ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากคุณต้องการเข้าใจผู้ชาย สิ่งแรกที่คุณต้องรู้คือผู้ชายและผู้หญิงมาจากดาวดวงเดียวกัน แม้งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จะเผยความแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มีตำนานความเชื่อมากมายที่ดูเหมือนว่าผู้ชายและผู้หญิงแตกต่างกันมากกว่าที่เป็น หากคุณอยากเข้าใจผู้ชายมากขึ้น คุณควรหาความต่างและความเหมือนระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ในขณะที่จำไว้ว่าผู้ชายทุกคนเป็นเพียงปุถุชนที่มีความหวังและความต้องการเป็นของตัวเอง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การเข้าใจความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. งานวิจัยเผยว่าผู้ชายมักจะรับงานที่ขึ้นอยู่กับการแสดงศักยภาพที่เหนือกว่าคนอื่น และคุณอาจจะรู้จากประสบการณ์ส่วนตัวว่าผู้ชายมักสนใจในกีฬา (เล่นหรือดู) มากกว่าผู้หญิง. [1] ผู้ชายหลายคนเป็นแบบนี้เพราะพวกเขาสนุกกับการแข่งขัน และพึงพอใจในการมีทักษะหรือคุณสมบัติที่เหนือกว่าคนอื่น หากคุณเล่นเกมส์แข่งกับเขาก็อย่าแปลกใจหากจู่ๆ อารมณ์ของเขารุนแรงและไร้ความปราณีขึ้นมา เมื่อเขากำลังแพ้เกมส์ ยอมรับสิ่งนี้ด้วยอารมณ์ขันและปล่อยมันไป
    • ส่งเสริมงานอดิเรกที่ต้องแข่งขันของเขา คุณจะสังเกตได้ว่า กิจกรรมของผู้ชายส่วนใหญ่ เช่น การเล่นเกมส์ การดูหรือเล่นกีฬาและกีฬาท้าทายนั้น มุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบบางอย่างของการแข่งขัน เพราะการเอาชนะการแข่งขันนั้นสำคัญกับผู้ชาย ส่งเสริมกิจกรรมที่สามารถทำให้ผู้ชายพอใจในทางที่ถูกต้อง
  2. การมองเห็นคือสัมผัสที่แข็งแรงที่สุดสัมผัสหนึ่ง และการประมวลที่คุณเห็นอาจใช้พื้นที่ในสมองมากมาย อย่างไรก็ตาม ผู้ชายมักตอบสนองต่อสิ่งที่เห็นได้ไวกว่าผู้หญิง [2] เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นได้ว่าผู้ชายชอบดูแผนที่มากกว่าการฟังคนบอกเพื่อเข้าใจเส้นทางหรือพวกเขาอาจต้องเห็นปัญหาเพื่อที่จะแก้ไขได้ตรงจุด พยายามอย่ารำคาญนิสัยข้อนี้และให้มองว่ามันคือลักษณะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดที่เขาอาจไม่รู้วิธีควบคุม
    • อย่าโกรธหากเขามองผู้หญิงคนอื่น การที่ผู้ชายใส่ใจกับสิ่งกระตุ้นทางสายตามากกว่า แปลว่าเขาอาจมีแนวโน้มที่จะมองหรือแม้แต่จ้องคนที่น่าดึงดูด แต่อย่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพียงเพราะเขามองผู้หญิงที่ใส่เสื้อโชว์เนินอก มันไม่ได้แปลว่าเขาอยากมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น การมองเหล่แบบนี้ไม่มีพิษมีภัยและมันเป็นเพียงปฏิกิริยาตอบมากกว่าการบ่งชี้ความสัมพันธ์ที่กำหนดไว้
  3. เรียนรู้ว่าผู้ชายและผู้หญิงให้ความสำคัญกับบทสนทนาไม่เหมือนกัน. งานวิจัยเผยว่าความแตกต่างนี้เริ่มตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อเด็กผู้หญิงสร้างความสัมพันธ์จากการแบ่งปันความลับและถกเถียงปัญหาต่างๆ ในขณะที่เด็กผู้ชายสร้างความสัมพันธ์จากการทำกิจกรรมและสิ่งที่สนใจร่วมกัน [3] หากคุณคาดหวังให้แฟนหรือสามีเป็นเหมือนเพื่อนสาวขาเม้าท์คนสนิท คุณอาจจะต้องตกใจ ผู้ชายมักจะไม่สร้างความสัมพันธ์แบบแน่นแฟ้นกันทางบทสนทนา และพวกเขาจะเปลี่ยนเรื่องคุยบ่อยกว่าผู้หญิง [4] ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายไม่ค่อยสบตาเวลาพูดคุยกับคนบางคน พวกเขามักจ้องไปที่สิ่งอื่นแทน
    • ไตร่ตรองให้ดี แทนการทำโทษเขาเพราะความแตกต่างข้อนี้ และบ่นว่าเขาไม่เคยรับฟังคุณ หากคุณต้องการพูดเรื่องสำคัญกับผู้ชาย จงพูดให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจน ลองพูดว่า “เรื่องนี้สำคัญกับฉันมากนะคะ และมันก็มีความหมายกับฉันมากค่ะหากคุณตั้งใจฟังสักหน่อย” หากเขาใส่ใจคุณ เขาจะตั้งใจฟังตามที่คุณขอ
    • เตรียมรับฟังการแก้ไขปัญหา ผลข้างเคียงอีกอย่างหนึ่งของวิธีการที่ผู้ชายสนทนาคือ เขามักจะมุ่งไปที่การแก้ไขปัญหา หากคุณต้องการแค่ให้ผู้ชายปลอบโยนปลอบใจแทนการบอกว่าต้องทำอย่างไร จงบอกเขาตั้งแต่เริ่มบทสนทนา จำไว้ว่าเขาพยายามช่วยคุณแก้ไขปัญหา เพราะว่าเขาใส่ใจและนั่นคือสิ่งที่เขาคิดว่าคนใส่ใจควรกระทำในบทสนทนา เขาไม่ได้พยายามทำตัวเจ้ากี้เจ้าการใส่คุณ
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Allen Wagner, MFT, MA

    นักบำบัดชีวิตคู่และครอบครัว
    อัลเลน แวกเนอร์เป็นนักบำบัดชีวิตคู่และครอบครัวที่มีใบอนุญาตในลอสแองเจลิส เขารับปริญญาโทสาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเพพเพอร์ไดน์ในปี 2004 โดยเชี่ยวชาญในการร่วมมือกับคู่สมรสในการค้นหาวิธีที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ของพวกเขาให้ดีขึ้น เขาเป็นผู้เขียนหนังสือMarried Roommatesร่วมกับทาเลีย แวกเนอร์ที่เป็นภรรยา
    Allen Wagner, MFT, MA
    นักบำบัดชีวิตคู่และครอบครัว

    กระตุ้นคู่ของคุณเมื่อคุณเห็นว่าเขาพยายามที่จะพูดคุยสื่อสารกับคุณ นักบำบัดปัญหาชีวิตคู่และครอบครัวอย่างอัลเลน แวกเนอร์บอกว่า: "ถ้าเขาพยายามอะไรใหม่ๆ เช่นเอ่ยชมคุณ แล้วคุณขัดเขาแต่แรกเพราะมันเป็นแค่คำชมระดับ 2 ในขณะที่คุณคาดหวังคำชมระดับเต็มสิบ มันไม่มีทางเป็นสิบ มันจะกลับไปเป็นศูนย์ต่างหาก อย่างไรก็ดี ถ้าคุณสนใจมัน และเอ่ยกลับไปประเภทว่า 'ขอบคุณมากเลยที่พูดอย่างนี้' พวกเขาจะรู้สึกดีและมีแนวโน้มที่จะลองมันอีก"

  4. เข้าใจว่าผู้ชายไม่สามารถรับรู้อารมณ์ได้เร็วเท่าผู้หญิง. ลองนึกถึงสามีแบบเดิมๆ ที่ไม่รู้ประสาว่าเขาทำให้ภรรยาโมโหเรื่องอะไร มันเป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้แค่ไม่รู้เรื่อง เขาอาจไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมเธอถึงเสียใจหรือว่าเธอกำลังเสียใจอยู่หรือเปล่า เพราะผู้หญิงมีพัฒนาการของระบบสมองส่วนลิมบิกมากกว่า พวกเธอจึงแบ่งแยกและอ่านอารมณ์ได้เก่งกว่า ทักษะนี้เคยมีประโยชน์ในวัฒนธรรมสมัยโบราณเมื่อผู้หญิงเป็นฝ่ายควบคุมการสื่อสารทางสังคม ในทางกลับกัน ผู้ชายมักล้าหลังกว่าในงานวิจัยเรื่องความแตกต่างทางเพศมีผลต่อการควบคุมอารมณ์อย่างไร [5]
    • อย่าหวังว่าเขาจะสามารถอ่านใจคุณได้ หากคุณไม่พอใจผู้ชาย จงบอกเขาด้วยวิธีที่นุ่มนวลและมีเหตุผลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเขารับรู้ได้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรเขาจึงจะแก้ไขปัญหา แต่หากคุณไม่ยอมบอกเขา คุณไม่สามารถคาดหวังให้เขาเดาใจคุณออกได้เลย
    • ให้พื้นที่ส่วนตัวกับเขา คุณอาจพบว่าผู้ชายชอบแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง เพราะพวกเขาไม่ชินกับการถกเถียงปัญหาส่วนตัวกับเพื่อนๆ หากผู้ชายเงียบไปเมื่อคุณพยายามพูดถึงปัญหาส่วนตัวของเขา จงถอยออกห่างและปล่อยให้เขาจัดการปัญหาด้วยตัวเอง ผู้ชายส่วนใหญ่จะบอกให้คุณรู้หากเขาอยากเล่าปัญหาให้กับคุณ
  5. รับรู้ไว้ว่าสำหรับผู้ชายแล้วมันยากที่จะเป็น “แค่เพื่อน” กับผู้หญิง. งานวิจัยเผยว่าผู้ชายที่อยู่ในความสัมพันธ์ฉันเพื่อนนั้นมักติดใจเพื่อนผู้หญิงของเขาและมักจะมีความเชื่อแบบผิดๆ ว่าผู้หญิงมีความรู้สึกทางเพศต่อพวกเขา ถึงแม้ผู้หญิงจะส่งสัญญาณว่ามีความรู้สึกทางเพศต่อเพื่อนผู้ชายของพวกเธอจริงแต่พวกเธอมักจะถอยออกห่างเมื่อรู้ว่าผู้ชายไม่โสด ผู้ชายมักไม่ค่อยยับยั้งชั่งใจเมื่อรู้ว่าผู้หญิงมีแฟนแล้ว และยังคงแสดงออกว่าต้องการพวกเธอ [6]
    • อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่าเพื่อนผู้ชายทุกคนที่คุณมีจะชอบคุณจริงๆ
  6. เข้าใจว่าผู้ชายและผู้หญิงปฏิบัติต่างกันในที่ทำงาน. ถึงแม้ว่าผู้ชายและผู้หญิงอาจจะทำงานชิ้นเดียวกันหรือใช้ที่ทำงานร่วมกัน ผู้ชายและผู้หญิงมีวิธีในการทำงานให้สำเร็จต่างกัน ผู้ชายมักมุ่งไปที่การทำงานหนึ่งงานใดให้เสร็จในขณะที่ผู้หญิงมักมุ่งไปที่วิธีการที่ใช้ทำงานให้เสร็จ ผู้หญิงมักถามคำถามในขณะที่ผู้ชายมักไม่ชอบฟัง อย่างไรก็ตามทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างรู้สึกว่าเพศตรงข้ามไม่ค่อยเข้าใจความต้องการในที่ทำงาน [7]
    • ผู้ชายและผู้หญิงมักตอบสนองต่อความเครียดในที่ทำงานต่างกันอีกด้วย ผู้ชายอาจถอนตัวและเก็บตัวอยู่กับความผิดพลาดในขณะที่ผู้หญิงมักระบายความกังวลอย่างเปิดเผย
    • ผู้ชายและผู้หญิงอาจแสวงหาความชื่นชมต่างกัน ผู้หญิงมีความสุขมากกว่าเวลาได้รับคำชมสำหรับงานกลุ่มในขณะที่ผู้ชายมักปลีกตัวออกไป
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การหลีกเลี่ยงการเหมารวม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าคิดว่าผู้ชายทั้งหมดอยากนอนกับผู้หญิงทุกคน. สิ่งนั้น “ไม่ใช่” กรณีเดียวกัน ถึงแม้ว่าคุณอาจเชื่อว่าแฟน เพื่อนผู้ชายหรือเพื่อนที่ทำงานอยากนอนกับผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ก็ตาม แม้ผู้ชายอาจจะมองผู้หญิงรอบตัวด้วยสายตาที่สอดส่อง แต่พวกเขาก็เลือกเมื่อถึงเวลาที่นอนกับใครสักคน
    • หากคุณเชื่อว่าแฟนของคุณอยากนอนกับผู้หญิงทุกคนจริงๆ แล้วจะยังคบกันทำไม? หากนี่คือปัญหาในความสัมพันธ์เพราะนิสัยของเขาเป็นแบบนี้จริงๆ มันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่หากเพียงเพราะคุณคิดว่าเขาเป็นผู้ชาย คุณอาจจะต้องคิดใหม่
    • คุณอาจจะมีเพื่อนผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์ แต่จำไว้ว่าผู้ชายอาจจะอยากแค่อวดจำนวนผู้หญิงที่พวกเขาอยากนอนด้วยเพื่อให้ตัวเองดูแมน มันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาสนใจทำสิ่งนั้นจริงๆ
  2. อย่าคิดว่าผู้ชายไม่ชอบภาพยนตร์และเดทแบบ “ผู้หญิงจ๋า”. คุณอาจคิดว่าแฟนไม่ชอบเวลาที่คุณเลือกสถานที่หรืองานสำหรับคืนออกเดท แต่มันอาจจะไม่จริง แฟนของคุณอาจจะพึมพำหรือบ่นเวลาคุณบังคับให้เขาดู “Love Actually" เป็นรอบที่สิบ แต่ความจริงก็คือเขาชอบทำสิ่งที่คุณอยากทำ เพราะมันทำให้คุณมีความสุข
    • เตือนตัวเองไว้ว่าหากแฟนไม่อยากทำบางสิ่งจริงๆ เขาจะไม่ทำและคุณก็เช่นกัน
  3. ลองนึกถึงโทนี่ โซปราโน่ ผู้ชายที่ดูแกร่งจากภายนอกแต่ภายในอ่อนไหวดูสิ จริงอยู่ที่ว่าผู้หญิงอาจแสดงความรู้สึกและพูดมากกว่า แต่มันไม่ได้หมายความว่าผู้ชายไม่อ่อนไหว ไม่รู้สึกเจ็บและไม่รู้วิธีแสดงความสงสารหรือความเห็นอกเห็นใจ ผู้ชายอาจไม่แสดงความรู้สึกมากนักแต่มันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีความรู้สึกเท่าผู้หญิง
    • ผู้ชาย “ไม่ใช่” มนุษย์ถ้ำที่หมกมุ่นกับความต้องการพื้นฐาน เช่น อาหาร เซ็กส์และการนอน ลบสิ่งนี้ออกจากสมองซะ
  4. ผู้ชายอาจคิดเรื่องเซ็กส์บ่อยกว่าผู้หญิงโดยเฉพาะวัยรุ่น แต่มันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาคิดแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวตลอดเวลา ผู้ชายใช้เวลาคิดเรื่องเพื่อน ครอบครัว ความหวัง ความฝันและอาชีพเหมือนกับคนอื่นๆ พวกเขาอาจเผลอใจไปชั่วขณะหากมีผู้หญิงสวยใส่ส้นสูงเดินผ่าน แต่มันไม่ได้หมายความว่าในสมองของพวกเขามีแต่เรื่องอย่างว่าอยู่เต็มไปหมด
  5. อย่าคิดว่าผู้ชายสนใจแค่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียว. ถ้าพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งผู้ชายและผู้หญิงอาจมองคนเพียงผิวเผิน คุณอาจคิดว่าผู้ชายสนใจแค่รูปร่างของผู้หญิงและถ้าเธอหน้าสวยก็ถือว่าได้กำไร แต่นั่นไม่ใช่ความจริงหากผู้ชายคิดจริงจังกับใครสักคน อย่าคิดว่าสิ่งเดียวที่คุณต้องทำเพื่อให้เขาประทับใจคือการเข้ายิม กรีดตาหนาๆ และใส่กางเกงรัดๆ คุณต้องมัดใจเขาด้วยเสน่ห์ สมองและความสามารถในการมีบทสนทนาที่ดี
    • จริงที่ว่าผู้ชายบางคนหมกมุ่นกับรูปลักษณ์ภายนอกจนเกินไป แต่ผู้หญิงบางคนก็เป็นเหมือนกัน
  6. คุณอาจคิดว่าผู้ชายนอกใจเก่งและใครจะลืมข่าวฉาวของไทเกอร์ วู้ดส์ไปได้? อย่างไรก็ตาม ทั้งผู้ชายและผู้หญิงสามารถนอกใจได้ แม้ผู้หญิงมักมองหาสายสัมพันธ์ทางอารมณ์ ในขณะที่ผู้ชายมองหาสายสัมพันธ์ทางร่างกาย อย่าคิดว่าผู้ชายจะนอกใจคุณเพียงเพราะเขาเป็นผู้ชาย ถ้าเป็นเช่นนั้นแสดงว่าเขาแค่มองอย่างอื่นนอกความสัมพันธ์ [8]
    • มันไม่ได้หมายความว่าผู้ชายทุกคนซื่อสัตย์จริงๆ แต่ผู้หญิงก็เหมือนกัน
  7. คุณอาจคิดว่าผู้ชายทุกคนที่คุณเจอกลัวการผูกมัดและอยากวิ่งหนีให้ไกลเมื่อคุณพูดว่า “ฉันอยากให้คุณเจอพ่อแม่ของฉัน” ในความจริงแล้ว ผู้ชายอยากผูกมัดมากพอๆ กับผู้หญิง คุณแค่นึกถึง 20% ของผู้ชายที่กลัวการผูกมัดจนขึ้นสมอง จำไว้ว่ามีผู้หญิงจำนวนมากที่กลัวการผูกมัดกับใครสักคนเหมือนกัน
    • หากคนรักคนปัจจุบันกลัวการผูกมัด จงอย่าบอกตัวเองว่าเขาก็เหมือน “ผู้ชายทั่วไป” มันมีหลายสาเหตุที่ผู้ชายไม่อยากผูกมัด เช่น การไม่มีประสบการณ์หรือแผลจากความรักครั้งเก่า
  8. ผู้ชายเกรงกลัวผู้หญิงแกร่งจริง หากคุณคือมิเชล โอบาม่าหรือโอปราห์ วินฟรีย์ แต่โดยทั่วไปผู้ชายชอบผู้หญิงที่กล้าคิดกล้าทำที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร อย่าพยายามแอ๊บแบ๊ว ไร้เดียงสาหรือร่าเริงเกินเหตุเพื่อทำให้ผู้ชายชอบ หากผู้ชายชอบคุณจริงจัง คุณต้องแสดงศักยภาพเต็มที่ให้เขาเห็น
    • การเป็นคนแข็งแกร่งแปลว่าเป็นคนมีความมั่นใจ และความมั่นใจดึงดูดทุกคน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การเข้าใจผู้ชายอย่างลึกซึ้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณต้องการเข้าใจผู้ชายอย่างลึกซึ้ง คุณควรพยายามเข้าใจอัตตาของผู้ชาย
  2. ความสามารถในการทำสิ่งนี้จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ในระยะยาว
  3. เรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ชายในความสัมพันธ์ระยะยาว. สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณเข้าใจกระบวนการความคิดของผู้ชายที่อยู่ในความสัมพันธ์ระยะยาว
  4. คิดวิธีช่วยให้แฟนของคุณหลุดพ้นจากความเศร้า. สิ่งนี้คือด้านที่ท้าทายในการเข้าใจผู้ชาย
  5. หากคุณมีความรู้สึกว่าควรพัฒนาความสัมพันธ์กับแฟนของคุณอย่างไร คุณจะเข้าใจผู้ชายมากขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จำไว้ว่าข้อมูลในบทความนี้อ้างอิงจากโดยรวม มันอาจจะไม่ตรงกับผู้ชายที่คุณรู้จัก
  • หากแฟนหดหู่ กอดเขาเพื่อปลอบโยน มันจะปลอบประโลมเขา
  • หากเขาไม่คุยกับคุณเป็นเวลากว่า 2-3 สัปดาห์ให้ถามเขาว่าทำไมถึงไม่คุย อย่าถามหลังจากหนึ่งชั่วโมง ให้เวลาเขาบ้าง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 26,251 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา