บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Imad Jbara
. อิหมัด จาบาราเป็นโค้ชด้านการเดทสำหรับ NYC Wingwoman LLC ผู้ให้บริการด้านความสัมพันธ์ในนิวยอร์ก 'NYC Wingwoman' ให้บริการจับคู่ โค้ชแบบตัวต่อตัว และเปิดแคมป์วันหยุด อิหมัดให้บริการลูกค้ากว่า 100 รายทั้งชายและหญิงเพื่อพัฒนาการออกเดทของพวกเขาผ่านทางทักษะการสื่อสารอย่างจริงใจ เขาได้รับปริญญาทางจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซ็ตต์ดาร์ทเมาธ์
มีการอ้างอิง 7 ข้อ
ที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 4,315 ครั้ง
การขอเบอร์โทรศัพท์เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณได้สานสัมพันธ์ ขอบุคคลอ้างอิง หรือสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับมืออาชีพ แต่คำถามคือคุณจะต้องขอเบอร์ติดต่ออย่างไร ขอแค่คุณให้เกียรติ จริงใจ และมั่นใจ รับรองว่าเขาต้องให้เบอร์คุณมาแน่นอน และเรามาช่วยคุณแล้ว หากคุณอยากเรียนรู้วิธีส่งอีเมลขอเบอร์โทรศัพท์อย่างราบรื่นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในอาชีพการงาน อ่านต่อด้านล่างได้เลย
ขั้นตอน
-
คุณจะดูน่าเชื่อถือมากกว่า ไม่ว่าคุณจะขอเบอร์เขาไปทำอะไรก็ตาม. ถ้าคุณมีที่อยู่อีเมลให้เลือกมากกว่า 1 อัน ให้ใช้อันที่สากลโลกเขายอมรับกันมากกว่า เพราะถ้าเป็นเพื่อนสนิทก็อาจจะไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคนที่เขาไม่ได้รู้จักคุณดีนัก เขาอาจจะเข้าใจคุณผิดได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น เวลาที่คุณต้องการขอข้อมูลติดต่อจากคนรู้จักในวงการอย่างสุภาพ การใช้ "Yourname@gmail.com" นั้นดูดีกว่า "coolguy69@gmail.com"
โฆษณา
-
ข้อความขอเบอร์โทรศัพท์ต้องอยู่ใน 2-3 ประโยคแรกของอีเมล. คุณควรเข้าประเด็นและขอเบอร์เขาตั้งแต่แรกแทนที่จะเกริ่นเป็นนัยหลายย่อหน้าแล้วค่อยขอเบอร์เขาในตอนท้าย เริ่มจากการทักทายอย่างเป็นกันเองและสุภาพใน 2-3 ประโยคแรกก่อน จากนั้นถามว่าคุณขอแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไว้สำหรับติดต่อกันในวันข้างหน้าได้หรือไม่ [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Business Review ไปที่แหล่งข้อมูล เช่น :
- "สวัสดีค่ะคุณเบ็น ขอบคุณมากนะคะที่ตอบคำถามดิฉันและให้คำแนะนำที่หลักแหลมมากๆ ไม่ทราบว่าดิฉันขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณได้ไหมคะ"
- “ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ! ดิฉันยินดีที่ได้รู้จักกับคนในวงการเสมอ และอยากขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณไว้ เราจะได้ติดต่อกันได้ค่ะ”
-
คนรับอีเมลมีแนวโน้มที่จะให้เบอร์คุณมากกว่าหากคุณมีเหตุผลที่ชัดเจน. บอกเหตุผลที่ฟังดูมีน้ำหนัก เช่น แลกเบอร์กันเพราะต้องประสานงานกันเรื่องตารางเวลา เขาน่าจะให้เบอร์คุณกลับมา นอกจากนี้คุณก็อาจจะขอเบอร์โทรศัพท์ไว้เพื่อรายงานความคืบหน้าหรือเพื่อให้ติดต่อเขาได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- "ดิฉันคิดว่าถ้าเราแลกเบอร์กัน โครงการนี้น่าจะจัดได้สะดวกขึ้นนะคะ! ดิฉันสามารถโทรหาคุณได้ที่เบอร์อะไรคะ"
- "ช่วง 2-3 วันนี้ดิฉันจะไม่ได้อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะฉะนั้นเรามาแลกเบอร์กันดีกว่าค่ะ เราจะได้ส่งข้อความหรือโทรรายงานความคืบหน้ากันได้"
โฆษณา
-
การคุยโทรศัพท์เหมาะกับการพูดคุยเรื่องที่ละเอียดอ่อนหรือซับซ้อน. การพูดคุยในช่วงเวลาเดียวกันนั้นมีประสิทธิภาพกว่าการมานั่งรออีกคนตอบอีเมล นอกจากนี้การขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อให้คุณสามารถโทรติดต่อเขาได้ยังเป็นวิธีที่ช่วยให้อีกฝ่ายเห็นด้วยว่า คุณตั้งใจจะสานสัมพันธ์ในอาชีพการงานกับเขาจริงๆ [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Business Review ไปที่แหล่งข้อมูล
- "เรามาคุยเรื่องนี้กันอย่างละเอียดผ่านทางโทรศัพท์ดีกว่าครับ! ผมจะติดต่อคุณได้ที่เบอร์อะไรครับ"
- "ผมคิดว่าถ้าประชุมผ่านทางโทรศัพท์กันทั้งทีมน่าจะสะดวกกว่าการส่งอีเมลลูกโซ่นะครับ ผมขอทราบเบอร์โทรศัพท์ของคุณหน่อยครับ ผมจะได้เพิ่มรายชื่อติดต่อของคุณไว้"
-
บอกเขาว่าคุณจะทำงานร่วมกันได้สะดวกกว่าหากคุณมีเบอร์เขา. เป็นเรื่องปกติที่เราจะแลกเบอร์ไว้เผื่อมีอะไรฉุกเฉินหรือหากคุณต้องการยืนยันรายละเอียดเพื่อนัดเจอกัน หลังจากนัดกันเรียบร้อยแล้วให้ขอเบอร์เขา เขาน่าจะตอบ "ตกลง" ได้ไม่ยาก
- "ตกลงเรานัดดื่มกาแฟกันวันพฤหัสนะครับ ผมจะให้เบอร์โทรศัพท์คุณไว้ หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงคุณก็โทรแจ้งผมได้เลย ผมรบกวนขอเบอร์คุณไว้ด้วยได้ไหมครับ"
- "ผมจะรอไปทานมื้อกลางวันกับคุณสัปดาห์หน้านะครับ! หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงผมจะติดต่อคุณได้ที่เบอร์อะไรครับ"
โฆษณา
-
ให้เบอร์เขาก่อนเพื่อให้เขารู้สึกว่าคุณเป็นคนจริงใจและเชื่อถือได้. เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเป็นคนส่งข้อความหรือโทรหาคุณ และบอกให้เขารู้ว่าคุณยินดีหากเขาจะติดต่อมา วิธีนี้จะทำให้เขาตัดสินใจได้ว่าเขาจะให้เบอร์คุณหรือเปล่า และการที่คุณยินดีให้เบอร์เขาจะทำให้คุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาเขา
- "หากคุณสนใจ คุณสามารถโทรหรือส่งข้อความมาหาฉันได้ที่เบอร์ 085-555-5555 ดิฉันยินดีพูดคุยรายละเอียดกับคุณเพิ่มเติมค่ะ!"
- “หากคุณมีข้อสงสัยหรือปัญหาใดๆ คุณสามารถโทรหาดิฉันที่เบอร์ 085-555-5555 ได้เลยค่ะ!”
- “ดิฉันอยากได้ความคิดเห็นจากมืออาชีพสำหรับโครงการนี้ค่ะ หากคุณพอมีเวลา รบกวนโทรหาดิฉันที่เบอร์ 085-555-5555”
-
เป้าหมายของคุณคือเพื่อโน้มน้าวใจ ไม่ใช่สั่ง. เรียบเรียงคำพูดให้เป็นประโยคบอกเล่า ไม่ใช่คำถาม แต่คุณต้องให้เกียรติอีกฝ่าย โดยทั่วไปการพูดประมาณว่า "มาแลกเบอร์กันเถอะ" นั้นดีกว่า "รบกวนขอเบอร์ได้ไหม" เพราะข้อความที่แสดงความมั่นใจนั้นกระตุ้นให้ผู้รับลงมือทำอะไรบางอย่างมากกว่าและคุณก็จะได้เบอร์มา [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- "ขอบคุณนะครับที่มาพบผมในวันนี้ เรามาและเบอร์กันดีกว่า เราจะได้ติดต่อกันเป็นครั้งคราว! คุณสามารถติดต่อผมได้ที่เบอร์ 085-555-5555"
- “ผมคิดว่าเราจัดการเรื่องนี้กันทางโทรศัพท์น่าจะสะดวกกว่านะครับ คุณสามารถติดต่อผมได้ที่เบอร์ 085-555-5555 ช่วงบ่ายวันนี้ผมสะดวกคุยครับ”
โฆษณา
-
ความสุภาพคือหัวใจสำคัญของการขอเบอร์และเพิ่มโอกาสที่จะได้เบอร์มา. เมื่อคุณขอเบอร์ใครสักคนเป็นครั้งแรก คุณควรจะเขียนสั้นๆ ลงไปด้วยว่า “ขอบคุณล่วงหน้า” และขอบคุณอีกครั้งหลังจากที่เขาให้เบอร์มา แสดงความขอบคุณที่อีกฝ่ายให้ความช่วยเหลือและยินดีที่จะร่วมงานกับคุณ แล้วคุณอาจจะประหลาดใจเมื่อได้รู้ว่า การแสดงความขอบคุณนั้นช่วยสร้างความสัมพันธ์ในชีวิตการงานของคุณได้รวดเร็วแค่ไหน! [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- "ผมรบกวนขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณได้ไหมครับ เราจะได้คุยกันเรื่องนี้ต่อ ขอบคุณมากครับ!"
- "ผมอยากได้เบอร์โทรศัพท์ของคุณไว้เผื่อเราต้องพูดคุยเรื่องโครงการนี้กันเป็นครั้งคราว ผมขอเบอร์ติดต่อของคุณไว้หน่อยครับ เราจะได้ตกลงเรื่องนี้กัน ขอบคุณล่วงหน้าครับ!"
- หลังจากได้เบอร์เขามาแล้ว คุณก็อาจจะตอบกลับไปว่า "ขอบคุณครับ! พรุ่งนี้เช้าคุณสะดวกให้ผมโทรหาไหมครับ"
-
แก้ไขข้อความที่อาจทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด. ความตั้งใจของคุณอาจจะดี แต่เขียนออกมาแล้วอาจจะฟังดูมั่นหน้าหรือออกคำสั่งในสายตาของคนที่ไม่ได้รู้จักคุณ คุณอาจจะพลาดรายละเอียดสำคัญตั้งแต่น้ำเสียง การแสดงสีหน้า และภาษาท่าทางได้ง่ายๆ ขณะอ่านทวนให้ลองมองจากมุมของอีกฝ่ายและนึกว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เขาอาจจะเปลี่ยนใจมาให้เบอร์คุณในวันข้างหน้า แต่คนที่กำหนดต้องเป็นเขาเท่านั้น. ถ้าคุณยังขอเบอร์เขาต่อไปหรือตื้อไม่เลิก อีกฝ่ายอาจจะตัดขาดการติดต่อจากคุณไปเลย ยอมติดต่อกับเขาผ่านทางอีเมลด้วยความเต็มใจ และให้โอกาสเขาเป็นฝ่ายเปลี่ยนใจขอแลกเบอร์กับคุณเอง เขาจะมองว่าคุณเป็นคนน่าคบหา!
- "ไม่เป็นไรครับ! ผมยินดีติดต่อคุณทางอีเมลตามที่คุณสะดวก"
- "ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ถ้าคุณเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็บอกผมได้เลยนะครับ!"
บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.businessinsider.com/email-etiquette-rules-every-professional-needs-to-know-2016-1
- ↑ https://hbr.org/2016/09/a-guide-to-cold-emailing
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-magic-human-connection/201503/how-ask-something-in-email
- ↑ https://hbr.org/2015/07/what-email-im-and-the-phone-are-each-good-for
- ↑ https://www.hercampus.com/school/notre-dame/7-ways-sound-more-confident-your-emails/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-magic-human-connection/201503/how-ask-something-in-email
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/articles/200604/avoiding-email-catastrophe