ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
กิจกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจำวันอาจกลับกลายเป็นเรื่องยากและน่าหงุดหงิดใจไปแทนได้ในช่วงที่คุณพักฟื้นร่างกายหลังการผ่าตัด ไม่เว้นแม้แต่การอาบน้ำที่คุณเคยทำได้ตามปกติ เนื่องจากแผลผ่าตัดโดยส่วนใหญ่จำเป็นต้องแห้งอยู่เสมอ คุณจึงควรอาบน้ำตามแนวทางการปฏิบัติตัวที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด โดยแพทย์ของคุณอาจแนะนำให้คุณงดอาบน้ำสักระยะหนึ่ง ปิดแผลผ่าตัดให้เรียบร้อย หรือทั้งสองอย่าง ความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายที่จำกัดอาจทำให้การอาบน้ำตามปกติของคุณไม่สะดวกสบายเช่นเคย อีกทั้งการขยับตัวในพื้นที่อาบน้ำแคบๆ ยังอาจไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้ารับการผ่าตัดชนิดใด พยายามทำตามขั้นตอนการอาบน้ำที่ปลอดภัยอยู่เสมอเพื่อช่วยให้คุณปลอดภัยทั้งจากการติดเชื้อและการได้รับบาดเจ็บ
ขั้นตอน
-
อาบน้ำตามแนวทางการปฏิบัติตัวที่แพทย์แนะนำ. แพทย์ของคุณจะเป็นผู้ตรวจประเมินหลังการผ่าตัดและพิจารณาแนวทางการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในลำดับถัดไปในระยะพักฟื้นของคุณ
- แพทย์ของคุณจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในช่วง 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัดซึ่งรวมถึงคำแนะนำในการกลับมาอาบน้ำตามปกติอีกครั้งอย่างปลอดภัย ซึ่งโดยหลักๆ แล้วแนวทางการปฏิบัติตัวจากแพทย์จะขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัดและลักษณะการเย็บปิดแผล
- คุณจะได้รับคำแนะนำในการอาบน้ำหลังการผ่าตัดก่อนออกจากโรงพยาบาล ซึ่งหากคุณเกิดหลงลืมข้อมูลบางส่วน คุณควรติดต่อแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำที่ถูกต้องอีกครั้งโดยทันทีเพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บ และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
-
ทำความเข้าใจในลักษณะการเย็บปิดแผล. เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่แพทย์ใช้ในการเย็บปิดแผลของคุณเพื่อให้คุณสามารถป้องกันการบาดเจ็บและการติดเชื้อได้ดียิ่งขึ้น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วิธีการเย็บปิดแผลที่นิยมใช้โดยทั่วไปมีทั้งหมด 4 วิธี ได้แก่ การใช้ไหมเย็บแผล การใช้ลวดเย็บแผล การใช้แถบปิดแผลหรือที่เรียกว่าแผ่นเทปสเตอไรด์ และการใช้กาวติดเนื้อเยื่อ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ศัลยแพทย์โดยส่วนใหญ่จะใช้ผ้าปิดแผลกันน้ำปิดทับลงไปบนแผลผ่าตัดเพื่อให้คนไข้สามารถอาบน้ำได้ตามปกติหลังจากที่ร่างกายเริ่มฟื้นตัว [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แผลผ่าตัดที่เย็บปิดด้วยกาวติดเนื้อเยื่อโดยส่วนใหญ่สามารถสัมผัสกับน้ำที่ไหลผ่านเบาๆ ได้ภายหลัง 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไหมที่ใช้สำหรับเย็บปิดแผลผ่าตัดมีทั้งชนิดที่ต้องตัดออกหลังจากที่เนื้อเยื่อสมานเป็นเนื้อเดียวกันและชนิดที่สามารถละลายและดูดซึมลงไปบนผิวหนังได้โดยไม่จำเป็นต้องตัดออกในภายหลัง [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แผลผ่าตัดที่เย็บปิดด้วยไหมชนิดไม่ละลาย ลวดเย็บแผล หรือแถบปิดแผลอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้สัมผัสถูกน้ำเป็นระยะเวลาที่นานกว่า ดังนั้นในช่วงที่แผลยังไม่สามารถโดนน้ำได้ ให้คุณใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดตัวให้สะอาดหรือปิดแผลไว้ด้วยผ้าปิดแผลในระหว่างอาบน้ำ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดอย่างเบามือ. หากแผลผ่าตัดของคุณไม่จำเป็นต้องปิดด้วยผ้าปิดแผลปิดต่อแล้ว พยายามหลีกเลี่ยงการขัดถูที่บริเวณแผลผ่าตัดหรือใช้ผ้าขนหนูเช็ดอย่างรุนแรง [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดด้วยสบู่สูตรอ่อนโยนและน้ำเปล่า โดยระวังอย่าให้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำอื่นๆ สัมผัสถูกแผลโดยตรงและเปิดน้ำเปล่าให้ไหลผ่านเพียงเบาๆ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ศัลยแพทย์โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้คนไข้ใช้สบู่และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมตัวเดิมที่ใช้อยู่ตามปกติ
-
ค่อยๆ ซับบริเวณแผลผ่าตัดให้แห้ง. หลังอาบน้ำเสร็จ ให้คุณดึงผ้าปิดแผลที่ใช้สำหรับปิดทับแผลผ่าตัดไว้ให้หลุดออก (เช่น ผ้าก๊อซหรือพลาสเตอร์ยา แต่ อย่า ดึงแถบปิดแผลที่ใช้เย็บแผลผ่าตัดออก) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณแผลผ่าตัดแห้งสนิทดี
- ใช้ผ้าขนหนูสะอาดหรือผ้าก๊อซค่อยๆ ซับบริเวณแผลผ่าตัดให้แห้งสนิท [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หลีกเลี่ยงการเช็ดถูแรงๆ และอย่าแกะไหมเย็บแผล ลวดเย็บแผล หรือแถบปิดแผลที่ยังคงทำหน้าที่ยึดปากแผลอยู่
- หลีกเลี่ยงการแกะเกาแผลผ่าตัดและปล่อยให้สะเก็ดแผลหลุดลอกเองตามธรรมชาติ โดยสะเก็ดแผลจะทำหน้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกจากแผล [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทายาครีมหรือยาขี้ผึ้งที่แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายเท่านั้น. หลีกเลี่ยงการใช้ยาทาภายนอกทาที่บริเวณแผลผ่าตัดเว้นแต่ว่าศัลยแพทย์ของคุณจะเจาะจงสั่งใช้ยาดังกล่าว [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ในขั้นตอนการเปลี่ยนผ้าปิดแผล แพทย์ของคุณอาจแนะนำให้ทายาครีมหรือยาขี้ผึ้งที่บริเวณแผลผ่าตัดก่อนใช้ผ้าปิดแผลปิดทับลงไป อย่างไรก็ตาม ให้คุณใช้ยาทาภายนอกเฉพาะในกรณีที่แพทย์เป็นผู้ออกคำสั่งใช้ยาเท่านั้น [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปิดแถบปิดแผลไว้ดังเดิมโดยไม่ต้องแกะออก. เมื่อพ้นระยะที่ต้องคอยระวังไม่ให้แผลผ่าตัดเปียกน้ำแล้ว แถบปิดแผลที่ยึดปากแผลไว้ก็สามารถโดนน้ำได้โดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม อย่าแกะแถบปิดแผลออกและรอจนกระทั่งแถบปิดแผลหลุดออกมาเอง [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ค่อยๆ ซับบริเวณแผลผ่าตัดรวมถึงแถบปิดแผลที่ยังไม่หลุดออกให้แห้งสนิท
โฆษณา
-
ป้องกันไม่ให้บริเวณแผลผ่าตัดเปียกน้ำตามที่แพทย์สั่ง. พยายามดูแลให้บริเวณแผลผ่าตัดแห้งอยู่เสมอด้วยการหลีกเลี่ยงการอาบน้ำในช่วง 24-72 ชั่วโมงแรกหลังรับการผ่าตัดเพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อและกระตุ้นให้แผลสมานติดกันเร็วขึ้น [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดขึ้นอยู่กับตัวแปรต่างๆ มากมาย ซึ่งคุณสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อหรือเกิดความเสียหายต่อแผลผ่าตัดได้ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เตรียมผ้าก๊อซสะอาดไว้ให้พร้อมเพื่อให้คุณสามารถหยิบใช้ตลอดเวลาแม้ว่าจะไม่ได้เข้าใกล้น้ำก็ตามที
-
ปิดแผลผ่าตัดไว้. ศัลยแพทย์อาจอนุญาตให้คุณกลับมาอาบน้ำได้ตามปกติหลังจากที่ร่างกายฟื้นตัวดีแล้วในกรณีที่แผลผ่าตัดอยู่ในตำแหน่งที่คุณสามารถใช้วัสดุกันน้ำปิดไว้ได้
- โดยส่วนใหญ่แล้วศัลยแพทย์จะอธิบายขั้นตอนการปิดแผลผ่าตัดในระหว่างอาบน้ำไว้อย่างชัดเจน
- นำพลาสติกแรปแบบใส ถุงขยะ หรือฟิล์มถนอมอาหารมาพันปิดแผลผ่าตัดไว้ให้แนบสนิท จากนั้นใช้เทปแต่งแผลติดไล่ไปตามขอบเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าไปด้านในได้ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สำหรับแผลผ่าตัดที่อยู่ในตำแหน่งที่เอื้อมถึงได้ยาก ลองขอให้สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนของคุณช่วยตัดถุงพลาสติกหรือพลาสติกแรปเพื่อใช้สำหรับปิดแผลก่อนยึดไว้ให้แน่นด้วยเทปแต่งแผล
- สำหรับแผลผ่าตัดที่อยู่บริเวณหัวไหล่หรือหลังส่วนบน นอกเหนือจากการปิดแผลผ่าตัดไว้แล้ว ให้คุณใช้ถุงขยะคลุมไหล่ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำ สบู่ หรือแชมพูสัมผัสบริเวณแผลผ่าตัดในระหว่างอาบน้ำ และสำหรับแผลผ่าตัดที่อยู่บริเวณหน้าอก ให้คุณใช้ถุงขยะคลุมไว้ในลักษณะเดียวกับผ้ากันเปื้อนของเด็ก [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดตัวให้สะอาด. ในช่วงที่แพทย์ยังไม่อนุญาตให้คุณกลับมาอาบน้ำได้ตามปกติ คุณสามารถชำระล้างร่างกายให้รู้สึกสดชื่นได้ด้วยการใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดตัวให้สะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้แผลผ่าตัดเปียกชื้นหรือได้รับการกระทบกระเทือน [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูผืนเล็กจุ่มลงไปในน้ำสบู่อ่อนๆ ให้ชุ่มและนำไปเช็ดตัวให้ทั่วก่อนเช็ดตัวให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด
-
หลีกเลี่ยงการแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ. โดยส่วนใหญ่แล้วศัลยแพทย์จะอนุญาตให้อาบน้ำด้วยฝักบัวหลังจากที่พ้นระยะที่ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลผ่าตัดเปียกน้ำและร่างกายของคุณเริ่มฟื้นตัวดี [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่าให้บริเวณแผลผ่าตัดโดนน้ำเป็นเวลานาน แช่ตัวในอ่างอาบน้ำหรืออ่างน้ำร้อน หรือว่ายน้ำในสระว่ายน้ำอย่างน้อย 3 สัปดาห์หรือจนกว่าคุณจะได้รับอนุญาตจากแพทย์ [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
อาบน้ำด้วยฝักบัวอย่างรวดเร็ว. โดยส่วนใหญ่แล้วศัลยแพทย์จะแนะนำใช้เวลาในการอาบน้ำด้วยฝักบัวไม่เกิน 5 นาทีจนกว่าร่างกายของคุณจะฟื้นตัวมากขึ้นและแผลผ่าตัดเริ่มสมานติดกัน [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หาตัวช่วยในการพยุงตัว. ลองขอให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวคอยเฝ้าดูคุณในระหว่างอาบน้ำในช่วง 2-3 วันแรกที่คุณเพิ่งกลับมาอาบน้ำตามปกติ [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจจำเป็นต้องใช้เก้าอี้อาบน้ำ เก้าอี้ทั่วไป หรือราวจับเพื่อช่วยให้คุณสามารถพยุงตัวได้อย่างมั่นคงและป้องกันการสะดุดล้ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้ารับการผ่าตัดชนิดใด [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การผ่าตัดที่บริเวณหัวเข่า ขา ข้อเท้า เท้า และหลังอาจทำให้คุณควบคุมการทรงตัวในพื้นที่อาบน้ำแคบๆ ได้ยาก ดังนั้นคุณจึงควรใช้เก้าอี้อาบน้ำ เก้าอี้ทั่วไป หรือราวจับเพื่อช่วยในการพยุงตัวให้มั่นคงยิ่งขึ้น
-
จัดท่าทางร่างกายให้แผลผ่าตัดอยู่ห่างจากน้ำที่ไหลจากฝักบัว. หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำที่ไหลแรงๆ ไหลผ่านแผลผ่าตัดโดยตรง
- ปรับอุณหภูมิและความแรงของน้ำให้เหมาะสมก่อนเริ่มอาบน้ำเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อแผลผ่าตัดของคุณ
โฆษณา
-
สังเกตสัญญาณของการติดเชื้อ. การติดเชื้อเป็นผลข้างเคียงหนึ่งที่พบได้มากหลังเข้ารับการผ่าตัด [24] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ติดต่อแพทย์โดยทันทีหากคุณสงสัยว่าแผลผ่าตัดของคุณเริ่มมีอาการติดเชื้อ [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อาการที่พบได้เมื่อเกิดการติดเชื้อได้แก่ อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38°C มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน รู้สึกเจ็บอย่างรุนแรง มีรอยแดงใหม่เกิดขึ้นที่บริเวณแผลผ่าตัด มีอาการกดเจ็บ รู้สึกถึงไออุ่นเมื่อสัมผัส มีของเหลวกลิ่นเหม็นหรือของเหลวสีเขียวหรือสีเหลืองไหลซึมออกมา หรือมีอาการบวมเกิดขึ้นที่บริเวณแผลผ่าตัด [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผลการวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดจำนวนกว่า 300,000 คนต่อปีในสหรัฐอเมริกาจะพบการติดเชื้อเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด และน่าเศร้าที่ผู้ป่วยประมาณ 10,000 จากจำนวนดังกล่าวเสียชีวิตจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้น [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ค้นหาสาเหตุที่ทำให้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้น. ลักษณะนิสัยและสภาพแวดล้อมบางอย่างอาจทำให้ผู้ป่วยบางคนมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อหรือที่แผลผ่าตัดจะเปิดออกสูงกว่าผู้ป่วยคนอื่นๆ
- ตัวอย่างของปัจจัยเสี่ยงได้แก่ โรคอ้วน โรคเบาหวานหรือภูมิคุ้มกันต่ำ ภาวะทุพโภชนาการ การใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ และการสูบบุหรี่ [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดูแลสุขอนามัยพื้นฐานให้ดี. ขั้นตอนการดูแลสุขอนามัยง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ที่บ้านเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อได้แก่การหมั่นล้างมือเป็นประจำและการใช้อุปกรณ์ที่สะอาดในการทำแผลหรือซับแผลให้แห้งหลังอาบน้ำ [29] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ ถือถุงขยะ สัมผัสสัตว์เลี้ยง จับเสื้อผ้าสกปรก สัมผัสสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในที่สาธารณะ และจับผ้าปิดแผลที่เปื้อนสารคัดหลั่ง [30] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- กล่าวเตือนให้สมาชิกในครอบครัวหรือผู้ที่มาเยี่ยมเยียนล้างมือให้สะอาดก่อนเข้ามาพบกับผู้ป่วยที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด [31] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากเป็นไปได้ให้คุณงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด แต่ถ้าให้ดีคุณควรเว้นจากการสูบบุหรี่ให้นานยิ่งขึ้นเป็น 4-6 สัปดาห์ เนื่องจากการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุทำให้กระบวนการหายของแผลช้าลง [32] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ซึ่งส่งผลให้เนื้อเยื่อที่กำลังสมานเป็นเนื้อเดียวกันขาดออกซิเจนจนอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ [33] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
ติดต่อแพทย์หากคุณมีไข้สูง. การมีไข้ต่ำๆ หลังรับการผ่าตัดไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิของร่างกายที่สูงกว่าหรือเท่ากับ 38°C อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้ [34] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สัญญาณอื่นๆ ของการติดเชื้อที่เตือนว่าคุณควรติดต่อแพทย์โดยทันทีได้แก่ มีรอยแดงใหม่เกิดขึ้นที่บริเวณแผลผ่าตัด มีน้ำหนองไหลซึมออกจากแผล มีของเหลวกลิ่นเหม็นหรือมีสีผิดปกติไหลซึมออกมา มีอาการกดเจ็บที่บริเวณแผลผ่าตัด รู้สึกถึงไออุ่นเมื่อสัมผัส หรือมีอาการบวมเกิดขึ้นที่บริเวณแผลผ่าตัด [35] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ติดต่อแพทย์หากแผลผ่าตัดเริ่มมีเลือดออก. ล้างมือให้สะอาดและใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าขนหนูสะอาดกดปากแผลไว้เบาๆ ก่อนติดต่อแพทย์โดยทันที [36] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่าออกแรงกดปากแผลมากจนเกินไป โดยคุณควรใช้วิธีกดลงไปเบาๆ และใช้ผ้าก๊อซสะอาดพันแผลไว้จนกระทั่งได้พบแพทย์ของคุณหรือไปถึงสถานพยาบาลแห่งอื่นแล้วเพื่อทำการตรวจสอบบริเวณแผลผ่าตัดของคุณ [37] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ไปพบแพทย์หากคุณพบอาการผิดปกติใดๆ. หากคุณมีอาการปวดท้อง มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน หรือมีอาการดีซ่าน (ผิวหนังหรือดวงตากลายเป็นสีเหลือง) คุณควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด [38] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- รวมถึงหากร่างกายของคุณแสดงอาการของการเกิดลิ่มเลือดเหล่านี้ เช่น ผิวดูซีด ปลายแขนปลายขาเย็น มีอาการเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หรือมีอาการบวมผิดปกติที่แขนหรือขา [39] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000624.htm
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000624.htm
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://www.uofmchildrenshospital.org/healthlibrary/Article/82362
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.uofmchildrenshospital.org/healthlibrary/Article/82362
- ↑ http://www.barbaraberginmd.com/Portals/2213/web-content/files/KeepItDry.pdf
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000624.htm
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000624.htm
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://www.allinahealth.org/Health-Conditions-and-Treatments/Health-library/Patient-education/Total-Knee-Replacement/Common-questions/
- ↑ http://www.allinahealth.org/Health-Conditions-and-Treatments/Health-library/Patient-education/Total-Knee-Replacement/Common-questions/
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.allinahealth.org/Health-Conditions-and-Treatments/Health-library/Patient-education/Total-Knee-Replacement/Common-questions/
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.surgeryencyclopedia.com/Fi-La/Incision-Care.html
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4241583/
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://ejgh.org/services/surgery/post-operative-instructions
- ↑ http://sportsmedicine.osu.edu/patientcare/sports_injuries/the_knee/acl_injury/home_care_after_acl/
โฆษณา