ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่ได้ยินข่าวเรื่องไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ซึ่งก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกเป็นกังวล เนื่องจากมีการยืนยันการติดเชื้อในที่ต่างๆ มากขึ้นทั่วโลก คุณก็อาจจะสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันมาถึงชุมชนของคุณ แม้ว่าการระบาดครั้งใหญ่นี้จะเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ให้พยายามบอกตัวเองว่าคุณไม่น่าจะต้องกังวลเรื่องไวรัสโคโรนามากนักหากไม่มีการยืนยันการติดเชื้อในพื้นที่ของคุณ อย่างไรก็ตามหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (CDC) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็แนะนำให้ทุกคนปฏิบัติตามขั้นตอนพื้นฐานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือกับไวรัสโคโรนา จำนวนผู้ติดเชื้อจะได้น้อยลง [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่กระจาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รับการฉีดวัคซีนถ้าพร้อม วัคซีนที่ได้รับการรับรองจากทางการแพทย์นั้นมีหลายตัวทั่วโลก แต่คุณจะได้รับวัคซีนสูตรไหนก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล โดยบุคลากรทางการแพทย์และผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะได้รับวัคซีนก่อน [2]
    • วัคซีนสามชนิดที่ได้รับการรับรองจากทางการไทยแล้วนั้นคือวัคซีนจากแอสตราเซเนกา ซิโนแวค และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
    • คุณอาจไม่สามารถเลือกว่าจะรับวัคซีนตัวไหนเมื่อได้รับการนัดเข้าฉีดวัคซีนเพราะแต่ละชนิดมีปริมาณที่จำกัด อย่างไรกดี ทุกชนิดล้วนแสดงผลว่าสามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 ในการทดลองได้อย่างดี และจะลดอัตราเสี่ยงของการติดเชื้อของคุณ [3]
  2. แม้จะเป็นวิธีการง่ายๆ แต่การล้างมือคือวิธีป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อได้ดีที่สุด เปิดก๊อกน้ำแล้วล้างมือให้เปียก จากนั้นทาสบู่อ่อนๆ ลงบนฝ่ามือ ถูมือทั้งสองข้าง 20 วินาทีแล้วเปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างสบู่ออก [4]
    • เจลล้างมือแอลกอฮอล์ก็อาจจะช่วยป้องกันไวรัสได้เช่นกัน ซึ่งสามารถใช้นอกเหนือจากการล้างมือได้ แต่ไม่ใช่แทนการล้างมือด้วยสบู่ไปเลย เจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์ผสม 60% ถึง 95% นั้นใช้ได้ [5]
  3. 3
    เว้นระยะห่างทางสังคมด้วยการอยู่บ้านเท่าที่จะทำได้. ไวรัสแพร่ระบาดง่ายทางฝูงชน ยังดีที่คุณสามารถป้องกันตัวเองและผู้อื่นได้ด้วยการอยู่บ้าน ออกไปเท่าที่จำเป็น เช่นเมื่อออกไปซื้อของใช้ประจำวัน [6]
    • หากคุณทำงานที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีคนในบ้านเป็นเช่นนั้น ก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังและจำกัดการใกล้ชิดกับผู้อื่น
    • หากคุณต้องออกไปเข้าวงสังคม คำแนะนำของทางสหรัฐคือจำกัดไม่เกิน 10 คน จำไว้ว่ากระทั่งคนหนุ่มสาวและผู้ที่ร่างกายแข็งแรงก็อาจติดเชื้อได้ ให้ตรวจสอบกับทางการว่าอนุญาตให้มีการรวมกลุ่มทางสังคมแบบไหนบ้าง
    • มีหลายวิธีที่จะอยู่บ้านอย่างเพลิดเพลิน! เล่นเกมส์ อ่านหนังสือ ทำอะไรสักอย่าง ดูหนัง
  4. 4
    อยู่ห่างจากคนอื่นในที่สาธารณะอย่างน้อย 2 เมตร. ถ้าจำเป็นต้องออกไปข้างนอก อย่าลืมรักษาระยะห่างจากผู้อื่น เป็นไปได้ว่าอาจมีคนติดเชื้อโดยไม่มีอาการ ฉะนั้นป้องกันเอาไว้ก่อนดีกว่า [7]
  5. โดยทั่วไปแล้วคุณจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาก็ต่อเมื่อคุณหายใจเอาฝอยละอองที่ผู้ติดเชื้อจามหรือไอออกมาเข้าไป หรือเอามือสัมผัสใบหน้าโดยที่มือมีฝอยละอองติดอยู่ เพราะฉะนั้นอย่าสัมผัสใบหน้าถ้าคุณไม่ได้เพิ่งล้างมือมา ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเผลอเอาเชื้อโรคเข้าร่างกายโดยไม่ตั้งใจได้ [8]
    • ถ้าทำได้ให้ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดจมูกหรือปิดปากเวลาไอ เพราะมือของเราอาจจะสกปรก
  6. อย่าจับมือทักทายคนอื่นไม่ว่าเขาจะดูป่วยหรือไม่ก็ตาม. ถ้าคุณอยู่ในประเทศไทยเรื่องนี้ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าหากคุณอาศัยอยู่ในประเทศที่ทักทายกันด้วยการจับมือ คุณก็ควรเลี่ยงไปก่อน เพราะคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสามารถแพร่เชื้อได้แม้ว่าเขาจะไม่แสดงอาการก็ตาม เพื่อความปลอดภัยอย่าจับมือทักทายใครจนกว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาจะยุติ ปฏิเสธการจับมืออย่างสุภาพและอธิบายว่าคุณกำลังพยายามป้องกันตัวจากไวรัสโคโรนา [9]
    • คุณอาจจะพูดว่า “ดีใจที่ได้พบคุณเช่นกันค่ะ ตามปกติฉันคงจะจับมือคุณนะคะ แต่เผอิญว่าหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแนะนำว่าเราควรเลี่ยงการจับมือทักทายไปก่อนจนกว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาจะยุติ”
  7. แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ก็ป้องกันตัวเองไว้ก่อนดีกว่าหากคุณสังเกตว่ามีใครแสดงอาการของการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ ให้ถอยห่างจากคนที่ดูเหมือนจะไอและจามออกมาอย่างเงียบๆ เพื่อรักษามารยาท [10]
    • ถ้าคุณกำลังคุยกับคนนั้นอยู่ ให้ถนอมน้ำใจเขาเมื่อคุณขอตัวออกมา คุณอาจจะพูดว่า “ ผมเพิ่งสังเกตว่าคุณไอ ขอให้หายไวๆ นะครับ แต่ผมขออยู่ห่างจากคุณเพื่อที่ผมจะได้ไม่บังเอิญหายใจเอาเชื้อโรคเข้าไปนะครับ”

    เคล็ดลับ: แม้ว่าไวรัสโคโรนาจะมีต้นกำเนิดที่ประเทศจีน แต่มันไม่ได้ติดต่อกันผ่านคนเอเชีย โชคร้ายที่มีการรายงานว่าคนเชื้อสายเอเชียต้องเผชิญกับการเหมารวมทางเชื้อชาติและพฤติกรรมก้าวร้าวที่ร้ายแรงจากผู้อื่น ไวรัสนี้แพร่กระจายไปทั่วโลก และไม่ว่าใครก็สามารถติดเชื้อหรือแพร่เชื้อได้ เพราะฉะนั้นให้ปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเมตตาและความเท่าเทียม

  8. ฆ่าเชื้อพื้นผิวต่างๆ ก่อนสัมผัสทั้งในที่สาธารณะและที่บ้าน. หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแนะนำให้คุณดูแลรักษาบ้าน ที่ทำงาน และที่สาธารณะให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวแข็งๆ หรือถูด้วยแผ่นเช็ดฆ่าเชื้อ และฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อที่เหมาะสมลงบนพื้นผิวอ่อนนุ่มทุกครั้งที่ทำได้ [11]
    • เช่น ฉีดสเปรย์ไลซอลลงบนเคาน์เตอร์ ราวลูกกรง และลูกบิดประตู หรือไม่ก็ใช้ผ้าชุบน้ำผสมไฮเตอร์เช็ดพื้นผิวแข็งๆ เหล่านี้ จากนั้นเช็ดออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
    • สเปรย์ไลซอลใช้กับพื้นผิวอ่อนนุ่มได้เช่นกัน
    • อย่าใช้น้ำส้มสายชูขาวหรือสเปรย์ฆ่าเชื้อแบบทำจาก "ธรรมชาติ" ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าน้ำส้มสายชูขาวมีผลต่อไวรัสโคโรนา [12] สเปรย์ฆ่าเชื้อแบบทำจาก "ธรรมชาติ" นั้นอาจมีส่วนผสมแตกต่างกันและไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อฆ่าเชื้อไวรัส
  9. หน้ากากอนามัยจะป้องกันไม่ให้ฝอยละอองจากการไอหรือจามออกนอกหน้ากากเพื่อให้คุณไม่ไปแพร่เชื้อใส่คนอื่น และสวมเมื่อการทิ้งระยะห่างทางสังคมนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ให้แน่ใจว่าได้ซักหน้ากากอนามัยแบบผ้าก่อนใช้ด้วย [13]
    • คุณไม่จำเป็นต้องไปซื้อหน้ากากที่ใช้สวมในขณะผ่าตัดเพื่อกาลนี้โดยเฉพาะ เพราะที่จริงแล้วการทำเช่นนั้นจะทำให้หน้ากากขาดตลาดและทำให้คนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ หาซื้อไม่ได้

    เคล็ดลับ: อย่าซื้อหน้ากากอนามัยที่ดูแพงกว่าปกติ นี่เป็นการฉกฉวยขึ้นราคา ซึ่งผิดกฎหมาย ฉะนั้นหาซื้อตามร้านดีกว่าไปซื้อในอินเทอร์เน็ต

    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

กักตุนเสบียงไว้ที่บ้านเผื่อกรณีฉุกเฉิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตุนอาหารไว้ในตู้กับข้าวและช่องฟรีซให้เพียงพอสำหรับ 2-4 สัปดาห์. หากคุณป่วยหรือมีการระบาดของไวรัสโคโรนาในชุมชน คุณจะต้องเก็บตัวอยู่ในบ้าน คุณจะไม่สามารถไปซูเปอร์มาร์เก็ตหรือสั่งอาหารมาส่งได้ เตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ด้วยการซื้ออาหารที่ไม่เน่าเสียมาเก็บไว้ในตู้กับข้าวเพิ่มเติม นอกจากนี้ก็ให้ตุนอาหารที่เน่าเสียได้ที่คุณสามารถนำออกมาละลายได้ทีหลังไว้ในช่องฟรีซด้วย [14]
    • ซื้ออาหารกระป๋อง ทูน่า และอาหารบรรจุห่อที่อยู่ได้นาน
    • ตุนอาหารแช่แข็ง แต่ก็ให้แช่เนื้อสัตว์ ขนมปัง และอาหารที่เน่าเสียได้ไว้ในช่องแข็งเพื่อให้สามารถนำมาละลายได้ในภายหลัง
    • ถ้าคุณดื่มนม ซื้อนมผงมาตุนไว้ในตู้กับข้าวเพราะว่าคุณอาจจะไม่สามารถออกไปที่ร้านค้าได้สักพัก
    • คุณไม่จำเป็นต้องหยุดการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพระหว่างช่วงโรคกำลังระบาด! ผลิตภัณฑ์สดใหม่สามารถแช่แข็งแล้วมาเติมตอนทำอาหารได้ในภายหลัง หรือจะเลือกผักทั้งแบบกระป๋องหรือแช่แข็งก็ได้โดยเติมรสชาติแต่น้อย การเก็บธัญพืชไว้ในสต็อคก็พอช่วยเหมือนกัน

    รู้หรือไม่ ถ้ามีการระบาดของไวรัสโคโรนาในชุมชนของคุณ หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อจะแนะนำให้ทุกคนอยู่บ้านและหลีกเลี่ยงการพบปะผู้อื่น วิธีนี้เรียกว่ามาตรการระยะห่างทางสังคมซึ่งจะช่วยป้องกันการระบาดของโรคได้ [15]

  2. ซื้อเครื่องอุปโภคที่จำเป็น เช่น กระดาษทิชชู่ สบู่ และน้ำยาซักผ้าเพิ่ม. เป็นไปได้ว่าคุณจะต้องอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลาหลายสัปดาห์ถ้ามีใครในบ้านป่วยหรือมีการระบาดในชุมชน เผื่อว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ให้ซื้อเครื่องใช้ในบ้านที่คุณใช้เป็นประจำเพื่อที่ของจะได้ไม่หมดระหว่างที่คุณออกไปไหนไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ให้ซื้อเตรียมไว้ให้พอสำหรับ 1 เดือนเพื่อเตรียมพร้อม สิ่งที่คุณอาจจะซื้อเตรียมไว้ก็เช่น : [16]
    • กระดาษทิชชู่
    • น้ำยาล้างจาน
    • สบู่ล้างมือ
    • กระดาษทิชชู่รองอาหาร
    • กระดาษชำระ
    • น้ำยาซักผ้า
    • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
    • ผ้าอนามัยหรือผ้าอนามัยแบบสอด
    • ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในห้องน้ำ
    • ผ้าอ้อม
    • เสบียงสำหรับสัตว์เลี้ยง

    เคล็ดลับ: คุณต้องเตรียมกระดาษทิชชู่ไว้เยอะๆ เผื่อคุณป่วย การใช้กระดาษทิชชู่เมื่อคุณไอ สั่งน้ำมูก หรือจามจะช่วยป้องกันโรคไม่ให้กระจายไปสู่ผู้อื่นได้

  3. ซื้อยาสำหรับรักษาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจที่ร้านขายยา. แม้ว่าจะไม่มียารักษาไวรัสโดยตรง แต่คุณก็สามารถรักษาอาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจทั่วไปได้ ซื้อยาลดน้ำมูก อะเซตามิโนเฟน (ไทลีนอล) และยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (แอดวิล, มอทริน) หรือนาพรอกเซน (อัลลีฟ) ไว้อย่างละกระปุกเผื่อคุณป่วย นอกจากนี้คุณก็อาจจะซื้อลูกอมบรรเทาอาการไอหรือยาแก้ไอมาเพื่อช่วยควบคุมอาการไอด้วย [17]
    • ถ้าคุณอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ คุณอาจจะต้องซื้อยาเตรียมไว้เยอะๆ เผื่อว่ามีคนในบ้านป่วยมากกว่า 1 คน ลองปรึกษาแพทย์ว่าคุณควรซื้อเตรียมไว้ทั้งหมดเท่าไหร่
  4. เตรียมยาที่คุณต้องรับประทานเผื่อไว้อย่างน้อย 30 วัน. ถ้าคุณต้องรับประทานยาใดๆ ก็ตามเป็นประจำทุกวัน ให้ปรึกษาแพทย์และเภสัชกรว่าคุณสามารถรับยาเพิ่มเพื่อเก็บไว้ที่บ้านจนกว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาจะผ่านพ้นไปได้หรือไม่ เพราะคุณอาจจะไม่สามารถหายาเพิ่มได้หากมีการระบาดในชุมชนหรือหากคุณป่วย พยายามสำรองยาไว้สำหรับ 30 วันเพื่อความปลอดภัย [18]
    • คุณอาจจะต้องแวะร้านขายยาทุก 1 หรือ 2 สัปดาห์เพื่อเติมยาไว้บางส่วน วิธีนี้จะทำให้คุณมียาเผื่อไว้สำหรับ 30 วันตลอดเวลา
    • ปรึกษาแพทย์และเภสัชกรถึงทางเลือกต่างๆ เพื่อดูว่าวิธีการไหนที่เหมาะสมกับกรณีของคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

วางแผนสำหรับการปิดโรงเรียนและที่ทำงาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วางแผนเรื่องการดูแลลูกกรณีที่ต้องปิดโรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็ก. ถ้าไวรัสโคโรนามาถึงชุมชนของคุณ ก็อาจจะต้องมีการประกาศปิดโรงเรียนและสถานดูแลเด็กหรือไม่ก็เริ่มเลิกเร็วขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความเครียดได้มหาศาลหากคุณเป็นพ่อแม่ที่ทำงานไปด้วยเพราะคุณจะต้องดูแลลูก ลองดูว่าคุณมีทางเลือกไหนบ้าง พยายามจัดการล่วงหน้าเพื่อให้คุณเตรียมพร้อม [19]
    • เช่น คุณอาจจะลองขอให้ญาติมาช่วยดูแลลูกถ้าโรงเรียนหรือสถานดูแลเด็กปิด หรือไม่คุณก็อาจจะต้องคุยกับหัวหน้าว่าคุณสามารถทำงานที่บ้านหรือลางานได้ไหมเมื่อเกิดกรณีเช่นนี้
    • ลูกๆ อาจจะติดโทรทัศน์หรือติดเกมมากกว่าปกติ คุณสามารถกำหนดตารางเวลาใหม่และช่วยพวกเขาหารายการหรือภาพยนตร์ที่เหมาะสมดู
  2. ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ต้องกังวล แต่คุณก็อาจจะไม่สามารถออกไปทำงานได้หากมีการระบาดของไวรัสโคโรนาในชุมชนของคุณ ธุรกิจและองค์กรต่างๆ น่าจะต้องปิดเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส เพื่อช่วยเตรียมการในเรื่องนี้ ให้ถามหัวหน้าว่าคุณสามารถทำงานทางไกลได้ไหมในกรณีที่เกิดการระบาด ปรึกษากันเรื่องงานที่คุณจะต้องทำ วิธีรับผิดชอบการทำงาน และชั่วโมงการทำงาน [20]
    • คุณอาจจะพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าหน่วยงานป้องกันโรคติดต่ออาจจะแนะนำให้พนักงานอยู่บ้านถ้ามีการระบาดของไวรัสโคโรนาเกิดขึ้นที่นี่ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผมหวังว่าเราคงทำงานทางไกลได้นะครับ เรามาคุยเรื่องนี้กันดีไหมครับ”
    • การทำงานที่บ้านอาจจะไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทุกคน แต่คุณก็ควรเตรียมทางเลือกนี้ไว้หากคุณสามารถทำงานบางอย่างหรือทั้งหมดที่บ้านได้
  3. ค้นหาองค์กรช่วยเหลือในพื้นที่หากคุณอาจจะต้องสูญเสียรายได้. คุณอาจจะกังวลมากๆ ว่าคุณจะเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างไรหากคุณไม่สามารถทำงานที่บ้านได้ ลองค้นหาดูว่ามีองค์กรไหนที่สามารถช่วยเหลือคุณได้บ้าง จากนั้นให้เขียนรายการสถานที่ในชุมชนที่คุณสามารถไปขอความช่วยเหลือได้ [21]
    • ในชุมชนของคุณอาจจะมีองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่
    • พยายามอย่าวิตกกังวล ทุกคนต่างประสบกับเหตุการณ์นี้ร่วมกัน และชุมชนก็น่าจะรวมตัวกันเพื่อช่วยผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ติดตามข่าวสารแต่ไม่ตื่นตระหนก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เช็กข่าวความเคลื่อนไหวของไวรัสโคโรนาแค่วันละครั้ง. กรมควบคุมโรคและองค์การอนามัยโลกอัปเดตข่าวสารทุกวัน และคุณต้องคอยติดตามข่าวสารเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ก็อย่าให้ความกลัวที่มีต่อไวรัสโคโรนามาครอบงำจิตใจ อ่านข่าววันละครั้งแทนที่จะคอยอัปเดตข่าวตลอดเวลา [22]
    • คุณสามารถตรวจสอบอัพเดทล่าสุดจากองค์การอนามัยโลกได้ที่: https://covid19.who.int/
    • จำไว้ว่าคุณอาจจะไม่ต้องกังวลเรื่องไวรัสนี้เลยก็ได้ เพราะฉะนั้นพยายามควบคุมสติให้ได้มากที่สุด

    เคล็ดลับ: เนื่องจากผู้คนเกิดความตื่นกลัว จึงมีการเผยแพร่ข่าวสารผิดๆ ทั่วอินเทอร์เน็ต เพื่อหลีกเลี่ยงความตื่นตระหนกจนเกินเหตุ ให้ติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ให้ตรวจสอบข้อมูลใดๆ ก็ตามที่คุณอ่านกับเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรคหรือองค์การอนามัยโลก (ภาษาอังกฤษ)

  2. วางแผนในครอบครัวสำหรับการระบาดของไวรัสโคโรนาเพื่อให้คุณรู้สึกอุ่นใจ. คุณอาจจะกังวลว่าครอบครัวของคุณจะป่วย และลูกๆ ก็อาจจะมีคำถามเกี่ยวกับไวรัส เพื่อช่วยให้คุณรู้สึกอุ่นใจและควบคุมสถานการณ์ได้ ให้ประชุมกันในครอบครัวเพื่อวางแผนในกรณีที่เกิดการระบาดของไวรัส สิ่งที่คุณจะปรึกษากันก็เช่น : [23]
    • บอกให้คนในครอบครัวมั่นใจได้ว่าจะมีอาหารและข้าวของเครื่องใช้เพียงพอสำหรับทุกคน
    • บอกลูกๆ ว่าพวกเขาจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
    • พูดคุยกันถึงไอเดียการใช้เวลาอยู่ที่บ้านในระหว่างที่มีการระบาด
    • ให้รายชื่อติดต่อฉุกเฉินกับสมาชิกในครอบครัวทุกคน
    • กำหนดว่าจะใช้ห้องไหนเป็นห้องผู้ป่วยในกรณีที่มีคนป่วย
  3. เลือกวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน. ไวรัสโคโรนาไม่สามารถรักษาด้วยยาได้ เพราะฉะนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งจึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด โชคดีที่คุณสามารถเพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันได้ด้วยวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ลองปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่าแพทย์มีคำแนะนำที่เหมาะกับความต้องการของคุณโดยเฉพาะหรือเปล่า คุณอาจจะลองวิธีการต่อไปนี้: [24]
    • รับประทานผักหรือผลไม้สดทุกมื้อ
    • ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
    • รับประทานวิตามินรวมถ้าแพทย์บอกว่าปลอดภัย
    • นอนหลับพักผ่อนวันละ 7-9 ชั่วโมง
    • ผ่อนคลายความเครียด
    • งดสูบบุหรี่
    • ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ถ้ายังไม่ได้ฉีด
  4. แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่คุณก็ต้องไม่ละเลยอาการของคุณโดยเด็ดขาด ถ้าคุณมีอาการ เช่น เป็นไข้ ไอ และมีปัญหาในการหายใจ ให้ติดต่อแพทย์เพื่อดูว่าคุณอาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือเปล่า ในระหว่างนี้ก็ให้อยู่บ้านเพื่อจำกัดการแพร่ของเชื้อโรค แพทย์อาจจะตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเพื่อยืนยันการวินิจฉัย [25]
    • อย่าเพิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนว่าคุณคิดว่าคุณอาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา เพราะเขาน่าจะแยกคุณจากคนไข้คนอื่นๆ ไว้ลำพัง หรือไม่เขาก็อาจจะแนะนำให้คุณอยู่บ้านหรืออยู่ในยานพาหนะ
    • ถ้าคุณติดเชื้อไวรัสโคโรนา คุณอาจจะสามารถรักษาอาการเองที่บ้านได้ แต่ถ้าหากแพทย์คิดว่าคุณน่าจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน แพทย์ก็อาจจะมากำกับการดูแลอีกที
  5. ตรวจสอบคำเตือนเรื่องการเดินทางก่อนไปเที่ยว แต่พยายามอย่าเป็นกังวล. ผู้เชี่ยวชาญขอร้องผู้คนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็นเพื่อช่วยจำกัดการกระจายของเชื้อ [26] ตรวจสอบคำเตือนเรื่องการเดินทางจากกรมควบคุมโรค [27] หรือกระทรวงสาธารณสุข [28] ก่อนการเดินทางเพื่อความปลอดภัย
    • เป็นเรื่องสำคัญมากที่คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการเดินทาง คนแก่ คนที่มีปัญหาด้านสุขภาพหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำควรหลีกเลี่ยงการเดินทางเพื่อลดความเสี่ยง
    • ถ้าคุณกังวล คุณอาจจะสามารถยกเลิกทริปและขอรับเงินคืนบางส่วนหรือเต็มจำนวนได้ เช็กกับบริษัทที่คุณวางแผนการเดินทางเพื่อดูว่าคุณมีทางเลือกไหม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พยายามอย่าตื่นตระหนก การเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่เป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่คุณไม่น่าจะต้องเป็นกังวล
  • จำไว้ว่าคุณต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างมีเมตตา อย่าทึกทักว่าใครติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพราะเขาเป็นคนเอเชีย อย่าลืมว่าไวรัสนี้แพร่กระจายไปแล้วอย่างน้อย 67 ประเทศ เพราะฉะนั้นมันส่งผลกระทบต่อประชากรหลายกลุ่ม และอย่าทึกทักว่าทุกคนที่ไอคือคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
โฆษณา

คำเตือน

โฆษณา
  1. https://www.who.int/docs/default-source/coronaviruse/situation-reports/20200218-sitrep-29-covid-19.pdf?sfvrsn=6262de9e_2
  2. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  3. https://globalnews.ca/news/6703882/coronavirus-covid-19-cleaning-vinegar/
  4. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/prevent-getting-sick/about-face-coverings.html
  5. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  6. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/index.html?CDC_AA_refVal=https%3A%2F%2Fwww.cdc.gov%2Fcoronavirus%2F2019-ncov%2Fpreparing-individuals-communities.html
  7. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  8. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  9. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  10. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  11. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  12. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  13. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  14. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/get-your-household-ready-for-COVID-19.html
  15. https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/how-to-boost-your-immune-system
  16. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/coronavirus/diagnosis-treatment/drc-20479976
  17. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/travelers/map-and-travel-notices.html
  18. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/travelers/index.html
  19. https://www.nhs.uk/conditions/coronavirus-covid-19/advice-for-travellers/
  20. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/coronavirus/symptoms-causes/syc-20479963

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,358 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา