PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

คุณเปิดแอพพลิเคชั่นของ Mac แบบใช้ root privileges ได้ ขอแค่มีรหัสผ่านแอดมิน (administrator) แต่ถ้าไม่รู้เรื่องคอมดีเท่าไหร่ อย่าพยายามใช้ root access ดีกว่า เพราะอาจทำอะไรผิดพลาดจนแอพหรือคอมเสียหายได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้บัญชีแอดมิน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แอพที่มีหน้าตาเมนูส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานแบบ root access เพราะงั้นให้ใช้งานเฉพาะฟังก์ชั่นที่รู้แน่ชัดจริงๆ ว่าใช้ทำอะไรจะดีกว่า ไม่งั้นอาจทำไฟล์เสีย แอพล่ม หรือเกิดช่องโหว่ในระบบรักษาความปลอดภัยได้ [1]
  2. ล็อกอินด้วยบัญชีแอดมินของคอม โดยไปที่ Applications Utilities แล้วเปิด Terminal
    • บัญชีแอดมินนี้ต้องมีรหัสผ่านด้วย ห้ามเว้นว่าง ไม่งั้น Terminal จะไม่ยอมให้ใช้ root privileges [2]
  3. คำสั่ง sudo ช่วยให้คุณเปิดแอพพร้อม root access ได้ แต่ก็ต้องมี path ไปยังไฟล์ executable ใน application package แอพส่วนใหญ่ที่ติดมากับ Mac รวมถึงโปรแกรมอื่นๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเติม จะมีโครงสร้าง package contents คล้ายๆ กัน เพราะงั้นให้ลองทำตามขั้นตอนข้างล่างดู [3]
    • พิมพ์ sudo "\ file path จากฮาร์ดไดรฟ์ไปยัง application .app/Contents/MacOS/ ชื่อแอพ "
      เช่น ถ้าจะเปิด iTunes ให้พิมพ์ sudo "/Applications/iTunes.app/Contents/MacOS/iTunes" แล้วกด Return
    • ใส่รหัสผ่านของบัญชีแอดมินที่ล็อกอินอยู่ แล้วกด Return
    • ถ้าคำสั่งใช้ได้ผล แอพจะเปิดขึ้นมาพร้อม root privileges แต่ถ้า Terminal ขึ้นว่า "command not found" ให้ทำขั้นตอนต่อไป
  4. ถ้าวิธีลัดไม่ได้ผล ให้หาแอพใน Finder คลิกขวา (หรือ Control -click) ที่ไอคอน แล้วเลือก Show Package Contents จากในเมนูที่ขยายลงมา
  5. จะเห็น 1 หรือหลายโฟลเดอร์ในแอพ ให้หาไฟล์ executable ในโฟลเดอร์นี้ ปกติจะอยู่ใน /Contents/MacOS
    • ไฟล์ executable มักจะชื่อเดียวกับแอพ แต่บางทีก็ชื่ออื่น เช่น "run.sh"
    • ปกติไอคอนของไฟล์ executable จะเป็นสี่เหลี่ยมสีดำ มีคำว่า "exec" เล็กๆ
  6. พิมพ์ sudo ตามด้วยเว้นวรรค แต่อย่าเพิ่งใส่คำสั่ง
  7. แล้วจะมี path ของไฟล์ executable โผล่มาอัตโนมัติ
  8. กด Return ใส่รหัสผ่านของบัญชีแอดมินที่ล็อกอินไว้ แล้วกด Return ซ้ำ แอพจะเปิดขึ้นมาพร้อม root privileges
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้บัญชีผู้ใช้ธรรมดา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แอดมินระบบส่วนใหญ่ชอบปรับแต่งอะไรในคอมโดยใช้บัญชีผู้ใช้ธรรมดา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดจนคอมเสียหาย หรือเปิดโอกาสให้มัลแวร์โจมตี [4] แต่ถึงจะเป็นบัญชีผู้ใช้ธรรมดา วิธีการนี้ก็ต้องใช้รหัสผ่านแอดมิน ซึ่งจะได้ root access ชั่วคราวแบบไม่ต้องสลับผู้ใช้ เริ่มจากเปิดหน้าต่าง Terminal ขึ้นมา
  2. พิมพ์คำสั่ง su - ตามด้วยเว้นวรรค และ username บัญชีแอดมินของคอม จากนั้นใส่รหัสผ่านแอดมิน เท่านี้ก็ใช้งานในฐานะผู้ใช้ทั่วไป
    • ไม่ต้องใส่ hyphen หรือขีดกลาง (-) ในคำสั่งก็ได้ แต่แนะนำให้ใส่ เพราะจะไปกำหนด environmental variables และ directory ให้ใช้ได้เฉพาะแอดมิน ทำให้ไม่เสี่ยงทำอะไรผิดพลาดจนเสียหาย [5]
  3. ปกติจะเป็น sudo "\ file path จากฮาร์ดไดรฟ์ไปยัง application .app/Contents/MacOS/ ชื่อแอพ " ถ้าไม่ได้ผลหรืออยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ให้ย้อนไปอ่านวิธีการ "ใช้บัญชีแอดมิน" ด้านบน
  4. พอเสร็จงานที่ทำด้วย root privileges แล้ว ให้พิมพ์ exit ใน Terminal เพื่อออกจากการเป็น administrator user แล้วกลับไปใช้บัญชีเดิม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

แก้ปัญหาที่พบบ่อย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ฟีเจอร์นี้เพิ่งจะมีใน Mac OS 10.11 El Capitan ใช้จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์สำคัญ ขนาด root user ก็เข้าไม่ได้ [6] ถ้าคุณปรับแต่งอะไรไม่ได้ดังใจ แสดงว่าต้องไปปิด SIP ก่อน แต่ต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญมากพอ เพราะถ้าผิดพลาดตรงไหน ข้อมูลอาจหายเกลี้ยงหรือคอมเจ๊งไปเลย [7]
    • รีสตาร์ทคอม แล้วกด Command + R ค้างไว้หลังได้ยินเสียงคอมติด เพื่อเข้า Recovery Mode
    • เลือก Utilities จากเมนูบนสุด แล้วเลือก Terminal
    • พิมพ์ csrutil disable; reboot ใน Terminal
    • ปล่อยคอมรีสตาร์ทไปตามปกติ เท่านี้ก็ทำตามขั้นตอนที่ผ่านมา เพื่อเปิดแอพต่างๆ พร้อม root privileges ได้แล้ว พอปรับแต่งอะไรเสร็จแล้วก็ทำขั้นตอนซ้ำ โดยเปลี่ยนจาก disable เป็น enable แทนเพื่อใช้งาน SIP อีกครั้ง
  2. จะปลอดภัยและไว้ใจได้กว่า ถ้าแก้ไขไฟล์ configuration ด้วย text editor ใน Terminal โดย nano เป็นตัวเลือกที่มีมาแต่ต้นแล้ว ถ้าอยากใช้แบบ root privileges ก็แค่พิมพ์ sudo nano ตามด้วยเว้นวรรค และ path ของไฟล์ text เท่านี้ก็แก้ไขเอกสารจากใน Terminal ได้เลย เสร็จแล้วให้กด Control + O เพื่อเซฟ แล้วกด Control + X เพื่อปิด nano
    • เช่น พิมพ์ sudo nano /etc/hosts เพื่อเปิดไฟล์ hosts พร้อม root access
    • ควร backup ข้อมูลไว้ก่อนแก้ไขไฟล์ configuration โดยพิมพ์ sudo cp filepath_of_config_file new_filepath of backup เช่น sudo cp /etc/hosts /etc/hosts.backup ใช้สร้างสำเนาไฟล์ hosts ชื่อ hosts.backup ถ้าทำอะไรพลาดไป ก็ย้ายไฟล์ที่ผิดด้วย sudo mv /etc/hosts /etc/hosts.bad แล้วเซฟ backup กลับมาโดยพิมพ์ sudo cp /etc/hosts.backup /etc/hosts ได้เลย [8]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ต้องครอบ file path ด้วยเครื่องหมายคำพูดก็ต่อเมื่อ file path นั้นมีเว้นวรรคเท่านั้น
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าทำอะไรพลาดไปตอนใช้ root access ข้อมูลอาจหายเกลี้ยงหรือทำคอมเจ๊งได้เลย ยิ่งในเวอร์ชั่น 10.10 หรือเก่ากว่า หรือเวอร์ชั่น 10.11 ที่ปิด SIP ไว้ยิ่งเสี่ยงกว่าเดิม ต้องเก็บรหัสผ่านแอดมินไว้ให้ดี จะได้ไม่มีคนแอบเอามาใช้ root access
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,861 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา