช่นในลำดับเลขคณิต 10, 15, 20, 25, 30 ฉะนั้น และ
โฆษณา
-
แทนค่า , และ ลงไปในสูตร. เราต้องแทนค่าให้ถูกต้อง
- ตัวอย่างเช่น ถ้าลำดับเลขคณิตของเรามี 5 พจน์ 10 คือพจน์แรก และ 30 คือพจน์สุดท้าย เมื่อแทนค่าเหล่านี้ลงในสูตรแล้วก็จะได้เป็น
-
หาค่าเฉลี่ยของพจน์แรกและพจน์ที่สอง. หาค่าเฉลี่ยด้วยการนำจำนวนทั้งสองมาบวกกันและหารด้วย 2
- จากตัวอย่างที่ยกมา
- จากตัวอย่างที่ยกมา
-
นำจำนวนพจน์ในอนุกรมนั้นมาคูณค่าเฉลี่ย. เราก็จะได้ผลบวกของลำดับเลขคณิตนั้น
- จากตัวอย่างที่ยกมา
ฉะนั้นผลบวกของลำดับเลขคณิต 10, 15, 20, 25, 30 คือ 100
โฆษณา - จากตัวอย่างที่ยกมา
-
หาผลบวกของจำนวนระหว่าง 1 และ 500. ลองมาดูตัวอย่างการหาผลบวกของลำดับเลขคณิตของจำนวนเต็มที่มีลำดับต่อเนื่องกัน
- หาจำนวนพจน์ ( ) ในลำดับเลขคณิตนั้น เนื่องจากจำนวนเต็มที่มีลำดับต่อเนื่องกันมี 500 พจน์ ฉะนั้น
- หาพจน์แรก ( ) และพจน์สุดท้าย ( ) ในลำดับเลขคณิตนั้น เนื่องจากลำดับเลขคณิตนั้นเริ่มตั้งแต่ 1 สิ้นสุดที่ 500 ฉะนั้น และ
- หาค่าเฉลี่ยของ และ :
- คูณค่าเฉลี่ยด้วย ก็จะได้
-
หาผลบวกของลำดับเลขคณิตเมื่อโจทย์กำหนดค่าต่างๆ มาให้. พจน์แรกในลำดับเลขคณิตคือ 3 พจน์สุดท้ายในลำดับเลขคณิตนี้คือ 24 ผลต่างร่วมกันคือ 7
- หาจำนวนพจน์ ( ) ในลำดับเลขคณิตนี้ เนื่องจากจำนวนแรกคือ 3 และจำนวนสุดท้ายคือ 24 จำนวนแต่ละจำนวนเพิ่มขึ้นทีละ 7 ชุดลำดับเลขคณิตนี้ประกอบด้วย 3, 10, 17, 24 (ผลต่างร่วมคือผลต่างระหว่างจำนวนแต่ละจำนวนในลำดับเลขคณิตนี้) [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ฉะนั้น
- หาพจน์แรก ( ) และพจน์สุดท้าย ( ) ในลำดับเลขคณิตนี้ จะเห็นว่าลำดับเลขคณิตเริ่มจาก 3 ไปจนสิ้นสุดที่ 24 ฉะนั้น และ
- หาค่าเฉลี่ยของ และ :
- คุณค่าเฉลี่ยด้วย ก็จะได่
-
ลองแก้โจทย์ปัญหาลำดับเลขคณิต. เมธาวีเก็บเงินในสัปดาห์แรกของปีได้ 50 บาท เธอเก็บเงินเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 50 บาท พอสิ้นปีเมธาวีจะมีเงินเก็บเท่าไหร่
- หาจำนวนพจน์ ( ) ในลำดับเลขคณิต เนื่องจากเมธาวีเก็บเงิน 52 สัปดาห์ (1 ปี) ฉะนั้น
- หาพจน์แรก ( ) และพจน์สุดท้าย ( ) ของลำดับเลขคณิตนั้น เธอเก็บเงินในสัปดาห์แรก 50 บาท ฉะนั้น เธอเก็บเงินในสัปดาห์สุดท้าย ฉะนั้น
- หาค่าเฉลี่ยของ และ :
- คูณค่าเฉลี่ยด้วย ก็จะได้ ฉะนั้นตอนสิ้นปีเธอจะมีเงินเก็บ 68,900 บาท
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 59,877 ครั้ง
โฆษณา