ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าการเลี้ยงสุนัขหนึ่งตัวเป็นเรื่องที่ทั้งสนุกและดีต่อใจ การเลี้ยงสุนัขหลายๆ ตัวก็ต้องยิ่งสนุกกว่าเดิมใช่ไหมละ เอ่อ แน่นอนอยู่แล้ว แต่การรักษาความสงบจะยุ่งยากนิดหน่อย เพราะนอกจากจะต้องเอาใจใส่ความต้องการของสุนัขสองตัวหรือมากกว่าแล้ว คุณยังต้องดูแลสภาพจิตใจของฝูงให้ดีโดยคำนึงถึงนิสัยของสุนัขแต่ละตัวด้วย แต่โชคดีที่สุนัขหลายตัวสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้สบายๆ หากคุณยอมสละเวลาสักเล็กน้อยในช่วงแรก แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะวุ่นวายสักหน่อยก็เถอะ!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

แนะนำสุนัขตัวใหม่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จำไว้ว่าคุณต้องใช้เวลา แรง และเงินมากขึ้นในการให้อาหาร รักษาความสะอาด พาไปออกกำลังกาย และเล่นกับสุนัข นอกจากนี้คุณยังต้องคอยสังเกตพฤติกรรมระหว่างสุนัขด้วยกันเองเพื่อให้แน่ใจว่าไม่เกิดปัญหาร้ายแรงโดยเฉพาะในช่วงแรก [1]
    • ถ้าคุณกะจะนำสุนัขตัวใหม่เข้าบ้าน คุณควรรอจนกว่าคุณจะได้อยู่บ้านสัก 2-3 วันก่อน เช่น ช่วงวันหยุดยาวปลายสัปดาห์หรือวันหยุดเทศกาล
  2. ถ้าคุณคิดจะนำสุนัขตัวใหม่มาเลี้ยง คุณต้องคิดถึงสุนัขที่มีอยู่ก่อนแล้วด้วย จากนั้นค่อยดูว่าสุนัขพันธุ์ไหนที่เข้ากับสุนัขตัวเดิมได้ดีที่สุด เวลาตัดสินใจให้คำนึงถึงนิสัย สายพันธุ์ ขนาด อายุ หรือแม้แต่เพศด้วย [2]
    • เช่น ถ้าคุณมีสุนัขแก่ๆ ที่ไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเท่าไหร่ มันก็อาจจะเข้ากับลูกหมาที่อยู่ไม่สุขและกระตือรือร้นตลอดเวลาไม่ค่อยได้ ลูกหมาที่อายุเยอะหน่อยหรือสุนัขไร้บ้านที่โตเต็มวัยอาจจะเหมาะกับครอบครัวมากกว่า
    • ในขณะเดียวกันถ้าสุนัขของคุณพลังงานเยอะและต้องการการเอาใจใส่อย่างมาก ลูกหมาก็อาจช่วยให้สุนัขตัวเดิมได้ออกกำลังกายมากขึ้น แถมยังช่วยให้มันได้เข้าสังคมด้วย
    • โดยทั่วไปสุนัขตัวผู้กับตัวเมียจะเข้ากันได้ดีที่สุด รองมาก็ตัวผู้กับตัวผู้ ส่วนตัวเมียกับตัวเมียนั้นมีแนวโน้มจะเกิดปัญหามากที่สุด
  3. วิธีแนะนำสุนัขตัวเดิมให้รู้จักกับสมาชิกใหม่ของครอบครัวที่ดีที่สุดก็คือ การพาสุนัขทุกตัวไปรู้จักกันในที่ๆ ไม่มีสุนัขตัวไหนคุ้นเคย เช่น ในสวนสาธารณะที่คุณไม่ค่อยได้ไป วิธีนี้จะช่วยให้มันไม่มีอาณาเขตเมื่อเจอกัน [3]
    • คุณควรแนะนำสุนัขให้รู้จักกันก่อนที่จะตัดสินใจนำตัวใหม่มาเลี้ยงที่บ้าน เพราะถ้ามันเข้ากันไม่ได้ คุณก็จะได้หาตัวใหม่
    • ถ้าอากาศเป็นใจ สถานที่กลางแจ้งจะเหมาะที่สุด เพราะสุนัขจะได้มีพื้นที่กว้างๆ ในการเรียนรู้กัน ใช้สายจูงยาวๆ เพื่อให้สุนัขได้สำรวจ แต่คุณก็ยังคุมมันได้ถ้าจำเป็น
    • ถ้าเป็นไปได้ตอนพาไปเจอกันควรมีผู้ใหญ่ประจำสุนัขแต่ละตัว คุณอาจต้องขอให้เพื่อนสักคนสองคนมาช่วย!
  4. เริ่มจากการจูงสุนัขไปเดินเจอกันเพื่อให้มันได้เห็นกันก่อน แต่ไม่ถึงกับใกล้มากจนต้องมีปฏิสัมพันธ์ แสดงท่าทางผ่อนคลายและสงบ แค่เดินจนกว่าคุณจะสังเกตได้ว่าสุนัขเริ่มคุ้นเคยกันแล้ว ถ้าสุนัขมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็ให้รางวัลและค่อยๆ เดินจูงไปให้มันอยู่ใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าสุนัขดูท่าทางตึงเครียด กระสับกระส่าย หรือก้าวร้าว ให้เดินห่างออกมาแบบสบายๆ จนสุนัขเริ่มกลับมาผ่อนคลายอีกครั้ง [4]
    • ถ้าสุนัขดูท่าทางเป็นมิตรกันดี ปล่อยให้พวกมันดมกลิ่นกันและกัน อย่าเกร็งเพราะอาจเป็นการส่งสัญญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติ พยายามทำใจให้สงบแต่ก็แสดงความกระตือรือร้นออกมาเพื่อให้สุนัขได้รับสัญญาณว่า การเจอกันครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดี
    • คุณอาจจะได้ยินเสียงสุนัขคราง ร้องหงิงๆ หรือเห่าเวลาเข้าหากัน เสียงพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าสังคมของสุนัข เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลยกเว้นว่าพวกมันจะแสดงท่าทางผิดปกติ
    • อาจต้องใช้เวลาสักพักกว่าสุนัขจะรู้สึกผ่อนคลายมากพอที่จะเดินด้วยกัน อย่าเร่งและอย่าบังคับให้พวกมันเข้าหากันเพราะจะทำให้พวกมันยิ่งกังวล และอาจทำให้มันก้าวร้าวใส่กัน
  5. ถึงตอนที่เจอกันครั้งแรกจะไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่สุนัขตัวเดิมก็อาจจะเกิดอาการหวงอาณาเขตขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลูกสุนัขตัวใหม่มาถึง เพื่อไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้น คุณควรให้สุนัขที่มาใหม่อยู่นอกบ้านและนำไปไว้อีกห้องก่อนนำเข้าบ้าน ให้สุนัขตัวใหม่มีเวลาสำรวจบ้านและรู้สึกสบายใจก่อนที่คุณจะปล่อยสุนัขตัวอื่นมารวมกัน [5]
    • คุณอาจจะใช้ที่กั้นประตูแยกสุนัขออกจากกันถ้าคุณไม่สามารถนำสุนัขไปไว้อีกห้องหรือไว้นอกบ้านได้
    • ถ้าทำได้ให้แยกสุนัขออกจากกันทุกครั้งที่คุณไม่อยู่อย่างน้อยก็ในช่วง 2-3 วันแรก
  6. ปล่อยให้สุนัขทำความรู้จักกันเป็นระยะเวลาสั้นๆ และมีคนคอยควบคุม. เมื่อสุนัขตัวใหม่มีโอกาสได้สำรวจบ้านใหม่แล้ว คุณก็สามารถนำสุนัขตัวอื่นๆ มารวมกันได้สักครู่ อย่างแรกให้นำอาหาร รางวัล หรือของเล่นที่สุนัขจะแย่งกันก่อน จากนั้นก็พาสุนัขตัวอื่นเข้ามา และจำไว้ว่าคุณจะต้องดูผ่อนคลายแต่สนุกสนาน! [6]
    • เตรียมรางวัลชิ้นใหญ่ เช่น กระดูก หูหมู หรือหนังสัตว์สำหรับให้สุนัขเมื่อพวกมันเล่นกันดี แต่อย่าให้รางวัลถ้าสุนัขของคุณมักจะหวงของหรือก้าวร้าวเวลาได้ของ [7]
    • พยายามอย่าให้สุนัขตื่นเต้นมากเกินไปเพราะอาจทำให้มันยิ่งหงุดหงิดใส่กัน แยกสุนัขออกจากกันถ้าพวกมันเริ่มจะฟึดฟัด
    • เตรียมที่นอนสบายๆ ให้สุนัขนอนเล่นไว้หลายๆ ที่ มันจะได้ไม่หวงบริเวณที่นอนสบายที่สุดที่เดียว นอกจากนี้ในห้องก็ให้เตรียมน้ำไว้มากกว่า 1 ถ้วย พวกมันจะได้ไม่แย่งกัน
  7. ถ้าคุณเห็นสุนัขขู่ วิ่งใส่กัน คำราม อยู่ในท่าเตรียมต่อสู้ หรือจ้องกันเขม็ง เป็นไปได้ว่าพวกมันกำลังแย่งกันเป็นจ่าฝูง ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณควรเข้าไปขวางอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีสงบและแยกสุนัขออกจากกัน หลังจากที่พวกมันมีเวลาสงบสติอารมณ์แล้ว คุณก็ค่อยๆ พาสุนัขมารู้จักกันอีกครั้ง [8]
    • สัญญาณของความก้าวร้าวหรือความวิตกกังวลอื่นๆ ได้แก่ ขนที่หลังของสุนัขลุกชัน แยกเขี้ยว เดินเกร็ง หรือแสดงท่าทางอื่นๆ ที่ผิดไปจากปกติ
    • ถ้าคุณพยายามพาสุนัขมารู้จักกันหลายครั้งแล้วแต่พวกมันเข้ากันไม่ได้เลย ลองติดต่อขอความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์ ครูฝึกสุนัขมืออาชีพ หรือนักพฤติกรรมสัตว์
  8. คอยสังเกตปฏิกิริยาระหว่างสุนัขสองตัวจนกว่ามันจะดูสบายใจเวลาอยู่ด้วยกัน และแยกไว้คนละคอกหรือคนละห้องเวลาที่คุณไม่อยู่ เมื่อพวกมันเริ่มผ่อนคลายเวลาอยู่ด้วยกันแล้ว ให้เริ่มปล่อยพวกมันไว้ด้วยกันเวลาที่คุณเดินออกจากห้องครั้งละ 2-3 นาที แล้วพยายามค่อยๆ เพิ่มเวลาให้พวกมันอยู่ด้วยกันตามลำพังนานขึ้นตอนที่คุณอยู่บ้าน แล้วคอยดูว่าพวกมันมีท่าทีต่อกันอย่างไรถ้าคุณปล่อยให้พวกมันอยู่ด้วยกันระหว่างที่คุณออกไปนอกห้องครั้งละ 2-3 นาที [9]
    • ผ่านไปสักระยะก็ปล่อยให้มันอยู่ด้วยกันนานขึ้นเรื่อยๆ จนคุณแน่ใจว่าพวกมันสบายใจที่จะอยู่ด้วยกันแล้ว พอถึงจุดนี้ก็แปลว่าสุนัขตัวใหม่ของคุณปรับตัวได้สมบูรณ์แล้ว!
    • การฝึกให้อยู่ในคอกก่อนช่วยได้ในช่วงแรกตอนที่คุณฝึกให้สุนัขคุ้นเคยกัน ให้มันอยู่ในห้องเดียวกันเพื่อให้มันเห็นกัน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

สร้างความผูกพันในครอบครัว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีปฏิสัมพันธ์กับสุนัข คุณต้องแสดงอำนาจและให้ทุกคนในครอบครัวทำแบบเดียวกัน เพราะโดยธรรมชาติแล้วสุนัขจะมีลำดับชั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มีสุนัขตัวอื่นอยู่ด้วย และคุณต้องทำให้สุนัขเข้าใจว่ามนุษย์คือจ่าฝูง ถ้าคุณไม่ทำแบบนี้ สุนัขจะกัดกันเพื่อให้ได้เป็นจ่าฝูงและไม่สนใจคำสั่งของคุณ [10]
    • คุณต้องสื่อสารกับสุนัขให้รู้ว่าคุณเป็นคนที่มีอำนาจในอาณาเขต เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา เช่น ถ้าสุนัขแยกเขี้ยวหรือขู่เพื่อปกป้องพื้นที่บนโซฟา คุณอาจจะสั่งให้ทั้งสองตัวลงจากโซฟาและขึ้นไปนั่งบนนั้นแทน
    • แต่ก็มีบางวิธีคิดที่บอกว่าการสร้างลำดับชั้นระหว่างสุนัขนั้นเป็นเรื่องดีเช่นกัน เช่น ถ้ามีสุนัขตัวหนึ่งที่ดูเป็นจ่าฝูงชัดเจน วิธีคิดแบบนี้ก็จะบอกว่าคุณควรให้อาหารตัวนี้ก่อน ปล่อยให้มันเดินเข้าประตูก่อน และอื่นๆ ถ้าคุณตัดสินใจว่าจะทำแบบนี้ คุณต้องทำให้ตลอด สุนัขจะได้ไม่สับสน
  2. แม้ว่าสุนัขจะอยู่เป็นเพื่อนกันได้อยู่แล้ว แต่พวกมันก็ยังอยากใกล้ชิดคุณอยู่ดี อย่างไรก็ตามคุณไม่จำเป็นต้องให้เวลาสุนัขทุกตัวเท่ากัน เพราะสุนัขบางตัวก็ต้องการความเอาใจใส่และการฝึกฝนมากกว่าตัวอื่นเล็กน้อยแล้วแต่นิสัย วิธีนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสุนัขแต่ละตัวได้ในสิ่งที่ทำให้พวกมันมีความสุขและรู้สึกมั่นคงด้วยการทำให้พวกมันรู้ว่าคุณเป็นคนคุม
    • เช่น คุณอาจจะผลัดกันพาสุนัขแต่ละตัวออกไปเดินเล่นเพื่อให้คุณมีเวลาได้อยู่ด้วยกัน หรือคุณอาจจะฝึกสุนัขรายตัวทุกสัปดาห์
  3. เมื่อถึงเวลาให้อาหาร ให้แยกชามของสุนัขแต่ละตัวให้ห่างกัน วิธีนี้จะทำให้สุนัขไม่เดินไปที่ชามของตัวอื่น ซึ่งจะทำให้อีกตัวหันมางับได้ นอกจากนี้ในช่วงแรกคุณก็อาจจะยืนกั้นกลางระหว่างสุนัขด้วย ถ้ามีตัวใดตัวหนึ่งเดินไปที่ชามของอีกตัว ให้ไล่มันออกไปเพื่อให้มันรู้ตัวว่ามันล้ำเส้น
    • เมื่อหมดเวลาให้อาหารแล้ว ให้นำอาหารไปเก็บเพื่อไม่ให้ตัวใดตัวหนึ่งอยากเดินไปที่ชามของตัวอื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องอาณาเขตได้
    • ถ้าคุณรู้ว่าสุนัขตัวไหนเป็นจ่าฝูง คุณควรสร้างลำดับชั้นด้วยการให้อาหารตัวนั้นก่อน คุณไม่จำเป็นต้องรอจนตัวแรกกินเสร็จแล้วค่อยให้ตัวที่สอง แค่ให้อาหารตัวที่เป็นจ่าฝูงก่อน จากนั้นก็ให้ตัวที่สอง
    • น้ำชามเดียวก็อาจจะเพียงพอสำหรับสุนัขทุกตัว แต่ถ้าคุณกังวล ก็ให้เตรียมน้ำเพิ่มอีกชาม
  4. เช่นเดียวกับเรื่องชามอาหาร สุนัขแต่ละตัวต้องมีที่นอนเฉพาะของตัวเอง คุณต้องทำให้สุนัขรู้ว่าที่นอนตรงไหนเป็นของใครและวางที่นอนแยกกันของใครของมันเพื่อไม่ให้พวกมันต้องมานอนเบียดกัน [11]
    • ปล่อยให้พวกมันเลือกที่เอง สุนัขที่อยู่ในบ้านที่มีสุนัขหลายตัวมักจะเลือกเองว่าจะนอนตรงไหน แต่ถ้าคุณไม่อยากให้พวกมันนอนตรงที่มันเลือก คุณก็ต้องฝึกให้มันไปนอนที่อื่น และไม่ต้องแปลกใจถ้าพวกมันเลือกนอนด้วยกัน แค่ดูให้ดีว่ามีพื้นที่เพียงพอและมีหมอนอิงหรือที่นอนสำหรับสุนัขแต่ละตัว
  5. สุนัขเตือนกันและกันด้วยการแยกเขี้ยวหรือขู่ พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ก้าวร้าวเสมอไป แค่เป็นวิธีเดียวที่สุนัขใช้บอกกันว่ามันไม่ชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น แม้ว่าคุณควรเข้าไปขัดขวางเมื่อเห็นพฤติกรรมแบบนี้ แต่คุณไม่ควรลงโทษสุนัขเด็ดขาด เพราะจะทำให้พวกมันกังวลหรือก้าวร้าวทุกครั้งที่รู้สึกไม่แน่ใจ [12]
    • ดังนั้นให้ลองแยกสุนัขออกจากกันหรือเบี่ยงเบนความสนใจแทน เช่น คุณอาจจะสั่งให้สุนัขเข้าบ้านใครบ้านมัน หรือคุณอาจจะหยิบสายจูงแล้วพามันออกไปเดินเล่น
  6. สอนให้สุนัขรู้จักคำสั่งพื้นฐาน เช่น "นั่ง" และ "นิ่ง" นอกจากนี้ก็สอนให้พวกมันอดทนรอก่อนที่คุณจะอนุญาตให้กินได้ ถึงคุณจะเลี้ยงสุนัขแค่ตัวเดียว คำสั่งเหล่านี้ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าคุณเลี้ยงสุนัขมากกว่า 1 ตัว คุณจำเป็นต้องควบคุมพวกมันด้วยคำสั่งง่ายๆ ได้ [13]
    • ถ้าคุณฝึกสุนัขเองได้ก็ตามสบายเลย แต่ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์เรื่องการสอนให้สุนัขรู้จักคำสั่งพื้นฐานมากนัก คุณอาจต้องปรึกษาครูฝึกที่เชี่ยวชาญ
    • นอกจากนี้ให้บังคับใช้กฎในบ้านอย่างสม่ำเสมอ เช่น ถ้าคุณไม่อยากให้สุนัขนั่งบนโซฟา อย่าให้สุนัขตัวไหนขึ้นไปบนโซฟาเด็ดขาด [14]
  7. การเสริมแรงทางบวกเป็นวิธีฝึกสุนัขที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ถ้าคุณเห็นพวกมันนอนข้างกันเงียบๆ ให้รางวัลหรือลูบหัวเพื่อให้พวกมันรู้ว่า คุณมีความสุขกับสิ่งที่พวกมันกำลังทำ [15]
    • ผ่านไปสักระยะวิธีนี้จะช่วยให้สุนัขได้เรียนรู้ว่า คุณคาดหวังให้พวกมันอยู่ด้วยกันอย่างสงบ
  8. ให้สุนัขได้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสนุกอยู่เสมอ. สุนัขที่เบื่อหน่ายมักจะทำตัวไม่น่ารัก ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ถ้าคุณมีสุนัขหลายตัวรวมกลุ่มกัน ปกป้องข้าวของและสติของคุณด้วยการให้สุนัขมีของเล่นเยอะๆ และมีกิจกรรมทำ เช่น ลูกบอลที่มีรางวัลออกมาและของเล่นสำหรับแทะที่ทนทาน นอกจากนี้ให้พาสุนัขออกไปเดินเล่นและให้พวกมันมีเวลาได้วิ่งเล่นทุกวัน [16]
    • สุนัขที่แทะข้าวของ คุ้ยขยะ เห่าไม่หยุด หรือชอบหนีออกจากบ้านบ่อยๆ มักจะเป็นสุนัขที่เบื่อหน่าย คุณอาจจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมเหล่านี้ได้ด้วยการให้สุนัขได้ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะทุกวัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พาสุนัขไปทำหมัน วิธินี้จะช่วยหยุดพฤติกรรมจ่าฝูงและป้องกันสุนัขท้องโดยไม่ตั้งใจ
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าพยายามจัดการพฤติกรรมก้าวร้าวด้วยตนเอง แยกสุนัขออกจากกันจนกว่าคุณจะได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  • สุนัขที่ตื่นตัวเกินไปอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวได้แม้ตอนแรกจะไม่ได้ตั้งใจ เวลาให้อาหาร คุณกลับมาบ้าน และเวลาเล่นคือช่วงเวลาที่ทำให้สุนัขบางตัวเกิดความเครียดสูง เพราะฉะนั้นต้องระวังและพยายามรักษาพลังงานของคุณให้สงบ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,436 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา