ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณไม่เคยเขียนจดหมายรับรองอุปนิสัยมาก่อน การเขียนจดหมายรับรองประเภทนี้ก็อาจฟังดูเป็นเรื่องท้าทาย แม้ว่าจดหมายรับรองอุปนิสัยจะเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ไม่ว่าจะเป็นจดหมายรับรองอุปนิสัยที่จะนำไปใช้เพื่อการสมัครงาน การเข้าศึกษาต่อ หรือแม้ประทั่งสำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับศาล การเขียนจดหมายรับรองอุปนิสัยไม่ใช่เรื่องยากตราบใดที่คุณมีข้อมูลภูมิหลังในมือและเขียนด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความนับถือ รักษาน้ำเสียงในจดหมายให้เป็นบวก จากนั้นรับรองได้เลยว่าเพื่อนหรือคนที่มาขอให้คุณเขียนจดหมายให้จะต้องซาบซึ้งในน้ำใจของคุณอย่างแน่นอน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เขียนจดหมาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขียนภูมิหลังเกี่ยวกับตัวคุณและความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนที่คุณเขียนจดหมายให้. เขียนข้อมูลพื้นฐานก่อนเป็นอันดับแรก คุณเป็นใครและมีความสัมพันธ์กับคนที่คุณเขียนถึงอย่างไร คุณรู้จักคนๆ นี้มานานแค่ไหน คุณใช้เวลาร่วมกันมากน้อยแค่ไหน คุณเจอกันที่ไหน [1] เพราะคนที่อ่านจดหมายรับรองอุปนิสัยเขาต้องการทราบว่าผู้เขียนมีความสัมพันธ์แบบไหนกับคนที่เขาเขียนจดหมายรับรองให้
    • ค่อยๆ นึกถึงลักษณะของความสัมพันธ์ที่คุณมีกับคนที่คุณเขียนรับรองให้และใส่รายละเอียดลงไป แทนที่จะเขียนว่า “ผมรู้จักธณัฐชัยมา 3 ปี” ให้เขียนว่า “ผมได้ร่วมงานกับธณัฐชัยอย่างราบรื่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ที่บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ จำกัด กรุงเทพฯ”
  2. ใช้รูปแบบที่เหมาะสมในการเขียนหนังสือรับรองอุปนิสัย. [2] หนังสือรับรองอุปนิสัยควรประกอบไปด้วย 3 ส่วนได้แก่ ย่อหน้าแนะนำตัวเปิดเรื่องที่อธิบายว่าคุณเป็นใครและมีความสัมพันธ์กับคนที่คุณเขียนถึงอย่างไร ย่อหน้าที่ 2 นำเสนอบทวิเคราะห์อุปนิสัยของคนๆ นั้น และย่อหน้าปิดท้ายที่ขอความกรุณาให้ผู้อ่านมองคนที่คุณเขียนถึงในแง่ดี
    • จบการเขียนจดหมายรับรองด้วยการขอให้ผู้อ่านมองบุคคลที่ถูกเขียนถึงในจดหมายในแง่ดี ลงลายเซ็นแล้วเขียนว่า “ขอแสดงความนับถือ [ชื่อของคุณ]”
    • เขียนจดหมายรับรองอุปนิสัยให้สั้นเข้าไว้ เพราะคนอ่านไม่อยากอ่านข้อมูลการรับรองอุปนิสัยหน้าแล้วหน้าเล่า พวกเขาต้องการแค่ข้อมูลพื้นฐาน จำไว้ให้ขึ้นใจขณะเขียนร่างหนังสือรับรองอุปนิสัยคร่าวๆ
  3. [3] จดหมายรับรองอุปนิสัยไม่ใช่ที่ๆ คุณจะเปรียบเทียบบุคลิกภาพส่วนที่ดีและส่วนที่ไม่ดี ภูมิหลัง หรือวิถีชีวิตของคนที่คุณเขียนถึงอย่างละเอียด แต่ควรจะเน้นไปที่การประเมินที่ซื่อตรงแต่ก็เป็นบวกเกี่ยวกับความสำเร็จ เป้าหมาย และบุคลิกลักษณะของคนๆ นั้น หนังสือรับรองอุปนิสัยที่มีประสิทธิภาพจะทำให้ผู้อ่านเกิดความประทับใจในตัวคนที่คุณเขียนถึง
    • ใช้คำวิเศษณ์เชิงบวกเพื่อย้ำว่าคนที่คุณเขียนถึงเป็นคนดีแค่ไหน [4]
    • เขียนรายการความสำเร็จที่เกี่ยวข้องของคนที่คุณเขียนจดหมายรับรองให้อย่างสั้นๆ เช่น ถ้าคนๆ นี้อุทิศตัวให้กับกิจกรรมการกุศลไม่ว่าจะเป็นในด้านเวลาหรือเงิน ก็ให้เขียนเรื่องนี้ลงไปในจดหมาย ถ้าเขาเคยเป็นทหารและรับใช้ชาติมาก่อน ให้เขียนการกระทำที่แสดงถึงความกล้าหาญหรือองอาจเพื่อลดโทษทางกฎหมายที่ร้ายแรง หรืออาจจะเขียนรายการสิ่งที่เขาทำประโยชน์ให้แก่วัดหรือองค์กรที่ช่วยเหลือผู้อื่น
    • ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรเขียนความสำเร็จนี้ลงไปในจดหมายหรือไม่ ให้ถามตัวเองว่า "อันนี้มันเกี่ยวข้องกันไหมหรือว่ามันแสดงลักษณะที่ดีหรือเปล่า"
  4. ก่อนส่งจดหมาย ให้อ่านทวนอีกครั้งเพื่อตรวจดูการสะกดและหลักภาษา เทคโนโลยีช่วยสะกดทำให้งานนี้ง่ายขึ้นสำหรับคนที่เขียนไม่เก่ง แต่ถ้ายังไม่มั่นใจให้ตรวจเช็กกับพจนานุกรมออนไลน์ นอกจากการสะกดและหลักภาษาแล้ว คุณต้องแน่ใจว่าข้อเท็จจริงที่เขียนลงไปถูกต้อง ส่งสำเนาร่างให้คนที่คุณเขียนจดหมายรับรองให้ดูก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกต้อง
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

วางแผนเขียนจดหมายรับรองอุปนิสัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [5] หนังสือรับรองอุปนิสัยควรใช้น้ำเสียงที่แสดงความเคารพและเป็นทางการเสมอ พูดตรงไปตรงมา แต่ก็อย่าดูหมิ่นความสามารถในการตัดสินอย่างมีประสิทธิภาพของผู้อ่าน เพราะผู้อ่านอาจเป็นผู้พิพากษา อาจารย์มหาวิทยาลัย หรือบุคคลอื่นๆ ที่เป็นที่เคารพนับถือก็ได้
    • ขึ้นต้นจดหมายถึงผู้พิพากษาว่า “เรียน ท่านผู้พิพากษา” เขียนถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยว่า “เรียน ดร.” หรือ “เรียน อาจารย์” และทหารผู้บัญชาการตามตำแหน่ง (เช่น “เรียน ท่านนายพล” หรือ “เรียน จ่า”) [6]
  2. จดหมายรับรองมักใช้ในการสมัครงานและใช้ในศาลเพื่อแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายอยู่นอกเหนือวิสัยทั่วไปของคนๆ นั้น ในกรณีอื่นๆ ที่อาจต้องใช้หนังสือรับรองอุปนิสัยได้แก่ การเป็นผู้ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต นักศึกษาที่สมัครเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย และผู้ลี้ภัยที่ยื่นขอสิทธิความเป็นพลเมือง [7]
    • ถ้าคุณเขียนจดหมายเพื่อใช้กับคดีในชั้นศาล คุณต้องรู้รายละเอียดอย่างแน่ชัดว่าคนที่เขามาขอให้คุณเขียนจดหมายให้นั้นกระทำความผิดอะไร และพูดคุยกับเขาว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคดี [8] แสดงให้คนที่มาขอให้คุณเขียนจดหมายให้รู้ว่า คุณเข้าใจความร้ายแรงของคดี และถ้าผู้ถูกกล่าวหาดูเหมือนจะเสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปจริงๆ ก็ให้ย้ำสิ่งนั้นลงไปในจดหมายด้วย
    • อย่าเขียนจดหมายให้คนที่คุณไม่ได้รู้จักดี หรือคนที่ลังเลที่จะบอกรายละเอียดเบื้องหลังที่จำเป็นทั้งหมดว่าทำไมเขาถึงต้องการหนังสือรับรองอุปนิสัยจากคุณ
  3. รู้ชื่อและตำแหน่งของคนที่จะอ่านจดหมายรับรองของคุณ เช่น ถ้าคุณเขียนหนังสือรับรองอุปนิสัยให้เพื่อนที่กำลังสมัครตำแหน่งทางวิชาการ คุณต้องรู้ว่าเพื่อนของคุณสมัครโรงเรียนไหน ตำแหน่งอะไร และใครเป็นคนอ่านจดหมาย การทำเช่นนี้จะทำให้คุณเขียนจดหมายได้สอดคล้องกับความต้องการ และแสดงให้เห็นว่าคุณรวมทั้งเพื่อนด้วยส่วนหนึ่งใช้ความพยายามอย่างจริงจังในการเขียนหนังสือรับรองอุปนิสัยฉบับนี้
    • ถ้าคุณเขียนจดหมายถึงกลุ่มคน เช่น คณะกรรมการตรวจสอบด้านวิชาการหรือกลุ่มเจ้าหน้าที่นิรนามแห่งการอพยพและการแสดงสัญชาติ ให้ขึ้นต้นจดหมายว่า “เรียน ท่านที่เคารพ”
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,826 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา