ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การเขียนไดอารี่คือวิธีจดบันทึกความจำที่ยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่นกัน การเขียนไดอารี่ดีสำหรับการใช้ความคิดสร้างสรรค์และสุขภาพจิตและยังสามารถทำให้คุณเป็นนักเขียนที่เก่งขึ้นได้ คุณต้องมีนิสัยการเขียนและใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อทำให้การเขียนไดอารี่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การทำการเขียนประจำวันให้เป็นนิสัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งที่ยากที่สุดของการเขียนไดอารี่ทุกวันคือการทำการเขียนให้เป็นนิสัย วิธีที่ง่ายๆ คือเก็บสมุดไดอารี่ไว้ในที่ที่สามารถเข้าถึงและเห็นได้ง่าย [1]
    • หลายคนมักจะพกสมุดไดอารี่ไปด้วยทุกที่ไม่ว่าจะในกระเป๋า กระเป๋าถือหรือกระเป๋าเป้ วิธีนี้ทำให้คุณสามารถเขียนไดอารี่ได้ทุกเวลาที่คุณมีแนวคิดบางอย่างที่ต้องการเขียน [2]
    • หลายคนเลือกที่จะเก็บสมุดไดอารี่ไว้ในที่ที่สามารถเข้าถึงได้ภายในบ้าน เช่น ข้างเตียง การเก็บสมุดไดอารี่ไว้ในที่ที่คุณสามารถเห็นได้สามารถช่วยให้คุณนึกได้ว่าต้องเขียนทุกวัน
  2. หลายคนพบว่าการจัดเวลาสำหรับการเขียนทุกวันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์โดยส่วนใหญ่เลือกที่จะเขียนก่อนเข้านอนหรือหลังจากตื่นนอนตอนเช้า ไม่ว่าคุณจะเลือกเขียนตอนไหน คุณก็จะมีโอกาสนึกย้อนไปถึงวันที่ผ่านมา [3]
    • การจัดเวลาสำหรับการเขียนช่วยให้คุณทำการเขียนเป็นกิจวัตรประจำวัน วิธีนี้จะทำให้คุณลืมเขียนได้ยากและสั่งสมองว่าให้เขียนในเวลาที่เฉพาะเจาะจง ในที่สุดคุณจะพบว่าคุณมีเรื่องให้เขียนมากมายเมื่อถึงเวลาที่ต้องเขียน
    • แน่นอนว่าคุณสามารถเขียนไดอารี่ได้ทุกเวลา การจัดเวลาสำหรับการเขียนไม่ได้แปลว่าคุณไม่สามารถเขียนในเวลาอื่นได้ถ้าหากคุณมีแรงบันดาลใจ คุณสามารถเขียนได้มากกว่า 1 ครั้งต่อวันถ้าหากคุณต้องการ
  3. การเขียนไดอารี่เป็นเรื่องของคุณ ไม่ใช่ของผู้อื่น เมื่อคุณเขียนไดอารี่ คุณก็ไม่ควรใส่ใจมากมายกับเรื่องของตัวสะกดและไวยากรณ์หรือคิดว่าผู้อื่นจะตัดสินสิ่งที่คุณเขียนอย่างไร
    • การที่คุณใส่ใจกับกฎเกณฑ์มากเกินไปสามารถทำให้คุณเสียสมาธิหรือเขียนได้ช้าลง สิ่งนี้จะบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์ของคุณ [4]
    • การเขียนส่วนตัวเพื่อตัวเองสามารถช่วยให้คุณรู้จักตัวเองได้ดีขึ้น ลดความเครียด ช่วยแก้ปัญหาที่คุณมีกับผู้อื่นและจัดการกับอารมณ์ที่ยากเย็น สิ่งนี้สามารถให้ผลกระทบในแง่ดีกับสุขภาพทางกายและทางใจของคุณ [5]
    • ถ้าหากคุณต้องการแบ่งปันบางสิ่งบางอย่างที่คุณเขียนให้ผู้อื่นได้อ่าน คุณสามารถแก้ไขได้ในภายหลังถ้าหากคุณกังวลเกี่ยวกับเรื่องของตัวสะกดและไวยากรณ์
  4. การเขียนสำหรับบางวันอาจจะทำได้ง่ายและเป็นธรรมชาติแต่จะมีบางวันที่คุณพบว่าเริ่มเขียนได้ยาก ในวันเหล่านี้ การเตรียมคำถามล่วงหน้าเพื่อให้คุณตอบหรือมีเค้าโครงการเขียนจะสามารถช่วยให้คุณเริ่มได้ คำแนะนำมีดังนี้: [6]
    • ฉันทำอะไรเมื่อวานนี้/วันนี้?
    • ฉันได้เรียนรู้บทเรียนอะไรบ้าง?
    • ตอนนี้ฉันรู้สึกอย่างไร?
    • ฉันรู้สึกซาบซึ้งเรื่องอะไร?
    • ฉันอ่านอะไรเมื่อวานนี้/วันนี้?
    • ฉันวางแผนอะไรสำหรับวันนี้/พรุ่งนี้?
    • อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ฉันต้องทำให้เสร็จในวันนี้/พรุ่งนี้/สัปดาห์นี้? ทำไม?
  5. ในบางวันคุณอาจจะไม่มีเวลามากพอในการเขียนหรือรู้สึกไม่อยากเขียน ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณสามารถเขียนสั้นๆ โดยใช้สัญลักษณ์แบ่งข้อกับเหตุการณ์หรือความคิดที่คุณมีในวันนั้น [7]
    • เช่น คุณสามารถเขียนว่า:
      • เจอทรายที่ร้านอาหารอิตาเลียน
      • กังวลเรื่องชิ้นงานใหม่ เงินจะอนุมัติผ่านหรือเปล่า?
      • เริ่มอ่านหนังสือเรื่อง “พ่อรวยสอนลูก” น่าสนใจดีแต่คิดตามได้ยาก
    • ในบางครั้งสัญลักษณ์แบ่งข้อเหล่านี้สามารถใช้กับการเขียนยาวๆ ที่คุณเขียนในภายหลัง อย่างไรก็ตาม คุณควรเขียนสักเล็กน้อยดีกว่าเว้นไปเลย
  6. ถ้าหากคุณไม่สามารถเขียนไดอารี่ได้ 1 วันไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็อย่าถอดใจ การเขียนไดอารี่มีไว้เพื่อคุณและไม่มีกฎเกณฑ์ที่บอกว่าคุณจำเป็นต้องเขียนทุกวัน [8]
    • อย่างไรก็ตาม พยายามอย่าเว้นการเขียนเกิน 2 วันติดกัน การทำสิ่งนี้มีความเสี่ยงต่อนิสัยการเขียนประจำวัน [9]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การทำให้การเขียนน่าสนใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลองหาจุดประสงค์เฉพาะเจาะจงสำหรับการเขียนไดอารี่. ในบางช่วงของชีวิต คุณอาจจะรู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้น สิ่งนี้สามารถทำให้ยากต่อการเขียนบางอย่างที่น่าสนใจทุกวัน ความเป็นไปได้ในการเขียนให้น่าสนใจคือหาจุดประสงค์เฉพาะเจาะจงสำหรับการเขียนและเขียนเกี่ยวกับสิ่งนั้นทุกวัน เช่น คุณสามารถลอง: [10]
    • เขียนไดอารี่เกี่ยวกับชิ้นงานซึ่งคุณต้องจดบันทึกความก้าวหน้าของชิ้นงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน
    • เขียนไดอารี่แทนความขอบคุณซึ่งคุณเขียนเกี่ยวกับบางสิ่งที่คุณสำนึกในบุญคุณทุกวัน
    • เขียนไดอารี่เกี่ยวกับธรรมชาติซึ่งคุณเขียนเกี่ยวกับต้นไม้ สัตว์ สภาพอากาศหรือสิ่งที่เป็นธรรมชาติที่คุณเห็นทุกวัน
    • เขียนไดอารี่เกี่ยวกับความฝันซึ่งคุณเขียนสิ่งที่คุณฝันหลังจากที่คุณตื่นในตอนเช้า (ถ้าหากคุณจำฝันไม่ได้ คุณสามารถเขียนว่าคุณจำไม่ได้)
  2. การเขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดจะทำให้การเขียนน่าสนใจมากขึ้น สิ่งนี้ยังจะทำให้การเขียนไดอารี่ของคุณเป็นประโยชน์ต่อการจดจำสิ่งต่างๆ ในภายหลัง [11]
    • แม้แต่เรื่องที่น่าสนใจมากอาจจะดูจืดชืดถ้าหากคุณไม่ลงรายละเอียด เช่น คุณอาจจะเขียนว่า “คืนนี้ฉันไปดูคอนเสิร์ตของวงดนตรีโปรด” ประโยคนี้ไม่มีรายละเอียดอะไร
    • ในทางกลับกัน การอธิบายถึงเสียงตบมือเกรียวกราวของผู้ชม นักกีตาร์เล่นโซโล่เดี่ยวได้อย่างยอดเยี่ยมและช่วงเวลาที่นักร้องนำโน้มตัวลงมาหอมแก้มผู้ชมที่อยู่แถวหน้าจะทำให้ความทรงจำนี้ดูมีชีวิต สิ่งเหล่านี้ทำให้การเขียนและการอ่านในภายหลังน่าสนใจมากขึ้น
  3. เขียนเกี่ยวกับความคิดและความรู้สึก ไม่ใช่เพียงแต่เหตุการณ์. ในทำนองเดียวกัน การเขียนของคุณจะน่าสนใจมากขึ้นถ้าหากคุณอธิบายความคิดส่วนตัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือการโต้ตอบทางอารมณ์ของคุณ ไม่เพียงแต่เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์อย่างเดียว [12]
    • จากตัวอย่างก่อนหน้า คุณสามารถอธิบายความตื่นเต้นที่คุณรู้สึกในช่วงเวลาก่อนที่วงดนตรีโปรดของคุณเดินขึ้นเวที เสียงเบสที่ดังก้องทำให้เนื้อตัวของคุณสั่นได้อย่างไร คุณตื่นเต้นและมีความสุขมากแค่ไหนเมื่อพวกเขาเล่นเพลงโปรดของคุณ เป็นต้น
    • สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณใช้การเขียนไดอารี่จัดการกับความรู้สึกในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
  4. จำไว้ว่าคุณเขียนให้กับตัวเอง การเขียนไดอารี่ด้วยความจริงใจจะทำให้ประสบการณ์นี้เป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับคุณและยังอาจทำให้มันน่าสนใจมากขึ้นด้วย [13]
    • การอัดอั้นความรู้สึกกับการเขียนไดอารี่จะทำให้ประสบการณ์การเขียนน่าพอใจน้อยลง คุณมีอิสระในการทำความเข้าใจความคิดและความรู้สึกในแบบที่ลึกซึ้งโดยไม่ต้องกลัวที่จะถูกตัดสินเพราะคุณเขียนให้กับตัวเองเท่านั้น
  5. คนส่วนใหญ่คิดว่าการเขียนไดอารี่เป็นเรื่องส่วนตัวและก็เป็นเรื่องจริงเพราะการเขียนส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น อย่างไรก็ตาม อย่ากลัวที่จะใช้ความคิดสร้างสรรค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณรู้สึกว่าชีวิตของคุณไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก [14]
    • บางคนใช้การเขียนไดอารี่เพื่อเขียนเรื่องสั้นหรือนิยาย
    • คุณยังสามารถเขียนบทกลอนที่คุณอ่านเจอหรือเนื้อเพลงที่เป็นแรงบันดาลใจของคุณ [15] หรือให้ดีกว่านั้นคือใช้การเขียนนี้เพื่อลองเขียนบทกลอนหรือเพลงของตัวเอง
    • สมุดไดอารี่อาจจะเป็นฉบับร่างของการเขียนบางอย่างที่คุณสามารถพัฒนาได้ในภายหลังหรือเป็นเพียงการเขียนเรื่องส่วนตัว
  6. อีกวิธีในการทำให้การเขียนไดอารี่ของคุณน่าสนใจคือใช้สิ่งอื่นที่นอกเหนือจากการเขียน คุณสามารถทำให้สมุดไดอารี่มีชีวิตชีวาด้วยสิ่งที่คุณสามารถมองเห็น [16]
    • สิ่งนี้อาจจะเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่การหาภาพมาติด วาดภาพหรือโครงร่าง
    • คุณยังสามารถใช้สมุดไดอารี่เพื่อบันทึกความทรงจำจากเหตุการณ์ที่คุณอธิบาย [17] เช่น หลังจากที่คุณไปดูคอนเสิร์ตของวงดนตรีโปรด คุณสามารถนำตั๋วคอนเสิร์ตมาแปะบนหน้าที่คุณเขียนเกี่ยวกับคอนเสิร์ต
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การเลือกอุปกรณ์ที่ให้แรงบันดาลใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บางคนรู้สึกว่าสมุดไดอารี่ที่คุณเขียนไม่สำคัญ สิ่งนี้อาจเป็นจริงสำหรับบางคน แต่สำหรับคนหลายคนการมีสมุดไดอารี่ที่ใช่สามารถทำให้เขียนได้ง่ายขึ้น [18]
    • ไปเลือกซื้อสมุดไดอารี่ที่ร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนเพื่อที่คุณจะสามารถเปรียบเทียบตัวเลือกและจับต้องสมุดเพื่อเปรียบเทียบความรู้สึก
    • เลือกบางอย่างที่น่าสนใจสำหรับคุณแต่ไม่สวยมากจนคุณกลัวที่จะเขียนลงไปหรือทำมันรก การเขียนไดอารี่ไม่จำเป็นต้องสะอาดและเป็นระเบียบ สมุดไดอารี่ที่ดีที่สุดมักจะยุ่งเหยิงและไม่เป็นระเบียบ
    • เลือกขนาดของสมุด หลายคนชอบพกสมุดไดอารี่ไปด้วย ถ้าหากคุณต้องการพกไปด้วยก็ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับคุณ [19] ในทางกลับกัน ถ้าหากคุณวางแผนที่จะใส่ศิลปะหรือตัดแต่งรูปแบบ คุณจะต้องเลือกสมุดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
  2. บางคนคิดว่าการเขียนไดอารี่จะง่ายขึ้นด้วยปากกาแบบเฉพาะเจาะจง ถ้าหากคุณชอบใช้ปากการาคาถูกก็อย่ากังวลแต่ถ้าหากคุณชอบปากกาสวยๆ ก็สามารถจ่ายเงินเพิ่มขึ้นสำหรับบางอย่างที่จะทำให้คุณรู้สึกดีกับการเขียน
    • ไปยังร้านขายอุปกรณ์สำหรับงานศิลปะและลองปากกาประเภทต่างๆ ดูว่าปากกาแบบไหนที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด แนวคิดคือทำให้คุณต้องการเขียนเพื่อที่คุณจะมีนิสัยการเขียนทุกวัน [20]
  3. ไม่ใช่ทุกคนที่เขียนไดอารี่ลงบนกระดาษ ถึงแม้ว่าหลายคนคิดว่าพวกเขาสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์และตั้งใจเขียนได้ดีขึ้นด้วยสมุดไดอารี่ที่จับต้องได้แต่หลายคนยินดีที่จะเขียนไดอารี่ออนไลน์ [21]
    • ไดอารี่ออนไลน์ไม่เสี่ยงที่จะสูญหาย ในทางกลับกัน คุณเสี่ยงที่จะถูกแอบอ่านหรือเซิร์ฟเวอร์ล่ม ลองพิจารณาข้อดีและข้อเสียและตัดสินใจว่าการเขียนไดอารี่แบบไหนเหมาะสมสำหรับคุณ [22]
    • ถ้าหากคุณเลือกที่จะเขียนไดอารี่ออนไลน์ คุณมีทางเลือกมากมาย เช่น Livejournal Penzu หรือ Diary.com เว็บไซต์เหล่านี้อนุญาตให้คุณแบ่งปันการเขียนกับสาธารณะในขณะที่เก็บอุปกรณ์บางอย่างเป็นส่วนตัว. [23]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คุณสามารถทำสมุดไดอารี่ให้น่าสนใจโดยการประดับตกแต่ง แปะรูปภาพของคุณ ดาราคนโปรด สัตว์เลี้ยง เพื่อนหรืออะไรก็ตามที่คุณชอบนอกบ้าน (หรือในบ้าน)
  • ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร คุณสามารถเขียนเนื้อเพลงของเพลงที่ดีที่สุดที่คุณได้ฟังในวันนั้นหรือบางอย่างที่สะดุดตา คุณยังสามารถเขียนถึงบางอย่างที่คุณรู้สึกรำคาญมากในวันนั้น ลองเขียนอะไรก็ได้
  • ลองใส่ประวัติของสถานที่ที่คุณไป คุณสามารถค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ที่คุณไปและใส่ลงไปในไดอารี่ ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร คุณสามารถเขียนเกี่ยวกับที่มาที่ไปของอุปกรณ์ที่ใช้ภายในบ้าน
  • คุณสามารถใส่รูปภาพ วาดรูปหรือแม้แต่การ์ตูนเพื่อทำให้ไดอารี่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
โฆษณา

คำเตือน

  • คุณต้องเก็บสมุดไดอารี่ในที่ที่ปลอดภัย คุณคงไม่อยากให้ใครแอบอ่านและคุณก็คงไม่อยากทำหายเช่นกัน เก็บสมุดไดอารี่ในที่ที่คุณจะจำได้และไกลจากสายตาผู้อื่น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,475 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา