บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเปรียบเทียบชุดข้อมูลที่แตกต่างกันของ Excel เช่น 2 คอลัมน์ใน spreadsheet เดียวกัน หรือไฟล์ Excel 2 ไฟล์ที่แตกต่างกัน
ขั้นตอน
-
เลือกเพื่อไฮไลต์เซลล์แรกของคอลัมน์ว่าง. เวลาจะเปรียบเทียบ 2 คอลัมน์ใน worksheet เดียวกัน ผลลัพธ์จะออกมาในคอลัมน์ว่าง ขอให้เริ่มจากแถวเดียวกันกับ 2 คอลัมน์ที่คุณจะเปรียบเทียบ
- เช่น ถ้า 2 คอลัมน์ที่จะเปรียบเทียบเริ่มที่ A2 กับ B2 ก็ให้คุณไฮไลต์ C2 ซะ
-
พิมพ์สูตรเปรียบเทียบ (comparison formula) ของแถวแรก. พิมพ์สูตรต่อไปนี้เพื่อเปรียบเทียบ A2 กับ B2 เปลี่ยนค่าของเซลล์ด้วยถ้าคอลัมน์ของคุณเริ่มที่เซลล์ต่างกัน
- =IF(A2=B2,"Match","No match")
-
ดับเบิลคลิกกล่อง Fill ที่มุมล่างของเซลล์. เพื่อใส่สูตรในเซลล์ที่เหลือของคอลัมน์ แล้วปรับค่าให้ตรงกันโดยอัตโนมัติ
-
มองหา Match กับ No match . เป็นตัวที่จะบอกว่าเนื้อหาของ 2 เซลล์นั้นมีข้อมูลที่ตรงกันหรือเปล่า ใช้ได้กับทั้ง string วันที่ หมายเลข แล้วก็เวลา แต่จะไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็ก-ใหญ่ ("RED" กับ "red" จะถือว่าเป็นข้อมูลเดียวกัน) [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เปิด workbook แรกที่จะเปรียบเทียบ. ให้คุณใช้ฟีเจอร์ View Side by Side ของ Excel เพื่อดูไฟล์ Excel 2 ไฟล์ที่แตกต่างกันในหน้าจอเดียวกัน แบบนี้ข้อดีคือสามารถเลื่อนดูทั้ง 2 sheet ได้ในเวลาเดียวกัน
-
เปิด workbook ที่ 2. ตอนนี้ก็เท่ากับคุณเปิด 2 ไฟล์ของ Excel ไว้ในคอม
-
คลิกแท็บ View ของหน้าต่างไหนก็ได้.
-
คลิก View Side by Side . จะอยู่ในส่วน Window ของแถบเมนู ทั้ง 2 workbook จะแสดงอยู่ในหน้าจอ เทียบกันในแนวนอน
-
คลิก Arrange All เพื่อเปลี่ยนการวางแนว.
-
คลิก Vertical แล้วคลิก OK . ทั้ง 2 workbook จะเปลี่ยนไปขนาบข้างกัน ซ้ายและขวา
-
เลื่อนหน้าต่างไหน ก็เท่ากับเลื่อนทั้ง 2 หน้าต่าง. พอเปิดใช้ฟีเจอร์ Side by Side เวลาเลื่อนดูเนื้อหา ทั้ง 2 หน้าต่างก็จะเลื่อนไปพร้อมกัน แบบนี้ก็หาจุดแตกต่างได้ง่ายเวลาเลื่อนไปตาม spreadsheet
- คุณปิดฟีเจอร์นี้ได้ แค่คลิกปุ่ม Synchronous Scrolling ในแท็บ View
โฆษณา
-
เปิด workbook ที่มี 2 sheet ที่คุณจะเปรียบเทียบกัน. ถ้าจะใช้สูตรเปรียบเทียบนี้ ทั้ง 2 sheet ต้องอยู่ในไฟล์ workbook เดียวกัน
-
คลิกปุ่ม + เพื่อสร้าง sheet ใหม่ว่างๆ. ปุ่มนี้จะอยู่ล่างหน้าจอ ทางขวาของ sheet ที่เปิดอยู่
-
คลิกเคอร์เซอร์ในเซลล์ A1 ของ sheet ใหม่.
-
ใส่สูตรเปรียบเทียบ. พิมพ์หรือ copy สูตรข้างล่างลงในเซลล์ A1 ของ sheet ใหม่
- =IF(Sheet1!A1<> Sheet2!A1, "Sheet1:"&Sheet1!A1&" vs Sheet2:"&Sheet2!A1, "")
-
คลิกแล้วลากกล่อง Fill ที่มุมเซลล์.
-
ลากกล่อง Fill ลงไป. ลากลงไปเท่าเนื้อหาของ 2 sheet แรก เช่น ถ้า spreadsheet ของคุณลงไปถึงแถว 27 ก็ให้ลากกล่อง Fill ลงไปถึงแถวนั้น
-
ลากกล่อง Fill ไปทางขวา. พอลากลงแล้ว คราวนี้ให้ลากไปทางขวาเพื่อคลุม sheet ต้นฉบับ เช่น ถ้า spreadsheet ของคุณไปถึงคอลัมน์ Q ก็ให้ลากกล่อง Fill ไปถึงคอลัมน์นั้น
-
มองหาจุดแตกต่างในเซลล์ที่ไม่ตรงกัน. พอลากกล่อง Fill คลุม sheet ใหม่แล้ว คุณจะเห็นเซลล์เติมตรงจุดที่แตกต่างระหว่าง 2 sheet เซลล์จะแสดงค่าของเซลล์ใน sheet แรก และค่าของเซลล์เดียวกันใน sheet ที่ 2
- เช่น A1 ของ Sheet1 คือ "Apples" ส่วน A1 ของ Sheet2 คือ "Oranges" เพราะฉะนั้น A1 ของ Sheet3 จะขึ้นว่า "Sheet1:Apples vs Sheet2:Oranges" เมื่อคุณใช้สูตรเปรียบเทียบ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา