ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ได้เงินมาเปล่าๆ เลยใช่ไหม แหม มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงละ! AdSense ของกูเกิลนั้นเป็นโอกาสของการแบ่งปันรายได้สำหรับเว็บไซต์ทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ในการวางโฆษณาสินค้าและบริการที่มีความเชื่อมโยงกับเนื้อหาในเว็บของคุณ โดยพุ่งเป้าหมายไปที่ผู้คนซึ่งเข้ามาชมหน้าเพจของคุณ โดยคุณจะได้รับค่าโฆษณาจำนวนเล็กน้อยเป็นการตอบแทนเมื่อโฆษณาได้รับการลงบนหน้าเพจหรือถูกคลิกเข้าไปดู เราจะแสดงไอเดียดีๆ บางอย่างที่คุณสามารถนำไปเพิ่มในหน้าเพจเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ทาง AdSense ของคุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สร้างรหัสหน่วยโฆษณา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไปที่ AdSense แล้วคลิกที่ My ads ทางด้านซ้ายบน
    • สร้างรหัสหน่วยโฆษณาใหม่ ในบริเวณหน้าจอหลักภายใต้ Content > Ad units, คลิกปุ่ม +New ad unit
  2. นี่สามารถเป็นชื่ออะไรก็ได้ที่เหมาะกับคุณ แต่หลายคนพบว่าการตั้งชื่อแบบมาตรฐานจะช่วยเราจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ดีกว่า
    • ตัวอย่าง ใช้ [ไซต์เป้าหมายสำหรับโฆษณา]_[ขนาดโฆษณา]_[วันที่ลงโฆษณา] เป็นแนวทางหนึ่งซึ่งจะเขียนออกมาเป็นแบบนี้: mywebsite.com_336x280_080112 ไม่ว่ารูปแบบไหนที่คุณเลือกใช้ตั้งชื่อ ทำให้มันเป็นมาตรฐานสำหรับตัวเอง
  3. ดู "วิธีทำ" ด้านล่างสำหรับรายละเอียด แต่กูเกิลได้ทำ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ที่จะเพิ่มยอดคลิกได้
  4. ตรงนี้จะกำหนดประเภทของโฆษณาที่คุณจะเห็นบนเว็บไซต์ของคุณ: มีเฉพาะข้อความ; ข้อความกับรูปภาพ/ริชมีเดีย; และรูปภาพ/ริชมีเดียเท่านั้น
  5. ช่องทางการปรับแต่งตามตนเองจะทำให้คุณสามารถรวบรหัสหน่วยโฆษณาเข้าเป็นกลุ่มตามแบบอะไรก็ตามที่คุณเลือก เช่น ตามขนาดหรือตามตำแหน่งบนหน้าเพจ
    • คุณสามารถติดตามผลจากช่องทางที่ว่านี้ และเปลี่ยนช่องทางของคุณให้กลายเป็นตำแหน่งการลงโฆษณาที่เจาะสู่เป้าหมายได้ เพื่อที่ผู้ลงโฆษณาจะเจาะกลุ่มเป้าหมายเข้ากับรหัสหน่วยโฆษณาของคุณ
  6. นี่จะให้คุณได้เลือกสีสำหรับองค์ประกอบหลากหลายของชิ้นงานโฆษณา: เส้นกรอบ พาดหัว ฉากหลัง ข้อความ และ URL มันยังให้คุณได้เลือกกรอบแบบต่างๆ จากกรอบสี่เหลี่ยมเป็นกรอบโค้งมน ฟอนต์ต่างๆ และค่าเริ่มต้นของขนาดฟอนต์
    • ฝึกสร้างสไตล์โฆษณาที่ดูกลมกลืนไปกับหน้าตาและโทนสีของเว็บไซต์คุณก็เป็นเรื่องที่ดี
    • คุณสามารถใช้ค่าตั้งล่วงหน้าของกูเกิลหรือจะใช้การตั้งค่าเฉพาะตัวของคุณเองก็ได้ ไม่ว่าจะแบบไหน ก็จะมีโฆษณาตัวอย่างขึ้นมาให้ดูทางขวาว่าโฆษณาจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร
  7. เมื่อคุณจัดการกับระบบการตั้งโฆษณาแล้ว ให้เซฟรหัสหน่วยโฆษณานั้น หรือคลิกที่ปุ่ม Save and get code ทางด้านล่างเพื่อรับโค้ด HTML สำหรับเว็บไซต์ของคุณ
    • หากคุณยังงงและต้องการความช่วยเหลือจากการเพิ่มโค้ดเข้าไปในเว็บไซต์ โปรดคลิก ที่นี่ สำหรับคำแนะนำเรื่องการวางโค้ดของกูเกิล
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ออกแบบแคมเปญโฆษณาของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในการออกแบบแคมเปญโฆษณาไม่ว่าแบบใดก็ตาม มันจำเป็นที่จะต้องทราบลูกค้าเป้าหมายก่อน เช่น หากคุณเขียนบล็อกการทำอาหารสำหรับชายโสดแบบประหยัดเงิน คุณได้จำกัดขอบเขตคนที่น่าจะสนใจในเรื่องนี้ลงมาแล้ว และคุณก็มีจุดโฟกัสที่ดีสำหรับโฆษณาของคุณ ชายโสดที่ทำอาหารเองน่าจะสนใจในเรื่องอะไรบ้าง ความเป็นไปได้ก็อย่างเช่น การนัดสาว รถยนต์ ภาพยนตร์ การเมือง และดนตรีแสดงสด
    • ลองคิดว่าใครน่าจะเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณบ่อยๆ จดสิ่งที่คุณรู้สึกว่าเป็นบุคลิกลักษณะที่สำคัญที่สุดของผู้เข้าชม
  2. ในขณะที่ AdSense จะจับกลุ่มหน้าเพจของคุณกับโฆษณาใดๆ ที่พวกเขารู้สึกว่ามันมีความเชื่อมโยงกันโดยอัตโนมัติ ให้ใช้เครื่องมือที่พวกเขามีให้เพื่อจะควบคุมให้มันรัดกุมขึ้น
    • จัดตั้งแชนแนล. แชนแนลก็เหมือนกับฉลากที่ให้คุณติดกำกับรวมกลุ่มรหัสหน่วยโฆษณาตามแบบของคุณ เช่น รวมตามสี ตามหมวด หรือตามหน้าเพจ โดยการจัดตั้งแชนแนลนี้ คุณก็จะได้รับรายงานอย่างละเอียดถึงผลงานของรหัสหน่วยโฆษณาแต่ละตัวของคุณ และนำมันมาใช้เอื้อประโยชน์คุณเอง ตัวอย่างเช่น:
      • ใช้โฆษณาสไตล์เดียวในหน้าเพจหนึ่งกลุ่ม แล้วใช้อีกสไตล์บนหน้าเพจอีกกลุ่ม ติดตามและเปรียบเทียบผลงานของทั้งสองสไตล์ แล้วเลือกสไตล์ที่มีผลงานดีที่สุด
      • เปรียบเทียบผลงานบนหน้าเพจที่เน้นในเรื่องต่างกัน เช่น หากหน้าเพจของคุณในเรื่องการทำสวนมีผลงานที่ดีกว่าหน้าทำอาหาร คุณอาจต้องพิจารณาเพิ่มหน้าการทำสวนขึ้นไปอีก
      • หากคุณมีโดเมนที่แยกกัน ตั้งแชนแนลที่ติดตามแต่ละโดเมนเพื่อดูว่าอันไหนมีคนคลิกเข้ามาดูมากกว่ากัน
  3. เพิ่มประสิทธิภาพตำแหน่งการวางโฆษณาและการออกแบบเว็บไซต์. กูเกิลค้นพบว่ามันมีตำแหน่งการวางที่โฆษณาจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม และมีตำแหน่งที่ด้อยกว่า
    • โฆษณาที่ปรากฏเวลาที่คุณเข้ามาที่หน้าเพจครั้งแรก (เช่น "โฆษณาพาดหัว" อย่างที่ใช้กันในวงการหนังสือพิมพ์) มักจะได้ผลกว่าโฆษณาที่ต้องเลื่อนลงมาดู
    • โฆษณาทางมุมบนซ้ายจะได้ผลกว่าโฆษณาทางด้านล่างขวา
    • โฆษณาที่อยู่เหนือเนื้อหาหลักโดยตรง กับโฆษณาที่ปรากฏตรงด้านท้ายเพจเหนือข้อความท้ายหน้ามักจะได้ผลดี
    • โฆษณาที่วางในแนวกว้างกว่ามักจะประสบความสำเร็จสูงกว่า เพราะมันอ่านได้ง่ายกว่า
    • โฆษณาที่มีรูปภาพหรือวิดีโอจะได้ผลกว่า
    • การใช้สีที่เข้ากับสีเว็บไซต์ของคุณจะทำให้มันอ่านได้สบายตากว่า จึงได้ผลดีกว่า
  4. AdSense จะส่งโฆษณาไปที่เว็บไซต์ของคุณอัตโนมัติ โดยคำนึงจากเกณฑ์แตกต่างกันไม่กี่อย่างดังนี้:
    • การวางโฆษณาตามบริบทของกลุ่มเป้าหมาย (Contextual targeting) AdSense จะสแกนหน้าเพจของคุณ วิเคราะห์เนื้อหา และหาโฆษณาที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับเนื้อหาของคุณ พวกเขาทำได้โดยใช้การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด การหาความถี่ของคำ ขนาดฟอนต์ และโครงสร้างของลิงก์เชื่อมต่อของเว็บคุณ
    • การวางโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย (Placement targeting) นี่จะเป็นการยอมให้ผู้ลงโฆษณาเลือกจะวางโฆษณาของตนลงบนตำแหน่งจำเพาะของเว็บไซต์ผู้เผยแพร่เนื้อหา หากเว็บไซต์ของคุณตรงกับเกณฑ์ข้อกำหนดของผู้ลงโฆษณาพอดี โฆษณาของพวกเขาก็จะปรากฎบนหน้าเพจของคุณ
    • การวางโฆษณาตามความสนใจ (Interest-based advertising) นี่จะยอมให้ผู้ลงโฆษณาเข้าถึงผู้ใช้งานผ่านทางความสนใจของพวกเขาและปฏิสัมพันธ์ก่อนหน้าของผู้ใช้กับพวกเขา เช่น การแวะเข้าไปชมเว็บไซต์ของพวกเขา โปรแกรม Ads Preferences Manager ของกูเกิลอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกหมวดหมู่ความสนใจของตนเอง ซึ่งจะยิ่งช่วยผู้ลงโฆษณาให้ตีวงแคมเปญโฆษณาของตนได้แคบลงตรงจุดยิ่งขึ้น วิธีนี้เหมาะแก่การหาเงินเข้าเว็บได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะมันเพิ่มมูลค่าสำหรับผู้ลงโฆษณา และช่วยให้ผู้เข้าชมได้พบเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับความสนใจของตน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เรียนรู้ว่ามันมีมูลค่าเท่าไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาที่คุณลงทะเบียนใน AdSense คุณคงต้องการอยากทราบว่ารายได้แบบไหนที่คุณคาดหวังว่าจะได้เห็น มันมีหลายสิ่งที่ใช้ประกอบว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนกลับมาอย่างไร และการจัดการสิ่งเหล่านี้จะช่วยคุณเพิ่มประสิทธิภาพการได้รับผลตอบแทน
  2. อย่างแรกและสำคัญที่สุด เพื่อที่จะสร้างรายได้จาก AdSense คุณจะต้องมีคนคลิกเข้าโฆษณาของคุณ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อคุณมีคนเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณและอ่านเนื้อหา! ไม่ว่าคุณจะมีเว็บไซต์เพื่อการค้าหรือบล็อกส่วนตัว กฎเหมือนกันหมด นั่นคือ: ทำให้คนรู้จัก!
    • เว็บไซต์ใหญ่ๆ ที่มีคนเข้าชมจำนวนมากอาจมีคนเข้ามาเป็นล้านคนต่อวัน ในขณะที่บล็อกเล็กๆ อาจรู้สึกโชคดีแล้วที่มีผู้เข้าเยี่ยม 100 คนต่อวัน
    • สำหรับทุกๆ การเข้าชมหนึ่งพันครั้งที่คุณได้รับ คุณจะได้เงินจาก $.05 ถึง $5 (1.50 – 150 บาท) ใช่ มันเป็นช่วงที่กว้างมาก นั่นหมายถึง $1.50 กับ $150.00 (150 – 5,000 บาท) ต่อเดือนเลยเชียว! คุณคาดหวังว่าจะอยู่ตรงช่วงระยะไหรนั้น ขึ้นอยู่กับตัวคุณ เว็บไซต์ของคุณ และความพยายามในการโปรโมทเว็บของคุณนั่นเอง
  3. นี่เป็นการจ่ายเงินให้ทุกครั้งที่มีใครสักคนคลิกโฆษณาบนหน้าเพจของคุณ ไม่ คุณไม่สามารถคลิกโฆษณาของคุณเองได้ กูเกิลจะมองเห็นได้ และจะปิดเพจคุณเร็วกว่าที่คุณจะทำอะไรได้เสียอีก ผู้ลงโฆษณาจะกำหนดราคาสำหรับโฆษณาเหล่านี้ และมันสามารถแตกต่างกันได้
    • ผู้ลงโฆษณาอาจใช้เงินสูงบนพื้นฐานของการจ่ายต่อคลิก แต่โฆษณาชิ้นนั้นอาจมีคนให้ความสนใจน้อยบนเว็บไซต์ของคุณก็ได้
    • โฆษณาที่อาจจ่ายเงิน $.03 (1 บาท) ต่อคลิก อาจได้ 100 คลิก แต่ก็ไม่ค่อยทำเงินอะไรเท่าไหร่
  4. นี่จะเป็นเปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณเมื่อเปรียบเทียบกับว่ามีผู้ที่คลิกโฆษณาเข้าไปจริงๆ กี่คน หากมีคน 100 คนแวะเข้ามาในเว็บไซต์ และมีเพียงคนเดียวที่คลิกโฆษณา CTR ของคุณจะเท่ากับ 1% และนั่นเป็นจำนวนที่ไม่สมเหตุสมผล คุณจะเห็นได้ว่าการมีคนเข้ามาชมเว็บไซต์เยอะๆ จะสร้างความแตกต่างได้
  5. นี่เป็นตัวเลขคาดการณ์ว่าคุณจะมีรายรับเท่าใดเมื่อคุณมีผู้เข้าชมเพจ 1000 ครั้ง
    • เช่น หากคุณทำเงิน $1 (35 สตางค์) ต่อการเข้าชม 100 ครั้ง RPM ของคุณจะอยู่ที่ $10 (350 บาท) ไม่มีอะไรรับประกันว่าคุณจะได้เท่านั้น แต่เป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบผลงานโดยรวมของเว็บไซต์ของคุณ
  6. คุณภาพของเนื้อหาเป็นปัจจัยสำคัญในการทำความเข้าใจศักยภาพการหารายได้ของคุณ หากเว็บคุณมีเนื้อหาที่น่าสนใจและเอื้ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ คุณจะมีผู้เข้าชมมากขึ้น กูเกิลก็จะมีเวลาในการหาโฆษณาประเภทที่จะเหมาะกับเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น เมื่อมีผู้สนใจเข้าชม + โฆษณาตรงกับเป้าหมาย = $$$
  7. หว่านคีย์เวิร์ดที่ผ่านการศึกษามาแล้วอย่างดี และสามารถสร้างกำไรกระจายไปในเพจ และแปะลิงก์คุณภาพกับเว็บคุณเยอะๆ
    • หากเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาเกี่ยวกับการรวบรวมหนี้ การบริการพื้นที่ฝากเว็บ หรือมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับแร่ใยหิน คุณจะได้รับรายได้ต่อคลิกมากกว่าเว็บที่เกี่ยวกับการให้สัตว์เลี้ยงฟรีแน่นอน
    • หากคุณใส่ใจแต่เฉพาะคีย์เวิร์ดระดับยอดที่จ่ายผลตอบแทนสูง คุณต้องเจอกับคู่แข่งมากมาย สิ่งที่คุณต้องการคือคีย์เวิร์ดที่มีอุปสงค์สูงและอุปทานต่ำ ดังนั้นควรศึกษาคีย์เวิร์ดด้วยความระมัดระวังก่อนเริ่มสร้างเพจ
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • ถึงแม้กูเกิลจะไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดว่าพวกเขาพิจารณาโฆษณามาใส้ในเพจแต่ละเพจอย่างไร พวกเขาก็ย้ำอยู่เสมอว่าเนื้อหาในเพจเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่พวกเมตาแท็ก
  • หลีกเลี่ยงตัวอักษรที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษบนเพจที่เป็นภาษาอังกฤษ มันมีบั๊กตัวหนึ่งที่จะทำให้เพจนั้นแสดงโฆษณาจากฝรั่งเศสที่ไม่เกี่ยวโยงกันเลย
  • คุณภาพคือส่วนที่สำคัญที่สุดของเว็บไซต์ หากเว็บคุณไม่ได้มีเนื้อหาคุณภาพสูง ยากที่ผู้เข้าชมจะกลับมาเยี่ยมชมอีก
  • เว็บมาสเตอร์บางรายออกแบบเว็บไซต์ใหม่เพื่อรองรับโฆษณาแบบเฉพาะข้อความของ AdSense โดยเฉพาะ กระนั้น มันฝ่าฝืนกฎของ AdSense ที่ไม่ต้องการให้ออกแบบเว็บเพื่อ AdSense แต่อย่างเดียว คุณจึงอาจต้องมีเชื่อมลิงก์ที่เกี่ยวโยงหรือขายสินค้าของคุณเองด้วย
  • อีกแหล่งที่สามารถสร้างรายได้คือใช้เว็บที่กระตุ้นการเข้าชมเช่น Flixya คุณสามารถลงทะเบียนทั้ง Adsense และ Flixya โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือเสียเวลามาสร้างยอดผู้เข้าชมด้วยตัวเอง
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าคลิกโฆษณาของคุณเอง หากกูเกิลจับได้ พวกเขาจะแขวนบัญชีของคุณและระงับรายได้ที่คุณอาจจะมี อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไปเผลอกดเข้าสักครั้งสองครั้ง กูเกิลอาจเก็บรายได้นั้นไว้แต่ไม่ลงโทษคุณตราบเท่าที่มันไม่เกิดบ่อยๆ
  • กูเกิลมีข้อบังคับมากมายว่าโฆษณาจะแสดงออกมาแบบไหน เหตุผลหลักข้อหนึ่งที่บัญชีถูกระงับคือเว็บมาสเตอร์พยายามจะเบลอโฆษณา แล้วหลอกล่อให้คนคิดว่ามันคือ "เนื้อหา" สำหรับความเรียบง่ายแล้ว อย่าพยายามใช้ CSS เพื่อแอบซ่อนโลโก้ของกูเกิลเว้นแต่คุณจะได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น!
  • หากคุณไม่มีเนื้อหาเลย กูเกิลจะต้องเดาว่าเพจคุณมันเกี่ยวกับอะไร มันอาจเดาผิด ทำให้โฆษณาที่แสดงไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย
  • ในยุคแรกๆ ของอินเทอร์เน็ต คุณอาจเห็นข้อความทางเว็บไซต์ให้ช่วยๆ กันคลิกที่โฆษณาหน่อย ช่วงเวลาแบบนั้นหายไปนานมากแล้ว หากกูเกิลจับกลโกงแบบนี้ได้ พวกเขาจะไม่คิดว่าคุณทำไปแบบไม่รู้ประสีประสา และสันนิษฐานว่าคุณผิดไว้ก่อน
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,045 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา