ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเช็คทั้ง random access memory (RAM) usage คือความจำที่ใช้ไป และ hard drive capacity คือพื้นที่ว่างที่เหลือของคอม
ขั้นตอน
-
กด Alt + Ctrl ค้างไว้ แล้วกด Delete . เพื่อเปิดเมนู task manager ของ Windows
-
คลิก Task Manager . ที่เป็นตัวเลือกสุดท้ายในหน้า
-
คลิก tab Performance . ที่ด้านบนของหน้าต่าง "Task Manager"
-
คลิก tab Memory . ที่ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง "Task Manager" ทางด้านบนของหน้าจะมีกราฟให้ดู ว่า RAM ของคอมถูกใช้ไปเท่าไหร่ หรือดูตัวเลขใต้หัวข้อ "In use (Compressed)" ก็ได้โฆษณา
-
ดับเบิลคลิกไอคอน "My PC". ที่เป็นไอคอนรูปจอคอม ปกติอยู่ในหน้า desktop
- ใน Windows บางเวอร์ชั่น "My PC" จะเป็น "My Computer" แทน
- ถ้าหา "My PC" ในหน้า desktop ไม่เจอ ให้พิมพ์ "My PC" ในแถบค้นหาของหน้าต่าง Start แล้วคลิกไอคอนรูปจอคอมตอนที่โผล่ขึ้นมา
-
คลิกขวาไอคอนไดรฟ์ C: . ในหัวข้อ "Devices and drives" กลางหน้า "My Computer"
- ใน Windows บางเวอร์ชั่น ฮาร์ดไดรฟ์จะมี "OS" อยู่ด้านบน
-
คลิก Properties . ที่ท้ายเมนูคลิกขวา
-
คลิก tab General . ด้านบนของหน้าต่าง "Properties" เพื่อเปิดหน้า "General" ของฮาร์ดไดรฟ์ จะมีรายชื่อ attributes หรือคุณสมบัติต่างๆ ให้ดู เช่น total storage คือพื้นที่เก็บข้อมูลทั้งหมด
-
เช็ค storage ของฮาร์ดไดรฟ์. หัวข้อ "Used space" จะมีบอกว่าฮาร์ดไดรฟ์ถูกใช้ไปกี่ GB แล้ว ส่วน "Free space" จะบอกจำนวน GB ที่เหลืออยู่ในฮาร์ดไดรฟ์
- จำนวน GB รวมของฮาร์ดไดรฟ์จริง อาจไม่ค่อยตรงกับที่โฆษณาตอนจะซื้อ เพราะฮาร์ดไดรฟ์บางส่วนของคอมจะถูกใช้ไปกับระบบปฏิบัติการ ซึ่งทวงคืนมาไม่ได้ เลยไม่ได้รวมอยู่ในนี้ด้วย
โฆษณา
-
คลิกปุ่ม "Spotlight". ที่เป็นไอคอนรูปแว่นขยาย มุมขวาบนของหน้าจอ
-
พิมพ์ "Activity Monitor" ในแถบค้นหา. เพื่อเปิดโปรแกรม "Activity Monitor"
-
คลิก Activity Monitor . เพื่อเปิดโปรแกรม Activity Monitor สำหรับเช็คว่าตอนนี้ Mac ใช้ RAM ไปเท่าไหร่
-
คลิก Memory . ที่เป็น tab ด้านบนของหน้าต่าง Activity Monitor
-
ดูเลข "Memory Used". ตัวเลือกนี้จะอยู่ท้ายหน้า เลข "Physical Memory" ตรงนี้คือ RAM ที่ติดตั้งไว้ใน Mac ส่วน "Memory Used" คือ RAM ที่ Mac ใช้ไปโฆษณา
-
คลิกเมนู Apple. หรือก็คือไอคอนรูปแอปเปิ้ล มุมซ้ายบนของหน้าจอ Mac
-
คลิก About This Mac . ด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา
-
คลิก Storage . เป็นตัวเลือกบนสุดของหน้า "About This Mac" ใน tab "Storage" จะมีข้อมูลแยกสีตามประเภทไฟล์ที่ใช้พื้นที่ไป
- คุณเช็คพื้นที่ว่างของฮาร์ดไดรฟ์ที่มุมขวาบนของหน้าในหัวข้อ "X GB free of Y GB" ได้ด้วย โดย "X" คือพื้นที่ว่างของ Mac และ "Y" คือพื้นที่ทั้งหมดของ Mac
โฆษณา
-
เปิด Settings ของ iPhone. ไอคอนจะเป็นฟันเฟืองสีเทา ปกติอยู่หน้า Home
- iPhone มีข้อจำกัดด้านระบบปฏิบัติการ เลยดู RAM usage ไม่ได้
-
แตะ General . ที่เป็นตัวเลือกท้ายหน้าจอ
-
แตะ Storage & iCloud Usage . ท้ายหน้าจอ
-
แตะ Manage Storage ในหัวข้อ "Storage". เป็นหัวข้อด้านบนของหน้า แตะแล้วรายชื่อแอพในเครื่องจะโผล่มา โดยเรียงตามลำดับว่าแอพไหนเปลืองพื้นที่ในเครื่องที่สุด ตามด้วยหัวข้อ "Used" กับ "Available" ที่ด้านบนของหน้า ซึ่งจะแสดงพื้นที่ที่ใช้ไปกับที่เหลืออยู่ของ iPhone ตามลำดับ
- แตะ Manage Storage ตัวเลือกที่ 2 ในหน้านี้ เพื่อเปิดหน้า iCloud แล้วดูได้เลยว่าเหลือพื้นที่ใน iCloud Drive อีกมากแค่ไหน
โฆษณา
-
เปิด Settings ของ Android. ที่เป็นไอคอนรูปฟันเฟืองสีเทา ปกติอยู่ใน App Drawer
-
เลื่อนลงไปแตะ Apps . ในหัวข้อ "Device"
- ใน Androids บางเครื่อง (เช่น Samsung Galaxy) ต้องแตะ Device ก่อน แล้วค่อยแตะ Apps
-
ปัดหน้า "Apps" ไปทางซ้าย. เพื่อเปิดหน้า "SD Card" ที่มีพื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้ไป ตรงมุมซ้ายล่างของหน้าจอ และพื้นที่รวม ตรงมุมขวาล่างของหน้าจอ
-
ปัดหน้า "SD Card" ไปทางซ้าย. เพื่อเปิด tab "Running" ที่มีโปรแกรมทั้งหมดที่เปิดอยู่
-
เช็คหมวดหมู่อื่นๆ. ด้านบนของหน้าจะมีทั้งหมด 3 ค่า ที่แสดง RAM usage ของ Android
- System - จำนวน GB ที่ระบบปฏิบัติการของ Android ใช้ไป
- Apps - จำนวน GB ที่แอพทั้งหมดที่เปิดอยู่ใช้ไป
- Free - จำนวน GB ของ RAM ที่เหลืออยู่
โฆษณา
เคล็ดลับ
- RAM เป็นความจำที่ถูกใช้โดย process ต่างๆ ที่เปิดอยู่ (เช่น แอพหรือโปรแกรม) แต่ hard drive storage เอาไว้เก็บไฟล์ โฟลเดอร์ หรือโปรแกรมที่ติดตั้งไว้ในคอม ไม่ว่าจะใช้งานอยู่หรือไม่ก็ตาม
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้ามีบาง process ไม่ชอบมาพากล ดึงความจำหน่วงเครื่อง ให้ลองสแกนเครื่องด้วยโปรแกรม anti-virus ดู
- ให้หยุดการทำงานเฉพาะ process ที่แน่ใจว่าไม่จำเป็นต่อระบบปฏิบัติการ ไม่งั้นไฟล์หรือข้อมูลนั้นอาจเสียหาย ทำระบบล่มได้เลย
โฆษณา
โฆษณา