ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี แต่ก็มีอีกหลายวิธีที่วัยรุ่นจะหาเงินได้เพียงแค่คุณมีไอเดียดีๆ และเวลาว่างอีกสักหน่อย ลองอ่านไอเดียเหล่านี้ที่อาจทำเงินให้คุณได้ดูสิแล้วจะได้หาแรงบันดาลใจไปทำจริง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ทำงานเพื่อตัวคุณเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มองว่าการทำงานเป็นเหมือนโครงการหรือธุรกิจหนึ่งสิ คุณอาจจะทำงานเอง หรืออาจริเริ่มสร้างบริษัทขนาดจิ๋วโดยร่วมกันทำกับเพื่อน แน่นอนว่าการทำงานเป็นกลุ่มนั้นหมายความว่าพวกคุณต้องแบ่งรายได้กัน แต่มันก็ยังหมายถึงการที่คุณจะสามารถทำงานหลายชิ้นให้เสร็จได้เร็วและที่สำคัญกว่านั้นคือ “ปลอดภัย” ด้วยเพราะคุณจะสามารถไปตามสถานที่ต่างๆ ได้หลากหลายมากขึ้น
    • เมื่อไหร่ที่ทำงานกับเพื่อน ให้แบ่งงานต่างๆ อย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน (วนไปเรื่อยๆ ถ้ามันทำให้ทุกคนพอใจ) ชวนเพื่อนๆ ของคุณไปรอบๆ พื้นที่ที่คุณอยู่หลังเลิกเรียนหรือช่วงสุดสัปดาห์และรับจ้างทำงานต่างๆ กับเพื่อนบ้านเพื่อให้งานพวกนั้นเสร็จเร็วขึ้น โดยคิดราคาที่ตั้งไว้แล้วตามแต่ละงาน
    • คนมากมายอาจไม่กล้ารับวัยรุ่นที่มาเคาะประตูถึงที่คนเดียวเพราะเกรงว่าจะโดนมองว่าทำอะไรที่ไม่ชอบมาพากล แต่ถ้าพวกเขาเห็นว่าพวกคุณมากันเป็นทีม พวกเขาก็จะมั่นใจได้เลยว่าพวกคุณมาทำงานและเสร็จอย่างรวดเร็วโดยไม่ทำให้เพื่อนบ้านต้องกังวล
    • ถ้าคุณกำลังเก็บเงินเพื่อเป้าหมายบางอย่างอยู่ละก็ (เช่น เก็บเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์สักชิ้น หรือเก็บเงินเพื่อไปทริปโรงเรียน) บอกให้คนอื่นรู้ไปเลย เพราะหลายคนมักจะอยากซื้อของมากขึ้นจากคนขายที่มีเป้าหมายและอาจถึงขั้นให้เงินเพิ่มด้วย
  2. ไม่ว่าจะเป็นการรับดูแลเด็ก จูงหมา ล้างรถ หรือแม้แต่การอัดวิดีโอและโพสคลิปออนไลน์ เมื่อคุณมีบริษัทที่เป็นคู่ค้าที่ดีแล้ว เงินก็จะไหลมาเทมามากด้วย การตัดหญ้าให้เพื่อนบ้านนั้นก็นับว่าเป็นอีกงานหนึ่งที่ทำได้เหมือนกัน คุณจะหาเงินได้เยอะเลยทีเดียว แต่งานเหล่านี้ก็เป็นงานที่หนักและอาจกินเวลาทั้งสุดสัปดาห์ ถ้าคุณถูกรู้สึกไขว้เขวหรือหมดหวัง ให้เตือนตัวเองเอาไว้ว่างานหนักๆ ที่คุณทำอยู่นี่แหละที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แท้จริง
    • รวมตัวกันทำงานที่คนไม่ค่อยทำกัน เช่น การแต่งสวน คนหนึ่งตัดหญ้า อีกคนทำความสะอาด ท่อระบายน้ำ อีกคนเล็มหญ้า และอีกคนอาจจะเก็บกวาดเศษขยะทั้งหมด ลองถามพ่อแม่ดูว่ามีอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ในการทำสวนไหม หรือไปเช่าจากร้านอุปกรณ์ก็ได้
  3. ลองไปตามบ้านแต่ละหลังในหมู่บ้านที่ใหญ่หน่อยแล้วคิดค่ากวาดหิมะ 10-20 เหรียญเพื่อกวาดหิมะออกจากทางรถวิ่งของแต่ละบ้าน หรือสัก 30 เหรียญต่อสัปดาห์สำหรับการกวาดหิมะ (คิดเพิ่มถ้าต้องกวาดหิมะที่ถูกรถวิ่งทับไปแล้วซึ่งติดหนึบอยู่กับพื้นและยากที่จะเอาออก) ทำแบบนี้ทุกครั้งที่หิมะตก บางคนอาจถึงขั้นจ่ายเงินให้คุณล่วงหน้าเลยด้วยซ้ำถ้าเขารู้ว่าคุณรับทำงานนี้หรืออีกอย่างหนึ่งคือเขาชอบผลงานการกวาดหิมะของคุณ!
  4. ต่อรองรายได้กับพ่อแม่คุณเพื่อแลกกับการทำงานบ้านเพิ่มเติม ลองเลือกสิ่งที่พวกเขาอาจจะต้องจ้างมืออาชีพมาทำ เช่น การทำความสะอาดห้องน้ำ และคิดราคาแค่ครึ่งหนึ่ง ลองถามพ่อแม่ว่าให้คุณรับทำความสะอาดบ้านสัปดาห์ละครั้ง หรือซักผ้าและล้างจานไหม
    • ต้องแน่ใจด้วยนะว่าทำงานบ้านดีจริงๆ ไม่อย่างนั้นพ่อแม่อาจจะคิดว่ามันไม่คุ้มที่จะจ้างคุณก็ได้
    • ถ้าไม่มีอะไรให้ทำมากนัก คุณอาจจะทำงานด้านอื่นแทนก็ได้ (เช่น “ถ้าผม/หนูพยายามประหยัดน้ำกับไฟมากๆ พ่อแม่เอาเงินที่เราประหยัดได้มาให้ผม/หนูแทนได้ไหม”)
    • พ่อแม่ส่วนใหญ่มักอยากช่วยมากขึ้นอยู่แล้วถ้าพวกเขารู้ว่าคุณมีแผนอะไร ลองเล่ารายละเอียดให้พวกเขาฟังดูสิ
  5. ทั้งการจ่ายตลาด ยกของหนักๆ ซ่อมคอมพิวเตอร์ หรือทำงานอะไรก็ตามที่ผู้สูงอายุเหล่านี้น่าจะทำเองลำบาก พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนเหล่านี้เพราะจำไว้เลยว่าพวกเขาอาจจะเหงาและน่าจะชอบใช้เวลากับคนที่เด็กกว่าเพราะเหมือนได้ใช้เวลากับเพื่อน (เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกเด็กลง) ยิ่งพวกเขารู้สึกดีกับคุณเท่าไหร่ พวกเขาน่าจะยิ่งอยากให้ค่าตอบแทนคุณมากเท่านั้นนะ
  6. ไปตามบ้านต่างๆ ที่อยู่ถนนเดียวกับคุณแล้วคิดบ้านละ 20 บาทเพื่อขนขยะไปที่ริมถนน (อย่าเรียกราคาสูงกว่านี้ เพราะมันเป็นงานที่ง่ายมาก ดังนั้นคุณจึงต้องรักษาอัตราที่สมเหตุสมผลต่อค่าขี้เกียจเดินเอาไว้คนอื่นจึงจะสนใจ) ถ้ามีบ้าน 20 หลังที่จ้างคุณละก็ นั่นก็รวมออกมาเป็น 400 บาทเลยทีเดียวโดยที่คุณแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย
    • คุณอาจจะได้ลูกค้าเยอะกว่าเดิมถ้าไปรับทำงานนี้ในชุมชนที่คนที่เกษียณแล้วอาศัยอยู่กันหรือละแวกที่คุณรู้ว่ามีผู้สูงอายุอาศัยอยู่เยอะ
    • อย่าไปทำในบริเวณที่ชื่อเสียงไม่ค่อยดีหรือเข้าไปในบ้านของพวกเขาด้วยเหตุผลใดก็ตาม ในบางสถานการณ์นั้นถ้าหาเพื่อนร่วมงานมาทำด้วยได้จะดีกว่า
  7. ล้างรถและเก็บรายละเอียดต่างๆ เป็นวิธีการหาเงินอย่างดีวิธีหนึ่งเลย งานนี้ทำได้ง่ายมากโดยต้องอาศัยคนหลายคน คนหนึ่งถูรถด้วยน้ำเปล่าและขัดฟอง อีกคนจัดการกับกระจกรถ อีกสองคนที่เหลือเก็บรายละเอียด จำไว้ว่าต้องดูดฝุ่นด้านในให้สะอาด ทาล้อรถด้วยน้ำยาเคลือบล้อ เช็ดด้านในรถด้วยแปรงขัดไวนิล (ถ้าบริเวณนั้นทำมาจากไวนิล) และที่สำคัญคือ "ทำงานให้ละเอียดถี่ถ้วน" จำไว้ว่าถ้าคนที่คุณทำงานด้วยไม่ชอบการทำงานของคุณ พวกเขาคงไปทำความสะอาดกับร้านมืออาชีพด้วยราคาที่ถูกกว่า คิดไว้เสมอว่าคุณกำลังแข่งกับใครอยู่
  8. คุณคงไม่คิดว่ามีอะไรอยู่ในบ้านที่คนอื่นอยากได้ แต่คุณจะแปลกใจเมื่อเห็นว่าการขายของนิดๆ หน่อยๆ จะทำให้มีเงินเยอะขึ้นอย่างรวดเร็ว โละตู้เสื้อผ้า ห้องใต้หลังคา หรือห้องใต้ดินแล้วรวบรวมทุกอย่างที่คุณไม่ต้องการแล้ว โดยรวมของราคาไม่แพงไปวางขายหน้าบ้าน (เมืองนอกเรียกว่า yard sale) ซึ่งคุณสามารถโฆษณาการขายของนี้ได้โดยติดป้ายตามถนนและในเว็บ Craigslist (ปกติแล้วคนมักจะเอาเสื้อผ้าที่ยังดีอยู่มาขาย ส่วนเสื้อผ้าที่ใช้ไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะเสื้อยืดธรรมดาๆ นั้นมักจะนำไปซักจากนั้นก็มัดรวมเป็นกำแล้วขายเป็นผ้าขี้ริ้ว)
    • หาเงินเพิ่มเติมตอนขายของหน้าบ้านโดยการขายน้ำและขนมที่ทำง่ายๆ ราคาไม่แพง ถ้าอากาศดีก็ขายน้ำมะนาวสิ หรือป๊อบคอร์นถุงเล็กๆ (ทำโดยใช้เตา อย่าใช้ไมโครเวฟเพราะต้นทุนสูงกว่ามาก) หรือน้ำที่เพิ่มความสดชื่นในวันที่แดดออก ถ้าวันไหนอากาศหนาวหรือมีลมแรง เตรียมเป็นชาหรือไซเดอร์แทน คุณสามารถขายของกินเหล่านี้ได้ด้วยราคาที่ถูกมาก (เพราะการขายของนี้ก็ทำแค่เพื่อกำจัดของที่ไม่ใช้แล้ว) หรือไม่ก็แจกฟรีไปเลย (ทำให้คนอยากซื้อของคุณมากขึ้นด้วยเพราะคุณมีน้ำใจและหวังดี) ไม่ก็ให้ฟรีแต่ตั้งกล่องรับบริจาค (คนบางคนใจดีและให้เยอะมากจนทำเอาคุณถึงกับอึ้งไปเลยล่ะ)
    • ถ้าคุณมีเวลา คุณอาจสร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาขายได้ด้วย แต่ต้องแน่ใจว่าจะได้กำไรจริงๆนะ! คุณต้องจำไว้เสมอว่าของอย่างวัสดุต่างๆ นั้นต้องเสียเงินซื้อมาทั้งนั้น
    • ถ้าคุณอยากจะขายของจริงๆ จังๆ ละก็ ต้องรู้จักต่อราคาให้เป็นด้วย
  9. ลงโฆษณาราคาถูกในหนังสือพิมพ์หรือในเว็บเกี่ยวกับงานที่คุณรับทำ เช่น การรับดูแลเด็ก ดูแลบ้าน ดูแลสัตว์ และอื่นๆ คุณยังสามารถรับแจกโบรชัวร์และนามบัตรของคนที่ต้องการโฆษณาอะไรสักอย่างได้ด้วย www.craiglist.com นั้นเป็นเว็บไซต์ที่ดีทีเดียวที่จะโฆษณางานของคุณ แต่วางแผนชวนพ่อแม่หรือผู้ปกครองไปด้วยเมื่อคุณต้องไปรับงาน มันอาจจะดูไม่ดีนัก แต่มีคนอีกมากที่อาจพยายามจะเอาเปรียบคุณอยู่ก็ได้ และคุณควรจะเตรียมตัวเพื่อรับมือกับมัน มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลมาก แต่ก็ควรจะรู้ไว้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

หางานทำทางอินเทอร์เน็ต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขายของผ่านแคตตาล็อกออนไลน์หรือให้เช่าไปใช้. ถ้าคุณมีของราคาแพงไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามให้ขายเป็นชิ้นๆ โดยแยกหมวดและ/หรือผ่าน Craigslist เพื่อดึงดูดคนที่มองหาของประเภทนี้โดนเฉพาะ พวกเขาเหล่านี้มักจะยอมจ่ายราคาที่สมเหตุสมผล (เทียบกับคนที่มาซื้อของที่เราขายหน้าบ้านซึ่งมักเป็นกลุ่มคนที่มองหาของราคาถูกและอาจพยายามต่อราคาของดีๆ ของคุณให้ถูกลงมากๆ) ย้ำอีกครั้งหนึ่ง ต้องคุยกับพ่อแม่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมผ่าน Craigslist ไว้ก่อน หรือที่ดีกว่านั้นคือให้พ่อแม่คุณอยู่ด้วยตลอดทุกครั้งที่มีการขายของ
  2. พวกเขาน่าจะมีของที่มีมูลค่ากว่าของที่คุณมีอยู่ แต่ก็มีเวลาและแรงน้อยกว่าที่จะจัดการกับของเหล่านั้นด้วยเช่นกัน เสนอตัวช่วยขายของราคาสูงเหล่านั้นในเว็บ eBay และที่เหลือที่หน้าบ้าน แล้วขอค่าแรงเป็นเปอร์เซ็นต์จากกำไรที่ได้ อย่าลืมว่าต้องตกลงกันก่อนด้วยล่ะว่าของแต่ละชิ้นจะขายราคาเท่าไหร่และลดได้เท่าไหนถ้ามีคนพยายามต่อราคา
  3. ถ้าคุณมีกล้องที่พอใช้ได้สักตัวแล้วรู้วิธีการจัดองค์ประกอบภาพละก็ ลองถ่ายรูปไว้เยอะๆ แล้วลงขายในเว็บดูสิ ปกติแล้วจะขายได้ราคาไม่สูงมาก แต่มันก็สนุกดีนะ เป็นวิธีการหาเงินนิดๆ หน่อยๆ แบบไม่ต้องดิ้นรนมากขณะที่ได้ทำงานอดิเรกที่น่าสนใจไปด้วย ถ้าคุณมีกล้องดีๆ ลองถ่ายรูปขาวดำแล้วเอาไปแต่งต่อเอง (หรือให้คนอื่นทำ) จากนั้นจึงเอาไปขายเป็นแผ่นๆ อาจจะใส่กรอบรูปหรือไม่ก็ได
  4. ถ้าคุณมีสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว ลองหาแอพพลิเคชั่นที่ให้คุณทำงานเล็กๆ โดยได้รับค่าตอบแทน (หรือจะช่วยจัดหาบริษัทท้องถิ่นที่พร้อมจะจ้างคุณ) งานที่ว่านี้ค่าตอบแทนมักไม่ค่อยสูงแต่ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ (เช่น ถ่ายรูปตัวคุณเองเมื่อทำอะไรสำเร็จสักอย่าง ซึ่งส่วนมากจะทำให้งานวิจัยทางการตลาด) และทำให้เราสะสมเงินได้เร็ว ตัวอย่างแอพแบบนี้ ได้แก่ Gigwalk WeReward และ CheckPoints ดูให้แน่ใจด้วยว่าโครงการนั้นรับวัยรุ่นก่อนที่จะสมัครไป
  5. การวิจัยทางการตลาดนั้นสำคัญมากต่อธุรกิจใหญ่ๆ และเว็บไซต์มากมายยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับความคิดเห็นของคุณ เข้าไปดูตามเว็บต่างๆ ที่รับความคิดเห็นของวัยรุ่น (ไม่ใช่ทุกเว็บที่จะรับนะ) อย่าขอเงินมาก่อน (เพราะมันไม่จำเป็นเลยสักนิด) ให้เสนอราคาไปก่อน (หรือแต้มที่คุณเอาไปแลกเป็นเงินได้) อ่านบทความ How to Make Money with Free Online Surveys เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
  6. วิดีโอที่มีคุณภาพสูงและเข้าถึงคนดูมากนั้นง่ายมากที่จะใช้มาทำเงิน เพราะ YouTube เริ่มฉายโฆษณาก่อนที่วิดีโอฮิตๆ จะเริ่มเล่นแล้ว และคุณมีสิทธิ์ที่ได้รับส่วนแบ่งจากรายได้จากการโฆษณากับวิดีโอยอดฮิตเหล่านี้ คุณอาจจะต้องลงทุนซื้อกล้องถ่ายวิดีโอ อุปกรณ์สำหรับตัดต่อ และต้องรู้ว่าจะทำวิดีโออย่างไรให้ออกมาเด็ดจนต้องแชร์กันถ้วนหน้า แต่มันก็น่าลองดูสักตั้งนะ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

เคล็ดลับอื่นๆ ให้ลอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขอให้ทุกคนช่วยเอาขวดหรือกระป๋องน้ำอัดลม (ไม่ต้องอธิบายนะว่าเอามาทำไม) จากนั้นจึงเตรียมขนมและน้ำจิ้ม (และถังขยะที่ระบุชัดเจนเลยว่าสำหรับรีไซเคิล) และเมื่องานเลิก แต่ถ้าคุณไม่ได้รับการอนุญาตให้จัดงานปาร์ตี้ที่บ้าน ไปจัดที่สวนแทนโดยเอาฟริสบี้ ลูกฟุตบอลหรือของเล่นอื่นๆ ไปด้วย หรืออีกทางหนึ่งคือไปงานปาร์ตี้ของเพื่อนแล้วเสนอตัวที่จะอยู่ช่วยเก็บงานตอนจบ
  2. กำไรข้อมือถักมือ ลูกปัดถุงหนึ่ง หรือปลาวาฬที่ทำจากหลอดพลาสติกสักตัวคงไม่ทำร้ายกระปุกหมูของคุณมากนัก แต่ถ้ามีสัก 50 ชิ้นก็น่าจะมีผลนะ (และมันจะเร็วและง่ายมากกว่าทำอันแรกๆ ด้วย) เนื่องจากคุณน่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขายของในบริเวณรั้วมหาลัยหรือในที่สาธารณะอื่นๆ ดังนั้นลองทำของพวกนี้ออกมาเป็นเซตสวยๆ ดู แล้วเอาไปวางขายหน้าบ้าน หรือถ้าของที่ทำออกมาสวยโดดเด่นมาก ก็ลองโพสขายในเว็บขายของงานฝีมืออย่าง www.etsy.com ดูสิ
    • รวบรวมวัสดุงานฝีมือไปขาย คนที่ชอบงานฝีมือมักจะชอบเพิ่มของจากธรรมชาติเข้าไปชิ้นงานของพวกเขาด้วย คุณอาศัยอยู่ในชนบท มีสวนหลังบ้าน หรือรู้จักใครที่มีรึเปล่าล่ะ ถ้าใช่ลองรวบรวมกิ่งไม้หรือไม้เลื้อยแห้งๆ ดูสิ เชื่อไหมล่ะว่ามีคนที่จะยอมจ่ายแพงเพื่อให้ได้กิ่งจากต้นมานซานิต้า (manzanita) ไม้วิลโล่ที่ขดไปมา กิ่งก้านจากต้นเบิร์ช ก้านไม้ส่วนที่หงิกงอ ดอกตูมของดอกหญ้า และอะไรก็ตามที่มีรูปร่างน่าสนใจ (เข้าไปดูเว็บไซต์งานฝีมือเพื่อลองหาไอเดียแล้วจะได้ดูว่าบริเวณบ้านคุณมีของเหล่านั้นอยู่บ้างรึเปล่า)
    • ถ้าใกล้ช่วงเทศกาล รวบรวมมิซเซิลโทล (ใช้ถุงมือ) กับลูกสนหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง จากนั้นนำมามัดเข้าด้วยกันด้วยริบบิ้นและกระดิ่งราคาไม่แพงแล้วเอาไปขายเป็นของตกแต่งบ้าน ถ้าคุณอยากจะทำโครงการที่ละเอียดกว่านี้แล้วยังมีต้นไม้ล้มหรือขอนไม้ใกล้ตัวละก็ ให้พ่อหรือแม่คุณช่วยตัดเป็นแผ่นหนาๆ จากนั้นจึงเจาะรูแต่ละแผ่นเป็นขนาดให้ใส่เทียนได้ แล้วตกแต่งด้วยกิ่งไม้สน (fir branches) ผลฮอลลี่ (holly berries) ลูกสนขนาดเล็ก ติดหรือไม่ติดริบบิ้นก็ได้ แล้วจึงนำแต่ละชิ้นไปขายเป็น "Adventskrans" ซึ่งก็คือที่ใส่เทียนคริสต์มาสแบบดั้งเดิมของชาวสแกนดิเนเวีย คุณควรจะเริ่มทำให้เสร็จในเดือนพฤศจิกายนเพราะคนจะใช้ที่ใส่เทียนเหล่านี้ตลอดทั้งเดือนธันวาคม
  3. ถ้าคุณอยู่เมืองนอก ให้ลองเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยในชุมชน. ไม่ใช่ทุกกลุ่มที่จะเปิดให้วัยรุ่นเข้าไปทำ แต่เมื่อไหร่ที่คุณได้ทำละก็คุณจะหาเงินได้ก้อนใหญ่เลยทีเดียวโดยใช้เวลาเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น
    • หาการสนทนากลุ่ม (Focus group) บริเวณที่คุณอาศัยอยู่ การสนทนากลุ่มคือการทำแบบสอบถามกลุ่มที่สอบถามกับเจ้าตัวเลยเพื่อทำการค้นคว้าทางการตลาด และต่างกับแบบสอบถามออนไลน์ตรงที่งานนี้มักได้รายได้ตั้งแต่ 40-100 เหรียญต่อชั่วโมงเลยทีเดียว เนื่องจากวัยรุ่นมักจะถูกมองว่าเป็นกลุ่มอายุที่มีค่ามากต่อการตลาด คุณน่าจะเข้าเกณฑ์ที่จะร่วมทำแบบสอบถามได้นะ
    • หากลุ่มวิจัยด้านการแพทย์ในบริเวณที่คุณอาศัยอยู่ ก่อนที่คุณจะกลัวจนหัวหด รู้ไว้เลยว่าไม่ใช่ผู้ทดลองเกี่ยวกับการรักษาโรคต่างๆ ทุกคนที่จะถูกบังคับให้กินยาทดลองหรือถูกฉีดยาเข้าไปที่ลูกตานะ การวิจัยบางงานนั้นง่ายมาก เช่น แค่ถูกสังเกตการณ์ขณะที่ออกกำลังกายบนสายพานหรือดูแลสุขภาพภายใต้เงื่อนไขการทดลองซึ่งเกี่ยวกับโรคภัยต่างๆ ไปสอบถามศูนย์วิจัยทางการแพทย์หรือมหาลัยแพทย์เพื่อหาการวิจัยที่ถูกต้องตามกฎหมาย และถ้าเป็นไปได้ ขอลงชื่อเป็นผู้เข้าร่วมทดลองงานวิจัยที่ทำได้ง่ายและไม่รุกรานเราไว้ด้วย
  4. ถ้าคุณมีความสามารถด้านการเล่นกีฬาหรือเล่นเกม ลองลงแข่งขันดูสิ หรือคุณอาจได้ทำงานช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ตามงานการแข่งกีฬาต่างๆ ก็ได้ ถ้าคุณเล่นกีฬาเก่งมากหรือเรียนวิชาใดวิชาหนึ่งในโรงเรียนได้ดีมาก ลองหาข้อมูลว่ากฎท้องถิ่นสำหรับการเก็บค่าสอนนิดๆ หน่อยๆ นั้นเป็นอย่างไร คุณอาจจะไม่สามารถทำงานหรือลงโฆษณาในบริเวณโรงเรียน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถสอนหนังสือนักเรียนอีกคนตัวต่อตัวในห้องสมุดสาธารณะหรือที่บ้านของใครคนหนึ่งได้นะ
  5. ถ้าคุณกำลังหาเงินด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่คุ้มค่ามาก (เช่น “ไม่นับ” การเก็บเงินเพื่อนซื้อไอพอด) ลองคิดถึงการขอเงินจากผู้คนตรงๆ เลยสิ โดยต้องแน่ใจว่าคุณได้เล่าเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายอันสุดยอดของคุณอย่างชัดเจน เล่าแผนการหาเงินที่เป็นขั้นเป็นตอนและบอกด้วยว่าเงินที่ได้จะเอาไปใช้ทำอะไร ไม่มีใครอยากลงทุนกับความคิดครึ่งๆ กลางๆ ของคนที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำหรอก ดังนั้นเดินไปตามบ้าน ขายขนมหรือรับล้างรถ จัดงานวิ่งการกุศล หรือลองหาเงินทางเว็บระดมทุนอย่าง GoFundMe ถามความเห็นจากพ่อแม่คุณว่าควรทำอย่างไรให้งานออกมาดีและไม่ล่วงล้ำคนอื่นเกินไป เพราะพวกเขาน่าจะเคยเจอคนที่มาขอระดมทุนมาก่อนจึงน่าจะบอกได้ว่าเวิร์คอะไรไม่เวิร์ค
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

เก็บเงินที่คุณหามาได้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จำไว้ว่าประหยัดสตางค์ได้ก็เท่ากับหาสตางค์ได้ ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ผลที่ได้คือคุณจะมีเงินมากขึ้น ไม่มีใครเคยเสียใจภายหลังที่เก็บเงินหรอก ทำความต้องการตอนนี้ให้สมดุลกับเป้าหมายระยะยาวกันดีกว่า
  2. เริ่มต้นก็เก็บเงินครึ่งหนึ่งจากที่หามาได้เลย ถ้าพ่อแม่คุณสนับสนุนด้วยละก็ นี่ก็ไม่น่าใช่เรื่องยากมากนัก ได้เงินจากการทำงานพิเศษมา 3,000 บาทในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้วใช่ไหม? เก็บไว้ 1,500 บาททันทีเลยสิแล้วที่เหลือก็อนุญาตให้ตัวเองใช้ ยิ่งคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนมากเท่าไหร่ว่าจะเก็บเงินให้ได้เท่านี้ มันก็จะยิ่งง่ายที่จะบรรลุตามที่ตั้งไว้เท่านั้น แล้วคุณยังจะได้มีจุดมุ่งหมายให้ตั้งใจทำงานด้วย
  3. มองหาที่เก็บเงินดีๆ สักที่ ถ้าคุณแค่เก็บเงินในกล่องรองเท้าใต้เตียง มันจะตั้งอยู่ตรงนั้นแล้วยั่วให้คุณเอาไปใช้ในที่สุด
  4. ถ้าคุณเอาอะไรสักอย่างมาเป็นจุดมุ่งหมายในการเก็บเงินละก็ มันจะช่วยเป็นแรงผลักดีอยู่เสมอเลยล่ะ คุณอาจจะเก็บเงินเพื่อซื้อเครื่องเล่นเกมส์เพลย์สเตชั่นเครื่องใหม่หรือคุณอาจจะเก็บเงินเพื่อไปเรียนวิชาเจ๋งๆ ในมหาลัยที่คุณสนใจก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่เป็นแรงผลักดันให้ฮึดสู้ จงเก็บเงินเพื่อสิ่งนั้นซะ!
  5. อย่าเพิ่งกังวลว่าจะต้องลงทุนตอนนี้เลย นอกเสียจากว่าคุณอายุ 18 ปีแล้วและอยากจะเริ่มเก็บเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ (ถ้าคุณคิดแบบนี้แล้ว ซูฮกเลย!) ให้เก็บเงินไว้ในบัญชีเงินออม คุณคงไม่อยากเสี่ยงที่จะเสียเงินก่อนคุณจะได้ใช้มันหรอกนะ!
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • อะไรก็ตามที่สุดท้ายแล้วคุณได้ทำ ให้ทำให้สุดฝีมือไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจจะไม่ยอมจ่ายเงินให้คุณก็ได้ หลายคนมักจะมองว่าวัยรุ่นไม่ค่อยมีความตั้งใจและทุ่มเทเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นอย่าพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่ามันเป็นเรื่องจริงล่ะ
  • พยายามแต่งตัวให้เหมาะสม เพราะมันจะช่วยให้คุณดูมีความรับผิดและพร้อมที่จะทุ่มเทมากขึ้น
  • เงินเพิ่มขึ้นได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าไปเครียดมากเวลาที่คุณพลาดโอกาสการทำงานใหญ่ๆ ไปในระหว่างช่วงหาเงิน ยกตัวอย่างเช่น แม้ว่าคุณจะหาเงินได้แค่ 60 บาทต่อวัน แต่ลองคิดดูดีๆ แล้วจะเท่ากับ 420 บาทต่อสัปดาห์ 1,680 บาทต่อเดือน และ 20,160 บาทต่อปีเชียวนะ
  • สร้างกล่องพิเศษขึ้นมาเพื่อเก็บเงินที่คุณจะนำไปซื้อของหรือเก็บไว้ใช้ นี่จะช่วยเตือนใจคุณว่าเงินที่คุณเก็บนั้นเก็บเพื่ออะไรจะได้ไม่นำไปใช้จ่ายมั่วซั่ว
  • ให้ทำงานไม่ใช่แค่เพื่อเงินแต่เพื่อการเรียนรู้ด้วย แม้แต่การกลับด้านแฮมเบอร์เกอร์ก็ยังมีโอกาสซ่อนอยู่ ลองสังเกตดูว่าพวกเขาเลือกใครขึ้นมาจัดการ พนักงานถูกจัดแจงอย่างไร หรืออะไรแบบนี้ทั้งหมด คนที่รวยนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจกันทั้งนั้น พวกเขาไม่ต้องทำงานให้ใครทั้งสิ้น เงินทองนั้นเป็นของชั่วคราวแต่ความรู้นี่สิที่จะอยู่กับเราตลอดไป
  • ทำโปสเตอร์ที่เขียนว่าคุณจะบริจาคเงิน 25% เพื่อการกุศล (เช่นมูลนิธิต่างๆ) ทำแบบนี้จะทำให้คนอยากซื้อของเรามากขึ้น แต่ต้องไปบริจาคจริงๆ นะ ไม่ใช่ว่าไปหลอกเขามา
  • อย่าแค่ติดใบปลิวตามประตูบ้าน แต่ลองเข้าไปแนะนำตัวกับแต่ละบ้านเลยสิ เช่น สวัสดีครับ/ค่ะ ผม/หนูชื่อ... นะครับ/นะคะ บ้านอยู่ตรงสนามที่ปลายถนนนี้เอง ผม/หนูรับพาหมาไปเดินเล่นด้วยนะครับ/นะคะ
  • บางทีคุณก็สามารถไปทำงานในค่ายช่วงฤดูร้อนได้นะ งานนี้เหมาะมากเพราะเป็นงานที่รายได้ดีแถมยังไม่รบกวนการเรียนเลยด้วย (นอกเสียจากว่าคุณต้องไปเรียนตลอดทั้งปี)
  • ลองทำใบปลิวโฆษณาในคอมพิวเตอร์คุณดู และถ้ามันถูกกฎหมายในพื้นที่ที่คุณอยู่ละก็ เอาใบปลิวพวกนี้ไปติดตามเสาโทรศัพท์ หรือบางที่ (เช่น ซูเปอร์มาเก็ตหลายๆ ที่) มักอนุญาตให้คุณติดโฆษณาบนบอร์ดหรืออะไรจำพวกนั้น อย่าลืมเขียนในใบปลิวด้วยว่าคุณคิดราคาเท่าไหร่ต่องานๆ หนึ่ง วิธีนี้จะทำให้ลูกค้ารู้แต่แรกเลยว่าราคาประมาณไหนและจะได้ไม่ตกใจเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องจ่ายเงินให้กับคุณ
  • อย่าถามเรื่องเงินตั้งแต่แรก เริ่มแรกให้บอกพวกเขาเกี่ยวกับบริการของคุณก่อนและถ้าพวกเขาถามว่าคิดเท่าไหร่คุณค่อยบอกราคาไป
  • ถ้าคุณอาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ลองไปร้านกาแฟในชุมชนหรือที่ไหนก็ตามที่มีร้านเยอะๆ ถ้าร้านพวกนั้นมีแผ่นกระดานปักหมุดอยู่ละก็ ขอติดใบปลิวของคุณเลย คุณอาจจะได้เริ่มหาเงินจากจุดนี้ก็ได้!
  • คุณสามารถอบคัพเค้กและนำไปขายคนแถวบ้านคุณได้ด้วย แต่อย่าลืมขออนุญาตพ่อแม่ก่อนล่ะ
โฆษณา

Big No No's

  • ขายของที่โรงเรียนอาจถูกดุหรืออาจถึงขั้นผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นควรเช็คให้แน่ใจก่อนทำ
  • ดูให้แน่ใจว่าคุณได้รับอนุญาตให้ขายของทุกอย่างแล้ว คุณคงไม่อยากขายของบางอย่างที่พ่อแม่คุณยังอยากเก็บไว้อยู่หรอกนะ! อีกอย่าง คิดถึงมูลค่าทางใจที่เจ้าของมีต่อของชิ้นนั้นก่อนขายด้วย ของชิ้นนั้นอาจจะราคา 300 บาท แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าเก็บของนั้นไว้ดีกว่าได้เงิน 300 บาทละก็ เก็บไว้นั่นแหละดีที่สุด
  • ใช้เว็บ eBay อย่างระมัดระวัง หรืออย่าง Paypal ที่จะคิดเงินถ้าคุณขายของ และเนื่องจากว่าเงินที่ขายของได้จะต้องโอนเข้าบัญชีธนาคาร ระวังไว้เพราะพ่อแม่คุณอาจจะคอยติดตามดูบัญชีอยู่
  • ระวังให้ดีตอนทำแบบสอบถามออนไลน์ เพราะบางอันทำขึ้นมาเพื่อหลอกคนและจะทำให้คุณได้รับเมลขยะหรือไวรัส หรือทั้งสองอย่างเลยก็ได้!
  • ติดป้ายประกาศบนเสาไฟฟ้านั้นผิดกฎหมายในอเมริกาและถ้าถูกจับได้จะโดนค่าปรับเยอะ เพราะฉะนั้นขออนุญาตก่อนติดจะดีกว่า
  • เอาใบปลิวใส่ในกล่องจดหมายโดยตรงเลยนั้นผิดกฎหมายเช่นกัน และมีค่าปรับเยอะเหมือนกันด้วย แทนที่จะใส่กล่อง ติดใบปลิวที่ประตูบ้านหรือหน้าต่างแทน คุณสามารถใส่ใบปลิวในกล่องที่ไว้สำหรับหนังสือพิมพ์ได้เพราะรัฐบาลไม่ได้กำหนดกฎเกี่ยวกับส่วนนี้

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 41,823 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา