ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คำกริยาหลายคำในภาษาอังกฤษสามารถถูกแปลงให้อยู่ในรูปคำนามได้โดยง่ายเพียงแค่เพิ่มคำลงท้ายเข้าไป และยังสามารถเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามได้ขึ้นกับเนื้อหาของประโยค บางครั้งการใช้รูปคำนามของคำกริยาสามารถทำให้ดูเข้าใจยากและเป็นศัพท์เฉพาะกลุ่ม ใช้วิจารณญาณก่อนหากจะเปลี่ยนคำกริยาเป็นรูปคำนามเพื่อให้เขียนออกมาได้ชัดเจนและกระชับได้ใจความ โดยอาจมีความยุ่งยากเล็กน้อยในการต้องเปลี่ยนแปลงคำรอบข้างหากคุณไม่ใช่เจ้าของภาษา แต่ก็อย่าได้ท้อใจเพียงแค่ใช้เวลาและความอดทนสักหน่อยก็จะสามารถเข้าใจการเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามได้เป็นอย่างดี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เพิ่มคำลงท้าย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีคำกริยามากมายที่เปลี่ยนไปเป็นคำนามด้วยการเติมคำลงท้าย “-ance” หรือ “-ence” ตัวอย่างเช่น คำกริยาว่า “appear” สามารถเปลี่ยนไปเป็น “appearance” คำกริยาว่า “resist” สามารถเปลี่ยนไปเป็น “resistance” ได้เติม “-ance” หรือ “-ence” เข้าไปที่คำกริยา. มีคำกริยามากมายที่เปลี่ยนไปเป็นคำนามด้วยการเติมคำลงท้าย “-ance” หรือ “-ence” ตัวอย่างเช่น คำกริยาว่า “appear” สามารถเปลี่ยนไปเป็น “appearance” คำกริยาว่า “resist” สามารถเปลี่ยนไปเป็น “resistance” ได้ [1]
    • ตัวอย่างเช่น ลองดูที่ประโยค "He appeared on many talk shows while promoting his book." หากคุณต้องการเปลี่ยนจากกริยาเป็นคำนาม ควรใช้ว่า "He made many talk show appearances while promoting his book."
  2. ยังมีคำกริยาอื่นๆ อีกที่ต้องใช้คำลงท้ายด้วย "-ment" เพื่อเปลี่ยนเป็นคำนาม ตัวอย่างเช่น "appoint,", "assign," and "enjoy" สามารถเปลี่ยนเป็น "appointment," "assignment,"และ "enjoyment" [2]
    • ตัวอย่างเช่น ลองดูที่ประโยค "The man enjoyed his lunch." หากคุณต้องการเปลี่ยนจากกริยาเป็นคำนาม ควรใช้ว่า "The man's lunch brought him enjoyment."
  3. คำลงท้ายด้วย "-tion" หรือ "-sion มักเป็นคำลงท้ายของคำนามหลายคำ มีคำกริยามากมายที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนคำนามด้วยการใช้คำลงท้ายเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น "inform", "decide" และ"describe" สามารถเปลี่ยนไปเป็น "information," "decision," และ"description" [3]
    • ตัวอย่างเช่น ลองดูที่ประโยค "He decided to decline the job offer."หากคุณต้องการเปลี่ยนจากกริยาเป็นคำนาม ควรใช้ว่า "He made the decision to decline the job offer."
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนรูปประโยค

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คำกริยาเป็นคำบอกอาการ อธิบายการกระทำบางสิ่งบางอย่างในประโยค หากคุณต้องการปรับเปลี่ยนประโยคเพื่อเปลี่ยนจากคำกริยาเป็นคำนาม หาตำแหน่งของคำกริยาและดูว่าสามารถเป็นคำนามด้วยได้หรือไม่
    • ตัวอย่างเช่น ลองดูที่ประโยค "The film impacted the students." คำกริยาคือ "impacted"
    • อีกตัวอย่างเช่น “The athlete prepared to run.” คำกริยาของประโยคคือ “run” (แม้ “prepared” ก็เป็นคำกริยาเช่นเดียวกัน)
  2. คำนำหน้านามอย่างเช่นคำว่า "the" หรือ "a" ซึ่งมักบ่งบอกว่าคำที่ตามมาคือคำนาม ในการเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามในประโยค ให้เติมคำนำหน้านามไว้ด้านหน้าคำนาม [4]
    • หากคุณจะเปลี่ยนคำว่า "impacted" เป็นคำนาม จำเป็นจะต้องใช้คำนำหน้านามว่า "an" หรือใช้คำนำหน้านามว่า “the”
    • ในการเปลี่ยนคำว่า “run” เป็นคำนาม จำเป็นจะต้องใช้คำนำหน้านามว่า “the” หรือใช้คำนำหน้านามว่า “a”
  3. เมื่อคุณใส่คำนำหน้านามลงไป คุณอาจจะต้องปรับเปลี่ยนประโยคให้ยาวขึ้น คำกริยาอาจจะจำเป็นต้องถูกปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อให้กลายเป็นคำนามและประโยคอาจจะต้องมีการเรียงใหม่เล็กน้อย [5]
    • ตัวอย่างเช่น "The film impacted the students." สามารถเปลี่ยนได้เป็น "The film had an impact on the students."
    • อีกตัวอย่างเช่น “The athlete prepared to run.” สามารถเปลี่ยนได้เป็น “The athlete prepared for a run.”
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ค้นหาข้อมูลจากพจนานุกรมเพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่าใช้คำลงท้ายถูกหรือไม่. หากภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองของคุณ หารใช้คำลงท้ายเมื่อต้องการเปลี่ยนคำกริยาอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก มีกฎที่ไม่ยากและใช้ได้อย่างรวดเร็ว อย่ากังวลที่จะเปิดพจนานุกรมหลังเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนาม เพราะตรวจดูอีกครั้งก็ไม่ได้เสียหายอะไร
  2. หลายคนตัดสินใจเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามในรูปที่เข้าใจได้ยาก เป็นเพราะว่ามักจะใช้ศัพท์ที่เฉพาะวงการมากๆ คำศัพท์ที่ใช้ในวงการธุรกิจ คอมพิวเตอร์ หรือกีฬา สามารถกลายเป็นคำศัพท์เฉพาะที่ไม่มีความหมายไปเลยหากนำมาแปลงจากกริยาเป็นรูปคำนาม [6]
    • ตัวอย่างเช่น จากประโยค "The boss conducted an investigation about the allegations" เป็นการใช้คำค่อนข้างฟุ่มเฟือย สามารถเขียนให้ง่ายขึ้นเป็น "The boss investigated the allegations."
    • อย่างเช่นหากจะพูดว่า “The team did a review of the tape” หากทำให้ประโยคดูลื่นไหลมากขึ้นควรใช้เป็น “The team reviewed the tape.”
  3. ใช้การกลับประโยคหากสามารถสื่อความได้ดีกว่า. การใช้คำนามแทนรูปกริยาสามารถช่วยลดเรื่องอารมณ์และสื่อได้ตรงวัตถุประสงค์มากขึ้น หากต้องเจอกับข้อมูลที่มีผลต่อจิตใจ จะเป็นการดีที่ต้องมีเทคนิคการพูดสักเล็กน้อย ต้องระวังการใช้บทสนทนาและการใช้น้ำเสียงที่เหมาะสมสื่อสารกับอีกฝ่าย [7]
    • ตัวอย่างเช่น จากประโยค “He retaliated by filing a lawsuit." ประโยคนี้เป็นประโยคที่อยู่ในสถานการณ์ที่มีผลต่อจิตใจ คุณอาจจะต้องเลือกใช้ประโยคที่สุภาพขึ้น โดยสามารถใช้รูปคำนามในการเขียนลงไปให้มีผลต่อประโยคมากขึ้นได้เป็น "The lawsuit may have been a form of retaliation."
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 28,258 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา