ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเปลี่ยนทีวีธรรมดา ให้ต่อเน็ตดูหนังฟังเพลงบันเทิงไปเลย ที่ต้องมีคือ smart media player เช่น Apple TV หรือ Amazon Fire Stick และ พอร์ท HDMI ที่หลังทีวี ถ้าทีวีคุณไม่มีพอร์ท HDMI ก็ต้องซื้อ adapter แปลง HDMI เป็น RCA แล้วเสียบสายแดง เหลือง และขาวที่ด้านหลังทีวี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

Apple TV

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พอร์ท HDMI จะเป็นช่องกว้างๆ แบนๆ ฐานแคบเป็นมุมตัด ปกติพอร์ท HDMI จะอยู่ด้านหลังหรือด้านข้างของจอทีวี
    • สังเกตหมายเลขข้างพอร์ท HDMI ด้วย เพราะนี่คือ input channel ที่ต้องใช้กับ Apple TV
    • ถ้าทีวีไม่มีพอร์ท HDMI ให้หาซื้อ adapter แปลง HDMI เป็น RCA แล้วเสียบสายกับช่องแดง ขาว และเหลืองที่ด้านหลังหรือด้านข้างของทีวี
  2. เดี๋ยวนี้ทั้งตามร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และออนไลน์ มีสาย HDMI ให้เลือกสารพัดความยาว
    • สาย HDMI ตามร้านออนไลน์จะถูกกว่าตามห้าง
    • อย่าซื้อสาย HDMI ที่แพงเกิน 300 - 400 บาท เพราะสายดีๆ ไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป
  3. Apple TV ต้องอยู่ใกล้ทีวีธรรมดาของคุณ พอที่สาย HDMI และสายไฟจะเสียบถึง
    • Apple TV ต้องอยู่ในที่โล่ง อากาศถ่ายเท จะได้ไม่ overheat หรือร้อนจัด ที่สำคัญคือจะได้ใช้รีโมท Apple TV สะดวกๆ
  4. สายนี้ใช้เสียบพอร์ท HDMI ที่ด้านหลังของ Apple TV เวลาเสียบให้ด้านกว้างอยู่ด้านบน
    • สาย HDMI จะเสียบได้ทางเดียว ถ้าไม่เข้า แสดงว่าต้องขยับทำมุมใหม่ ห้ามฝืนหรือออกแรงกดเด็ดขาด
  5. ให้เสียบที่พอร์ท HDMI ของทีวีที่เจอในข้อก่อนๆ
  6. เสียบขั้วเสียบทรงกระบอก 2 อันที่หลัง Apple TV แล้วเสียบปลั๊กไฟ
  7. แล้วกดปุ่มเปิดทีวี
  8. ทีวีแต่ละยี่ห้อหรือรุ่นก็จะต่างกันออกไป แต่ปกติคือกดปุ่ม Input ของทีวี (หรือรีโมททีวี) จนเจอเลข input ข้างพอร์ท HDMI ของทีวี จะเห็นหน้า setup ของ Apple TV
    • ถ้าไม่เจอหน้า setup ของ Apple TV ให้กดปุ่มกลางรีโมท Apple TV เพื่อ "ปลุก" Apple TV ให้เปิดขึ้นมา
  9. ปกติต้องทำขั้นตอนดังต่อไปนี้
    • เลือกภาษา
    • เลือก Wi-Fi ที่จะใช้ แล้วใส่รหัสผ่าน
    • ดาวน์โหลดอัพเดทที่มีและแนะนำ
  10. พอติดตั้งและตั้งค่า Apple TV รวมถึงอัพเดทแล้ว ก็ใช้รีโมท Apple TV เปลี่ยนแอพไปมา และ stream หนังผ่าน Netflix หรือ Hulu และอื่นๆ ได้เลย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

Amazon Fire TV Stick

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พอร์ท HDMI จะเป็นช่องกว้างๆ แบนๆ ฐานแคบเป็นมุมตัด ปกติพอร์ท HDMI จะอยู่ด้านหลังหรือด้านข้างของจอทีวี
    • สังเกตหมายเลขข้างพอร์ท HDMI ด้วย เพราะนี่คือ input channel ที่ต้องใช้กับ Fire TV stick
    • ถ้าทีวีไม่มีพอร์ท HDMI ให้หาซื้อ adapter แปลง HDMI เป็น RCA แล้วเสียบสายกับช่องแดง ขาว และเหลืองที่ด้านหลังหรือด้านข้างของทีวี
  2. คุณเสียบ Fire Stick กับพอร์ท HDMI ของทีวีโดยตรงได้เลย
    • สาย HDMI จะเสียบได้ทางเดียว ถ้าไม่เข้า แสดงว่าต้องขยับทำมุมใหม่ ห้ามฝืนหรือออกแรงกดเด็ดขาด
    • ถ้าทีวีอยู่ชิดติดผนัง หรือไม่มีที่พอจะเสียบ Fire Stick ต้องใช้สายต่อ HDMI ที่ปกติจะติดมากับ Fire Stick เสียบกับทีวี แล้วค่อยเสียบ Fire Stick ที่ปลายสาย extension อีกที
  3. เสียบสาย USB กับก้อน power adapter แล้วดึงสายต่อมา
  4. เสียบสายที่พอร์ทข้าง Fire Stick จากนั้นเสียบปลั๊กไฟ
    • ถ้าสายไฟไปไม่ถึง Fire Stick ให้ใช้สาย HDMI extension ที่ติดมากับ Fire Stick
  5. ถ้าไม่มีมากับ Fire Stick ก็ต้องหาถ่าน AAA 2 ก้อน
  6. กดปุ่มเปิดทีวี
  7. ทีวีแต่ละยี่ห้อหรือรุ่นก็จะต่างกันออกไป แต่ปกติคือกดปุ่ม Input ของทีวี (หรือรีโมททีวี) จนเจอเลข input ข้างพอร์ท HDMI ของทีวี จะเห็นโลโก้ Fire TV โผล่ขึ้นมา
  8. ปุ่มนี้อยู่ที่รีโมท ให้กดเพื่อ pair (จับคู่/เชื่อมต่อ) รีโมทกับ Fire Stick TV
  9. เพื่อติดตั้ง Fire Stick ต่อไป
  10. ถ้าเพิ่งเคยติดตั้ง Fire Stick ครั้งแรก ก็ต้องรอ 2 - 3 นาทีกว่าจะอัพเดทเสร็จ
  11. พิมพ์อีเมลกับรหัสผ่านที่ใช้กับบัญชี Amazon เพื่อให้ดูรายการที่เคยสมัครรับบริการ (subscriptions) กับซื้อ (purchases) ไว้ใน Amazon ได้
  12. พอลงชื่อเข้าใช้บัญชี Amazon แล้ว ก็ดูหนัง รายการ และเล่นเกมที่ซื้อมาได้เลย รวมถึงเลื่อนดูแอพต่างๆ กับ stream หนังผ่าน Netflix, Hulu และอื่นๆ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

Chromecast

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พอร์ท HDMI จะเป็นช่องกว้างๆ แบนๆ ฐานแคบเป็นมุมตัด ปกติพอร์ท HDMI จะอยู่ด้านหลังหรือด้านข้างของจอทีวี
    • สังเกตหมายเลขข้างพอร์ท HDMI ด้วย เพราะนี่คือ input channel ที่ต้องใช้กับ Chromecast
    • ถ้าทีวีไม่มีพอร์ท HDMI ให้หาซื้อ adapter แปลง HDMI เป็น RCA แล้วเสียบสายกับช่องแดง ขาว และเหลืองที่ด้านหลังหรือด้านข้างของทีวี
  2. ให้เสียบสาย Chromecast ที่พอร์ท HDMI ของทีวี
    • สาย HDMI จะเสียบได้ทางเดียว ถ้าไม่เข้า แสดงว่าต้องขยับทำมุมใหม่ ห้ามฝืนหรือออกแรงกดเด็ดขาด
  3. เสียบปลายสายข้างหนึ่งกับ Chromecast แล้วเสียบอีกข้างที่พอร์ท USB ของทีวี
    • ถ้าทีวีไม่มีพอร์ท USB ต้องใช้ power adapter ที่มีสาย USB แล้วเสียบปลั๊กไฟ
    • ถ้าจะใช้ Chromecast เวอร์ชั่น 4K ต้องใช้ปลั๊กไฟแทน จ่ายไฟจากพอร์ท USB ไม่ได้
  4. กดปุ่มเปิดทีวี
  5. ทีวีแต่ละยี่ห้อหรือรุ่นก็จะต่างกันออกไป แต่ปกติคือกดปุ่ม Input ของทีวี (หรือรีโมททีวี) จนเจอเลข input ข้างพอร์ท HDMI ของทีวี จะเห็นหน้า setup ของ Chromecast
  6. คุณดาวน์โหลดแอพ Google Home ได้ฟรีที่ App Store ของ iPhone และ Google Play Store ของ Android
    • ถ้าจะใช้ Chromecast กับคอมแทน ให้เปิด Google Chrome ไปที่ https://www.google.com/chromecast/setup/ คลิก set up your Chromecast แล้วทำตามขั้นตอนที่ปรากฏในหน้าจอ
  7. แตะแอพ Google Home ที่เป็นเส้นรูปบ้านสีแดง เขียว เหลือง และฟ้า
  8. เพื่อไปยังหน้าโฮมของ Google Home
  9. ที่มุมขวาบนของหน้าจอมือถือ
    • ถ้าใช้ iPhone ต้องแตะ Use without Bluetooth แล้วแตะ Skip Setup เพื่อไปยังหน้าโฮมของแอพ Google Home
  10. เสร็จแล้วจะมีข้อความยืนยันขึ้นมา
  11. เพื่อเริ่มขั้นตอนติดตั้งและตั้งค่า Chromecast
  12. ต้องเช็คให้ชัวร์ว่าโค้ดในทีวีนั้นตรงกับในมือถือ จากนั้นแตะ Yes (iPhone) หรือ I SEE IT (Android)
  13. ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ
    • จะตั้งชื่อ Chromecast ในหน้าเดียวกันนี้ก็ได้ แล้วแตะ Continue
  14. แตะ Select a network แล้วแตะชื่อ Wi-Fi จากนั้นใส่รหัสผ่าน ต้องเป็น Wi-Fi เดียวกับที่มือถือหรือแท็บเล็ตใช้อยู่
  15. จะมีตัวเลือกให้ยืนยันการอัพเดท หรือล็อกอินด้วยบัญชี Google
  16. พอติดตั้งและตั้งค่า Chromecast แล้ว ก็เลือกเปิดแอพ เลือกหนังในมือถือ แล้วดูในทีวีผ่าน Chromecast ได้เลย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้ามีเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ๆ (เช่น Xbox 360, Xbox One, PlayStation 3 หรือ PlayStation 4) ก็เอามาใช้กับทีวี แล้วเล่นเน็ต ดาวน์โหลดแอพ stream หนัง และอื่นๆ ได้เลย
  • นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อทีวีกับคอมพิวเตอร์ Windows หรือ Mac ได้ในทันที
โฆษณา

คำเตือน

  • ทีวีรุ่นเก่าๆ ที่มีแต่ช่องเสียบสาย A/V (เช่น สายสีแดง เหลือง และขาว) จะเอามาดัดแปลงเป็น smart TV ไม่ได้
  • ทีวีรุ่นเก่าๆ ที่มีแต่ coaxial input (พอร์ทสำหรับเสียบสายทีวี) ก็เอามาดัดแปลงเป็น smart TV ไม่ได้


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,772 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา