ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากคุณตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิด หรือต้องเป็นพยานปากสำคัญในการพิจารณาคดี หน่วยงานต่างๆ ที่บังคับใช้กฎหมายสามารถช่วยให้คุณสมมติตัวตนขึ้นมาใหม่ได้ เพื่อเป็นการปกป้องชีวิตส่วนตัวของคุณ ซึ่งการสร้างตัวตนนั้นก็ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อ ทำประกันสังคมใหม่ ฯลฯ ถ้าอยากรู้ว่ามีวิธีการอย่างไร ก็ลองอ่านแล้วทำตามขั้นตอนที่อยู่ด้านล่างได้เลย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เปลี่ยนชื่อของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ควรเลือกชื่อที่ใช้ง่าย และเป็นชื่อที่คุณอยากให้ทุกคนเรียก แล้วฝึกเซ็นชื่อใหม่เพื่อสร้างความคุ้นเคย จากนั้นลองแนะนำตัวเองให้กับคนแปลกหน้าด้วยชื่อใหม่ เพื่อดูว่าเป็นธรรมชาติหรือไม่
    • คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อของตัวเองได้ ถ้าคุณต้องการหลีกเลี่ยงการฟ้องร้อง การล้มละลาย หรือใช้ชื่อที่ไปละเมิดเครื่องหมายการค้า มีตัวเลขหรืออักขระพิเศษประกอบ รวมถึงมีคำหยาบคายอยู่ในชื่อ
    • ถ้าคุณไม่อยากให้ใครตามตัวเจอง่ายๆ ลองเปลี่ยนไปใช้ชื่อทั่วๆ ไปอย่าง “สมชาย แซ่ตั้ง” หรือ “สมศักดิ์ แซ่โง้ว” ถ้าเป็นชาวต่างชาติก็ใช้ชื่อ “Jim Smith” หรือ “Ashley Johnson” เพราะเป็นชื่อที่มีคนใช้พอสมควร จึงยากแก่การค้นหาหรือติดตาม
  2. ในต่างประเทศ ในแต่ละรัฐ ส่วนใหญ่จะให้คุณกรอกเหตุผลที่ต้องการเปลี่ยนชื่อด้วย โดยคุณต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ของสำนักงานศาลในรัฐนั้นๆ เพื่อดาวน์โหลดเอกสารคำร้อง กรอกข้อมูลและรับรองเอกสาร ยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่สำนักงานศาล เพื่อส่งต่อไปยังผู้พิพากษา ดังนั้นคุณควรอธิบายเหตุผลในการเปลี่ยนชื่อให้ชัดเจนและถูกต้อง สำหรับประเทศไทยคุณต้องไปที่อำเภอหรือเขตที่คุณอยู่ แล้วยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อเปลี่ยนชื่อ
    • สำหรับต่างประเทศ ถ้าคุณเป็นผู้อพยพเข้าประเทศ บุคคลผู้พ้นโทษ หรือทนาย คุณต้องมีคำให้การที่เป็นรายลักษณ์อักษรของหน่วยงานราชการแนบไปในคำร้องด้วย สำหรับประเทศไทย กรณีเป็นบุคคลต่างด้าว นายทะเบียนท้องที่จะออกหนังสือรับรองการเปลี่ยนชื่อให้ และออกหนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัวหรือชื่อรองให้เป็นหลักฐาน จากนั้นให้นำหนังสือดังกล่าวไปขอแก้ไขรายการในทะเบียนบ้านและหลักฐานอื่นๆ ให้ถูกต้อง
  3. การพิจารณาส่วนใหญ่จะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ในต่างประเทศ ผู้พิพากษาอาจมีคำถามบ้างเล็กน้อย พยายามตอบคำถามอย่างชัดเจนและซื่อตรง อธิบายว่าทำไมถึงต้องการเปลี่ยนตัวตนของตัวเอง
    • ในต่างประเทศ ถ้าผู้พิพากษาปฏิเสธคำร้องของคุณ ให้ถ่ายเอกสารการปฏิเสธเก็บไว้ แล้วพยายามยื่นเรื่องใหม่อีกครั้ง
    • ในต่างประเทศ ถ้าผู้พิพากษาอนุมัติคำร้องของคุณ คุณจะได้รับคำสั่งศาลสำหรับการเปลี่ยนชื่อ ซึ่งจะได้รับผ่านเจ้าหน้าที่ศาล จากนั้นทำสำเนาเก็บไว้เป็นหลักฐาน
  4. ใช้เอกสารการอนุมัติเปลี่ยนชื่อในการทำบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือพาสปอร์ตใหม่ เพื่อให้ได้หลักฐานการแสดงตัวตนใหม่ เปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ เอกสารการกู้ยืมเงิน รวมถึงเอกสารอื่นๆ เพื่อที่จะได้ยื่นขอบัตรประกันสังคมใหม่ได้ง่ายขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เปลี่ยนหมายเลขประกันสังคมของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กรอกชื่อใหม่ของคุณลงไปในการสมัครทำบัตรประกันสังคมใหม่ โดยในต่างประเทศสามารถดูเอกสารได้ที่นี่ http://www.socialsecurity.gov/online/ss-5.pdf
    • คุณต้องแสดงหลักฐานที่บ่งบอกอายุของตัวเองด้วย โดยการแนบสำเนาใบสูติบัตรไปกับเอกสาร นอกจากนี้ยังสามารถแนบเอกสารการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม หรือเอกสารทางศาสนาลงไปได้ด้วย
    • คุณต้องแสดงหลักฐานที่ใช้บ่งบอกตัวตนของคุณ โดยแนบบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือพาสปอตลงในเอกสาร แต่ถ้ายังไม่ได้เปลี่ยนชื่อในเอกสารดังกล่าว คุณสามารถแสดงหลักฐานที่ยังใช้ชื่อเดิมในการระบุตัวตนได้ รวมถึงหลักฐานการเปลี่ยนชื่อที่ได้จากศาล (ต่างประเทศ) หรืออำเภอ (ประเทศไทย) [1]
  2. โดยนำเอกสารที่กรอกเรียบร้อยแล้ว รวมถึงหลักฐานการแสดงตัวตน อายุ การเปลี่ยนชื่อ ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ [2] เจ้าหน้าที่จะให้หมายเลขประกันสังคมใหม่ ถ้าเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้ (สำหรับต่างประเทศ)
    • คุณตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิด การก่อกวน หรือตกอยู่ในอันตรายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง [3]
    • ลำดับของตัวเลขในบัตรประกันสังคมของคนในครอบครัวเดียวกันมีความสับสน
    • มีบุคคลมากกว่าหนึ่งคนที่มีหมายเลขเดียวกัน
    • คุณมีข้อโต้แย้งทางศาสนาหรือวัฒนธรรมในลำดับหรือตัวเลขในประกันสังคม
    • คุณถูกคนอื่นสวมตัวตนของคุณ และใช้เลขในบัตรประกันสังคมนั้น ซึ่งอาจทำให้คุณตกอยู่ในอันตรายได้
  3. ถ้าคุณถูกล่วงละเมิดและต้องการเปลี่ยนชื่อของตัวเองเพื่อหลบเลี่ยงผู้ที่มาละเมิดนั้น ให้คุณไปบอกกับหน่วยงานทางกฎหมายว่าถ้าคุณไม่เปลี่ยนชื่ออาจตกอยู่ในอันตรายได้ หน่วยงานทางกฎหมายสามารถนำหลักฐานต่างๆ มาให้ เพื่อให้คุณนำไปยื่นกับประกันสังคมเพื่อเปลี่ยนหมายเลขบัตรได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ใช้ชีวิตด้วยตัวตนใหม่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เตรียมพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่โดยที่ไม่มีอะไรเลย. หลังเปลี่ยนตัวตน คุณจะเป็นคนไม่มีประวัติทั้งการเงินและการทำงาน คุณจะไม่มีงานรวมถึงบุคคลอ้างอิง ไม่มีหลักฐานการศึกษาและการฝึกอบรมใดๆ ใครก็ตามที่ตรวจสอบหรือค้นหาประวัติต่างๆ ของคุณอาจจะสงสัย เมื่อไม่เจออะไรเลย
  2. ทั้งฝึกเขียนและพูดชื่อใหม่ให้คุ้นเคย จะได้ไม่เผลอหลุดพูดชื่อเก่าออกมา นอกจากนี้ยังต้องฝึกโกหกเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเอง ประวัติส่วนตัว รวมถึงที่อยู่อาศัยหรือเคยไปด้วย
  3. ปรับเปลี่ยนกริยาท่าทาง เสื้อผ้า บุคลิกพฤติกรรม. คุณต้องปรับเปลี่ยนรสนิยมเกี่ยวกับอาหารการกิน หรือแม้แต่ทำงานอดิเรกใหม่ๆ คุณอาจจะต้องเปลี่ยนสีผม สีเสื้อผ้า คอนแทคเลนส์ หรือใส่แว่นแทนคอนแทคเลนส์ เพื่อไม่ให้คนจำได้ นอกจากนี้ยังต้องเลือกทำงานที่ไม่อยู่ในสายเดิมด้วย
  4. ไม่ต้องบอกใครว่าชื่อใหม่ของคุณคืออะไร หรือคุณย้ายไปอยู่ไหน ตัดขาดการติดต่อทุกทาง เพื่อลดโอกาสที่คนที่รู้จักตัวตนในอดีตของคุณเผลอเปิดเผยมันออกมา
  5. หน่วยงานรัฐและองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัว จะมีบันทึกการเปลี่ยนชื่อหรือตัวตนของคุณไว้ ถ้าคุณมีคดีความ ฟ้องร้อง กระทำความผิด หรือสร้างความสนใจให้กับสื่อต่างๆ ตัวตนของคุณก็อาจถูกเปิดโปงได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เช็คให้แน่ใจว่าได้เปลี่ยนชื่อของตัวเองเรียบร้อยแล้วก่อนจะทำหมายเลขประกันสังคมใหม่
  • ถ้าคุณเปลี่ยนหมายเลขประกันสังคม ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขเดิมจะหายไปหมด ซึ่งในกรณีนี้อาจทำให้คุณไม่ได้รับผลประโยชน์ต่างๆ จากเงื่อนไขที่ทำไว้กับหมายเลขเดิม
โฆษณา

คำเตือน

  • ไม่ควรดำเนินการใดๆ กับอีเมลหรือเว็บไซต์ที่บอกว่าคุณสามารถเปลี่ยนตัวตนของตัวเองได้ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเรื่องหลอกและเสนออะไรก็ตามที่ผิดกฎหมายให้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,098 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา