อยากซ่อนกิจกรรมออนไลน์ของคุณจากพวกสอดรู้ใช่ไหม? หรือถูกโรงเรียน บริษัท หรือทางการบล็อกไม่ให้เข้าเว็บที่ต้องการ? Proxy นี่แหละช่องทาง bypass ไม่ให้ถูกบล็อกการเชื่อมต่อ แถมช่วยปกปิด IP ทำให้ยากจะแกะรอยและติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณ พอเจอ proxy server ที่ถูกใจแล้ว ก็แค่กรอกข้อมูลลงในเบราว์เซอร์ อยากรู้วิธีโดยละเอียดก็เลื่อนลงไปอ่านกันเลย
ขั้นตอน
-
คลิกเมนู Firefox. ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง Firefox แล้วคลิก Options
-
เลือก Advanced options. ที่ด้านบนของหน้าต่าง Options ทางขวาสุด
-
เลือก tab Network. คลิกปุ่ม Settings ที่ด้านบนของหน้า Network ในหัวข้อ Connections
-
เลือก “Manual proxy configuration”. เพื่อแสดงช่องพิมพ์ข้อความด้านล่าง ให้คุณกรอกข้อมูล proxy ลงไป
-
กรอกข้อมูล proxy ที่จะใช้. ในช่อง HTTP proxy ให้ใส่ address หรือ domain ของ proxy ที่เลือก แล้วตั้งค่าพอร์ทด้วยถ้าจำเป็น ถ้าอยากเชื่อมต่อกับ proxy อื่นของ FTP หรือ SSL ให้กรอกข้อมูลในช่องข้างล่าง หรือติ๊ก “Use this proxy server for all protocols” เพื่อเปิดใช้ proxy กับทุกการรับส่งข้อมูลผ่าน Firefox
- ค่า proxy settings ของ Firefox จะมีผลกับการรับส่งข้อมูลผ่านเบราว์เซอร์ Firefox เท่านั้น ถ้าเป็นโปรแกรมอื่นๆ จะเชื่อมต่อเน็ตโดยตรง
-
กด OK เพื่อเซฟค่าใหม่. ต้องรีสตาร์ท Firefox ก่อนค่าใหม่ถึงจะมีผลโฆษณา
-
คลิกปุ่มเมนู Chrome. ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง Chrome หน้าตาเหมือนเส้นขวาง 3 เส้น
-
เลือก Settings. เพื่อเปิด tab ใหม่ในเบราว์เซอร์ แล้วคลิกลิงค์ “Show advanced settings…” ที่ท้ายหน้า
-
คลิกปุ่ม “Change proxy settings”. ในหัวข้อ Network ของ advanced settings แล้วคลิกปุ่มเพื่อเปิดหน้าต่าง Internet Properties
- หมายเหตุ: ค่า proxy settings ที่เปลี่ยนไปของ Chrome จะส่งผลต่อระบบปฏิบัติการของคุณ รวมถึงโปรแกรมอื่นๆ ที่ต่อเน็ตอยู่ ถ้าไม่อยากให้ค่า settings พวกนี้เปลี่ยนไป ก็ต้องดาวน์โหลด extension ของ Chrome อย่าง ProxySwitchSharp หรือ Proxy Helper มาใช้
-
คลิกปุ่ม “LAN settings”. เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่ ติ๊กช่องในหัวข้อ “Proxy server” แต่ไม่ต้องติ๊ก “Automatically detect settings”
-
กรอกข้อมูล proxy ที่จะใช้. ใส่ IP address หรือ domain กับพอร์ทที่เชื่อมต่อ เสร็จแล้วคลิก OK
- ถ้าใช้ proxy เสร็จแล้วอยากจะกลับไปต่อเน็ตตรงเหมือนเดิม ให้เปิด LAN settings แล้วติ๊กช่อง “Automatically detect settings” อีกรอบ แต่ไม่ต้องติ๊ก “Proxy server” [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
คลิกเมนู Tools. อันนี้แล้วแต่เวอร์ชั่น Internet Explorer ที่คุณใช้ บางทีก็อยู่ในแถบเมนูปกติ แต่บางทีก็เป็นไอคอนฟันเฟืองที่มุมขวาบน
-
เลือก “Internet options”. ไม่ว่าจะเป็นเมนูแบบไหน ตัวเลือกนี้จะอยู่ล่างสุดของเมนู
-
คลิก tab Connections. ในหัวข้อ “Local Area Network (LAN) settings” แล้วคลิกปุ่ม “LAN settings” เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่
-
เปิดใช้ proxy settings. ติ๊กช่อง “Proxy server” แต่ไม่ต้องติ๊ก “Automatically detect settings”
-
กรอกข้อมูล proxy ที่จะใช้. ใส่ IP address หรือ domain กับพอร์ทที่เชื่อมต่อ เสร็จแล้วคลิก OK อาจจะต้องรีสตาร์ท Internet Explorer ก่อน ค่าใหม่ถึงจะมีผล
- เชื่อมต่อกับ proxy server แล้วจะมีผลกับทุกการรับส่งข้อมูลผ่านเน็ตของคอมเครื่องนั้น
- ถ้าใช้ proxy เสร็จแล้วอยากจะกลับไปต่อเน็ตตรงเหมือนเดิม ให้เปิด LAN settings แล้วติ๊กช่อง “Automatically detect settings” อีกรอบ แต่ไม่ต้องติ๊ก “Proxy server” [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Microsoft Support ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
คลิกเมนู Safari. เลือก Preferences แล้วเลือก Advanced ขวาสุดของ toolbar
-
คลิกปุ่ม “Change Settings” ข้าง “Proxies”. เพื่อเปิดหัวข้อ Network ของหน้าจอ System Preferences โดยค่า proxy server settings ใหม่ของ Safari จะมีผลต่อทุกการรับส่งข้อมูลผ่านเน็ตของคอม
-
เลือกเน็ตที่ต่ออยู่. สัญญาณเน็ตทั้งหมดจะขึ้นในกรอบทางซ้าย ส่วนเน็ตที่คุณต่ออยู่จะมีไอคอนสีเขียวข้างๆ
-
คลิกปุ่ม “Advanced”. พอเปิดเมนู advanced แล้ว ให้คลิก tab Proxies
-
เลือกประเภทของ proxy. สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ให้ติ๊กช่อง “Web Proxy” และ “Secure Web Proxy” แต่อย่าติ๊ก “Auto Proxy Discovery”
-
กรอกข้อมูล proxy ที่จะใช้. ในช่องที่โผล่มา ให้ใส่ proxy address หรือ domain ส่วนช่องข้างๆ คือพอร์ท ถ้า proxy ต้องใช้รหัสด้วย ให้ติ๊กที่ช่องเพื่อใส่รหัสผ่าน
-
คลิก OK เพื่อเซฟค่าใหม่. อาจจะต้องรีสตาร์ท Safari ก่อน ค่าใหม่ถึงจะมีผล ถ้าอยากกลับไปต่อเน็ตตรงเมื่อไหร่ ให้เปิดเมนู Network อีกรอบ แล้วไม่ต้องติ๊กช่อง “Web Proxy” and “Secure Web Proxy” [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
คลิกปุ่ม Opera. ในเมนูที่โผล่มา ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ Settings แล้วเลือก Preferences
-
คลิก tab Advanced ในหน้าต่าง Preferences. คลิกปุ่ม “Proxy Servers” เพื่อเปิดหน้าต่าง Proxy configuration
-
เลือก “Use manual proxy configuration”. ติ๊กช่อง protocols ที่อยากใช้ proxy ด้วย ถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปให้ติ๊ก HTTP กับ HTTPS หรือติ๊ก “Use this proxy for all protocols”
-
กรอกข้อมูล proxy ที่จะใช้. ในช่อง “Proxy server” ให้ใส่ IP address หรือ domain ของ proxy ที่ใช้ แล้วใส่พอร์ทในช่อง “Port” จากนั้นกด OK อาจจะต้องรีสตาร์ท Opera ก่อน ค่าใหม่ถึงจะมีผล
- ถ้าอยากกลับไปต่อเน็ตตรง ให้เปิดหน้าต่าง Proxy configuration อีกรอบ แล้วเลือก “Use automatic proxy configuration” [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา