ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

Roku เป็นอุปกรณ์ streaming ที่ใช้เปลี่ยนทีวีธรรมดา ให้กลายเป็น Smart TV ได้ หลังจากนั้นคุณก็สตรีมหนังและรายการดูตามสะดวก Roku ส่วนใหญ่เสียบกับทีวีผ่านพอร์ท HDMI ได้เลย พอเสียบ Roku กับทีวีแล้ว ก็มาตั้งค่าการเชื่อมต่อเน็ต จะได้หาแล้วสตรีมหนังและรายการทีวีโปรดของคุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

Set-top Box

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Roku มีหลายรุ่นด้วยกัน พอร์ทสำหรับเชื่อมต่อของแต่ละรุ่นก็เลยต่างกันออกไป พอร์ทของ Roku ที่ใช้นี่แหละ ที่จะบอกว่าต้องเสียบกับทีวีตรงไหนยังไง
    • Roku ทุกรุ่นจะมีพอร์ท HDMI หน้าตาเหมือนพอร์ท USB แต่แบนๆ ยาวๆ กว่า ปกติใช้เสียบกับ HDTV สาย HDMI จะส่งทั้งสัญญาณ video และ audio (ภาพและเสียง) จาก Roku ไปยังทีวี โดยจะได้ภาพและเสียงที่คมชัดที่สุด สำหรับ Roku หลายรุ่น นี่คือพอร์ท video เดียวที่มี
    • Roku แทบทุกรุ่นจะมีพอร์ท Ethernet ที่ใช้เสียบกับเราเตอร์ หน้าตาเหมือนพอร์ทสำหรับเสียบสายโทรศัพท์แต่ใหญ่กว่า ยิ่งถ้ารุ่นเก่าๆ จะใช้ได้แต่ Wi-Fi เท่านั้น
    • Roku รุ่นใหม่ๆ อย่าง Roku 4 จะเสียบสาย Optical ได้ เลยส่งสัญญาณ audio ไปที่ home theater receiver ได้
    • Roku รุ่นเก่าๆ บางทีก็มีช่องเสียบสาย composite A/V (3 ขา) Roku บางรุ่นมีพอร์ท A/V เดียว แต่สายจะแยกเป็น 3 ปลั๊ก ใช้กับทีวีรุ่นเก่าๆ ได้ แต่ถ้า HDTV รุ่นใหม่จะไม่รองรับช่องเสียบแบบนี้แล้ว เพราะส่งสัญญาณภาพแบบ HD ผ่านสาย composite ไม่ได้
  2. พอเจอพอร์ทของ Roku แล้ว ก็ต้องหาพอร์ทของทีวีที่เสียบแล้วได้ภาพและเสียงคุณภาพดีที่สุด HDTV ส่วนใหญ่ต้องใช้พอร์ท HDMI
    • บางทีพอร์ทก็อยู่ด้านหลัง ด้านข้าง หรือด้านหน้า (อันนี้หายากหน่อย) ของทีวี
    • ถ้า Roku รุ่นที่ใช้มีแต่พอร์ท HDMI แต่ทีวีดันไม่มีพอร์ท HDMI ถือว่าโชคไม่ค่อยดี แบบนี้ต้องหา Roku รุ่นเก่าที่เชื่อมต่อผ่านสาย composite มาใช้แทน หรืออีกทีคือยกเครื่องทีวีเป็นแบบมีพอร์ท HDMI
  3. ถ้าคุณจะเสียบ Roku มือสอง ก็ต้องล้าง settings เก่าก่อน แล้วค่อยเชื่อมต่อ โดยเสียบปลั๊ก Roku จากนั้นใช้ปลายคลิปหนีบกระดาษกดปุ่มรีเซ็ตค้างไว้ ปกติปุ่มนี้จะอยู่ด้านหลังหรือด้านล่าง Roku ให้กดค้างไว้ 15 วินาที เพื่อล้าง internal memory หรือความจำของเครื่องทั้งหมด จะได้เชื่อมต่อแล้วตั้งค่าใหม่ได้ [1]
  4. ถือเป็นวิธีเชื่อมต่อ Roku กับทีวีที่ง่ายที่สุดแล้ว แถมยังได้ภาพและเสียงที่คุณภาพดีกว่า แต่สำหรับ Roku บางรุ่น จะเชื่อมต่อวิธีนี้ได้แค่ วิธีเดียว ถ้าไม่มีสาย HDMI ให้หาซื้อถูกๆ ออนไลน์หรือตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า บอกเลยว่าคุณภาพสัญญาณแทบไม่ต่างกันเลยระหว่างสาย HDMI แพงๆ กับถูกๆ แต่จุดสำคัญคือสายต้องยาวพอที่จะเชื่อม Roku กับทีวี และไม่ตึงเกินไป
    • ถ้าใช้สาย composite A/V ให้เสียบปลั๊กกับช่องสีเดียวกัน
    • สังเกตชื่อ input ของทีวีให้ดีตอนเสียบ จะได้สลับไปถูก input
  5. ถ้าจะเชื่อมต่อแบบใช้สาย ให้เสียบสาย Ethernet เชื่อมพอร์ท Ethernet ของ Roku กับพอร์ท LAN ที่ว่างอยู่ของเราเตอร์ วิธีนี้จะสตรีมหนังได้ลื่นไหลกว่า โดยเฉพาะคนอยู่คอนโดหรืออื่นๆ ที่สัญญาณ Wi-Fi ชอบถูกรบกวน ปกติ Roku ทุกรุ่นจะใช้ Wi-Fi ได้อยู่แล้ว เพราะงั้นจะไม่ทำขั้นตอนนี้ก็ได้
  6. เสียบ power adapter หรือหม้อแปลงของ Roku กับปลั๊กที่ผนังหรือรางปลั๊ก
  7. ถ้าเพิ่งซื้อ Roku มา ปกติจะมีถ่าน AA แถมมา 2 ก้อน ก็ให้ใส่ในรีโมท โดยเปิดฝาข้างหลังก่อน เสร็จแล้วอย่าเพิ่งปิดฝา
  8. กดปุ่ม INPUT ที่รีโมททีวี เพื่อเลือก HDMI หรือ composite input ที่เสียบ Roku ไว้
    • ถ้าไม่เห็นโลโก้ Roku หรือเมนูเลือกภาษา ให้เช็คว่าคุณเลือกถูก input และเสียบปลั๊ก Roku หรือยัง
  9. ก่อนจะเลือกภาษา จะมีหน้าต่างโผล่มาพร้อมรูปอธิบายขั้นตอนการ pairing หรือเชื่อมต่อรีโมท
    • ถอดฝาครอบถ่านหลังรีโมทก่อน ถ้าเผลอปิดกลับไปแล้ว
    • กดปุ่ม Pairing ด้านล่างค้างไว้ 3 วินาที
    • รอจน Roku เชื่อมต่อกับรีโมทสำเร็จ
  10. นี่คือภาษาที่ใช้แสดงเมนูทั้งหมดของ Roku คุณเปลี่ยนภาษาทีหลังได้ในเมนู Settings
  11. กดปุ่ม OK ที่รีโมท เพื่อเลือก "Let's get started." แล้วจะมีขั้นตอนการติดตั้งและตั้งค่าขึ้นมา
  12. จะใช้ Roku สตรีมวีดีโอได้ต้องต่อเน็ตซะก่อน เพราะงั้นต้องเลือกวิธีที่จะเชื่อมต่อ
    • เลือก "Wireless" เพื่อสแกนหาสัญญาณ Wi-Fi ที่ใช้ได้ จากนั้นเลือกที่จะใช้จากในรายชื่อ แล้วใส่รหัสผ่าน (ถ้ามี) ถ้า Wi-Fi ของคุณไม่ขึ้น ลองเช็คอีกทีว่า Roku อยู่ในระยะสัญญาณแล้ว
    • ถ้าต่อเน็ตผ่าน Ethernet ให้เลือก "Wired" เท่านี้ก็เรียบร้อย ไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม
  13. ปกติ Roku จะปล่อยอัพเดทใหม่ของระบบมาเรื่อยๆ ซึ่งคุณก็ดาวน์โหลดและติดตั้งจากใน Roku ได้เลย ถ้าเห็นอัพเดทใหม่ตอนตั้งค่าการเชื่อมต่อเน็ต จะมีให้ดาวน์โหลดและติดตั้งทันที เวลาอัพเดทระบบแล้ว จะใช้งานได้ลื่นไหล เสถียรกว่าเดิม
    • Roku จะรีสตาร์ทอัตโนมัติหลังดาวน์โหลดและติดตั้งอัพเดทเสร็จ
  14. คุณต้อง activate หรือเปิดใช้งาน Roku ก่อน ถึงจะเริ่มสตรีมหนังได้ จะมีโค้ดขึ้นในหน้าจอ ให้เข้า roku.com/link ในคอม มือถือ หรือแท็บเล็ตก็ได้ แล้วใส่โค้ดนั้น เพื่อพ่วงบัญชี Roku ของคุณกับเครื่อง ถ้ายังไม่มีบัญชี Roku ก็ต้องสมัครก่อน (ฟรี)
  15. ต้องใส่ PIN นี้ทุกครั้งที่ซื้ออะไรก็ตาม เพื่อป้องกันการซื้อโดยไม่ตั้งใจหรือไม่ได้รับอนุญาต สำคัญมากถ้าแชร์ Roku กันใช้ทั้งครอบครัว โดยเฉพาะกับเด็กๆ คุณตั้ง PIN นี้ได้ตั้งแต่ตอนสมัครบัญชี Roku เลย
  16. เลือก "Streaming Channels" จากเมนูหลักของ Roku แล้ว browse หา channel ที่ต้องการ พอเจอแล้วก็เลือกเลย จากนั้นเลือก "Add channel" เท่านี้ช่องหรือ channel นั้นก็ถูกเพิ่มลงใน Home list บาง channel อาจต้อง subscribe หรือสมัครสมาชิกเพิ่มเติม
  17. เลือก channel จากเมนูหลักของ Roku เพื่อหาหนังหรือรายการที่จะสตรีม จะมีให้ล็อกอินด้วยบัญชีของ channel นั้นก่อน เช่น ถ้าจะดู Netflix ก็ต้องใส่บัญชี Netflix ที่คุณสมัครไว้ พอล็อกอินแล้วก็ดูได้ตามสะดวก [2]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

Roku Stick

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Roku Stick เสียบได้เฉพาะพอร์ท HDMI เท่านั้น ให้เสียบเข้าไปตรงๆ อย่าเอียง จำชื่อ input ของพอร์ท HDMI นั้นของทีวีไว้ด้วย
  2. สาย USB ใช้จ่ายไฟให้ Roku ให้คุณเสียบหัวเล็กของสายกับพอร์ทล่าง Roku Stick แล้วเสียบอีกด้านกับปลั๊กไฟ หรือจะเสียบกับพอร์ท USB ของทีวีก็ได้ แต่ทีวีบางเครื่องก็จ่ายไฟผ่าน USB ไม่พอ ยังไงเสียบปลั๊กที่ผนังจะชัวร์สุด
  3. ถ้าเพิ่งซื้อ Roku Stick มา ปกติจะมีถ่าน AA 2 ก้อนแถมมาด้วย ให้ถอดฝาหลังรีโมทแล้วใส่ถ่าน จากนั้นเปิดฝาทิ้งไว้ก่อน
  4. กดปุ่ม INPUT ที่รีโมททีวี เพื่อเลือก HDMI input ที่เสียบ Roku Stick ไว้ จากนั้นจะมีโลโก้ Roku ขึ้นที่หน้าจอ
    • ถ้าไม่มีโลโก้ แสดงว่า Roku Stick อาจจะไฟไม่เข้า ให้เสียบกับปลั๊กที่ผนังแทนพอร์ท USB ของทีวี
  5. พอ Roku เปิดขึ้นมาแล้ว จะมีให้ pair หรือเชื่อมต่อรีโมท จะได้ใช้บังคับ Roku Stick ได้
    • ถอดฝาถ่านหลังรีโมท ถ้าตอนแรกปิดกลับไป
    • กดปุ่ม Pairing ที่ด้านล่างค้างไว้ 3 วินาที
    • รอจนรีโมทเชื่อมต่อกับ Roku เสร็จ
  6. หลัง pairing รีโมทแล้ว ก็ใช้เลือกภาษาเมนูของ Roku ได้เลย (เปลี่ยนได้อีกทีหลัง)
  7. จะเริ่มจากต่อเน็ตใน Roku แล้วลงทะเบียนบัญชี Roku
  8. Roku Stick ต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi ได้เท่านั้น เพราะงั้นต้องใช้เราเตอร์ Wi-Fi หรือมี access point ซะก่อน Roku Stick จะสแกนหาสัญญาณ Wi-Fi ที่ใช้ได้ แล้วให้คุณเลือกสัญญาณที่จะเชื่อมต่อ
    • พอเลือก Wi-Fi ที่จะใช้ได้แล้ว ก็ให้ใส่รหัสผ่าน (ถ้ามี) แล้ว Roku Stick จะเริ่มเชื่อมต่อ และได้ IP address มา
    • ถ้า Wi-Fi ของคุณไม่ขึ้น ให้เช็คก่อนว่า Roku Stick กับ TV อยู่ในระยะสัญญาณของเราเตอร์ Wi-Fi
  9. พอต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi แล้ว Roku Stick จะสแกนหาอัพเดทใหม่ ถ้าเจอ ก็จะมีให้ดาวน์โหลดก่อนทำขั้นตอนต่อไป พออัพเดทแล้วเครื่องจะทำงานได้เสถียรขึ้น เพราะงั้นแนะนำให้อัพเดททันทีที่มีเวอร์ชั่นใหม่
    • Roku Stick จะรีสตาร์ทหลังติดตั้งอัพเดทเสร็จ
  10. พออัพเดท Roku แล้ว จะเข้าสู่หน้าจอ "Activate your Roku" ให้เปิด roku.com/link ในคอม มือถือ หรือแท็บเล็ต จากนั้นใส่โค้ดที่ขึ้นในจอทีวี ในช่องที่มีของเว็บ ต่อมาล็อกอินเข้าบัญชี Roku หรือสร้างใหม่ฟรีถ้ายังไม่มี
  11. เพราะต้องใส่ PIN นี้ทุกครั้งที่ซื้ออะไรผ่าน Roku เหมาะมากสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆ
  12. พอพ่วงบัญชี Roku แล้ว ก็เริ่มสตรีมกันได้เลย คุณเพิ่ม channel ที่ต้องการได้ โดยเลือก "Streaming Channels" ในเมนูของ Roku จากนั้นเลือก channel ที่ต้องการ แล้วคลิก "Add Channel" เท่านี้ channel ที่อยากสตรีมก็จะไปอยู่ใน Home list
  13. เลือกเพื่อเปิด channel ถ้าเพิ่งเข้า channel นี้ครั้งแรก จะมีให้ล็อกอินด้วยบัญชีของ channel เพราะ channel ส่วนใหญ่จะมีให้สมัครใช้บริการแยก (subscribe) เช่น ถ้าจะดู Hulu ก็ต้องใช้บัญชี Hulu และ subscribe Hulu+ ไว้ [3]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,910 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา