วิธีการ เปิดใช้งาน iMessage

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการตั้งค่าอุปกรณ์ Apple ให้รับ-ส่ง iMessages ได้ ต่อไปคุณก็รับ-ส่งข้อความกับคนที่ใช้ iPhone, iPad และ Mac ผ่าน Wi-Fi ได้เลย ไม่ต้องง้อเน็ตมือถือ

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

เปิดใช้งาน iMessages ใน iPhone

ดาวน์โหลดบทความ

{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/0\/00\/Activate-iMessage-Step-1-Version-4.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-1-Version-4.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/0\/00\/Activate-iMessage-Step-1-Version-4.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-1-Version-4.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

ที่ไอคอนเป็นฟันเฟืองสีเทาซ้อนกันหลายอัน ปกติอยู่ในหน้า Home
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/2\/22\/Activate-iMessage-Step-2-Version-4.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-2-Version-4.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/2\/22\/Activate-iMessage-Step-2-Version-4.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-2-Version-4.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

ที่อยู่ถัดลงไป 1/3 ของเมนู
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/2\/25\/Activate-iMessage-Step-3-Version-4.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-3-Version-4.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/2\/25\/Activate-iMessage-Step-3-Version-4.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-3-Version-4.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

3
เลื่อนสวิตช์ iMessages สีขาวไปที่ “on”. ให้สวิตช์กลายเป็นสีเขียว แปลว่าเปิดใช้งาน iMessages แล้ว เท่านี้ถ้าต่อ Wi-Fi อยู่ เครื่องของคุณก็รับ-ส่งข้อความได้โดยไม่ต้องใช้เน็ตมือถือ แต่ถ้าใช้ iPhone แล้วอยากรับ-ส่งข้อความแบบไม่ต่อ Wi-Fi ก็ยังใช้เน็ตมือถือได้ตามเดิม
- ถ้ามีให้ล็อกอินด้วย Apple ID ก่อน ก็ใส่ username กับรหัสผ่านในหน้าต่างที่เด้งขึ้นมาได้เลย เครื่องจะตรวจสอบข้อมูลล็อกอิน แล้วเปิดใช้งาน (activate) iMessages ถ้าถูกต้อง แต่ถ้าไม่มี Apple ID ให้อ่าน บทความนี้ จะได้รู้วิธีการสมัครโดยละเอียด
- กว่าจะใช้งาน iMessages ได้จริง อาจต้องรอนานถึง 24 ชั่วโมง เพราะ Apple ต้องตรวจสอบเบอร์โทรกับ Apple ID ก่อนว่าตรงกัน แต่โดยทั่วไปแล้ว แค่ 1 ชั่วโมงก็เรียบร้อย ^{[1]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/5\/5d\/Activate-iMessage-Step-4-Version-4.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-4-Version-4.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/5\/5d\/Activate-iMessage-Step-4-Version-4.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-4-Version-4.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

เพื่อไปที่ iMessage settings ที่จะกำหนดอีเมลหรือเบอร์โทรที่จะรับ-ส่งข้อความ
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/4\/4d\/Activate-iMessage-Step-5-Version-4.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-5-Version-4.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/4\/4d\/Activate-iMessage-Step-5-Version-4.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-5-Version-4.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

5
แตะอีเมลหรือเบอร์โทรที่จะเปิดใช้งาน. จะมีเครื่องหมายถูกโผล่มาข้างอีเมลหรือเบอร์โทรนั้น ทำให้อีเมลหรือเบอร์โทรนั้นสามารถรับ-ส่งข้อความผ่าน iMessage ได้
- ในหัวข้อ You can be reached by iMessage at: คุณเพิ่ม ลบ และเลือกอีเมลสำหรับรับ iMessages ได้ ถ้าใช้ iPhone ก็เพิ่มหรือลบเบอร์โทรในรายชื่อนี้ได้เลย แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์อื่นๆ จะแสดงเบอร์โทรในรายชื่อหลังเปิดใช้งานใน iPhone แล้ว ^{[2]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ในหัวข้อ Start new conversations from: คุณเลือกได้ 1 อีเมล ที่คนอื่นจะเห็นเวลาส่ง iMessage ไปให้เขา ถ้าใช้ iPhone ก็เพิ่มหรือลบเบอร์โทรในรายชื่อนี้ได้เลย แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์อื่นๆ จะแสดงเบอร์โทรในรายชื่อหลังเปิดใช้งานใน iPhone แล้ว ^{[3]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

เปิดใช้งาน iMessages ใน Mac

ดาวน์โหลดบทความ

{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/c\/c3\/Activate-iMessage-Step-6-Version-3.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-6-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/c\/c3\/Activate-iMessage-Step-6-Version-3.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-6-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":344,"bigWidth":728,"bigHeight":545,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

ที่ไอคอนเป็นลูกโป่งคำพูดสีฟ้า ปกติอยู่ใน dock หรือหน้า desktop
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/9\/9f\/Activate-iMessage-Step-7-Version-3.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-7-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/9\/9f\/Activate-iMessage-Step-7-Version-3.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-7-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":344,"bigWidth":728,"bigHeight":545,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

2
คลิก Messages . ในแถบเมนู ที่ด้านบนของแอพ
- ถ้าเพิ่งเคยใช้ Messages ใน mac จะมีให้ใส่หรือสร้าง Apple ID ก็ใส่ username กับรหัสผ่านของคุณไป หรือคลิก Create Apple ID เพื่อสร้างบัญชีใหม่
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/3\/3f\/Activate-iMessage-Step-8-Version-3.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-8-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/3\/3f\/Activate-iMessage-Step-8-Version-3.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-8-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":346,"bigWidth":728,"bigHeight":547,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/2\/23\/Activate-iMessage-Step-9-Version-3.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-9-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/2\/23\/Activate-iMessage-Step-9-Version-3.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-9-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

ที่ไอคอนเป็นเครื่องหมาย “@” สีขาว ปกติอยู่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/c\/cf\/Activate-iMessage-Step-10-Version-3.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-10-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/c\/cf\/Activate-iMessage-Step-10-Version-3.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-10-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

ในเมนูทางซ้ายของหน้าต่าง
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/3\/3a\/Activate-iMessage-Step-11-Version-3.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-11-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/3\/3a\/Activate-iMessage-Step-11-Version-3.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-11-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":346,"bigWidth":728,"bigHeight":548,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

6
ใส่ username กับรหัสผ่าน Apple ID แล้วคลิก Sign In .
- ถ้าล็อกอินเข้าบัญชี Apple แล้ว จะไม่มีตัวเลือกให้ล็อกอิน
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/4\/40\/Activate-iMessage-Step-12-Version-3.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-12-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/4\/40\/Activate-iMessage-Step-12-Version-3.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-12-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/7\/73\/Activate-iMessage-Step-13.jpg\/v4-460px-Activate-iMessage-Step-13.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/7\/73\/Activate-iMessage-Step-13.jpg\/v4-728px-Activate-iMessage-Step-13.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":349,"bigWidth":728,"bigHeight":553,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

ล่าง Apple ID ของคุณ จะมีเครื่องหมายถูกโผล่มา แปลว่าบัญชี Apple ของคุณรับ-ส่งข้อความจาก Mac ได้แล้ว ^{[4]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}

โฆษณา

เคล็ดลับ

ถ้าขั้นตอนไหนมีปัญหา ต้องอัพเดทอุปกรณ์ก่อน คุณเช็คอัพเดทใหม่ๆ ได้ที่หัวข้อ General ของแอพ Settings ^{[5]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ลองอ่าน บทความนี้ ของเราดู ถ้าอยากรู้ขั้นตอนการอัพเดท iOS โดยละเอียด
ถ้าใช้ iPhone แล้วอยากให้ใน iMessage มีเฉพาะข้อความขาเข้ากับขาออก ก็ตั้ง Send as SMS setting เป็น “off” ได้เลย

โฆษณา

คำเตือน

ถ้าไปเมืองนอกแล้วใช้ iMessage ผ่าน Wi-Fi คุณจะส่งข้อความได้ฟรี แต่อย่าลืมปิดการส่ง SMS จะได้ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม
ถ้าไม่ใช้ iMessages ผ่าน Wi-Fi ก็ต้องเลือกแพ็คเกจรายเดือนดีๆ เน็ตมือถือจะได้ไม่รั่ว
ต้องต่อเน็ตก่อน ถึงจะรับ-ส่งข้อความผ่าน iMessages ได้

โฆษณา

[1]

[2]

[3]

[4]

[5]

เข้าสู่ระบบ

วิธีการ เปิดใช้งาน iMessage

ขั้นตอน

เปิดใช้งาน iMessages ใน iPhone

เปิดใช้งาน iMessages ใน Mac

เคล็ดลับ

คำเตือน

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา

แบ่งปัน

Explore Categories