ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

นักแสดงทุกคนต้องเริ่มต้นที่ไหนสักแห่งและคุณสามารถเริ่มในตอนนี้ ไม่ว่าคุณจะสนใจในภาพยนตร์ ละครเวทีหรือละครโทรทัศน์แต่การก้าวสู่อาชีพการแสดงสามารถเป็นเรื่องที่ทั้งน่าตื่นเต้นและท้าทาย ถ้าคุณพร้อมที่จะเรียนรู้ พยายามและตั้งใจฝึกฝน อาชีพการแสดงของคุณก็จะก้าวไปได้ในไม่ช้า

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เรียนการแสดง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าหากคุณต้องการแสดง คุณต้องเริ่มด้วยการถามคำถามที่เรียบง่ายกับตัวเอง การแสดงจะเป็นงานอดิเรกหรืออาชีพ? มันง่ายกว่าที่จะเริ่มเมื่อคุณรู้ว่าคุณต้องการอะไร (คุณไม่จำเป็นต้องวางแผนทั้งหมดแต่แค่มีแนวคิดโดยรวม) ตัดสินใจว่าการแสดงประเภทใดที่คุณต้องการศึกษาก่อนเป็นอย่างแรก ละครเวที ละครเพลง การแสดงสด โทรทัศน์ ภาพยนตร์ เป็นต้นและหาครูผู้สอนและการสอนภายในพื้นที่ของคุณ
    • ตั้งใจเข้าเรียนอย่างน้อย 6 เดือน ให้โอกาสตัวเองเพื่อทำความคุ้นเคย ถ้าคุณชอบ คุณก็สามารถเรียนต่อได้ หลังจากที่คุณเรียนวิชาแรกจบ คุณควรเรียนการแสดงแขนงอื่นเพิ่มเติมเพื่อดูว่าคุณสนใจในการแสดงประเภทนี้หรือไม่ [1]
  2. ถึงแม้ว่าคุณควรเข้าเรียนและหาประสบการณ์ในชีวิตจริงแต่คุณสามารถศึกษาการแสดงได้โดยการนอนอยู่บนโซฟาเพื่อดูภาพยนตร์ในตอนกลางคืน เรียนรู้จากภาพยนตร์เรื่องโปรดเพื่อดูเทคนิคการแสดงที่สำคัญ เช่น การพัฒนาตัวละคร การระบุตัวตน การเลือกใช้คำพูดและการมีปฏิกิริยาตอบโต้จากนักแสดงคนโปรดในภาพยนตร์ การไปดูละครเวทีเป็นอีกวิธีในการเรียนรู้จากนักแสดงละครเวที ซึมซับทุกอย่างที่คุณเห็น! [2]
    • ถ้าหากคุณต้องการแสดงในภาพยนตร์หรือโฆษณา นี่คือวิธีการแสดงที่คุณควรศึกษา เลือกฉากโปรดในโฆษณาหรือภาพยนตร์และพยายามเลียนแบบมัน
    • ถ้าหากคุณต้องการมีส่วนร่วมในละครเวทีหรือละครเพลง คุณต้องศึกษาละครเวทีและละครเพลง สังเกตสิ่งที่นักแสดงทำถูกต้องและสิ่งที่พวกเขาสามารถปรับปรุงได้อีก ปรับใช้สิ่งที่คุณเรียนรู้ในขณะที่เปรียบเทียบพวกเขากับการแสดงของคุณ
  3. การแสดงเป็นกีฬาชุมชนมากกว่างานอดิเรกโดดเดี่ยวเพราะฉะนั้นคุณต้องสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ นักแสดงส่วนใหญ่ชอบซ้อมบท พูดถึงกระบวนการที่สร้างสรรค์และแบ่งปันเรื่องราว หาเพื่อนนักแสดง 2-3 คนและเรียนรู้จากพวกเขา พวกเขายังสามารถให้คำแนะนำกับคุณหรือบอกเกี่ยวกับการออดิชั่นได้ [3]
  4. การเป็นนักแสดงในเมืองใหญ่ เช่น ลอสแองเจลิสหรือนิวยอร์กเป็นเรื่องยากสำหรับนักแสดงที่ฝึกฝนและมีประสบการณ์หลายสิบปีอยู่แล้ว ถ้าหากคุณเป็นนักแสดงที่ไม่มีประสบการณ์ คุณควรเริ่มที่บ้านเกิดของคุณ เกือบทุกเมืองมีบริษัทโรงละครท้องถิ่นและบริษัทโรงละครท้องถิ่นเหล่านี้คือที่ที่สมบูรณ์แบบในการเริ่มต้น คุณสามารถลองทำงานร่วมกับนักเรียนหรือผู้ผลิตภาพยนตร์ท้องถิ่นถ้าหากคุณสนใจในภาพยนตร์และโทรทัศน์ [4]
    • ถ้าหากบ้านเกิดของคุณเป็นเมืองใหญ่อยู่แล้วก็ไม่เป็นไร มุ่งเน้นไปที่การออดิชั่นในฉากของละครเวทีหรือภาพยนตร์อิสระ คุณยังสามารถพบโรงละครเวทีขนาดเล็กในเมืองใหญ่ที่จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์
    • ถ้าหากคุณตัดสินใจว่าคุณต้องการเป็นนักแสดงจริงๆ การย้ายไปยังเมืองใหญ่อาจเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดเพื่อให้คุณได้รับการฝึกฝนที่ดีที่สุด รอทำสิ่งนี้เมื่อคุณได้ตัดสินใจว่าคุณต้องการพัฒนาการแสดงไปอีกขั้น
    • ให้แน่ใจว่าคุณได้ถามตัวเองว่าทำไมถึงมุ่งมั่นจะเป็นนักแสดงให้ได้ และพร้อมจะเสียสละอะไรบ้างในระยะยาวเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น
  5. บริษัทโรงละครท้องถิ่นมักจะมองหาอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือเรื่องเครื่องประดับ ฉาก เครื่องแต่งกาย เป็นต้น การเป็นอาสาสมัครจะช่วยให้คุณศึกษานักแสดงที่กำลังซ้อม ช่วยคุณคุ้นเคยกับโลกของการแสดงและแนะนำคุณให้รู้จักกับผู้คนในอุตสาหกรรม
    • ครั้งต่อไปพี่บริษัทจัดออดิชั่น คุณก็สามารถแสดงบทพูดเดี่ยวได้ คุณรู้จักทุกคนที่อยู่ในห้องอยู่แล้วเพราะฉะนั้นมันเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการเริ่มออดิชั่น พวกเขาน่าจะให้คำตอบรับที่ดีเช่นกัน [5]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ทำงาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งที่นักแสดงคนใหม่ๆ ต้องการมากที่สุดคือประสบการณ์ คุณอาจจะต้องเริ่มด้วยการทำงานที่ไม่มีค่าจ้างแต่คุณจะได้รับประสบการณ์และสามารถเขียนบทบาทเหล่านี้ลงในเรซูเม่ของคุณได้ เช่น ถ้าหากผู้จำหน่ายรถยนต์ท้องถิ่นต้องการโฆษณา คุณสามารถอาสาสมัครตัวเองเพื่ออยู่ในโฆษณานั้น ไปยังมหาวิทยาลัยท้องถิ่นและออดิชั่นเพื่อเล่นบทของพวกเขาหรือเล่นภาพยนตร์ของนักเรียน การทำงานที่ไม่มีค่าจ้างเหล่านี้จะช่วยเติมแต่งเรซูเม่ของคุณและคุณจะคุ้นชินกับการออดิชั่นและแสดง ไม่มีวิธีไหนที่จะเรียนรู้วิธีการแสดงได้ดีกว่าการแสดงจริงๆ
    • นักแสดงมักจะไปออดิชั่นเป็นร้อยๆ ที่แต่จะได้รับการติดต่อกลับเพียงไม่กี่ที่ เมื่อคุณเป็นนักแสดงใหม่ การออดิชั่นอาจจะเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าการได้รับบทบาท น้อมรับประสบการณ์การเรียนรู้ของแต่ละออดิชั่นและขอความคิดเห็นตอบรับจากผู้คัดเลือกนักแสดง [6]
    • มองหาประกาศคัดเลือกนักแสดงทางอินเตอร์เน็ต มีเว็บไซต์คัดเลือกนักแสดงที่เชื่อถือได้ไม่กี่เว็บไซต์สำหรับโทรทัศน์ ภาพยนตร์ โฆษณาและอื่นๆ ได้แก่ backstage.com และ projectcasting.com เป็นต้น คุณยังสามารถมองหาประกาศออดิชั่นละครเวทีได้จาก backstage.com
    • มองหาประกาศออดิชั่นบนเว็บไซต์โรงละครเวทีท้องถิ่นเช่นเดียวกับ Craigslist
  2. ในฐานะของนักแสดงใหม่ คุณจำเป็นต้องได้รับประสบการณ์ รับบทบาทที่หลากหลายและสร้างสรรค์เรซูเม่ของคุณ ถึงแม้ว่าบทบาทใดบทบาทหนึ่งจะแตกต่างจากบทบาทที่คุณมักจะเล่นโดยสิ้นเชิงแต่การตกลงรับบทบาทนี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับเรซูเม่ของคุณ สิ่งนี้จะแสดงให้ผู้คัดเลือกนักแสดงเห็นว่าคุณสามารถเล่นได้หลากหลายบทบาท ทำงานด้วยได้อย่างง่ายดายและตื่นเต้นกับการมีส่วนร่วมในโปรเจคท์ต่างๆ
    • ถ้าหากคุณได้รับบทบาทที่ขัดแย้งกับจริยธรรมหรือคุณค่าของคุณเป็นอย่างมาก คุณก็ไม่จำเป็นต้องรับมัน คุณสามารถปฏิเสธบทบาทที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ
    • ในขณะที่อาชีพของคุณก้าวหน้าไปและเรซูเม่ของคุณเริ่มดูดีขึ้น คุณสามารถเลือกบทบาทที่คุณต้องการเล่นและงานที่คุณต้องการรับมากขึ้นแต่จนกว่าจะถึงจุดนั้นคุณต้องรับงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ [7]
  3. ถ้าหากคุณเป็นนักแสดงที่ไม่มีประสบการณ์ การออดิชั่นแข่งกับมืออาชีพอาจเป็นสิ่งที่ท้าทายและน่ากลัว นี่คือช่วงที่ทักษะพิเศษจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ การพัฒนาทักษะ เช่น การขี่ม้า พูดหลายภาษา เล่นเทนนิสหรือร้องเพลงสามารถให้คุณได้รับบทบาทแทนที่จะเป็นนักแสดงคนอื่น คุณไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่ที่บทบาทจะต้องอาศัยทักษะที่พิเศษ เพราะฉะนั้นคุณต้องพยายามพัฒนาทักษะใหม่ๆ ตลอดเวลา
  4. ไม่ว่าคุณใฝ่ฝันที่จะได้เล่นโฆษณาหรือไม่ก็ตามแต่การออดิชั่นและแสดงในโฆษณาจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ยอดเยี่ยมกับการทำงานร่วมกับกล้องและฉาก สิ่งนี้จะเป็นตัวฝึกฝนที่ดีสำหรับบทบาทที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในอนาคต
  5. การเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์คือวิธีที่ดีในการเข้าสู่โลกของการแสดงและหาเงิน ความยากลำบากในการก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงอาจเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเงิน เพราะฉะนั้นคุณต้องมองหาการคัดเลือกนักแสดงตัวประกอบ คุณจะได้พบกับผู้คนในอุตสาหกรรมเดียวกันและมีรายชื่อภาพยนตร์อยู่บนเรซูเม่ [8]
    • บทบาทตัวประกอบส่วนใหญ่จะติดประกาศรับคัดเลือกในอินเตอร์เน็ตแต่คุณสามารถติดต่อเอเจนซี่ที่มีหน้าที่คัดเลือกนักแสดงตัวประกอบ คุณจะต้องเตรียมรูปเฮดชอตและเรซูเม่ให้พวกเขา คุณสามารถติดต่อเอเจนซี่เหล่านี้ได้ทางโทรศัพท์ อีเมลหรือด้วยตัวเอง มองหาเอเจนซี่ท้องถิ่นในเมืองของคุณ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ทำการตลาดให้ตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รูปเฮดชอตคือรูปมืออาชีพที่นักแสดงทุกคนต้องมี คุณสามารถแนบรูปเฮดชอตในการสมัครออดิชั่นควบคู่กับเรซูเม่ของคุณ ถ่ายรูปเฮดชอต 2-3 รูปเพื่อให้คุณมีรูปเพื่อใช้ในการออดิชั่นต่างๆ ทำให้รูปเฮดชอตดูเป็นมืออาชีพแต่อย่ากลัวที่จะแสดงออกถึงนิสัยส่วนตัวเล็กน้อย [9]
    • รูปเฮดชอตจำเป็นสำหรับการแสดงทุกรูปแบบ; ภาพยนตร์ โฆษณา ละครเวที ละครเพลง เป็นต้น
    • แม้การวานเพื่อนมาช่วยถ่ายให้จะประหยัดดี แต่การแข่งขันที่สูงมากนี้ควรต้องใช้บริการจากมืออาชีพ รูปเฮดชอตเป็นส่วนสำคัญ เทียบได้กับนามบัตรในอาชีพเลย
  2. เรซูเม่คือเอกสารที่คุณระบุประสบการณ์การแสดง การศึกษาและประวัติการทำงาน คุณต้องทำให้เรซูเม่ดูเป็นมืออาชีพเพราะคุณจะต้องใช้มันเพื่อการออดิชั่นกับผู้คัดเลือกนักแสดง ผู้ผลิต เอเจนซี่ ผู้จัดการ เป็นต้น การระบุในเรซูเม่ว่าคุณเป็นนักแสดงหน้าใหม่อาจเป็นเรื่องที่ยากซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณต้องไปออดิชั่นหลายๆ ที่ พยายามเป็นตัวประกอบภาพยนตร์หรืออาสาที่โรงละครท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้จะเป็นการออดิชั่นที่ดีในเรซูเม่ของคุณ [10]
    • การสร้างเรซูเม่ออนไลน์เป็นสิ่งที่จำเป็น ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไป ผู้กำกับบางคนชอบดูข้อมูลของคุณทางออนไลน์แทนที่จะเป็นเรซูเม่ที่คุณพิมพ์ออกมา ใส่เรซูเม่เหล่านี้ในเว็บไซต์ประกาศคัดเลือกตัวนักแสดงหลายๆ ที่ คุณไม่มีวันรู้ว่าใครจะได้เข้ามาดูเรซูเม่ของคุณ
  3. รวบรวมคลิปวีดีโอของประสบการณ์การแสดงของคุณเข้าด้วยกัน. คลิปวีดีโอควรมีความยาว 2-3 นาทีซึ่งเน้นงานชิ้นที่ดีที่สุดที่คุณเคยทำในอาชีพการแสดง คุณต้องใส่คลิปของทุกบทบาทที่คุณได้รับ คลิปของคุณคือวิธีที่ดีในการแสดงทักษะการแสดง ความหลากหลายและระดับของประสบการณ์ของคุณ
    • คุณควรมีคลิปวีดีโอทั้งทางออนไลน์และแบบที่จับต้องได้
    • จ้างมืออาชีพเพื่อทำคลิปวีดีโอให้กับคุณ มันเป็นเครื่องมือการตลาดที่จำเป็นเพราะฉะนั้นคลิปของคุณต้องดูดีที่สุด
    • อัพเดทคลิปวีดีโอทุกครั้งที่คุณได้รับบทบาทใหม่ๆ คุณต้องให้คลิปวีดีโอเป็นงานนำเสนอชิ้นที่ดีที่สุดของคุณเพราะฉะนั้นคุณต้องอัพเดทตลอดเวลา [11]
  4. ถึงแม้ว่าการเป็นนักแสดงหลากหลายประเภทเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมแต่คุณจำเป็นต้องระบุประเภทนักแสดงของคุณ เราทุกคนเกิดมาด้วยลักษณะท่าทางที่แตกต่างกันและคุณไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณดูเป็นอย่างไร มันขึ้นอยู่กับนักแสดงในการระบุรูปร่างหน้าตา เปลี่ยนแปลงและใช้มันเป็นข้อได้เปรียบ เช่น คุณเป็นทนายวัยรุ่นที่ฉลาดและดูเฉียบหรือไม่หรือคุณเป็นผู้ชายเฉื่อยชาในวัย 30 ต้นๆ? คุณเป็นสาวที่มีชื่อเสียงหรือสาวเนิร์ดที่ดูเหมือนศิลปิน? การรู้ประเภทนักแสดงของคุณสามารถช่วยให้คุณไปออดิชั่นที่เหมาะสมและช่วยให้คุณพัฒนาบุคลิกให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น [12]
    • คุณยังสามารถเล่นบทที่แตกต่างจากประเภทของคุณแต่การรู้และฝึกฝนประเภทของนักแสดงคือวิธีที่ดีในการเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้
  5. เรามักจะพูดกันว่า “มันไม่ใช่สิ่งที่คุณรู้จักแต่มันคือคนที่คุณรู้จัก” เป็นเพื่อนกับนักแสดงคนอื่นและมืออาชีพในอุตสาหกรรม ทำให้ผู้คนคุ้นเคยกับคุณสร้างเครือข่ายกับผู้คัดเลือกนักแสดง ผู้จัดการ เอเจนซี่นักแสดง ช่างแต่งหน้า เป็นต้น คุณไม่มีวันรู้ว่าคุณกำลังจะเจอใครหรือว่าพวกเขาจะสามารถช่วยคุณกับอาชีพนี้ได้หรือไม่
    • ในฐานะของนักแสดงหน้าใหม่ คุณไม่จำเป็นต้องมีเอเจนซี่นักแสดงหรือผู้จัดการในทันที เอเจนซี่นักแสดงและผู้จัดการจะเป็นประโยชน์เมื่อคุณมีประสบการณ์มากพอและมีเรซูเม่ที่น่าประทับใจ สร้างเครือข่ายกับเอเจนซี่นักแสดงต่างๆ และติดต่อกับพวกเขาในขณะที่คุณสร้างสรรค์เรซูเม่ของคุณ ถ้าหากพวกเขาประทับใจ พวกเขาก็จะสนใจที่จะร่วมงานกับคุณในที่สุด [13]
  6. เมื่อคุณตัดสินใจที่จะหาเอเจนซี่นักแสดง คุณต้องค้นคว้าในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับเอเจนซี่ต่างๆ หาเอเจนซี่ที่คุณคิดว่าเหมาะสมกับคุณและส่งรูปเฮดชอตและเรซูเม่พร้อมกับจดหมายนำที่อธิบายว่าคุณกำลังมองหาเอเจนซี่นักแสดงใหม่ การหาเอเจนซี่นักแสดงอาจจะยากแต่ถ้าหากคุณพยายามสร้างเครือข่ายและสร้างสรรค์เรซูเม่ของคุณมันก็จะง่ายขึ้น
    • ถามหาคำแนะนำเกี่ยวกับเอเจนซี่นักแสดงที่ดีๆ จากเพื่อนนักแสดง คุณครูหรือคนที่คุณรู้จักในอุตสาหกรรม ถ้าหากพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเอเจนซี่นักแสดงที่ดี คุณสามารถขอให้พวกเขาแนะนำให้คุณรู้จัก
    • เอเจนซี่ได้รับรูปเฮดชอตและเรซูเม่ที่ส่งให้พวกเขามากมายรายวัน อย่ารู้สึกเสียใจถ้าคุณไม่ได้ยินข่าวคราวจากพวกเขา คุณควรส่งรายละเอียดของตัวเองให้กับเอเจนซี่หลายๆ แห่งเพราะวิธีนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสที่คุณจะได้รับคำตอบรับ
    • ถ้าหากไม่มีเอเจนซี่ที่ไหนตอบกลับมาหาคุณ คุณควรปรับปรุงเรซูเม่และถ่ายรูปเฮดชอตใหม่ [14]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 14,636 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา