ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือที่ทำงาน ถ้าไม่มีเน็ตแรงเร็วใช้ก็แทบจะขาดใจ เน็ตอืดเป็นเต่านอกจากจะน่าโมโหแล้วยังทำเอาเสียเงินเสียทองอีก เดี๋ยวนี้หันไปทางไหน จะที่บ้านหรือที่ทำงานก็มีแต่อุปกรณ์ที่ต้องต่อเน็ตก่อนใช้งานแทบทั้งนั้น ของคู่กันจึงเป็นสัญญาณอินเทอร์เน็ตแรงๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ ว่าแล้วก็เลื่อนลงไปอ่านขั้นตอนที่ 1 เลย ว่าคุณจะเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพได้ยังไง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ตรวจสอบอุปกรณ์และสัญญาณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีหลายเว็บเลยที่ใช้ทดสอบความเร็วเน็ตได้ ลองค้นคำว่า “speed test” ใน search engine ดู แล้วทดสอบดูหลายๆ เว็บ อาจต้องติดตั้ง plugins ก่อนถึงจะทดสอบได้
    • ทดสอบแต่ละเว็บ ผลที่ได้ก็มักต่างกันออกไป ถึงจะทดสอบเว็บเดียวกัน 2 รอบก็เถอะ เพราะเว็บที่ใช้ทดสอบนั้นอยู่ต่างที่ต่างประเทศกัน จำนวนคนที่ออนไลน์ก็ส่งผลต่อความเร็วเน็ตด้วย เพราะงั้นให้ลองทดสอบดูหลายๆ ครั้งหลายๆ ที่ จะได้รู้ว่าความเร็วเน็ตโดยเฉลี่ยของคุณคือเท่าไหร่
  2. เทียบผลที่ได้กับความเร็วที่คุณเสียเงินใช้ในแต่ละเดือน. เช็คดูสิว่าแต่ละเดือนที่คุณจ่าย ผู้ให้บริการเขาอวดอ้างความเร็วเน็ต “สูงสุด” ไว้เท่าไหร่ ถึงปกติเน็ตก็แรงไม่ถึงขั้นนั้นอยู่แล้ว แต่ก็อย่าให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนผิดปกติ
    • ถ้าความเร็วเน็ตมักต่ำกว่าที่เสียเงินเสมอ ให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอลดแพ็คเกจหรือเรียกช่างมาตรวจสอบต่อไป
    • ถ้าคุณไม่ได้อัพเกรดอินเทอร์เน็ตมานาน อาจถึงเวลามองหาบริการเน็ตที่แรงกว่าในราคาย่อมเยา ยังไงลองศึกษาข้อมูลหรือโปรโมชั่นของผู้บริการใกล้บ้านคุณ
    • อย่าถูกหลอกด้วยคำว่า megabit/megabyte เพราะค่ายเน็ตชอบยก megabits มาโฆษณา ไม่ใช่ megabytes ใน 1 megabyte (MB) จะมี 8 megabits (Mb) ด้วยกัน เพราะงั้นถ้าคุณจ่ายเงินเพื่อใช้เน็ต 25 Mbps (megabits per second) ก็เท่ากับความเร็วเน็ตของคุณแค่ 3 MBps (megabytes per second) เท่านั้น
  3. บางทีแค่รีเซ็ตเราเตอร์ก็ช่วยให้เน็ตแรงขึ้นแล้ว ให้ลองทำดูว่าช่วยได้หรือเปล่า แต่ต้องรู้ข้อมูลที่ใช้ล็อกอินกลับเข้าไปนะ เผื่อคอมเรียกหาข้อมูลที่ว่าหลังรีเซ็ต
  4. ถ้าหลายคนในตึกเดียวกันใช้ channel เดียวกัน สัญญาณเน็ตจะอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ให้คุณใช้โปรแกรมอย่าง inSSIDer (Windows) และ KisMAC หรือ WiFi Scanner (Mac) สแกนหา channel ที่ไม่แออัดจนเกินไป แล้วย้ายไปใช้ channel นั้นเพื่อให้เน็ตลื่นไหล สัญญาณแรงขึ้น
    • ถ้าเจอ channel ว่างๆ เมื่อไหร่ให้รีบเปลี่ยนไปใช้เผื่อเน็ตจะแรงขึ้น แต่ก็ต้องอ่านคู่มือเราเตอร์ก่อน หรือเข้าเว็บหาข้อมูลเราเตอร์ที่ใช้ ว่าจะเข้าเราเตอร์ไปเปลี่ยน Wi-Fi channel ได้ยังไง
  5. ถ้าต่อเน็ตผ่านเราเตอร์ Wi-Fi แล้วสัญญาณอ่อน ก็จะทำให้เน็ตช้าลง หรือติดๆ หลุดๆ ถ้าเป็นไปได้ให้ย้ายเราเตอร์ไปใกล้คอมหน่อย สัญญาณจะได้แรงขึ้น หรือขยับคอมไปใกล้เราเตอร์แทน [1]
    • ถ้าเราเตอร์ที่ใช้เริ่มเก่าแล้ว อาจถึงเวลาอัพเกรดเป็นรุ่นใหม่สักที เราเตอร์รุ่นใหม่ๆ จะรับสัญญาณดีกว่า เน็ตจะแรงกว่าเครื่องเก่าเยอะเลย [2]
    • สายเคเบิลหรือโมเด็ม DSL ที่ต่อไปเราเตอร์ Wi-Fi หรือคอม ถ้าสกปรก ขึ้นสนิม หรือขั้วหลวม อาจทำให้เน็ตช้าลงเยอะ ให้ไปหาซื้อออกซิเจนกระป๋องตามร้านคอมหรือในเน็ต แล้วใช้เป่าทำความสะอาดฝุ่นกับสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากขั้วเสียบ
    • พวกเคสคอมหรือโมเด็มต่างๆ ต้องอากาศถ่ายเท จะได้ไม่ร้อนจัดจนเครื่องแฮงก์
  6. ถ้าเป็นไปได้ให้ลองเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ผ่านสายดู เน็ตจะแรงขึ้นได้ แถมไม่ถูกอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ อย่างแท็บเล็ตหรือมือถือมารบกวนสัญญาณ
  7. ถ้า Wi-Fi ของคุณไม่มีรหัสผ่าน เท่ากับปล่อยให้ใครก็ได้มาแอบใช้งาน แถมทำให้ข้อมูลอาจไม่ปลอดภัย ที่สำคัญคือปล่อยคนมาขโมย bandwidth ซะเฉยๆ ต้องแน่ใจก่อนว่า Wi-Fi ของคุณนั้นใส่รหัสแน่นหนา โดยเฉพาะคนที่อยู่รวมกับคนอื่น อย่างตามคอนโดหรือหอพัก
  8. ถ้าใช้ DSL แสดงว่าคุณต่อสายจากขั้วของโทรศัพท์มาที่ข้างหนึ่งของกล่อง filter อีกข้างจะเป็น 2 สาย สายหนึ่งคือสายโทรศัพท์ ส่วนอีกสายคือโมเด็ม ถ้าคุณเชื่อมต่อผ่าน DSL โดยใช้สายโทรศัพท์บ้าน ต้องแน่ใจว่าใช้ตัวกรองสัญญาณคุณภาพสูง ถึงจะใช้เน็ตได้ลื่นไหลเต็มประสิทธิภาพ
  9. ปิดสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต Smart TV กล่อง set-top หรืออะไรไปบ้างถ้าไม่ได้ใช้งานอยู่ เพราะถ้าทุกอุปกรณ์ที่ว่าพากันมาแย่งส่วนแบ่งสัญญาณ โดยเฉพาะการสตรีมวีดีโอหรือเกม ระวังจะเสียความเร็วเน็ตไปเยอะเลย
  10. หลายค่ายเน็ตมีการจำกัดการใช้งานเน็ตโดยลูกค้าไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ให้ลองล็อกอินเข้าหน้าบัญชีผู้ใช้ หรือติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าดู ว่าคุณใช้เน็ตเกินแพ็คเกจไปหรือเปล่า หลายค่ายใช้วิธีว่าถ้าคุณใช้เน็ตเกินที่จ่าย ก็จะลดความเร็วเน็ตของคุณลงในรอบบิลที่เหลือ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ล้างเบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไวรัส adware และมัลแวร์ต่างๆ ก็เป็นอีกตัวการทำเน็ตคุณอืด กระทั่งคอมเองก็พลอยทำงานช้าไปด้วย ให้หมั่นสแกนเพื่อให้แน่ใจว่าคอมของคุณนั้นปราศจากไวรัสและมัลแวร์
    • ถ้าคอมคุณไม่มีโปรแกรม antivirus ให้รีบติดตั้งทันที และหมั่นอัพเดทเป็นประจำ
    • แต่ก็ใช่ว่าโปรแกรม antivirus จะดักจับสำเร็จทุกตัว เพราะงั้นต้องหมั่นสแกนเพิ่มเติมด้วยโปรแกรมอย่าง Spybot หรือ Malwarebytes เพื่อหาและล้างมัลแวร์ประเภทดื้อด้าน
  2. ตอนคุณท่องเน็ต เบราว์เซอร์จะเก็บข้อมูลของเว็บต่างๆ ที่คุณเข้าไว้ เพื่อให้คราวหน้าเปิดเว็บนั้นให้คุณได้รวดเร็วทันใจ แต่พอนานๆ ไปอาจไปทำเบราว์เซอร์อืดแทนเพราะหนักข้อมูล เพราะงั้นนานๆ ทีให้ล้าง cache บ้าง เบราว์เซอร์จะได้กลับมาทำงานเร็วเหมือนเดิม
    • ลองอ่าน บทความนี้ดู ว่าต้องล้างแคชของแต่เบราว์เซอร์และอุปกรณ์ยังไง
  3. ถ้าใช้เบราว์เซอร์เดิมนานหลายปี บางทีคุณอาจสะสม toolbar หรือแถบเครื่องมือด้านบนไว้เต็มไปหมด ตอนนี้ถึงเวลากำจัดบางแถบ (หรือทุกแถบ) แล้ว เพราะ toolbar จะไปทำเบราว์เซอร์อืดและเปลือง bandwidth เวลาแสดงโฆษณาและข้อมูลต่างๆ
    • ลองหาอ่านเพิ่มเติมในเน็ตดู ว่าจะลบ toolbar จากแต่ละเบราว์เซอร์ได้ยังไง
  4. เบราว์เซอร์นั้นมักมีการพัฒนาอยู่ตลอด และเวอร์ชั่นใหม่ๆ จะทำงานได้เร็วกว่าเวอร์ชั่นเก่าเสมอ ให้คุณหมั่นเช็คว่าเบราว์เซอร์ที่ใช้อยู่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดหรือยัง ถ้าไม่ก็รีบอัพเดทซะ
    • สำหรับวิธีอัพเดท Internet Explorer อ่าน บทความนี้ ได้เลย
    • สำหรับวิธีอัพเดท Google Chrome ให้ศึกษาเพิ่มเติมจากในเน็ตดู
    • สำหรับวิธีอัพเดท Update Firefox ให้ศึกษาเพิ่มเติมจากในเน็ตดู
  5. ถ้าคุณติดตั้ง toolbar กับ plugin ต่างๆ ไว้เต็มเบราว์เซอร์ไปหมด คงง่ายกว่าถ้าเปลี่ยนไปใช้เบราว์เซอร์ใหม่เลย แทนที่จะมานั่งลบทีละตัว บางเบราว์เซอร์นั้นเร็วกว่าเบราว์เซอร์อื่นแต่แรก เพราะงั้นก็จะท่องเน็ตได้ลื่นไหลกว่าอย่างเห็นได้ชัด [3]
  6. ถ้าคอมเริ่มอืด จะท่องเว็บหรือทำอะไรก็ไม่สะดวก เลยทำให้ดูเหมือนเป็นเพราะเน็ตช้าซะอย่างนั้น ให้ล้างฮาร์ดไดรฟ์บ้าง ถ้าสงสัยลองศึกษาวิธีเพิ่มเติมจากในเน็ตดู
  7. เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องคอมอืดหรือติดไวรัสในอนาคต ขอให้ shut down คอมทุกวัน และเปิด security updates แบบอัตโนมัติของทุกโปรแกรม [4]
  8. บางโปรแกรมในเครื่องของคุณก็เปลือง bandwidth แบบไม่รู้ตัว ให้หาแล้วลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยติดตั้ง แต่ก็ต้องระวังเวลาจะลบโปรแกรมที่ไม่รู้จัก ยังไงให้เช็คในเน็ตดูก่อนว่าเป็นโปรแกรมสำคัญหรือเปล่า
    • สำหรับวิธีถอนการติดตั้งโปรแกรมของ Windows ให้ศึกษาเพิ่มเติมในเน็ตดู
    • รวมถึงวิธีถอนการติดตั้งโปรแกรมของ Mac OS X เช่นกัน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เปลี่ยนความเร็ว Bandwidth (Windows 7)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แล้วพิมพ์ gpedit.msc ในหน้าต่าง Run แล้วกด enter จะมีหน้าต่างใหม่โผล่ขึ้นมา
  2. แล้วเลือก "Network" ใน "Administrative Templates"
  3. ทางขวาของหน้าจอ
  4. ถ้าคุณใช้ default settings จะเห็นเป็น "Not Configured" แต่ถึง bandwidth limit ข้างล่างจะเขียนว่า 0% และเป็นสีเทา Windows 7 ก็ยังสงวน bandwidth ปัจจุบันไว้ 20% อยู่ดี
  5. ลากเปอร์เซ็นต์ bandwidth ไปที่ 0% แล้วคลิก "Apply" เสร็จแล้วให้คลิก "Okay"
  6. เท่านี้คอมของคุณก็จะใช้ bandwidth ได้ 100% จะเห็นว่าดาวน์โหลดได้เร็วขึ้นเยอะเลย
    โฆษณา

คำเตือน

  • ไฟล์ gpedit.msc นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ QoS packet Scheduler ที่มีเฉพาะใน Windows 7 Professional, Windows 7 Enterprise และ Windows 7 Ultimate รวมถึง Windows รุ่นที่ใหม่กว่า
โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ให้ลองใช้โปรแกรมอย่าง TCP Optimizer มาปรับแต่งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้ใช้งานได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น
  • ลองปิด tab ทั้งหมดในทุกเบราว์เซอร์ไปก่อน แล้วค่อยเริ่มท่องเน็ตดูอีกรอบ
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลดวิดีโอจากทุกเว็บไซต์ได้แบบฟรีๆ
แก้ปัญหาเข้าบางเว็บไม่ได้
หาวันที่เผยแพร่ข้อมูลของเว็บไซต์
ดูว่าใครแชร์โพสต์ของคุณบนเฟซบุ๊ก
แก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ DNS ไม่ตอบสนอง
เช็คตำแหน่งปัจจุบันใน Google Maps
รู้ความหมายของอีโมจิรูปหัวใจสีดำ
ตั้งชื่ออีเมลให้โดนใจ
เปิดใช้งานคุกกี้ในเว็บเบราว์เซอร์อินเตอร์เน็ตของคุณ
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในคอมพิวเตอร์ Windows
เว้นวรรคห่างๆ ใน HTML
หาละติจูดกับลองจิจูดใน Google Maps
อิโมจิซ่อนความสยิวที่คนใช้แชตกันมากที่สุด
หา URL ของเว็บไซต์
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,241 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา