ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ข้าวกล้องบาสมาติ เป็นข้าวจากอินเดีย เมล็ดยาวและมีกลิ่นหอมออกถั่วๆ คนอินเดียนิยมปลูกกินกันทั้งบ้านทั้งเมือง เหมือนที่บ้านเรานิยมข้าวหอมมะลิหรือข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวบาสมาติเป็นหนึ่งในตระกูลข้าวกล้อง ดีต่อสุขภาพมาก นำไปปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู จะเสริมเติมแต่งให้ออกมารสชาติยังไงก็ได้ตามใจชอบ บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการหุงข้าวดีมีประโยชน์อย่างบาสมาติให้คุณเอง ทั้งการหุง ต้ม ตุ๋น และใช้แรงดันเลย
ส่วนประกอบ
ข้าวกล้องบาสมาติ
หน่วยบริโภค: 6 ถ้วยตวง
- ข้าวกล้องบาสมาติ 2 ถ้วยตวง (450 - 500 มล.)
- น้ำเปล่า 2.5 - 3 ถ้วยตวง (600 - 700 มล.)
- เกลือ 1 ช้อนชา (5 มล.)
ขั้นตอน
-
ใส่ข้าวสารในน้ำเย็น แล้วซาวข้าว. ตวงข้าวบาสมาติ 2 ถ้วยตวง (450 - 500 มล.) แล้วเทใส่ชามขนาดกลางที่เติมน้ำเย็นไว้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ซาวข้าว. ใช้มือกวนข้าวไปมาในน้ำ จนน้ำเริ่มขุ่น มีฟองตามขอบ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่างที่รู้กันว่าซาวข้าวแล้วจะสูญเสียคุณค่าทางอาหารไปบ้าง แต่ปกติข้าวบาสมาติจะเป็นข้าวนำเข้าจากอินเดีย เลยผ่านกระบวนการที่ทำให้มีแร่หินทัล (talc) กลูโคสผง และแป้งข้าวปนมา คนที่นิยมกินข้าวชนิดนี้เลยแนะนำให้ซาวข้าวก่อนหุงดีกว่า
- ซาวข้าวแล้วช่วยล้างแป้งบางส่วนไปได้ ข้าวจะได้ไม่เหนียวหนืดเกินไป [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
กรองน้ำออก เอาแต่ข้าว. เทข้าวลงในกระชอน หรือค่อยๆ เอียงชามเทน้ำออก จะเอาจานมาปิดปากชามไว้ก็ได้ ถ้ากลัวข้าวหกออกมาตอนกรองน้ำ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ซาวข้าวอีกรอบ. เติมน้ำเพิ่มเข้าไป แล้วทำซ้ำตามขั้นตอนจนน้ำใส ส่วนใหญ่ต้องซาวข้าวประมาณ 10 ครั้งด้วยกัน [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พอน้ำซาวข้าวใสแล้ว ก็ทิ้งข้าวที่ได้ไว้ในชาม แล้วพักไว้ก่อน.
-
เอาข้าวที่ซาวแล้วไปแช่ในน้ำเย็น. เทน้ำเย็น 2.5 ถ้วยตวง (600 มล.) ใส่ข้าวที่ซาวและกรองน้ำออกแล้ว จากนั้นแช่ข้าวไว้ 30 นาทีถึง 24 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าจะเอาไปหุงยังไง และนานแค่ไหน แต่ยิ่งแช่ไว้นาน เอาไปหุงแล้วข้าวจะยิ่งสุกเร็ว
-
กรองน้ำออก เอาแต่ข้าว. เทข้าวใส่กระชอน เพื่อกำจัดน้ำส่วนเกินที่ข้าวไม่ได้ดูดซับเข้าไป
- ระวังอย่าให้กระชอนตาห่างเกินไป เพราะข้าวจะไหลออกไปพร้อมน้ำได้ตอนกรอง
โฆษณา
-
-
ต่อไปให้ใส่เกลือประมาณ 1 ช้อนชา (5 มล. ) ลงในน้ำ . ก็เหมือนเวลาทำพาสต้า เกลือจะเป็นตัวช่วยดึงรสเด่นตามธรรมชาติของข้าวออกมา ไม่ให้ข้าวจืดเกินไป แต่ก็ไม่ได้เป็นการปรุงรสเค็มให้ข้าวแต่อย่างใด [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จะปรุงรสข้าวบาสมาติด้วยอย่างอื่นที่ไม่ใช่เกลือก็ได้ ตามความชอบ
-
ผสมข้าวกับน้ำ. เทข้าวกล้องบาสมาติที่ซาวและแช่แล้ว 2 ถ้วยตวง (450 - 500 มล.) ใส่หม้อ จากนั้นใช้ช้อนคนผสมให้เข้ากัน [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ต้มข้าวจนเดือด แล้วตุ๋นต่อไป. เปิดไฟแรง พอน้ำเดือดแล้วให้ใช้ไฟอ่อน ปิดฝา จากนั้นตุ๋นต่อไปอีก 15 - 40 นาที จนข้าวดูดน้ำเข้าไปหมด [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ต้องใช้เวลานานแค่ไหน ก็แล้วแต่ว่าคุณแช่ข้าวนานแค่ไหนก่อนหน้านี้
- ถ้าแช่ข้าวไว้ 30 นาที ก็จะใช้เวลาหุงข้าวประมาณ 40 นาที แต่ถ้าแช่ข้าวทิ้งไว้ข้ามคืน ก็หุงแค่ประมาณ 15 นาทีเท่านั้น
- จุดสำคัญ (มาก) อยู่ที่ต้องลดไปใช้ไฟอ่อน และตุ๋นข้าวต่อหลังน้ำเดือด ข้าวที่สุกเร็วไปด้วยไฟแรงจะแข็ง เพราะน้ำระเหยหมด แถมเมล็ดข้าวจะแตกด้วย [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทดสอบข้าวว่าได้ที่หรือยัง. รีบเปิดฝาแล้วตักข้าวมาเล็กน้อย จากนั้นรีบปิดฝากลับคืน ถ้าข้าวนุ่มดี แสดงว่าดูดซับน้ำเข้าไปเต็มที่แล้ว แต่ถ้าไม่ ให้หุงต่ออีก 2 - 4 นาที
- ถ้าข้าวดูดน้ำเข้าไปหมดแล้วแต่ยังไม่นุ่ม ให้เติมน้ำ โดยค่อยๆ เติมทีละ 1/4 ถ้วยตวง (60 มล.)
-
-
-
ตักข้าวเสิร์ฟ. ใช้ทัพพีแบบ nonstick (ข้าวไม่ติด) หรือช้อนคันใหญ่ๆ ก็ได้ ตักข้าวใส่จาน จะเสิร์ฟเดี่ยวๆ หรือเอาไปใช้ทำเมนูอื่นก็ได้โฆษณา
-
อ่านคำแนะนำให้ละเอียด. เดี๋ยวนี้มีหม้อหุงข้าวสารพัดแบบ ซึ่งแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็มีวิธีใช้งานแตกต่างกันออกไป ต้องอ่านคู่มือ ศึกษาวิธีใช้ให้เข้าใจ
- เช่น บางเครื่องก็มีโหมดสำหรับหุงข้าวขาวและข้าวกล้องแยกกันไปเลย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มี
-
ผสมข้าวกับน้ำ. ใช้ช้อนไม้หรือทัพพี ผสมข้าวกล้องบาสมาติ 2 ถ้วยตวง (450 - 500 มล.) กับน้ำ 3 ถ้วยตวง (700 มล.) ในหม้อชั้นในของหม้อหุงข้าว
- หม้อหุงข้าวส่วนใหญ่จะมีถ้วยตวงของแห้งติดมาให้ด้วย แต่ส่วนใหญ่ถ้าวัดกันจริงๆ จะเท่ากับแค่ 3/4 ของถ้วยตวงปกติเท่านั้น
- อย่าใช้อะไรที่เป็นโลหะมาคนผสมหรือตักข้าว เพราะจะไปขูดเคลือบผิว non-stick ในหม้อชั้นในเป็นรอยได้
-
ปิดฝาแล้วเริ่มหุงข้าว. ปกติหม้อหุงข้าวจะมี 2 โหมดให้เลือก คือหุงข้าว (cook) กับอุ่นข้าว (warm) เพราะงั้นให้เลือกโหมดหุงข้าว ซึ่งน้ำจะเดือดเร็วกว่า
- พอข้าวดูดซับน้ำเข้าไปหมดแล้ว อุณภูมิจะพุ่งสูงเกินจุดเดือดของน้ำ (100˚C/212˚F) ถึงตอนนี้ หม้อหุงข้าวส่วนใหญ่จะสลับไปใช้โหมดอุ่นข้าวอัตโนมัติ
- ปกติจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีด้วยกัน
- โหมดอุ่นข้าวจะอุ่นข้าวไว้ที่อุณหภูมิพร้อมเสิร์ฟ จนกว่าคุณจะปิดเครื่อง
-
ระหว่างหุงข้าวอย่าเปิดฝา. ก็เหมือนวิธีต้ม/ตุ๋นข้าว คืออย่าเปิดฝาระหว่างหุงข้าว ไม่งั้นไอน้ำจะระเหยไปหมด ข้าวจะแห้งแข็งได้ [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พักข้าวไว้ในหม้อ. พอหม้อหุงข้าวตัดไปโหมดอุ่นแล้ว ให้ปิดฝาไว้ และพักข้าวต่อไปอีก 5 - 10 นาทีก่อนตักเสิร์ฟ [24] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เปิดฝาแล้วพุ้ยข้าวให้นุ่มฟู. ค่อยๆ เปิดฝา ระวังอย่ายื่นหน้าไปใกล้ๆ เพราะไอร้อนจะลวกผิวได้ จากนั้นใช้ช้อนไม้หรือทัพพีค่อยๆ พุ้ยข้าวให้นุ่มฟูขึ้นมา [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตักข้าวเสิร์ฟ. ตอนนี้ข้าวก็หุงสุกพร้อมเสิร์ฟ หรือจะเก็บไว้ในตู้เย็น/ช่องฟรีซก็ได้
- ถ้าจะแช่ข้าวในตู้เย็น ให้ตักข้าวใส่ชามแล้วปิดฝาหรือห่อด้วยแรปพลาสติกใส ปกติจะเก็บไว้ได้ 3 - 4 วัน แต่ระวังอย่าวางทิ้งไว้ข้างนอกนานเกิน 2 ชั่วโมงก่อนเอาเข้าตู้เย็น
- ถ้าจะแช่แข็ง ให้ล้างน้ำเย็นก่อน จากนั้นตักใส่ถุงซิปล็อค เอาเข้าช่องฟรีซได้เลย เวลาจะใช้ก็ให้ละลายน้ำแข็งโดยเอาลงมาแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาข้ามคืน [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
-
ปิดฝา. เริ่มจับเวลาตอนแรงดันของหม้อแรงดันสูงได้ที่ [29] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [30] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หม้อแรงดันมีหลากหลายยี่ห้อและรุ่น วาล์วสำหรับเตือนตอนแรงดันได้ที่ของแต่ละรุ่น ก็จะแตกต่างกันไป
- หม้อที่เป็นวาล์วแบบสปริง ปกติจะมีแท่งที่เด้งขึ้นมา ถ้าเป็นวาล์วน้ำ (jiggler valves) จะสั่นไปมาช้าๆ แล้วแรงขึ้น ส่วนวาล์วแบบ weight-modified จะมีเสียงหวีด และเสียงฟ่อๆ ตอนขยับขึ้นลง [31] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปิดไฟ. ปลอยให้อุณหภูมิและแรงดันลดลงเองในประมาณ 10 - 15 นาทีหลังปิดไฟที่เตา แล้วล็อคนิรภัยจะปลดล็อคเอง หรือวาล์วจะเตือนว่าแรงดันลดลงแล้ว [35] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [36] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หรือสวมถุงมือจับของร้อน แล้วยกหม้อแรงดันไปไว้ในอ่างล้างจานก็ได้ จากนั้นเปิดน้ำเย็นราดเพื่อลดแรงดัน แล้วเปิดวาล์ว กดปุ่ม/บิด/กดคันโยก เพื่อระบายไอน้ำและแรงดันที่เหลือ [37] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [38] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไม่ว่าจะแบบไหน ก็ต้องระวังมากๆ เวลาทำขั้นตอนนี้ สังเกตดีๆ ว่าตรงไหนเป็นรูระบายไอร้อน เพราะพุ่งออกมาลวกผิวได้เลย [39] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [40] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พุ้ยข้าวให้ฟูนุ่มพร้อมเสิร์ฟ. ใช้ส้อมพุ้ยข้าวให้ฟูนุ่มก่อนตักเสิร์ฟ หรือจะเก็บไว้กินวันหลัง ในตู้เย็น/ช่องฟรีซก็ได้โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
ข้าวกล้องบาสมาติ :
- ชามผสมขนาดกลาง
- หม้อขนาดกลางที่มีฝาปิดสนิท
- ช้อนตวงและถ้วยตวง สำหรับใช้กับของแห้งและน้ำ
- ช้อนคันใหญ่
- ส้อม
- ผ้าเช็ดมืออเนกประสงค์
- หม้อสตีมตั้งเตา
- หม้อแรงดันตั้งเตา
- ถุงมือจับของร้อน
- ทัพพีแบบ Nonstick ข้าวไม่ติด (ถ้ามี)
เคล็ดลับ
- แนะนำให้ใช้บาสมาติที่เป็นข้าวกล้องแทนข้าวขาว เวลาทำข้าวผัดยี่หร่า (jeera rice)
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/article/2008/10/21/AR2008102102172.html
- ↑ http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/article/2008/10/21/AR2008102102172.html
- ↑ http://www.chow.com/food-news/148823/nagging-question-should-you-rinse-rice-before-cooking/
- ↑ http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/article/2008/10/21/AR2008102102172.html
- ↑ http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/article/2008/10/21/AR2008102102172.html
- ↑ http://www.finecooking.com/item/13378/soaking-basmati-rice
- ↑ http://www.chow.com/food-news/148823/nagging-question-should-you-rinse-rice-before-cooking/
- ↑ http://www.marthastewart.com/924877/master-recipe-brown-rice
- ↑ https://food.unl.edu/fnh/cooking-brown-rice
- ↑ http://www.bonappetit.com/test-kitchen/common-mistakes/article/the-6-most-common-rice-cooking-mistakes
- ↑ http://www.marthastewart.com/924877/master-recipe-brown-rice
- ↑ http://www.bonappetit.com/test-kitchen/common-mistakes/article/the-6-most-common-rice-cooking-mistakes
- ↑ https://food.unl.edu/fnh/cooking-brown-rice
- ↑ http://www.nytimes.com/2010/05/31/health/nutrition/31recipehealth.html?_r=0
- ↑ http://www.realsimple.com/food-recipes/browse-all-recipes/perfect-brown-basmati-rice
- ↑ http://www.bonappetit.com/test-kitchen/common-mistakes/article/the-6-most-common-rice-cooking-mistakes
- ↑ http://www.nytimes.com/2010/05/31/health/nutrition/31recipehealth.html?_r=0
- ↑ http://lifehacker.com/make-fluffier-rice-by-trapping-the-steam-with-a-kitchen-1686468378
- ↑ https://food.unl.edu/fnh/cooking-brown-rice
- ↑ http://www.nytimes.com/2010/05/31/health/nutrition/31recipehealth.html?_r=0
- ↑ http://www.nytimes.com/2010/05/31/health/nutrition/31recipehealth.html?_r=0
- ↑ http://www.realsimple.com/food-recipes/browse-all-recipes/perfect-brown-basmati-rice
- ↑ http://www.bhg.com/recipes/how-to/cooking-basics/how-to-cook-brown-rice/
- ↑ http://blog.williams-sonoma.com/how-to-cook-whole-grains-in-a-rice-cooker/
- ↑ http://www.food.com/recipe/aromatic-basmati-rice-rice-cooker-424415
- ↑ http://www.food.com/recipe/perfect-brown-rice-in-a-steamer-298971
- ↑ http://www.cookinglight.com/cooking-101/techniques/pressure-cooker-recipes/how-to-cook-brown-rice-pressure-cookers
- ↑ http://premeditatedleftovers.com/recipes-cooking-tips/how-to-make-rice-in-a-pressure-cooker-real-food-real-fast/
- ↑ http://www.cookinglight.com/cooking-101/techniques/pressure-cooker-recipes/how-to-cook-brown-rice-pressure-cookers
- ↑ http://www.vegancoach.com/pressure-cooking-dried-beans.html
- ↑ http://www.hippressurecooking.com/is-your-pressure-cooker-ready-to-cook-checklist/
- ↑ http://premeditatedleftovers.com/recipes-cooking-tips/how-to-make-rice-in-a-pressure-cooker-real-food-real-fast/
- ↑ http://www.cookinglight.com/cooking-101/techniques/pressure-cooker-recipes/how-to-cook-brown-rice-pressure-cookers
- ↑ http://www.vegancoach.com/pressure-cooking-dried-beans.html
- ↑ http://www.hippressurecooking.com/is-your-pressure-cooker-ready-to-cook-checklist/
- ↑ http://www.vegancoach.com/pressure-cooking-dried-beans.html
- ↑ http://premeditatedleftovers.com/recipes-cooking-tips/how-to-make-rice-in-a-pressure-cooker-real-food-real-fast/
- ↑ http://www.cookinglight.com/cooking-101/techniques/pressure-cooker-recipes/how-to-cook-brown-rice-pressure-cookers
- ↑ http://www.hippressurecooking.com/is-your-pressure-cooker-ready-to-cook-checklist/
- ↑ http://www.cookinglight.com/cooking-101/techniques/pressure-cooker-recipes/how-to-cook-brown-rice-pressure-cookers
โฆษณา