ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ไฟล์ PDF (Portable Document Format) นั้นเป็นฟอร์แมตยอดนิยมเวลาคนจะสร้างและแชร์เอกสาร เพราะ PDF สามารถคงฟอร์แมตหรือหน้าตาของเอกสารตามที่คุณกำหนดไว้ได้ ไม่ว่าจะเอาไปเปิดในคอมระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมไหน แต่เพราะเป็นไฟล์เอกสารแบบเฉพาะ ก็เลยต้องมีโปรแกรมเฉพาะเหมือนกัน ถึงจะเปิดได้ ซึ่งถ้ามีโปรแกรมแล้ว ก็เปิดไฟล์ PDF ดูได้ในแทบทุกอุปกรณ์
ขั้นตอน
-
ดาวน์โหลด Adobe Reader. เป็นโปรแกรมฟรี ใช้เปิดไฟล์ PDF แล้วอ่านเนื้อหาได้เลย คุณดาวน์โหลด Adobe Reader ได้ที่ get.adobe.com/reader/ แต่จะใช้แก้ไขหรือสร้างไฟล์ PDF ไม่ได้
- ถ้าอยากรู้วิธีแก้ไขไฟล์ PDF ให้อ่าน บทความนี้ เลย
- โปรแกรม PDF reader ฟรีนั้นมีให้เลือกอีกเยอะ ถ้าไม่อยากติดตั้งและใช้งาน Adobe Reader
- Windows 8 มาพร้อม PDF reader ในตัวอยู่แล้ว ใช้แทน Adobe Reader ได้เลย
-
อย่าไปดาวน์โหลด McAfee. ตอนติดตั้ง Adobe Reader ช่องตัวเลือกดาวน์โหลด McAfee ลงคอมจะถูกติ๊กไว้อัตโนมัติ ซึ่ง McAfee ถือเป็นโปรแกรมไม่พึงประสงค์สำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ เพราะงั้นก็อย่าลืมเอาติ๊กออกจากช่องนี้ด้วย
-
ดับเบิลคลิกไฟล์ PDF หลังติดตั้ง Adobe Reader เสร็จ. ปกติ Reader จะเปิดขึ้นมาอัตโนมัติ พร้อมไฟล์ PDF ที่ต้องการจะดู
-
ใส่รหัสผ่านถ้ามี. บางไฟล์ PDF ก็มีการเข้ารหัสปกป้องข้อมูลไว้โดยผู้สร้างเอกสาร แบบนั้นก็ต้องมีและใส่รหัสผ่านก่อนโฆษณา
แก้ปัญหาที่พบบ่อย
-
Windows ถามว่าจะให้เปิดไฟล์ในโปรแกรมไหน. ถ้าติดตั้ง Adobe Reader ไว้ แต่ไฟล์ PDF ไม่ยอมเปิดขึ้นมา ก็ต้องพ่วง Reader กับไฟล์ PDF ก่อน
- คลิกขวาที่ไฟล์ PDF แล้วเลือก "Open With"
- เลือก "Adobe Reader" จากในรายชื่อโปรแกรม
- ถ้าไม่เจอ Adobe Reader ในรายชื่อ ก็ต้อง browse หาในคอมก่อน ปกติโปรแกรมจะถูกติดตั้งไว้ที่ C:\Program Files (x86)\Adobe\Reader
-
ไฟล์ PDF ติดรหัสผ่าน. ถ้าไฟล์ PDF ถูกเข้ารหัสไว้ แต่คุณไม่มีรหัสผ่านที่ว่า วิธีเดียวที่จะเปิดไฟล์ได้ ก็คือต้องสอบถามเจ้าของไฟล์โดยตรง หรือใช้โปรแกรมถอดรหัส (password cracking program) ถ้ารหัสผ่านแน่นหนาเป็นพิเศษ ก็อาจต้องรอโปรแกรมถอดรหัสนานหลายชั่วโมงหรือเป็นวันๆ กว่าจะเสร็จ
- หนึ่งในโปรแกรมถอดรหัสไฟล์ PDF ที่คนนิยมใช้กันมากที่สุด ก็คือ Advanced PDF Password Recovery ของ Elcomsoft แต่ต้องใช้ Pro edition ถึงจะใช้ password recovery tools ได้ครบครัน ในราคา $99 (3,000 กว่าบาท) ด้วยกัน
-
ไฟล์ PDF ไม่ยอมเปิดเพราะไม่ตรงตามมาตรฐาน. บางที Adobe ก็ไม่ยอมเปิดไฟล์ PDF ที่ไม่ตรงตามมาตรฐานของ PDF มักเกิดกับไฟล์ PDF ที่สร้างด้วยโปรแกรมที่ไม่ใช่ Adobe หรืออีกทีคือไฟล์ PDF นั้นเก่าเกินกว่าจะเปิดใน Reader เวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองติดตั้งโปรแกรม PDF reader อื่น (third-party) ยังมี PDF reader อีกเยอะให้เลือกใช้ แต่หนึ่งในโปรแกรมยอดฮิตคือ Foxit Reader
- อัพโหลดไฟล์ PDF เข้า Google Drive ฟอร์แมตอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็แน่ใจว่าเปิดได้แน่นอน
โฆษณา
-
ดับเบิลคลิกไฟล์ PDF. OS X จะมาพร้อม Preview ที่เป็น tool สำหรับเปิดไฟล์ได้หลากหลายชนิด รวมถึงไฟล์ PDF ด้วย ข้อเสียคือ Preview ให้คุณเปิดอ่านไฟล์ PDF ได้ แต่แก้ไขไม่ได้
- ถ้าอยากรู้วิธีแก้ไขไฟล์ PDF ให้อ่าน บทความนี้ เลย
-
เปลี่ยนโปรแกรมที่ OS X ใช้เปิดไฟล์ PDF. ถ้ามีโปรแกรม PDF อื่น แล้วไม่อยากใช้ Preview ให้ตั้งค่าเปิดไฟล์ PDF ทั้งหมดด้วยโปรแกรมนั้น
- เลือกไฟล์ PDF ใน Finder แต่อย่าเพิ่งเปิด
- คลิกเมนู File แล้วเลือก "Get Info"
- ขยายหัวข้อ "Open with"
- เลือกโปรแกรมที่จะใช้จากในเมนูที่ขยายลงมา
- คลิก Change All...
-
พิมพ์รหัสผ่านถ้ามี. ไฟล์ PDF บางทีก็เข้ารหัสไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่ได้รับอนุญาตมาเปิดไฟล์ ถ้าคุณไม่มีรหัสผ่าน วิธีเดียวที่จะเปิดไฟล์ได้คือ crack หรือถอดรหัส
- ถ้าต้อง crack รหัสผ่าน ให้ลองใช้โปรแกรมยอดนิยมอย่าง iStonsoft PDF Password Remover สำหรับ Mac ดู ถ้ารหัสผ่านแน่นหนาเป็นพิเศษ อาจต้องใช้เวลาถอดรหัสนานหลายชั่วโมงหรือเป็นวันๆ เลยทีเดียว
โฆษณา
แก้ปัญหาที่พบบ่อย
-
เปิดไฟล์ PDF ใน Safari ไม่ได้. ปกติมักเป็นเพราะ error ที่เกิดกับ plugin ของ Adobe หลังอัพเดท Safari คุณแก้ได้โดยลบ plugin เอง จากนั้นปิดแล้วเปิด Safari ขึ้นมาใหม่ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เปิด /Library/Internet Plugins/ แล้วลบ AdobePDF.plugin
- เปิด /User/Username/Library/Internet Plugins/ แล้วลบ AdobePDF.plugin
- ปิดแล้วเปิด Safari ขึ้นมาใหม่ จากนั้นลองเปิดไฟล์ PDF ดูอีกที
-
error ขึ้นว่า "Adobe could not open PDF name because ..." . มักเป็นเพราะคุณเซฟไฟล์ PDF ด้วยตัวเลือก "Save As" หรือ "PDF Export" ของ Safari [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เปิดไฟล์ PDF ใน Safari อีกรอบ
- คลิกปุ่ม Disk (Save) ทางด้านบนของหน้าต่าง หรือในเมนูที่โผล่มาตอนขยับเมาส์ไปจ่อตรงกลางด้านล่างของหน้า
- เซฟไฟล์ PDF ลงคอม
- เปิดไฟล์ที่เพิ่งเซฟ
-
ดาวน์โหลดไฟล์ PDF ด้วย Firefox ไม่ได้. ถ้าจะดาวน์โหลดไฟล์ PDF ด้วย Firefox แล้วไม่ได้ผล เป็นไปได้ว่า plugin ของ Adobe Reader มีปัญหา [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คลิกเมนู Firefox แล้วเลือก "Tools"
- เลือก "Add-ons" แล้วเลือก "Plugins"
- หา "Adobe Acrobat NPAPI Plugin" แล้ว Disable (ปิดการใช้งาน)
โฆษณา
-
ดาวน์โหลดแอพที่เปิดไฟล์ PDF ได้. ถึงปกติ Android จะไม่มีโปรแกรมอ่านไฟล์ PDF "ในตัว (built-in)" ก็ยังมีแอพฟรีให้เลือกใช้เปิดไฟล์ PDF อีกหลายแอพ ลองเช็คดูดีๆ บางทีในเครื่องอาจจะมีแอพต่อไปนี้อยู่แล้วก็ได้
- Google Drive
- Quickoffice
- Adobe Reader
- Foxit MobilePDF
-
หาไฟล์ PDF ที่จะเปิด. ปกติพอดาวน์โหลดไฟล์ PDF มาแล้ว ก็เปิดจากแถบ Notification ได้เลย โดยแตะแจ้งเตือนว่าดาวน์โหลดไฟล์เสร็จแล้ว ถ้าจะเปิดไฟล์ PDF ทีหลัง ก็ให้เข้าไปเปิดจากในโฟลเดอร์ Downloads
- เปิดแอพ "My Files" หรือ "File Manager" ในเครื่อง ถ้าไม่มี file manager ให้ดาวน์โหลดจาก Google Play store ได้ฟรี
- เปิดโฟลเดอร์ Downloads ที่เป็นโฟลเดอร์ default สำหรับเซฟไฟล์ต่างๆ ที่ดาวน์โหลดลงเครื่อง
- แตะไฟล์ PDF เพื่อเปิดขึ้นมา ถ้ากำหนดแอพ default ไว้แล้ว ก็จะเปิดขึ้นมาอัตโนมัติ แต่ถ้าเพิ่งติดตั้งแอพสำหรับเปิดไฟล์ PDF หรือลง PDF reader ไว้หลายแอพ ก็จะมีให้เลือกแอพที่ต้องการจะใช้
โฆษณา
แก้ปัญหาที่พบบ่อย
-
ข้อความ "Can't open file" โผล่มาตอนเปิดไฟล์ PDF ที่ดาวน์โหลดมา. เกิดได้เพราะหลายสาเหตุด้วยกัน
- ลองใช้แอพ File Manager เปิดไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา ปกติจะอยู่ในโฟลเดอร์ Downloads ถ้าเปิดไฟล์ด้วย File Manager ได้ แสดงว่าต้องรีเซ็ตเบราว์เซอร์ก่อน
- รีเซ็ตเบราว์เซอร์โดยเปิดแอพ Settings เลือก "Apps" หรือ "Applications" หาเบราว์เซอร์ในรายชื่อแอพ แล้วแตะปุ่ม "Clear data"
-
PDF พยายามเปิดขึ้นมาผิดแอพ. ถ้าไฟล์ PDF พยายามจะเปิดขึ้นมาในแอพที่ไม่รองรับ PDF แสดงว่าคุณตั้งแอพ default ผิด
- เปิดแอพ Settings
- เลือก "Apps" หรือ "Applications"
- เลือกแอพที่พยายามจะเปิดไฟล์ PDF
- ในหัวข้อ "Launch by Default" ให้แตะ "Clear defaults"
- ลองเปิดไฟล์ PDF อีกรอบ จะมีให้เลือกแอพที่ต้องการจะใช้
โฆษณา
-
แตะไฟล์ PDF ที่จะเปิด. ปกติ iOS จะมี PDF reader ในตัว ใช้เปิด PDF ที่เป็นไฟล์แนบในอีเมล หรือ PDF ที่เจอตามเว็บต่างๆ ได้เลย
-
แตะไฟล์ PDF ที่เปิดแล้ว เพื่อเปิดเมนู. จะมีให้เลือกแอพอื่นที่จะใช้เปิดไฟล์ PDF
-
แตะปุ่ม "Open in..." หรือปุ่ม Share . ถ้าดูไฟล์ PDF ในแอพ Mail อยู่ ก็ใช้ปุ่ม Share ได้เลย แต่ถ้าเปิดไฟล์ PDF ใน Safari ให้กดปุ่ม "Open in..." แทน แล้วจะเห็นรายชื่อแอพที่เปิดไฟล์ PDF ได้
-
เลือกแอพที่จะใช้. คุณเพิ่มไฟล์ PDF เข้า iBooks ได้ หรือเปิดไฟล์ใน Adobe Reader และแอพ PDF อื่นๆ ที่ลงไว้ในอุปกรณ์ iOS ไฟล์ PDF จะเปิดขึ้นมาทันทีในแอพที่เลือก [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ย้ายไฟล์ PDF เข้า Kindle. คุณทำได้หลายวิธีด้วยกัน
- ให้เชื่อมต่อ Kindle กับคอม แล้วเพิ่มไฟล์เข้า storage ของ Kindle ถ้าอยากรู้ขั้นตอนโดยละเอียด ให้อ่าน บทความนี้ ได้เลย
- คุณถ่ายโอนไฟล์ PDF ผ่าน Wi-Fi ไปยังอีเมลฟรีของ Kindle ได้ด้วย ลองศึกษาขั้นตอนเพิ่มเติมในเน็ตดู
-
เปิดไฟล์ใน Kindle. พอถ่ายโอนไฟล์ PDF แล้ว ให้เลือกไฟล์จากใน library ของ Kindle ได้เลย
- ใน Kindle มีตัวเลือกจัดการไฟล์ PDF ไม่กี่อย่าง เพราะคุณเพิ่มฟังก์ชั่นด้วยแอพอื่นๆ ไม่ได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา