ร่วมเขียน โดย
ทีมงานวิกิฮาว
X
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว
จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 14 ข้อ
ที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 7,904 ครั้ง
ภายในบทความนี้:
ถ้าพ่อแม่ของคุณตั้งกฎเยอะแยะ คุณก็คงหาโอกาสไปเดตแทบไม่ได้ แต่โชคดีที่ยังพอมีวิธีที่จะทำให้พ่อแม่มีความสุขได้โดยที่คุณเองก็ยังได้ไปเดต วันนี้เราจะมาแบ่งปันเคล็ดลับที่จะทำให้คุณได้ใช้เวลากับแฟนหนุ่มแม้ว่าพ่อแม่ของคุณจะเข้มงวดมากก็ตาม ลองอ่านบทความด้านล่างนี้เพื่อหาวิธีใหม่ๆ ที่ช่วยให้คุณได้สานสัมพันธ์กับหนุ่มคนโปรด
ขั้นตอน
-
ทำให้พ่อแม่คิดว่าคุณสนใจเรื่องการพบปะสังสรรค์กับผู้คนมากกว่าการเดต. เล่าให้พ่อแม่ฟังว่าตารางเวลาของคุณอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมกับผองเพื่อน เช่น ถ้าคุณจะไปโยนโบว์ลิ่งกับแฟน ก็ให้บอกว่าไปกันเป็นกลุ่ม ให้เพื่อนมารับตรงจุดที่พ่อแม่มองเห็นเพื่อนๆ พวกเขาจะได้เชื่อว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ แล้วค่อยไปเจอแฟนทีหลัง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วิธีที่ง่ายที่สุดคือการบอกความจริงเสียเป็นส่วนใหญ่ ถ้าคุณบอกว่าจะอยู่กับเพื่อน ก็วางแผนใช้เวลาบางส่วนในวันนั้นกับเพื่อนๆ วิธีนี้จะทำให้คุณดูผ่อนคลายเมื่ออธิบายให้พ่อแม่ฟัง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณอยากแต่งตัวจี๊ดจ๊าดเวลาออกไปเจอแฟน ให้เอาเสื้อผ้าใส่ไว้ในกระเป๋าหรือเป้ และแต่งตัวออกจากบ้านตามปกติเหมือนเวลาคุณไปเรียนพิเศษ พ่อแม่จะได้ไม่สงสัยว่าคุณไปเดต [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
พ่อแม่จะประทับใจเมื่อรู้ว่าคุณมีความรับผิดชอบแค่ไหน. บอกพวกเขาว่าคุณมีการบ้านเยอะแค่ไหน และบอกด้วยว่าคุณทำเองคนเดียวไม่ไหวหรอก บอกว่าคุณเข้าร่วมกลุ่มติวหนังสือหลายกลุ่ม แต่ถึงจะไปเดตคุณก็ต้องได้คะแนนดีๆ ด้วยนะ เมื่อคุณกลับมาบ้านพร้อมกับเกรดสวยๆ พ่อแม่จะยอมรับการตัดสินใจของคุณ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจจะเล่าให้พวกเขาฟังว่าคุณต้องใช้เวลาทำการบ้านกี่ชั่วโมงเพื่อให้ข้ออ้างของคุณฟังขึ้นสุดๆ เช่น คุณอาจจะบอกว่า “หนูมีการบ้านต้องทำสัปดาห์ละ 15-20 ชั่วโมงเลยค่ะ!” [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้คุณก็อาจจะเล่าไปตรงๆ ว่าการบ้านเยอะขนาดไหน คุณอาจจะบอกพวกเขาว่า “ถ้าจะให้ทำการบ้านทั้งหมดนี้เองมันยากมากเลยค่ะ อีกอย่างเวลามีคนอื่นอยู่ด้วยแล้วหนูรู้สึกมีแรงกระตุ้นมากกว่า”
- คุณอาจจะตั้งเป้าหมายว่าจะทำการบ้านกับแฟนแล้วค่อยพักผ่อนด้วยกันทีหลังก็ได้ พ่อแม่ของคุณจะต้องดีใจที่คุณตั้งใจเรียน
-
พ่อแม่จะไม่กังวลถ้าเพื่อนโทรมา. เปลี่ยนชื่อแฟนในรายชื่อติดต่อ อย่าลืมลบอิโมจิหวานแหววทั้งหลาย เช่น หัวใจ (💕) หรือไฟ (🔥) ออกจากชื่อเขาด้วย คุณอาจจะแค่สลับชื่อเขากับชื่อเพื่อนสนิท เช่น ถ้าคุณพูดถึงเพื่อนสนิทที่ชื่อ “ธิชา” ตลอด ก็ให้เปลี่ยนชื่อแฟนเป็นชื่อนั้น พ่อแม่จะคิดว่าคุณก็แค่สนิทกับเพื่อนมากเท่านั้นเอง [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เป็นไปได้มากๆ ที่รายชื่อติดต่อจะมีชื่อซ้ำกันสองชื่อ อย่าเผยไต๋ เช่น “ธิชา 2” เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นถ้าพ่อแม่มาเห็น พวกเขาจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
โฆษณา
-
พ่อแม่จะคิดว่าคุณโสด. โพสต์รูปที่คุณทำกิจกรรมสนุกๆ กับเพื่อนๆ คำคมสร้างแรงบันดาลใจ หรือความคิดเกี่ยวกับอนาคตของคุณ อย่าให้มีหลักฐานเป็นภาพคุณกำลังกอดตัวกลมกับแฟนและเช็กว่าไม่มีใครแท็กรูปคุณถ่ายคู่กับเขาในภาพอื่น ถ้าโซเชียลมีเดียของคุณไม่มีร่องรอยความโรแมนติกอยู่เลย พ่อแม่จะคิดว่าคุณไม่ได้คิดเรื่องการเดตเลยสักนิดเดียว [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Pew Research Center ไปที่แหล่งข้อมูล
- นอกจากนี้คุณกับแฟนหนุ่มยังได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยหากคุณไม่ได้โพสต์รูปมากมาย คุณจะมีความสุขกับความสัมพันธ์โดยที่ไม่เจอกับเรื่องดราม่ามากนัก
-
เบี่ยงเบนความสนใจของพ่อแม่ออกจากความสัมพันธ์ของคุณ. พูดเรื่องต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลาของวัน เช่น คุณอาจจะพูดถึงเกร็ดความรู้จากวิชาประวัติศาสตร์ระหว่างกินมื้อเช้า จากนั้นก็เล่าเรื่องความหวังและความฝันของคุณให้พ่อแม่ฟังช่วงมื้อเย็น พวกเขาอยากรู้เรื่องของคุณอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพวกเขาจะดีใจมากที่ได้รู้เรื่องของคุณ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตอนเช้าคุณอาจจะพูดทำนองว่า “หนูไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองชอบประวัติศาสตร์โลก! หนูเรียนเรื่องเส้นทางสายไหม…”
- ระหว่างมื้อค่ำ คุณก็อาจจะเล่าสิ่งที่คุณอยากทำในอนาคตให้พ่อแม่ฟัง เช่น คุณอาจจะบอกว่า “หนูคิดว่าหนูอยากเรียนเอกควบภาษาต่างประเทศกับเศรษฐศาสตร์!”
- งานวิจัยกล่าวว่า ทักษะการเข้าสังคมและความภาคภูมิใจในตัวเองของคุณจะสูงขึ้นหากคุณพูดคุยกับพ่อแม่เป็นประจำ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ไปในที่ที่พวกเขาไม่รู้จัก ความสัมพันธ์ของคุณจะได้ไม่มีเรื่องปวดหัว. ไปในที่ที่พ่อแม่หรือเพื่อนของพ่อแม่ไม่คิดจะไป เช่น อาจจะเป็นศูนย์รวมความบันเทิงในละแวกบ้าน แหล่งรวมร้านค้าต่างๆ หรือลานสเก็ตที่วัยรุ่นชอบไปรวมตัวกัน ถ้าคุณอยู่แค่ในพื้นที่ที่ผู้ใหญ่ไม่สนใจจะไป พวกเขาก็จะไม่เจอคุณกับแฟน [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Pew Research Center ไปที่แหล่งข้อมูล
- โรงเรียนก็เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพบปะกับแฟนหนุ่ม เพราะคุณสามารถคุยกันช่วงพักได้อย่างสนุกสนาน
- เวลาที่พ่อแม่ไปทำงาน คุณก็สามารถนั่งเล่นกับแฟนและเพื่อนๆ ของคุณสองคนได้ที่บ้านของใครสักคน
- นอกจากนี้คุณก็อาจจะทำกิจกรรมนอกหลักสูตรกับแฟนหนุ่มก็ได้ เช่น คุณสองคนอาจจะเข้าชมรมละครและได้ใช้เวลาร่วมกันเยอะๆ ระหว่างซ้อมละคร
-
ใกล้ชิดกับเขาเมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังเท่านั้นเพื่อให้ความสัมพันธ์เป็นเรื่องพิเศษ. ลืมการแสดงความรักในโซเชียลมีเดียหรือในที่สาธารณะไปได้เลย คุณทั้งคู่จะได้ไม่ต้องรับมือกับคำวิจารณ์จากพ่อแม่ เพื่อนๆ หรือเพื่อนของครอบครัว คุณจะกอดจูบคนรักของคุณมากแค่ไหนก็ได้เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพัง [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าพ่อแม่และเพื่อนๆ เข้ามาวุ่นวายกับความสัมพันธ์ของคุณไม่ได้ คุณสองคนก็จะได้คบกันอย่างสบายใจ
- เวลาที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง บีบมือเขาแล้วบอกว่าคุณดีใจที่ได้เจอเขาอีก
- คุณอาจจะบอกเขาว่า “มันรู้สึกพิเศษมากเลยนะเวลาที่ได้แอบจูบคุณเพราะว่าไม่มีมองอยู่!”
โฆษณา
-
รู้จักค่านิยมของพ่อแม่ คุณจะได้เข้าใจพวกเขา. คุณอาจจะถามพ่อแม่ว่าสมัยที่พ่อแม่อายุเท่าคุณพวกเขามีแฟนได้หรือเปล่า คุณอาจจะได้รู้ว่าพวกเขาคิดว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วหรือไม่ ถามว่าพวกเขาจะอนุญาตให้คุณมีแฟนไหม ถ้าพวกเขาบอกว่าไม่ ปล่อยให้พวกเขาอธิบายมุมมองของตัวเอง พ่อแม่จะรู้สึกดีที่คุณตั้งใจฟัง และอาจจะสงสัยว่าตัวเองควรยืดหยุ่นกว่านี้หรือเปล่า [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจจะเริ่มชวนคุยด้วยการพูดทำนองว่า “ตอนพ่อแม่อายุเท่าหนู พ่อแม่มีแฟนได้มั้ยคะ แล้วอยากมีหรือเปล่า”
- เกริ่นว่ายุคสมัยของคุณนั้นแตกต่างจากสมัยของพ่อแม่เล็กน้อยอย่างไร เช่น คุณอาจจะพูดว่า “สมัยนี้คนอายุเท่าหนูเขาก็ไปเที่ยวกันหลังเลิกเรียนเป็นเรื่องปกตินะคะ พ่อแม่คิดว่าไงคะ”
- คุณอาจจะถามถึงสิ่งที่พวกเขาคิดว่าจะตามมาด้วยก็ได้ เช่น คุณอาจจะถามว่า “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนูมีแฟนขึ้นมาจริงๆ”
-
ย้ำให้พ่อแม่มั่นใจว่าคุณรับผิดชอบเรื่องต่างๆ ได้. เขียนรายการสิ่งที่สำคัญกับคุณ จากนั้นอธิบายวิธีการจัดการเวลาทั้งหมดของคุณให้พ่อแม่ฟัง ให้พวกเขาดูเกรด ปฏิทินเข้าสังคม และเวลานอน ถ้าคุณทำให้พ่อแม่เห็นว่าคุณมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ คุณก็จะได้พิสูจน์ว่าคุณสามารถจัดการเรื่องความสัมพันธ์ได้นอกเหนือจากเรื่องอื่นๆ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณจัดกลุ่มติวหนังสือที่คุณตั้งใจจริงๆ ให้บอกพ่อแม่เรื่องนี้ อธิบายว่าคุณมีเครือข่ายช่วยกันเรียนที่เป็นกลุ่มเพื่อนที่มีความมุ่งมั่นเหมือนกันกับคุณ
- บอกพ่อแม่ว่าสุขภาพก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณเช่นกัน เมื่อพวกเขารู้ว่าคุณดูแลร่างกายและจิตใจของตัวเอง พ่อแม่ก็จะโล่งใจ และพวกเขาก็จะเชื่อมั่นว่าคุณจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
- ย้ำกับพ่อแม่ว่าความสัมพันธ์กับผู้อื่นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และคุณแค่ต้องการคนรักที่คอยสนับสนุนคุณ
โฆษณา
-
บอกพ่อแม่ว่าคุณอยู่กับเขาในที่สาธารณะเพื่อทำความดี. สร้างความผูกพันกับพวกเขาและเปิดใจเล่าเรื่องความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าให้พวกเขาฟัง เช่น คุณอาจจะมุ่งมั่นเรื่องการเก็บขยะบริเวณชายหาดหรือเสิร์ฟอาหารที่โรงทาน พ่อแม่จะดีใจที่รู้ว่าคุณเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อสังคม เมื่อคุณออกไปข้างนอก ให้ชวนแฟนหนุ่มมาทำงานอาสาสมัครกับคุณด้วย การได้เป็นทีมเดียวกันนอกจากจะโรแมนติกแล้วยังสร้างความแตกต่างได้ด้วย [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจจะบอกพ่อแม่แค่ว่าเขาเป็นเพื่อนอาสาสมัคร แทนที่จะบอกว่าเป็นแฟน
- เล่าประโยชน์ของงานบริการชุมชนให้พ่อแม่ฟัง เช่น คุณอาจจะพูดว่า “งานอาสาสมัครนอกจากจะทำให้หนูมั่นใจแล้ว หนูยังได้เพื่อนใหม่และได้ประสบการณ์การทำงานด้วย” [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ย้ำกับพ่อแม่ว่าคุณยังได้ “ประกาศนียบัตรอาสาสมัคร” ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ใบสมัครเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยและประวัติการทำงานของคุณดูดีขึ้นมาก
-
บอกข้อดีของเขาให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่จะได้เริ่มชอบเขา. ถ้ามีเรื่องน่ารักๆ ว่าคุณสองคนเจอกันได้อย่างไร ก็เล่าให้พวกเขาฟัง เช่น เขาอาจจะเคยติวเลขให้คุณ จากนั้นคุณก็ปลื้มเขามากๆ เล่าต่อและอธิบายว่าเขาทำให้ชีวิตคุณสบายขึ้นอย่างไร เมื่อพวกเขารู้ว่าเขาเป็นแรงบวกในชีวิตของคุณ พ่อแม่ก็มีแนวโน้มที่จะยอมรับเขามากขึ้น [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ชี้ให้เห็นว่าคนรักช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายของตัวเองได้อย่างไร คุณอาจจะพูดประมาณว่า “ตั้งแต่เราคบกัน หนูสอบแคลคูลัสได้คะแนนถึง ‘80%’ ตลอดเลยค่ะ!”
- เล่าให้ฟังว่าแฟนหนุ่มของคุณประทับใจในสิ่งที่คุณเป็นอย่างไร เช่น คุณอาจจะพูดว่า “เขาชอบงานศิลปะของหนูทุกชิ้นเลยค่ะ เขาบอกว่าหนูควรส่งพอร์ตโฟลิโอไปที่มหาลัยที่เราคุยกัน!”
- ชื่นชมนิสัยของเขาด้วยเช่นกัน เช่น คุณอาจจะเล่าว่า “เขามีน้ำใจมากเลยค่ะ เขาได้รางวัล ‘นักเรียนคุณธรรม’ ที่โรงเรียนด้วยนะคะ!”
โฆษณา
บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง
วิธีการ
คุณควรคุยกันนานแค่ไหนก่อนตกลงเป็นแฟน
วิธีการ
ค้นหาว่า เพื่อนคุณแอบชอบอยู่หรือเปล่า
วิธีการ
แชทจีบสาว
จะส่งข้อความอะไรถึงแฟนสาวหลังจากทะเลาะกัน
12 วิธีขอเป็นแฟนที่จะทำให้สาวๆ ประทับใจ
วิธีการ
ดูว่าผู้ชายชอบคุณมากกว่าเพื่อนหรือไม่
วิธีการ
สังเกตว่าผู้หญิงมีใจให้คุณหรือไม่
สัญญาณที่บ่งบอกว่าแฟนเก่าอยากกลับมาหาคุณ
วิธีการ
ทำให้ผู้ชายตกหลุมรัก
วิธีการ
รู้ว่าคุณยังรักเขาอยู่หรือเปล่า
วิธีการ
จูบแบบฝรั่งเศส
วิธีการ
จูบอย่างดูดดื่ม
วิธีการ
รู้หากผู้ชายชอบคุณ
วิธีการ
ทำรอยจูบปลอม
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.teenvogue.com/story/parents-hate-friends
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/thinking-about-kids/201609/how-lie-your-parents
- ↑ https://www.seventeen.com/life/friends-family/a26283/strict-parent-struggles/
- ↑ https://people.com/health/homework-biggest-cause-teen-stress/
- ↑ https://people.com/health/homework-biggest-cause-teen-stress/
- ↑ https://lovesyllabus.com/hide-a-long-distance-relationship/
- ↑ https://www.pewresearch.org/internet/2015/10/01/social-media-and-romantic-relationships/
- ↑ https://kidshealth.org/en/teens/talk-to-parents.html
- ↑ https://www.sciencedaily.com/releases/2012/08/120821143907.htm
- ↑ https://www.pewresearch.org/internet/2015/08/06/chapter-2-how-teens-hang-out-and-stay-in-touch-with-their-closest-friends/
- ↑ https://www.researchgate.net/publication/271347840_Public_and_Private_Physical_Affection_Differences_between_Same-Sex_and_Different-Sex_Couples_The_Role_of_Perceived_Marginalization
- ↑ https://www.rootsofaction.com/integrity/
- ↑ https://fazeteen.com/how-to-balance-social-life-with-studies/
- ↑ https://blogs.volunteermatch.org/4-reasons-every-teen-should-volunteer
- ↑ https://blogs.volunteermatch.org/4-reasons-every-teen-should-volunteer
- ↑ https://www.romper.com/p/11-signs-you-have-a-supportive-partner-who-will-always-be-there-for-you-5542
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 7,904 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 7,904 ครั้ง
หมวดหมู่: ความรัก
มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,904 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
โฆษณา
คุกกี้ทำให้วิกิฮาวมีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยการใช้เว็บไซต์ของเราต่อ คุณได้ตอบตกลงเห็นด้วยกับ นโยบายคุกกี้
ของเรา
บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีการ
คุณควรคุยกันนานแค่ไหนก่อนตกลงเป็นแฟน
วิธีการ
ค้นหาว่า เพื่อนคุณแอบชอบอยู่หรือเปล่า
วิธีการ
แชทจีบสาว
จะส่งข้อความอะไรถึงแฟนสาวหลังจากทะเลาะกัน
บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น
ล็อค Facebook บน iPhone, Android หรือคอมพิวเตอร์
อิโมจิซ่อนความสยิวที่คนใช้แชตกันมากที่สุด
หักอกคนหลงตัวเอง
จะใช้โปรแกรมดูโปรไฟล์ IG ส่วนตัวโดยไม่ต้องติดตามได้ไหม
บทความฮาวทูที่ติดเทรนด์
วิธีการ
ทำนามบัตรด้วยโปรแกรม Microsoft Word
วิธีการ
รู้ว่าคนอื่นบล็อกเบอร์โทรคุณ
วิธีการ
ปรับขนาดรูปเป็นหน่วย KB
วิธีการ
ตรวจหาหมู่เลือด
วิธีการ
ตั้งเวลานาฬิกา Baby G
วิธีการ
ขอบคุณคนที่อวยพรวันเกิดให้เรา
บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น
ตอบกลับเวลามีคนทักว่า "เป็นไงบ้าง"
ส่งข้อความเพื่อทำให้เขาคิดถึงคุณแทบบ้าคลั่ง: แชทอย่างไรให้เขาหยุดคิดถึงคุณไม่ได้
ดูว่าผู้ชายแอบชอบเราหรือไม่
ซ่อนว่าเราติดตามใครบน Instagram
บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น
ผู้ชายคิดยังไงถ้าผู้หญิงเงียบหายไป
ลางานแบบเนียนๆ ให้เจ้านายจับไม่ได้ด้วย 20 ข้ออ้างลางานกะทันหันที่ทำให้การลางานน่าเชื่อถือ
ชมเชยงานศิลปะของใครบางคน
สัญญาณที่บ่งบอกว่าแฟนเก่าอยากกลับมาหาคุณ
บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น
กู้คืนบัญชี Instagram เวลาลืมรหัสผ่านแบบง่ายๆ
แชทอย่างไรให้ผู้ชายหลง: เทคนิคการส่งข้อความเพื่อดึงดูดให้ผู้ชายเป็นฝ่ายไล่ตามคุณ
สายตาที่ผู้ชายจ้องมองมาแบบนี้หมายความว่าอย่างไรนะ: หาความหมายเมื่อเขาสบตาคุณและวิธีตอบกลับ
เทคนิคจีบสาวผ่าน IG: ชวนสาวคุยบนอินสตาแกรมอย่างไรให้เธอตอบกลับในคอมเมนท์และไอจีสตอรี่
บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น
จะส่งข้อความอะไรถึงแฟนสาวหลังจากทะเลาะกัน
ดูว่าใครไม่ฟอลเรากลับในไอจี
สัญญาณที่บอกว่าถูกบล็อกใน WhatsApp และ 4 วิธีเช็กแบบง่ายๆ
ถอดรหัสความหมายของอิโมติคอนรูปหัวใจในโซเชียลมีเดีย