ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บุคลิกภาพเป็นชุดรูปแบบความคิด พฤติกรรม และความรู้สึกที่ทำให้คุณเป็นคุณ แต่รู้อะไรไหม รูปแบบน่ะสามารถเปลี่ยนได้ อาจจะต้องอาศัยความพยายาม แต่ถ้าคุณทุ่มเทเพื่อที่จะเปลี่ยนบุคลิกภาพจริงๆ แล้วล่ะก็ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่จำไว้ว่าบุคลิกภาพเก่าๆ ของเราก็จะยังโผล่ออกมาให้เห็นอยู่เสมอขณะที่ความเชื่อและความคิดของเราเปลี่ยนรูปแบบไปตามประสบการณ์ชีวิต

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

เตรียมการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การวางแผนเป็นงานสองด้าน ก็คือสิ่งที่คุณตั้งใจจะเปลี่ยนและสิ่งที่คุณตั้งใจจะเป็น คุณไม่สามารถมีแค่อันใดอันหนึ่งได้ ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายที่คุณต้องเอาชนะ คุณต้องรู้จักสมรภูมิที่ตัวเองกำลังรบก่อนลงมือ
    • บุคลิกลักษณะแบบใหม่ที่คุณตั้งใจจะเปลี่ยนนั้นมีผลต่อการพัฒนาตัวตนอย่างไร ถึงขั้นนี้หลายคนสรุปได้ว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบุคลิกภาพเลย แต่ต้องเปลี่ยนนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งผลไม่ดีต่อการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากกว่า แค่เปลี่ยนแปลงตัวเองเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยได้แล้วหรือเปล่า
    • ถ้ามีคนที่คุณอยากให้ตัวเองเป็นเหมือนเขา ให้แยกสิ่งที่คุณอยากเลียนแบบออกมา อย่าแค่มองเขาแล้วพูดว่า "เนี่ยแหละฉันอยากเป็นอย่างนี้เลย" หาให้ได้ว่าอะไรในตัวเขากันแน่ที่คุณชื่นชม วิธีที่เขารับมือกับสถานการณ์ต่างๆ หรือเปล่า มารยาทการพูดของเขาเหรอ ท่าทางการเดินหรือการขยับร่างกายของเขาหรือเปล่า และที่สำคัญกว่านั้นก็คือข้อดีเหล่านี้ส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขาอย่างไร
  2. ส่วนหนึ่งที่ทำให้กลุ่มผู้ติดสุรานิรนามประสบความสำเร็จก็เพราะว่า คุณได้พูดในสิ่งที่ปกติแล้วคุณจะไม่พูด และคุณพูดออกมาอย่างเปิดใจ การให้ใครสักคนรู้ความตั้งใจของคุณจะทำให้คุณมีแรงจูงใจภายนอกที่คุณจะไม่ได้จากที่ไหน
    • บอกเพื่อนว่าคุณตั้งใจจะทำอะไรให้สำเร็จ ถ้าพวกเขาเป็นคนที่คุณไว้ใจให้เก็บความลับได้ พวกเขาก็จะกระตุ้นให้คุณเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง (ไม่ว่าจะด้วยการบอกให้คุณรู้ว่าคุณกำลังทำเรื่องบ้าๆ บอๆ อยู่หรือกระตุ้นให้คุณตั้งใจทำต่อไป) พลังสมองเพิ่มเติมและดวงตาคู่ที่มองออกมาจากมุมที่ไกลออกมาสักนิดจะช่วยให้คุณรู้ว่า คุณควรประพฤติตัวอย่างไรและสิ่งที่คุณทำนั้นทำให้คนอื่นมองคุณอย่างไร
  3. รางวัลจะเป็นอะไรก็ได้ อะไรก็ได้ จริงๆ จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการย้ายก้อนหินจากกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่งไปไว้อีกข้างหนึ่ง หรือจะใหญ่ๆ อย่างไปพักร้อนเลยก็ได้ ไม่ว่ารางวัลจะเป็นอะไร ทำให้มันคุ้มค่าสำหรับคุณ
    • ขณะลงมือทำให้ตั้งจุดความสำเร็จแต่ละขั้นเอาไว้ด้วย ถ้าคุณเดินเข้าไปหาสาวสวยคนนั้นและเธอคุยกับคุณคำนึง ก็ถือว่าเยี่ยมเลยเพราะมันก็มีความหมายอะไรบ้างแหละ และถ้าสัปดาห์ถัดไปคุณเดินไปหาเธอและเธอเล่าเรื่องของเธอให้ฟังหมดเลย ก็ถือว่าเจ๋งสุดๆ! ให้รางวัลกับทุกความสำเร็จ เพราะ ทั้งหมด ถือเป็นความท้าทาย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

เปลี่ยนรูปแบบการคิดของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาที่คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนขี้อายและเป็นคนไว้ตัว คุณก็จะใช้สิ่งนี้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ทำไมคุณถึงไม่ไปปาร์ตี้วันศุกร์นี้ล่ะ ...นั่นแหละ คุณไม่ได้มีเหตุผลอะไรหรอก เมื่อไหร่ที่คุณเลิกคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นแบบนี้ โลกทั้งใบก็จะอ้าแขนรับคุณ
    • ตัวตนของคุณเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นพวกเนิร์ดๆ เอาแต่เรียน คุณก็อาจจะพบว่าตัวเองกำลังน้อมรับลักษณะเหล่านั้น แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณเติบโตและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คุณก็อาจจะเปิดโอกาสที่ทำให้คุณได้เติบโตในลักษณะนั้น ซึ่งเป็นโอกาสที่คุณเคยหลบเลี่ยงมันก็ได้
  2. เช่นเดียวกับการแปะป้ายตัวเอง เลิกมองอะไรเป็นขาวกับดำเสียที ผู้ชายไม่ได้น่ากลัว การมีอำนาจไม่ใช่ปีศาจร้าย และหนังสือเรียนก็มีประโยชน์ของมัน เมื่อคุณตระหนักแล้วว่า การรับรู้ของคุณ ที่มีต่อสิ่งต่างๆ ต่างหากที่เป็นตัวกำหนดว่าสิ่งนั้นมีความหมายกับคุณอย่างไร คุณก็จะเห็นโอกาสต่างๆ มากขึ้นและได้เห็นทางเลือกสำหรับพฤติกรรมมากขึ้นด้วย
    • บางคนมองว่าสิ่งต่างๆ มีลักษณะนิสัย "ตายตัว" และนั่นก็ส่งผลต่อพฤติกรรมของพวกเขาเป็นอย่างมาก สิ่งที่ตรงกันข้ามกับการมองอะไรตายตัวก็คือกรอบความคิดที่ทำให้เรา "พัฒนาไปข้างหน้า" คนที่มีแนวคิดแบบนี้จะมองว่าลักษณะนิสัยต่างๆ นั้นเปลี่ยนแปลงได้ง่ายและค่อยๆ แปรเปลี่ยนตลอดเวลา แนวคิดแบบนี้พัฒนามาตั้งแต่เด็กๆ และเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มองสิ่งต่างๆ แบบ "ตายตัว" คุณจะไม่เชื่อว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ คุณมองโลกนี้อย่างไร เพราะมันเป็นสิ่งที่กำหนดว่าคุณจะมองตัวเองในความสัมพันธ์อย่างไร คุณแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างไร และคุณสามารถฟื้นตัวจากความล้มเหลวอย่างไรและเร็วแค่ไหน [1]
  3. หยุดซะ ความสวยงามของสมองก็คือการที่มันเป็นส่วนหนึ่งของคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถควบคุมมันได้ ถ้าเสียงในหัวบอกคุณว่า "ตายแล้ว ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่ได้" คุณก็อาจจะทำไม่ได้จริงๆ เมื่อไหร่ที่เสียงในหัวเริ่มพูด อุดปากมันซะ ไม่มีประโยชน์กับคุณหรอก
    • เวลาที่มีเสียงพูดขึ้นมาในหัว ให้คิดเป็นเสียงโดนัลด์ ดั๊ก คุณจะได้เก็บเสียงนี้มาคิดเป็นจริงเป็นจังไม่ได้
    • เชิดหน้า จริงๆ นะ เพราะการเปลี่ยนภาษากายสามารถเปลี่ยนความรู้สึกและวิธีคิดของคุณได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

เปลี่ยนรูปแบบความรู้สึก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีคำพูดในศาสนาพุทธนิกายเซนที่บอกว่า ทางออกอยู่ที่ประตู ถ้าคุณอยากขี้อายน้อยลง ฝึกเข้าหาคนอื่นและพูดคุยกับพวกเขา ถ้าคุณชื่นชมคนที่อ่านหนังสือมากๆ ให้เริ่มอ่านหนังสือ แค่ลงมือทำเลย เราต่างตกหล่มนิสัยที่ไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น และเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ [2]
    • คนอื่นไม่จำเป็นต้องรู้ว่าลึกๆ ภายในใจคุณรู้สึกเหมือนกำลังใกล้จะตาย ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าไม่นานความรู้สึกนี้ก็จะหายไป จิตใจมีความสามารถในการปรับตัวที่ทรงพลัง สิ่งที่ทำให้คุณกลัวจนใจหวิวสักพักก็จะกลายเป็นแค่อดีต
  2. แน่ล่ะว่าการแสดงแบบ Method Acting อาจจะมีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ถ้า Dustin Hoffman ใช้วิธีนี้ เขาก็อาจจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้ก็ได้ [3] ด้วยวิธีการนี้คุณจะแทรกซึมตัวเองไปเป็นคนใหม่ ไม่มีคุณอีกต่อไปแล้ว มีแต่สิ่งมีชีวิตใหม่ที่คุณกำลังจะเป็น
    • วิธีนี้ต้องทำตลอดเวลา คุณต้องประพฤติตัวตามนิสัยของคุณคนใหม่ในทุกสถานการณ์ คนๆ นี้จะนั่งอย่างไร ใบหน้าเขาจะวางอยู่ระดับไหน เขากังวลเรื่องอะไร เขาฆ่าเวลาอย่างไร เขาคบหาใครบ้าง
  3. โอเคล่ะว่า การที่จะบอกให้คุณละทิ้งตัวตนไปเลยและเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่ด้วยพลังแห่งความคิดและนิสัยเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี เพราะคุณไม่มีทางที่จะทำได้ตลอดเวลาหรอก เพราะฉะนั้นจัดสรรเวลาให้ตัวเองได้รู้สึกในสิ่งที่ตัวเองอยากจะรู้สึกด้วย
    • ถ้าคุณต้องไปปาร์ตี้วันศุกร์ที่คุณรู้สึกกลัวมากๆ ให้บอกตัวเองว่าคืนวันศุกร์หรือเสาร์วันเช้าฉันจะระเบิดอารมณ์ออกมาให้หมดเป็นเวลา 20 นาที 20 นาทีนี้จะเป็น 20 นาทีแห่งการกระทำที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลและไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาทั้งสิ้น แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือให้มันเป็นช่วงเวลาแห่งความว่างเปล่า กำหนดเวลาไว้ 20 นาทีตามนั้น คุณรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายแล้วคุณจะพบว่าตัวเองไม่ได้ต้องการช่วงเวลานั้นเลย
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

เปลี่ยนรูปแบบพฤติกรรม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แน่นอนว่าวิธีเดียวที่คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองได้ก็คือ คุณต้องหาอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิต ในการทำเช่นนี้คุณต้องเลือกพฤติกรรมใหม่ๆ คนใหม่ๆ และกิจกรรมใหม่ๆ คุณต้องไม่ทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาแล้วคาดหวังว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเปลี่ยนไป
    • เริ่มจากสิ่งเล็กๆ เข้าร่วมชมรม หางานที่อยู่นอกเหนือชุดทักษะที่คุณมี หาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ มาอ่าน ยิ่งไปกว่านั้นคือต้องเอาตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมเก่าๆ คุณไม่ควรคบหากับคนที่ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับอะไรก็ตามที่คุณอยากจะทำให้สำเร็จ
    • ฝึกตัวเอง ถ้าคุณกลัวแมงมุม ให้อยู่ในห้องที่มีแมงมุม 1 ตัว ทุกๆ วันค่อยๆ เข้าใกล้มันทีละนิด สุดท้ายคุณก็จะสามารถนั่งข้างมันได้ หรือหลังจากนั้นคุณอาจจะถึงขั้นจับมันได้เลยก็ได้ การพาตัวเองให้เจอกับความกลัวนั้นบ่อยๆ จะทำให้สมองเบื่อที่จะกลัว ถึงตอนนี้ให้หา "แมงมุม" และแทนที่มันด้วยเป้าหมายอะไรก็ตามที่คุณมี
  2. คุณจะต้องมีความตระหนักรู้ในตนเองที่ค่อนข้างเข้มแข็งเพื่อให้ทำตามแผนได้อย่างสม่ำเสมอ การเขียนบันทึกช่วยให้คุณได้จัดระเบียบความคิดและวิเคราะห์ว่าคุณกำลังรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร เขียนว่าสิ่งไหนที่ทำแล้วได้ผลและไม่ได้ผล และปรับแก้วิธีการของคุณ
  3. ถ้าการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เป็นเรื่องยาก ให้คิดอย่างนี้ เลิกปิดโอกาสตัวเอง ถ้าคุณเห็นสัญญาณที่คุณคนเก่าจะมองว่าไม่น่าสนใจ ให้พิจารณาอีกที ถ้าเพื่อนชวนคุณไปทำอะไรที่คุณไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นเลย ให้บอกว่าได้ แล้วคุณจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ดีขึ้น
    • แต่ก็ต้องตัดสินใจให้ดีด้วย ถ้ามีใครชวนไปโดดหน้าผาก็อย่าไป ใช้สมองด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

เพิ่มเติมรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้าย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แน่ล่ะว่าเราไม่สามารถตัดสินคนจากเสื้อผ้าได้ แต่เสื้อผ้าก็สามารถช่วยให้คุณมีแนวคิดที่เหมาะสมได้ แม้ว่าเสื้อผ้าจะไม่ได้เปลี่ยนบุคลิกภาพของคุณ แต่ก็อาจจะช่วยเตือนให้ คุณ นึกถึงคนที่คุณพยายามจะเป็นอยู่ได้
    • อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นการใส่หมวก ถ้าสำหรับคุณแล้วหมวกเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนใหม่นี้ ก็อย่าลืมนึกถึงการใส่หมวกเอาไว้ คุณต้องฟังความรู้สึกของตัวเองอยู่เสมอเพื่อลดการไม่ลงรอยกันทางความคิด
  2. เสื้อผ้าและรูปแบบความคิดอาจไม่เพียงพอ ลองนึกดูว่าคุณคนใหม่นี้จะทำอะไรและทำเลย คนๆ นี้จะมองหาการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมหรือไม่ ไม่เล่นโซเชียลมีเดีย อ่าน Forbes Thailand หรือเปล่า จะเป็นนิสัยอะไรก็แล้วแต่ ทำเลย
    • คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรใหญ่ๆ สิ่งเล็กๆ ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน เธอคนใหม่นี้จะสะพายกระเป๋าสีชมพูไหม เขาจะฟังเพลงวงไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า พยายามเป็นคนๆ นี้ให้ได้มากที่สุด
  3. ถึงตอนนี้ที่คุณเลือกนิสัยใหม่ๆ และอาจจะมีเพื่อนๆ และกิจวัตรใหม่ๆ คุณอาจจะรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ตอนนี้สิ่งสำคัญก็คือการยอมรับตัวเองไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรและอยู่ที่ไหน ฉวยคุณคนใหม่นี้ไว้ให้แน่นและตัดสินใจว่าคุณจะเป็นคนๆ นี้ต่อไป
    • การถอนรากถอนโคนตัวเองทางจิตใจนั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยง ถ้าคุณทำสำเร็จ คุณอาจจะต้องใช้เวลาในการที่จะรู้สึกว่าคุณเป็น "ตัวคุณ" จริงๆ ใจเย็นๆ ความรู้สึกนี้จะมาอย่างแน่นอนตราบใดที่คุณตั้งความปรารถนานี้ไว้ใกล้กับความเป็นอยู่ที่ดี
  4. คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ หรือเปล่า การที่คุณมีพฤติกรรมแบบใหม่ๆ และแต่งตัวต่างไปจากเดิมในตอนนี้ทำให้คนอื่นมองคุณในแง่บวกมากขึ้นหรือเปล่า คุณเต็มใจที่จะเสียสละตัวเองเพื่อเลียนแบบคนในอุดมคติแบบปลอมๆ หรือเปล่า
    • บางคนตัดสินใจว่าสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ไม่ใช่การเปลี่ยนบุคลิกภาพ แต่เป็นการยอมรับว่าเขาเป็นใครและเต็มใจที่จะพยายามปรับปรุงตัวเองแทนที่จะสร้างบุคลิกขึ้นมาใหม่ไปเลย แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณจะตัดสินใจเลือกอะไรให้ตัวคุณเอง แต่คุณต้องแน่ใจว่าคุณมีเหตุผลที่ถูกต้องในการทำสิ่งนี้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าหงุดหงิดถ้าคุณไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ในทันที เพราะของอย่างนี้ต้องใช้เวลา
  • ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เพราะพ่อแม่หรือคนอื่นๆ ในชีวิตของคุณ ให้เปลี่ยนแปลงตัวเองเล็กๆ น้อยๆ เลิกนิสัยที่คุณไม่ชอบและแทนที่นิสัยนั้นด้วยนิสัยใหม่ๆ ถ้าพ่อหรือแม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็อธิบายไปว่าคุณไม่ได้มีปัญหาเรื่องความภาคภูมิใจในตัวเอง แต่คุณแค่อยากจะเป็นตัวเองได้อย่างสบายใจมากขึ้นเท่านั้น
  • ค่อยๆ เปลี่ยน เพราะการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันจะทำให้คนตั้งคำถาม เจาะปัญหาและรับมือกับปัญหาในส่วนนี้ แล้วมันจะค่อยๆ เป็นธรรมชาติ
  • เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองช่วงหน้าร้อน แล้วพอถึงฤดูฝนคนก็จะสังเกตเห็นคุณคนใหม่
  • อย่าเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะคนอื่นไม่ชอบคุณ ถ้าคุณเป็นเด็กเนิร์ด อย่าทำตัวเป็นลูกคุณหนูแค่เพราะพวกเธอดู "เก๋" ดี ลองมองดูพวกกลุ่มคนไม่แคร์โลกที่โรงเรียนสิ พวกเขาจะยืนหัวเราะพวกลูกคุณหนูและเล่นมุกว่า สักวันพวกนักเลงในโรงเรียนจะต้องไปทำงานให้คนพวกนี้
  • คุณไม่ควรเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ใครมาชอบ เมินคำวิจารณ์เชิงลบ คุณควรเปลี่ยนตัวเองเพื่อตัวเองเท่านั้น เพราะว่าคุณอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม
  • การพัฒนาบุคลิกภาพของตัวเองให้ดีกว่าเดิมนั้นดีกว่าการพยายามเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ เพราะฉะนั้นพยายามโฟกัสที่ข้อดีของตัวเองและค่อยๆ กำจัดส่วนที่ไม่ดีออกไป และจำไว้ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่พยายามเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดให้ได้
  • ถ้าคุณเกลียดตัวเอง ให้เลือกคนที่คุณชอบและดูว่าเขาแสดงออกอย่างไร คิดเสมอว่า "เขาจะทำอย่างไร" ก่อนลงมือทำอะไรเสมอ ฉันหวังว่าวิธีนี้จะช่วยได้นะ
  • เชิดหน้าและอย่ายอมแพ้ การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยาก แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
  • คุณจะตัดผมทรงใหม่ด้วยก็ได้ และการแต่งตัวสไตล์ใหม่ก็ช่วยได้เหมือนกัน
  • คุณต้องให้เพื่อนสนิทหรือญาติๆ รู้แผนการของคุณ เผื่อว่ามีอะไรผิดพลาด
  • รู้จักตัวเองให้ดี และอย่าลืมสนุกไปกับช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิต
โฆษณา

คำเตือน

  • เข้าใจว่าถ้าคุณเปลี่ยนบุคลิกภาพตัวเองแบบฉับพลัน เพื่อนๆ ก็อาจจะไม่ชอบคุณ คนใหม่
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,749 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา