คุณอาจจะกำลั่งปั่นเรียงความที่ใกล้ถึงเวลาส่งแล้ว แต่คุณงานของคุณยังไปไม่ถึงไหน แน่นอนว่านักเรียนส่วนใหญ่เคยอยู่ในจุดนี้ แต่ยังโชคดีที่ว่า คุณสามารถยืดเรียงความของคุณด้วยการใช้เคล็ดลับเล็กน้อย เช่น การเพิ่มขนาดตัวอักษร เพิ่มระยะห่างของหัวข้อ และเพิ่มช่องว่างระหว่างบรรทัด วิธีเหล่านี้เป็นกลยุทธ์เล็กน้อยที่คุณสามารถทำให้เรียงความของคุณยาวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม อย่าแหกกฎที่คุณครูให้เอาไว้ เพราะอาจจะได้คะแนนไม่ดีก็ได้ (บทความนี้มุ่งเน้นที่การเขียนภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถปรับใช้กับการเขียนภาษาไทยได้)
ขั้นตอน
-
เลือกรูปแบบตัวอักษรที่ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย. ถ้าคุณครูไม่ได้กำหนดรูปแบบตัวอักษรที่แน่นอน ให้เลือกรูปแบบที่ใหญ่กว่าปกติ เช่น Aria Courier New Bangla Sangam MN หรือ Cambria แต่ถ้าคุณครูจำกัดรูปแบบตัวอักษรไว้ที่ Times New Roman พยายามเลือกรูปแบบตัวอักษรที่คล้ายกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น Bookman Old Style. [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่าเลือกรูปแบบตัวอักษรที่ใหญ่มากๆ เช่น Arial Black หรือ Lucida Handwriting เพราะคุณครูอาจจะจับได้ว่าคุณพยายามทำให้เรียงความนั้นยาวขึ้นด้วยการเลือกรูปแบบตัวอักษรใหญ่ๆ
-
ปรับขนาดของตัวอักษร. คุณครูอาจจะต้องการให้ใช้ขนาดตัวอักษรที่ 12 pt ให้ลองใช้ขนาดตัวอักษรที่ 12.1 12.3 หรือ 12.5 เพื่อทำให้เรียงความของคุณดูยาวขึ้น ดูว่าจะปรับขนาดอย่างไรให้ตัวอักษรใหญ่ที่สุดโดยไม่ผิดสังเกตเกินไป [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เพิ่มขนาดตัวจุลภาคหรือจุด. กดปุ่ม Control+F ค้างไว้ ซึ่งจะทำหน้าที่ค้นหา/แทนที่ ให้เลือกตัวอักษรทั้งหมด ทั้งตัวอักษรขนาด 12 pt จุลภาค และจุดปิดประโยค แล้วแทนที่ด้วยตัวอักษรขนาด 14 pt [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เพิ่มช่องว่างระหว่างบรรทัด. ถ้าคุณครูของคุณต้องการให้ใช้ช่องว่างระหว่างบรรทัด 1 เท่าหรือ 2 เท่า พยายามเพิ่มช่องว่างระหว่างบรรทัดอีก 0.1 คลิกที่ “Format” จากนั้นไปที่ “Paragraph” โดยใต้คำว่า “Line Spacing” ให้เลือก “Multiple” พิมพ์ว่า 2.1 หรือ 1.1 ที่กล่องใต้คำว่า “At” [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลดขนาดมุมขวาของกระดาษเล็กน้อย. ถ้าคุณครูของคุณต้องการให้ใช้มุมกระดาษที่ 1 inch (2.5 cm) ให้ลองลดมุมกระดาษทางขวาเป็น .75 inches (1.9 cm) คลิกที่ “Format” แล้วไปที่ “Document” ในกล่องที่อยู่ถัดจากคำว่า “Right” ให้พิมพ์ 0.75 การปรับขนาดมุมกระดาษทางขวาเล็กน้อยจะไม่ทำให้ผิดสังเกตมากเกินไป [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าการลดขนาดนั้นผิดสังเกตมากเกินไป ให้ลองใช้ขนาด 0.85 หรือ 0.9 แทน
- เพราะว่าเอกสารทั้งหมดมักจะดูทางด้านซ้ายเป็นหลัก ให้หลีกเลี่ยงการลดขนาดมุมกระดาษด้านซ้าย เพราะจะทำให้ผิดสังเกตมากเกินไปและอาจถูกจับได้
-
เพิ่มระยะขอบล่างเล็กน้อย. คลิกที่ “Format” แล้วไปที่ “Document” ถัดจากกล่องคำว่า “Bottom” ให้พิมพ์ 1.25 ถ้าการเพิ่มระยะขอบล่างนี้ดูผิดสังเกตเกินไป ให้ลองใช้ขนาด 1.15 หรือ 1.2 การปรับขนาดขอบล่างเป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์ในการทำให้เรียงความดูยาวมากขึ้นโดยไม่ผิดสังเกตมากเกินไป [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ขยายระยะห่างระหว่างตัวอักษร. การเพิ่มระยะห่างระหว่างคำเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เรียงความของคุณยาวขึ้นได้ ให้เลือกตัวอักษรที่ต้องการขยาย แล้วคลิกที่ “Font” ไปที่ “Advanced” ถัดจากคำว่า “Spacing” ให้เลือก “Expanded” จากนั้นพิมพ์ 1.5 ที่กล่องข้อความถัดจากคำว่า “By.” [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ขยายหัวกระดาษ. ขยายหัวกระดาษด้วยการเขียนชื่อ วันที่ ชื่อและรหัสวิชา ชื่อผู้สอน และอีเมล์หรือรหัสนักเรียน รวมไปถึงข้อมูลที่ทำให้หัวกระดาษยาวขึ้นได้ นอกจากนี้ ให้เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัดเป็น 2 เท่า [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
จัดวางชื่อเรียงความห่างแยกบบรรทัดจากหัวกระดาษ. จัดตัวอักษรให้อยู่กึ่งกลางและทำตัวหนา และเพิ่มขนาดตัวอักษรเป็น 14 จำไว้ว่าต้องเว้นระยะห่างระหว่างหัวกระดาษ ชื่อเรื่อง และข้อความย่อหน้าแรกที่ 2 เท่าเสมอ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เพิ่มท้ายกระดาษด้วยหมายเลขหน้า. คลิกที่ “Insert” ไปที่ “Page Numbers” สังเกตใต้ข้อความ “Position” แล้วเลือก “Bottom of Page (Footer)” ซึ่งจะเป็นการเพิ่มท้ายกระดาษด้วยหมายเลขหน้าบริเวณด้านล่างของกระดาษ ช่วยเพิ่มความยาวของเรียงความได้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
สะกดตัวเลขที่มากกว่าสิบ. ยกตัวอย่างเช่น สะกดคำว่าหนึ่งและสองแทนที่จะใช้ตัวเลข ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้เรียงความของคุณยาวขึ้น แต่ยังช่วยให้งานของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น เพราะเป็นการเขียนแบบเป็นทางการ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ไม่ใช้รูปย่อ. พยายามเขียนประโยคในรูปแบบเต็มหากเป็นไปได้ เพื่อเพิ่มความยาวของเรียงความ ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะเขียนว่า “it’s” ให้เขียนว่า “it is" หรือคำว่า "can't" เป็น "cannot" นอกจากจะช่วยให้เรียงความยาวขึ้นแล้ว ยังดูเป็นทางการมากขึ้นอีกด้วย [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้สรรพนามให้น้อย. เมื่อเป็นไปได้ ให้ใช้ชื่อเฉพาะแทนคำสรรพนาม ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะเขียนว่า “they” ให้เขียน “Angela, Mark, and Tony” แทน อย่างไรก็ตาม ให้ใช้คำสรรพนามเมื่อเขียนชื่อเฉพาะฟุ่มเฟือยเกินไป ความฟุ่มเฟือยของภาษาจะลดความน่าอ่านและคุณภาพของงานเขียนของคุณ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แนบงานสนับสนุน. การกล่าวอ้างอิง ข้อมูลเล็กน้อยจากประสบการณ์ส่วนตัว และการกล่าวงานวิจัยซ้ำ เป็นกลยุทธ์ที่คุณสามารถใช้เพื่อเพิ่มความยาวของเรียงความได้ อย่างไรก็ตาม ดูให้ดีว่างานสนับสนุนนั้นเกี่ยวข้องและช่วยเสริมสร้างประเด็นที่คุณพยายามจพสื่อได้ชัดเจนยิ่งขึ้น [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้ ถ้าคุณกำลังอ้างอิงหรือกล่าวงานวิจัยหรืองานวรรณกรรมซ้ำ ดูให้ดีว่าคุณได้อ้างอิงอย่างเหมาะสม การอ้างอิงก็ช่วยเพิ่มความยาวของเรียงความไปอีกได้
-
ตรวจสอบดูว่าย่อหน้าแต่ละส่วนมีหัวข้อและประโยคสรุป. เกริ่นนำย่อหน้าด้วยประโยคใจความหลัก ซึ่งเป็นประโยคที่กล่าวถึงข้อโต้แย้งของคุณ จากนั้น เขียนหลักฐานสนับสนุนแนวคิดนั้น และสรุปด้วยการสรุปประเด็นที่คุณเขียน และการกล่าวแนวคิดของคุณซ้ำ [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
อธิบายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้. แทนที่จะเขียนว่า "The painting was red” ให้เขียนว่า "The magnificent piece of art was full of vibrant, warm colors such as red, brown and mahogany.” ในการเพิ่มความยาวของเรียงความให้มากขึ้นอีกนั้น คุณอาจจะแสดงความประทับใจวาคุณนั้นมีความยินดีอย่างมากในการเขียนถึงประเด็นนั้นๆ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่างไรก็ตาม พยายามหลีกเลี่ยงการอธิบายเมื่อไม่จำเป็น เพระอาจจะทำให้งานของคุณดูเสแสร้งและฟุ่มเฟือย
-
เขียนบทสรุป. บทสรุปไม่ได้จำกัดไว้ที่ย่อหน้าเดียว ให้เริ่มเขียนบทสรุปด้วยย่อหน้าที่สรุปงานของคุณ และเพิ่มอีกย่อหน้าหนึ่งในการสร้างประเด็นสุดท้ายเกี่ยวกับแนวคิดของคุณและวิธีประยุกต์ใช้กับประเด็นที่อยู่นอกเหนือรายงาน [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- ทำซ้ำและวางเรียงความของคุณในเอกสารใหม่ แล้วปรับเปลี่ยนงานของคุณในเอกสารใหม่ จากนั้น เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างต้นฉบับกับฉบับแก้ไข และลบส่วนที่ดูผิดสังเกตมากเกินไปออก
- ใช้คำพ้องความหมายที่มีความยาวมากกว่าคำเดิม
- สะกดคำย่อ เช่น เขียนว่า “United States" แทนที่จะเขียนว่า "US"
โฆษณา
คำเตือน
- จำไว้ว่าการไม่ทำตามคำแนะนำของคุณครูอาจถูกพิจารณาว่าทุจริต ซึ่งอาจจะทำให้คะแนนน้อยลงหรือได้ศูนย์คะแนนได้
- อย่าใช้คำฟุ่มเฟือยมากเกินไป
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.jakebinstein.com/blog/how-to-make-an-essay-look-longer/
- ↑ https://www.jakebinstein.com/blog/how-to-make-an-essay-look-longer/
- ↑ http://www.seventeen.com/life/school/advice/a27491/tricks-you-try-to-make-your-school-paper-longer/
- ↑ https://www.jakebinstein.com/blog/how-to-make-an-essay-look-longer/
- ↑ https://www.jakebinstein.com/blog/how-to-make-an-essay-look-longer/
- ↑ https://www.jakebinstein.com/blog/how-to-make-an-essay-look-longer/
- ↑ http://www.seventeen.com/life/school/advice/a27491/tricks-you-try-to-make-your-school-paper-longer/
- ↑ https://www.jakebinstein.com/blog/how-to-make-an-essay-look-longer/
- ↑ https://www.jakebinstein.com/blog/how-to-make-an-essay-look-longer/
- ↑ http://www.seventeen.com/life/school/advice/a27491/tricks-you-try-to-make-your-school-paper-longer/
- ↑ http://www.seventeen.com/life/school/advice/a27491/tricks-you-try-to-make-your-school-paper-longer/
- ↑ https://www.thoughtco.com/how-to-make-paper-longer-793288
- ↑ http://www.seventeen.com/life/school/advice/a27491/tricks-you-try-to-make-your-school-paper-longer/
- ↑ https://www.thoughtco.com/how-to-make-paper-longer-793288
- ↑ https://www.thoughtco.com/how-to-make-paper-longer-793288
- ↑ http://www.seventeen.com/life/school/advice/a27491/tricks-you-try-to-make-your-school-paper-longer/
- ↑ https://www.thoughtco.com/how-to-make-paper-longer-793288
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,789 ครั้ง
โฆษณา