PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

บุคลิกภาพแบบแสดงตัวเปิดเผย (Extroversion) เป็นอุปนิสัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและถือเป็นบุคลิกภาพที่ดี [1] อย่างไรก็ตาม การรู้จักตนเองอย่างลึกซึ้งอาจเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเรียนรู้สำหรับคนที่มีบุคลิกเปิดเผย ถ้าคุณเป็นคนเปิดเผย คุณอาจไม่เคยคิดว่าการใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองนั้นก็มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น จริงๆ แล้วนั้นการเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวก็เป็นสิ่งที่มีค่าพอๆ กับการเข้าสังคมเลยทีเดียว

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ความหมายของคนเก็บตัวคืออะไร

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าสับสนระหว่างการเป็นคนเก็บตัวกับการเป็นคนขี้อาย. คนที่ขี้อายมัก "ต้องการ" ที่จะมีสังคมแต่ทำไม่ได้ เพราะพวกเขาจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่คนที่เก็บตัวนั้น "เลือก" ที่จะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับสังคมในบางกรณี เพราะว่าพวกเขาต้องการพลังงานทางใจ (หรือเติมพลัง) จากการอยู่คนเดียว [2]
  2. จำไว้เสมอว่าคนส่วนใหญ่จะไม่เป็นคนเปิดเผยหรือเก็บตัวโดยสมบูรณ์แบบ. นักจิตวิทยาชื่อดัง คาร์ล ยุง (Carl Jung) ผู้ซึ่งบัญญัติคำว่า "คนเปิดเผย" (Extroverted) และ "คนเก็บตัว" (Introverted) ได้กล่าวไว้ว่าไม่มีใครคนใดที่เป็นคนเปิดเผยหรือเก็บตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ [3]
    • คนส่วนใหญ่จะมีบุคลิกผสมกันระหว่างบุคลิกเปิดเผยกับบุคลิกเก็บตัว แต่จะมีแนวโน้มไปทางใดทางหนึ่งมากกว่า
  3. พิจารณาถึงข้อดีของการเป็นคนเปิดเผยกับการเป็นคนเก็บตัว. คนส่วนใหญ่ที่มักแสดงคุณสมบัติทั้งทางด้านอารมณ์ จิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณได้เป็นอย่างดีจะเป็นคนที่มีความสมดุลระหว่างบุคลิกเก็บตัวและบุคลิกเปิดเผย [4]
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าเราชอบการอยู่คนเดียวมากกว่าและรู้ถึงธรรมชาติของการเป็นคนเก็บตัว เราก็จะลองเสี่ยงและท้าทายตัวเองโดยการเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนกลุ่มใหญ่เพื่อเติมเต็มชีวิตให้กับตัวเองด้วยวิธีที่แปลกใหม่และน่าสนใจ
    • เช่นเดียวกันกับคนเปิดเผย ถ้าเราเป็นพวกใช้ชีวิตกับปาร์ตี้ เราอาจจะใช้ประโยชน์จากการเพิ่มคำว่า "หมดเวลาแล้ว" ในชีวิต เช่น สละเวลามาอยู่กับตัวเองโดยการเดินไปรอบๆ ชุมชนหรืออ่านหนังสือสัก 15 นาทีต่อวัน
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ฝึกพัฒนาการอยู่กับตัวเอง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในขณะที่คนเปิดเผยมักจะคิดถึงว่าข้างนอกมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเป็นอันดับแรก คนเก็บตัวก็มักจะครุ่นคิดอยู่กับโลกในจิตใจของตัวเอง สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เราหันไปจดจ่ออยู่กับตัวเองได้คือการจดบันทึก ซึ่งก็คือการเขียนบันทึกประจำวันนั่นเอง [5] ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้
    • ตอนนั้นฉันรู้สึกอย่างไร แล้วทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น
    • วันนี้จะได้เรียนรู้อะไรบ้าง แล้วเรียนรู้จากใคร
    • มีความคิดอะไรเข้ามาในหัวบ้าง แล้ววันนี้ฉันคิดถึงใคร
    • วันนี้ต่างจากเมื่อวานอย่างไร ต่างจากอาทิตย์ที่แล้วอย่างไร หรือต่างจากปีที่แล้วอย่างไร
    • ฉันควรรู้สึกขอบคุณเรื่องอะไร มีใครที่ดูเหงาๆ บ้าง แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
  2. ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในระดับปัจเจกบุคคล. [6] จินตนาการและความคิดพัฒนามาจากการสังเกตโลกภายนอก ยิ่งคุณสังเกตมากเท่าไร ก็ยิ่งเห็นและเชื่อมต่อสิ่งต่างๆ ที่กระจัดกระจายให้เป็นแนวคิดเดียวกันได้มากยิ่งขึ้น
    • เมื่อคุณอยู่กับตัวเองได้แล้ว คุณสังเกตเห็นอะไร บนโลกนี้มีอะไรบ้างที่สร้างความประทับใจให้คุณ ความคิดสร้างสรรค์สามารถได้รับการพิจารณาในฐานะ "การครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง" ได้ โดยมีความสนใจจากภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง
    • แต่งเรื่องสั้น
    • สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เช่น งานจิตรกรรม ประติมากรรม งานวาดเขียน และอื่นๆ อีกมากมาย
    • อ่านวารสารศิลปะ
    • แต่งเพลง
    • แต่งกลอน
  3. กิจกรรมบางประเภทจะปลูกฝังความอดทนและยังสามารถคลายความเครียดและความเบื่อหน่ายในช่วงที่คุณ "ต้อง" อยู่คนเดียวได้ สิ่งเหล่านี้คือกิจกรรมที่น่าสนใจ
    • อ่านหนังสือ
    • ถักนิตติ้งหรือโครเชต์
    • เขียนโปรแกรม
    • ฟังเพลง
    • เล่นดนตรี
    • ออกไปเดินหรือปีนเขาคนเดียว
  4. [7] ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเกี่ยวข้องกับพลังทางจิตใจหรือความคิดในระดับลึก เช่น การทำสมาธิหรือใช้เวลาไปกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อะไรก็ตามในมุมมองของคุณที่เปลี่ยนไปหรือมากขึ้นจะช่วยส่งเสริมบุคลิกเก็บตัวของคุณ
    • การฝึกเจริญสติ (Practicing mindfulness) หรือขับรถแบบเซ็น (Zen driving) ก็ช่วยฝึกบุคลิกเก็บตัวได้เช่นกัน [8] การค้นหาสิ่งลึกลับทางวิทยาศาสตร์ (จักรวาลหรือทฤษฎีควอนตัม) ก็เป็นประสบการณ์ภายในจิตใจเช่นกัน
  5. [9] บางครั้งการอยู่คนเดียวและค้นหาจิตใจภายในก็เป็นสิ่งที่ "น่าเบื่อ" สำหรับคนเปิดเผย คุณจะเริ่มคิดถึงพลังงานจากสิ่งเร้าภายนอก ให้พยายามคิดถึงการเรียนรู้วิธีอยู่กับตัวเองเหมือนกับการเริ่มเล่นกีฬาใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่ถนัดมาก่อน ในตอนแรกจะรู้สึกว่ามันซ้ำๆ และรู้สึกอึดอัด แต่เมื่อคุณผ่านช่วงนี้ไปได้ คุณจะรู้สึกสนุกไปกับมัน
    • จำไว้เสมอว่าการสนใจกับสิ่งภายในตัวไม่ใช่ภูเขาที่รอจะถูกปีนข้ามผ่านไป จริงๆ แล้วนั้นคนเก็บตัวส่วนใหญ่จะใช้ "เวลาส่วนตัว" เพื่อเติมพลังให้กับตัวเอง เวลาส่วนตัวอาจเป็นหนทางที่ดีในการเติมพลังหลังจากที่หมดพลังไปกับการเข้าสังคมหรือกับการมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่เปิดเผย [10]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สำหรับคนเปิดเผยนั้น การปลูกฝังการอยู่คนเดียวสามารถเพิ่มมิติให้กับชีวิตของคุณได้
  • เป็นตัวของตัวเอง คนเก็บตัวและคนเปิดเผยควรจะนับถือและชื่นชมกันและกัน ไม่ควรอิจฉากันเอง ตราบใดที่เรายังปฏิบัติดีต่อกัน ก็จะมีพื้นที่มากมายที่ทำให้เรา "ทั้งคู่" มีชีวิตอยู่ได้ด้วยดี
  • ถ้าธรรมชาติของคุณเป็นคนเปิดเผย คุณไม่ควรพยายามเปลี่ยนตัวเองเป็นคนเก็บตัวเพียงแค่เพราะว่ามันเจ๋งหรือดูดี นั่นเป็นเหตุผลที่ไร้สาระ สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเป็นตัวของตัวเองมากกว่าที่จะแสร้งทำเป็นคนที่คุณไม่ได้เป็น อย่างไรก็ตาม การหยุดพักจากการเข้าสังคมและหันกลับมามองตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ดีเสมอ


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,883 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา