ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ข้างนอกนั่นมีหลายคนที่อยากเป็น “ส่วนหนึ่งของคนในสังคม” ถ้าคุณต้องการจะเป็นผู้นำและโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ล่ะก็ บทความนี้เหมาะสำหรับคุณแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษเวลาที่คุณรู้ว่า คุณเป็นผู้ริเริ่มและไม่เหมือนใคร

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รู้จักตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สำหรับคนเพิ่งเริ่มต้น คุณควรรู้ว่าคุณน่ะแตกต่างจากคนอื่นบนโลกใบนี้ แน่นอนว่าบางคนอาจจะต่างจากคนอื่นมาก แต่เราทุกคนล้วนมีประสบการณ์และลักษณะนิสัยเฉพาะตัวซึ่งทำให้เรามองโลกตามความเป็นจริงไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ในโลก ไม่มีใครมีสมองแบบเดียวกับที่คุณมี มีความคิดแบบที่คุณคิด และมีปฏิกิริยาโต้ตอบแบบเดียวกับที่คุณทำ คุณนั้นแตกต่างตั้งแต่เป็นคนหนึ่งคนแล้ว
    • การตีตราคนๆ หนึ่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างไม่มีประโยชน์ แม้จะดิ้นรนเพื่อที่จะแตกต่างไม่ใช่สิ่งที่ทำกันสำเร็จได้ง่ายๆ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของวัฒนธรรมจะแสดงให้คุณเห็นว่าคนเราดำเนินชีวิตด้วยวิธีการที่แตกต่างกันอยู่แล้วโดยไม่รู้ตัว ยอมรับว่าคุณก็แตกต่างจากคนอื่นตั้งแต่ต้นและจัดการตัวคุณเอง ว่าแต่คุณเป็นใครล่ะ?
  2. เพื่อที่จะแตกต่างจากคนอื่นให้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณต้องเป็นตัวของคุณเอง ไม่ใช่แผ่นกระดาษคาร์บอนก็อปปี้คนอื่น ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ขั้นตอนนี้อาจดูน่ากลัวเล็กน้อย เพื่อให้คุณเป็นตัวของตัวเองคุณต้องค้นหาตัวตนของคุณ คุณรู้ไหมว่าตัวเองชอบอะไร คุณ “เป็น” คนยังไง คุณทำตัวแบบไหนเวลาไม่มีใครอยู่รอบๆ ตัวคุณ
    • สำคัญมากที่จะรักตัวเองด้วย ถ้าคุณไม่รู้สึกสบายใจกับสิ่งที่คุณเป็น คุณย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพยายามเป็นคนอื่น หรืออย่างน้อยเป็นคนที่ไม่ใช่คุณจริงเพื่อทำให้คนอื่นพอใจ
  3. เป็นเรื่องปกติแล้วทุกวันนี้ที่คุณถูกรายล้อมด้วยสิ่งกระตุ้นสารพัดอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอของคุณ หรือผู้คนที่อยู่รอบตัวเรา เพื่อให้คุณขุดลึกไปถึงตัวตนของคุณและสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่น ใช้เวลาอยู่ตามลำพังบ้าง ไม่ติดต่อกับโลกภายนอก แล้วคุณยังเหลืออะไรอยู่? ลองพิจารณาไตร่ตรองสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณ
    • เราถูกบอกตลอดเวลาว่าต้องแต่งตัวยังไง กินอะไร พูดยังไง ดูเป็นยังไง ทำตัวแบบไหน อ่านอะไร ดูอะไร เหล่านี้คุณคงเข้าใจ ลองหัดอยู่ตัวคนเดียว ทันทีที่คุณไม่มีคนคอยชี้แนะ นั่นเป็นความรู้สึกที่แปลก ตอนที่คุณนั่งอยู่ตรงนั้น คิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพลาดถ้าคุณต้องแต่งตัว/กิน/พูด/ทำ/อ่าน/ดู สิ่งนั้นอีก คิดเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวคุณนั้นเป็นยังไง และแบบไหนที่คุณต้องการจะเก็บเอาไว้
  4. ระวังให้มากๆ ว่าคุณอาจแค่ต้องการเป็นคนที่แตกต่าง คุณอาจแค่อยู่ในกลุ่มเพื่อนที่คุณไม่ค่อยเฮฮาด้วยและมีเสียงเล็กๆ ในหัวคุณที่ถูกตีความผิดไป อะไรที่มีความหมายกับคุณจริงๆ กันแน่
    • คุณมองว่าอันไหนคือเรื่องปกติ อะไรในตัวผู้คนที่ทำให้คุณมองว่า “เหมือนๆ กัน” การตีความหมายของสิ่งที่ “แตกต่าง” ของแต่ละคนนั้นอันที่จริงย่อมแตกต่างกันแน่ล่ะ คนเราแตกต่างกันเพราะหน้าตา การแสดงออก การพูด หรือความฝันล่ะ
  5. เมื่อคุณตั้งเป้าว่าอะไรคือสิ่งที่ “แตกต่าง” สำหรับคุณ คุณอยากจะลงมือทำ “อย่างไร” ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่กินแต่แท่งโปรตีนสวีดิชและสวมเสื้อสีชมพูทุกวันพุธ คุณอยากจะฉีกแนวเป็นตัวของตัวเองด้วยวิธีไหนล่ะ คุณอยากเป็นนักคณิตคิดเร็วหรือคุณแค่อยากจะเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เริ่มจากใส่สีม่วงแทนล่ะ คุณสามารถแตกต่างได้ด้วยหลายๆ วิธี
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ค้นหาเอกลักษณ์เฉพาะตัวคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ชาวญี่ปุ่นที่จับมือทักทายแทนการโค้งก็นับว่าแปลกในบริบทวัฒนธรรมของเขา แต่นั่นถือเป็นเรื่องปกติในสายตาของชาวตะวันตก การอ่านหนังสือของธอโร นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกันเพื่อความสนุกถือเป็นสิ่งปกติในบางกลุ่มสังคม ขณะที่ “สิ่งปกติ” สำหรับคนอื่นคือ นิตยาสารผู้หญิงคอสโมฯ คุณต้องให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณเพื่อรู้วิธีเป็นคนแตกต่าง ให้คิดคำสามคำที่บรรยายสภาพแวดล้อมของคุณ แล้วดูว่า อะไรคือสิ่งตรงกันข้ามกับสามคำนั้นล่ะ
    • ลองกลับไปดูภาพยนตร์เรื่อง “Mean Girls” กันเถอะ สามคำสำหรับบรรยายสังคมในหนังเรื่องนี้น่ะหรอ เปลือกนอก หลงตัวเอง และใจร้ายยังไงล่ะ อยากจะแตกต่างจากกลุ่มสาวพลาสติกน่ะหรือ คุณต้องเป็นคนที่มีความคิด ไม่สนใจเรื่องหน้าตาภายนอก และเป็นคนน่าคบ อย่างไรก็ตาม การเป็นคนดีกับคนนอกกลุ่มเป็นเรื่องปกติ (และเป็นสิ่งที่คาดว่าจะได้รับ) สังคมของคุณล่ะเป็นอย่างไร
  2. ถอยออกมาจากสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณสักช่วงหนึ่งและเฝ้าจับตามอง คนอื่นๆ ทำตัวกันแบบไหน พวกเขาปฏิบัติต่อกัน (เพื่อน คนแปลกหน้า แคชเชียร์ คนรัก) อย่างไร พวกเขาทั้งหมดชอบคาดคะเนเรื่องต่างๆ อย่างไร พวกเขาแต่งตัวแบบไหน ถ้าคุณจะต้องเดินพรวดพราดเข้าไปในกลุ่มนั้น คุณจะดูแตกต่างไปจากพวกเขาได้ด้วยวิธีไหนกัน
    • แน่นอนว่าวิธีไม่ทำตามกฎมีอยู่หลายวิธี บางอย่างที่เรียบง่ายอย่างใส่เสื้อผ้าสีสดก็อาจทำให้คุณดูโดดเด่นจากคนอื่นที่ร้านคาเฟ่ในวันที่ท้องฟ้าสีหม่น
    • คุณสามารถสร้างความเปลี่ยนเล็กๆ ในพฤติกรรมของคุณได้ เมื่อแคชเชียร์ในคาเฟ่ถามว่าคุณจะรับอะไร คุณอาจจะตอบว่า “อื้ม ไม่รู้สิ วันนี้คุณเป็นยังไงมั่ง” ก็ได้
    • คุณอาจจะทำอะไรผิดที่ผิดทาง ส่งเสียงดัง ขว้างปาสิ่งของ ลุกขึ้นมาเต้นบนโต๊ะ นั่นย่อมแตกต่างไปจากมารยาทในที่สาธารณะทั่วไปอย่างแน่นอน แต่อาจจะทำให้คุณถูกจับโยนออกไปนอกร้านได้
  3. อย่าโกหกตัวเอง คุณกำลังจะสนุกกับบางอย่างที่อินเทรนและบางอย่างที่ไม่ใช่ นั่นไม่เป็นไรเลย! ตราบใดที่คุณยังลงมือทำในสิ่งที่คุณเพลิดเพลินกับมัน คุณจะมีการผสมผสานที่อาจจะเฉพาะตัวสำหรับคุณ บางทีคุณชอบอบขนม เล่นศิลปะต่อสู้ยูยิสสู และชอบซื้อของมือสอง ถ้าคุณมีความสุขทำสิ่งเหล่านั้น นั่นแปลว่าคุณเจอสิ่งที่ใช่แล้ว
    • คนอื่นคิดหรือทำอะไรไม่ใช่สิ่งสำคัญ คุณอยากจะร้องเพลงจากละครเวทีเรื่อง Jekyll & Hyde ในร้านคาราโอเกะหรือ ก็ร้องเลยสิ! คุณอยากซื้อกระเป๋าผ้าลดโลกร้อนของ Abercrombie & Fitch ใบนั้น ก็ถ้านั่นจะทำให้คุณมีความสุขล่ะก็ ซื้อเลย แค่ดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครบอกให้คุณทำแบบนั้น!
  4. เรามักถูกเลี้ยงให้มาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ดังนั้น เราต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับสิ่งที่คนรอบตัวเราให้การยอมรับแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดี ทั้งทำให้เราได้เปิดรับสิ่งที่เราอาจไม่เคยรับรู้มากก่อน แต่ก็สำคัญที่จะลองทำสิ่งที่ใหม่เอี่ยมอ่องสำหรับคุณซึ่งคนอื่นอาจยังไม่ได้รับรอง ไม่อย่างนั้นคุณจะรู้ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไรได้ยังไงล่ะ
  5. ตั้งแต่เด็กๆ เราเหมือนกับได้รับการปลูกฝังให้เข้ากับสังคมของเรา ทั้งสวมเสื้อผ้า ใช้ช้อนส้อมเวลารับประทานอาหาร ไปโรงเรียน ทำสิ่งที่เหมาะกับเพศของเรา และอื่นๆ อีกสารพัด ยากที่เราจะตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้คือกรอบที่คุณสามารถระบายสีสันออกมานอกกรอบได้ แต่ไม่ใช่พวกเราทุกคนที่จะทำแบบนั้น
    • นึกดูว่าคุณจะแสดงท่าทางอย่างไรถ้าคุณสวมชุดไดโนเสาร์อยู่ ไม่มีใครเห็นใบหน้าหรือตัวคุณและคุณอยู่ในชุด “ไดโนเสาร์” และจู่ๆ คุณก็โผล่พรวดเข้าไปในห้องและโบกมือเล็กๆ ของคุณ หลอกให้คนกลัวได้เพราะว่าคุณทำแบบนั้นโดยไม่มีใครรู้ว่าเป็นคุณ คุณสามารถทำแบบนี้ได้ในชีวิตจริง คุณก็แค่เลือกที่จะไม่ทำ….เพราะอะไร?
  6. ถ้าตัวอย่างเรื่องชุดไดโนเสาร์ยังไม่ชัดพอ แทนที่จะแค่ทำตัวแตกต่างออกนอกกรอบ คุณไม่จำเป็นต้องมีกรอบสมมติขึ้นมาด้วยซ้ำ ถ้าคุณอยากจะไปโรงเรียนโดยสวมหูฟังและเต้นราวกับคุณอยู่ในเพลงมิวสิควิดีโอของเซเลน่า โกเมซ เรื่องของเรื่องก็คือ “คุณน่ะทำได้” ถ้าคุณอยากใส่หมวกทรงรัฐเท็กซัสและยืนอยู่หน้าห้างตลอดทั้งคืน คุณสามารถหาหมวกนั้นได้ “คุณทำได้” (ไม่จำเป็นว่าคุณควรทำ แต่คุณทำได้อย่างแน่นอน)
    • คนบางคนอาจจะหน้านิ่วคิ้วขมวดกับชุดไดโนเสาร์ การเต้นในที่สาธารณะ และหมวกทรงพิลึกกึกกือ รู้ไว้ว่าถ้าคุณอยากเริ่มทำเกินลิมิตและก้าวออกจากเส้น คุณมีแนวโน้มสูงที่จะประสบกับการกลายเป็นฝั่งตรงข้าม แต่ถ้าคุณคิดว่ารับมือกับความกดดันพวกนั้นไหวล่ะก็ ลุยไปได้เลย แต่ก็รู้ไว้ด้วยว่าหลายๆ คนไม่ชอบสิ่งที่ “แปลกประหลาด”
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เริ่มลงมือทำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นี่เป็นวิธีสื่อว่า ให้ปฏิบัติตัวกับผู้อื่นแตกต่างไปจากสิ่งที่พวกเขาคาดว่าคุณจะทำ และแน่นอนว่าในแบบที่ดีด้วย! และคอยดูว่าคุณจะเจอกับอะไรใครจะไปรู้ ครั้งหน้าที่คุณคุยกับตำรวจ ยกมือไหว้พวกเขา และไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ และดูว่าคุณจะไม่โดนใบสั่งหรือไม่! คุณอาจไม่เจอใบสั่งเลยก็ได้
    • วิธีหนึ่งที่จะแตกต่างจากคนอื่นแน่ๆ คือ เป็นมิตรกับทุกคน มีกี่คนที่คุณรู้จักเป็นคนที่เป็นมิตรกับ “ทุกๆ คน” ได้จริง อาจจะมีไม่มาก และมันเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก! เรามักลงเอยตัดสินสิ่งรอบตัวกับพวกเราและถูกดึงดูดเข้าหาคนในประเภทต่างๆ แทนที่จะทำแบบนั้น ลองเป็นมิตรกับคนที่คุณอาจจะไม่ได้รู้สึกอยากผูกมิตรด้วย และคุณจะแตกต่างและเรียนรู้อีกมากเลยล่ะ!
  2. ง่ายมากจริงๆ ที่จะลงเอยเป็นในสิ่งที่สังคมบอกว่าดูดีและดึงดูดสายตาคนอื่น ในขณะที่เป็นไปแทบไม่ได้เลยที่จะหลีกเลี่ยง (โดยไม่ต้องทำเสื้อผ้าของคุณเอง) แฟชั่นก็เหมือนกับโรงอาหาร คว้าสิ่งที่คุณต้องการและทิ้งที่เหลือไว้ คุณชอบเทรนด์ไหนเป็นพิเศษไหม ถ้าใช่ก็เยี่ยม คุณอยากสวมรองเท้ากันฝนผลิตในปี 1972 มากกว่ารองเท้ายี่ห้อดังหรือเปล่า นั่นมันยอดมาก บางทีแม่ของคุณอาจจะมีเก็บคู่แบบนั้นไว้ในตู้เสื้อผ้าของเธอก็ได้
  3. การคิดถึงเรื่องที่ “ทุกคน” ต่างก็ทำนั้นเป็นสิ่งที่นึกออกยาก เช่น คุณอาจจะพูดว่า “ฟังเพลงที่ไม่ค่อยมีคนฟังกัน” แต่ก็มีคนอีกเพียบที่ทำแบบนั้น อย่างไรก็ตาม การเล่นละคร ดูเหมือนจะเป็นลักษณะที่มีอยู่ทั่วไปในทุกกลุ่ม พวกเราชอบละคร ถ้าคุณอยากจะแตกต่างล่ะก็ อย่าปล่อยให้การเล่นละครเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ และแน่นอนอย่าเป็นคนเริ่มเล่นละครเสียเอง!
    • จากรูปแบบที่เราปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เราจึงมักลงเอยด้วยการเล่นเกมกันอยู่บ่อยๆ เวลามีเพื่อนถามว่า เราโกรธหรือไม่ เราตอบว่าไม่เพื่อจะให้ไม่ทะเลาะกัน ถึงแม้ในใจเราจะโกรธก็ตาม เราทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเรียกร้องความสนใจ เราชักนำคน เราใช้วิธีการต่างๆ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เราต้องการ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่วิธีที่ดีก็ตาม ถ้าคุณจำแรงกระตุ้นเหล่านั้นได้ พยายามฝืนใจไว้ การเป็นคนซื่อสัตย์และจริงใจเป็นนิสัยที่น่าภาคภูมิใจและเป็นเอกลักษณ์มากกว่าที่คุณคิด
  4. หนึ่งในเกมที่คนชอบเล่นคือ ไม่พูดในสิ่งที่เราอยากพูด เรากลัวที่จะโดดเด่น ทำเสียงดัง ทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น หรือแค่รู้สึกอาย มีอีกหลายครั้งที่ทั้งห้องกำลังคิดบางอย่างเหมือนกัน แต่ไม่มีใครพูดออกมา เหมือนสำนวนที่ว่า มีช้างอยู่ในห้อง หมายถึง มีปัญหาเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าแต่ไม่มีใครยอมพูดถึงมัน ฉะนั้น คุณจงเป็นคนที่พูดความจริงที่ไม่น่าฟังออกมา!
    • คนส่วนใหญ่ติดอยู่ในสิ่งที่พวกเขาดูเป็นคนยังไงหรือในความรู้สึกที่ส่งออกมาเพื่อทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ พวกเขาติดกับการคิดถึงคนอื่น และ “ไม่” เป็นตัวของตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่อยากจะทำจริงๆ ถ้าคุณพบว่าตัวเองไม่ได้ทำบางอย่างเพราะมีคนอยู่ด้วยล่ะก็ ให้ลงมือทำไปเลย (แต่ต้องไม่ผิดกฎหมายนะ!)
  5. ถ้าคุณไม่เคยสังเกตมาก่อน มีรูปแบบอยู่ว่าเราไม่ควรให้สำคัญอย่างจริงจังกับความเห็นของคนอื่น นั่นเพราะคนส่วนใหญ่กังวลว่า จะทำให้คนอื่นประทับใจพวกเขาอย่างไรและคนพวกนั้นคิดอย่างไรกับพวกเขา คุณควรพยายามอย่าทำแบบนั้น หลายครั้งที่เราไม่พยายามทำให้คนอื่นประทับใจกลายเป็นเวลาที่เราสร้างความประทับใจมากที่สุด!
    • คุณรู้ไหมที่เขาบอกว่า ความรักจะมาหาเมื่อคุณหยุดมองหามัน ในทำนองเดียวกัน แทนที่จะสร้างภาพของคุณขึ้นมาให้โลกเห็น แค่เป็นตัวของคุณเองจะดีกว่าเยอะ และเป็นสิ่งที่เฉพาะตัวขึ้นมากยิ่งขึ้นไปอีก
  6. ไม่มีอะไรเป็นอย่างที่มันเหมือนจะเป็น ดังนั้น หลายคนที่กำลังพยายามเป็นคนที่ต่างออกไปส่งผลให้พวกเขาเป็นเหมือนกันหมด! การเงียบอาจแปลว่าเมื่อคุณพูดคนอื่นจะได้ยินเสียงคุณดังขึ้น เมื่อคุณไม่พยายามจะดึงดูดใจหนุ่มหรือสาวคนนั้น พวกเขาจะพบว่าคุณน่าดึงดูดเอง ดังนั้น “การพยายาม” ที่จะแตกต่างอาจไม่ช่วยให้คุณคืบหน้าไปไหนเลย
    • ตัวอย่าง แต่งตัวในชุดกระรอก (หรือชุดไดโนเสาร์) และเดินเข้าไปในบาร์ ไม่จำเป็นว่านั่นคือแตกต่างเสมอไป ก็เหมือนกับเป็นการพูดว่า “มองมาที่ฉันสิ!” ในชุดกระโปรงสั้นและรองเท้าส้นสูง ดังนั้น ครั้งหน้าที่คุณพยายามจะทำตัวแตกต่าง ลองคิดถึงสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่จริงๆ นั่นเป็นสิ่งตรงกันข้ามจากคนทั่วไปอยู่หรือเปล่า
  7. สังคมเรายังไม่พร้อมรับมือกับสิ่งที่ไม่อยู่ในกระแส เราสรรเสริญคนที่นำแฟชั่นและสวมชุดสวยๆ น้อยนักที่เราจะยอมรับการทำเกินลิมิตและออกนอกกรอบ คนเหล่านั้นอาจไม่ได้ยอมรับคุณอย่างอบอุ่น และนั่นก็ไม่เป็นไรหรอก! คุณไม่จำเป็นต้องมีพวกเขา แต่คุณ “ต้อง” รู้ตัวก่อนว่าสิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ คุณจะได้เตรียมตัวรับมือกับมันเมื่อมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น
    • อริสโตเติล นักปรัชญากรีกกล่าวไว้ว่า “วิธีเลี่ยงคำวิจารณ์คือ อย่าพูดอะไร อย่าทำอะไร อย่าเป็นอะไร” [1] นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เขาพูดถูก การวิจารณ์เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าคุณออกนอกกรอบแน่นอน ลองคิดว่ามันเป็นเรื่องดีสิ! คุณกำลังลงมือทำบางอย่างเพราะคุณได้รับคำวิจารณ์ คุณเริ่มเป็นที่สังเกตเห็น คุณกำลังเปิดเผยสิ่งใหม่ให้คนอื่นๆ เห็น ยอดเยี่ยมไปเลยล่ะ! และคุณน่ะแตกต่าง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จำไว้ว่าการค้นพบตัวเองเป็นขั้นตอนที่ดำเนินอยู่ตลอด คนที่คุณเป็นตอนอายุ 15 ไม่ใช่คนที่คุณจะกลายเป็นตอนอายุ 22 หรือ 49 หรือ 97! ความต้องการและความสนใจของพวกเราเปลี่ยนแปลงไปเป็นระยะๆ เมื่อเรามีอายุเพิ่มขึ้น สิ่งต่างๆ ที่เคยสำคัญกับเราในตอนนั้นบางครั้งอาจไม่เหลือความสำคัญอีกต่อไปแล้ว ปัญญาจะมาแทนที่ความกระตือรือร้นที่เกิดขึ้นเป็นพักๆ เช่นเดียวกับเราได้เรียนรู้ที่จะเติบโตจากเราคนเดิม
  • เปิดใจให้กว้าง หรืออย่างน้อยพยายามทำอย่างนั้น เรียนรู้ที่จะเห็นโลกในมุมมองที่แตกต่างกัน (และไม่จำเป็นว่าต้องมาจากมุมมองของคนด้วย) อย่ากลัวคนที่ท้าทายอคติและสิ่งคุณคิดว่ามีคุณค่า
  • ทำใจนิ่งๆ เข้าไว้ การตกอกตกใจเวลาที่คนไม่ชอบความแปลกของคุณเป็นเพราะคุณไม่มีความคิดเอง ถ้าคุณไม่เต็มใจที่จะทนสายตาแปลกๆ หรือคำวิจารณ์ของคนบางคน คุณจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเก็บความแตกต่างที่กำลังงอกงามไว้กับตัวเอง
  • ทำในสิ่งที่คุณชอบและอย่าคิดว่าคนอื่นจะพูดถึงอย่างไร
  • อย่าทำตัวเหนือกว่าคนที่ไม่แตกต่าง หลายคนที่ชอบสไตล์เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมหรือรายการทีวีที่พวกเขาดูจริงๆ จำไว้ว่าสิ่งเหล่านี้ที่เป็นที่นิยมได้เพราะมีสาเหตุ อย่าผลักไสคนเหล่านั้น เพราะคุณอาจจะชอบมันมากจริงๆ เหมือนกัน คุณอาจจะทึ่งในความคิดอันหลักแหลมเวลาดูละครชื่อดัง The O.C. หรือตกหลุมรักวงป๊อปพังค์ The Plain White T
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่านิยามตัวคุณเอง แค่เพราะคุณรู้สึกว่าคุณอยากเป็นแบดบอยก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะชื่นชอบการเต้นบัลเล่ต์ไม่ได้
  • จำไว้ว่า การเป็นคนแปลกไม่จำเป็นต้องดีกว่า “การเป็นคนปกติ” เสมอไป คนทุกคนมีความแปลกในแบบฉบับของตัวเอง ต่อให้พวกเขาทำตามกฎของสังคมก็ตาม
  • การเลือกสุ่มเพื่อจะให้ดูแปลกมักจะดูน่ารำคาญและเป็นความคิดตื้นๆ มาก การทำแบบนี้ไม่จำเป็นว่าจะช่วยให้คุณเห็นโลกแบบใหม่หรือแตกต่างแต่ประการใด
  • จดไว้ว่าถ้าคุณถามคนอื่นวิธีที่ทำตัวให้แตกต่าง คุณกำลังพ่ายแพ้ต่อวัตถุประสงค์ของสิ่งที่คุณกำลังพยายามทำ นั่นแปลว่า ถ้าคุณถามคนอื่นว่าจะทำตัวให้แตกต่างยังไง คุณก็จะไม่แตกต่าง เพราะส่วนใหญ่เวลาที่พวกเขาบอกคุณนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาลงมือทำถึงจะแตกต่าง ดังนั้น การถามวิธีการเป็นคนแตกต่างจากคนอื่นนั้นเป็นไปแทบไม่ได้เลย เพราะพวกเขาจะบอกวิธีทำตัวเหมือนพวกเขาโดยไม่รู้ตัว มันเป็นความย้อนแย้งอย่างหนึ่งไม่ใช่หรือ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,584 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา