ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดให้อุปกรณ์ที่ใช้ นอกจากแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างลดจำนวนอุปกรณ์ที่ต่อเน็ตเดียวกัน และปิดแอพที่ใช้งานอยู่หลายๆ แอพพร้อมกันแล้ว คุณยังสร้างเบราว์เซอร์ DNS แบบ custom ไว้ใช้ดาวน์โหลดเวลาคนแชร์เน็ตกันน้อยๆ ได้ด้วย
ขั้นตอน
-
เช็คความเร็วในการดาวน์โหลด . ง่ายที่สุดคือพิมพ์ internet speed ใน Google แล้วคลิกปุ่ม RUN SPEED TEST ทางด้านบนของผลการค้นหา จะทำให้รู้ความเร็วโดยประมาณในการดาวน์โหลดของคอมที่ใช้
- ถ้าเช็คแล้วความเร็วในการดาวน์โหลดที่ได้นั้น เร็วกว่าเวลาดาวน์โหลดไฟล์จริงๆ เป็นไปได้ว่าปัญหาไม่ใช่ความแรงของสัญญาณอินเทอร์เน็ต
- ถ้าเช็คแล้วความเร็วในการดาวน์โหลดช้ากว่าแพ็คเกจที่สมัครไว้ และช้ากว่าที่เราเตอร์ทำได้ แสดงว่าต้องลดจำนวนอุปกรณ์ที่ต่อเน็ตไว้พร้อมกัน
-
ตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น. ยิ่งมีหลายอุปกรณ์แย่งกันใช้เน็ต เน็ตก็ยิ่งช้า ถ้าเป็นไปได้ ให้ตัดเน็ตในเครื่องเกม มือถือ ทีวี แท็บเล็ต หรือคอมเครื่องอื่นๆ ก่อน รับรองดาวน์โหลดไวขึ้นเยอะเลย
-
ปิดการทำงานของแอพที่ไม่ใช้. เวลาดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ๆ (หรือเล็กก็ตาม) แนะนำให้ปิดแอพอื่นๆ ที่เปลือง bandwidth ไปก่อน
- เช่น ให้ปิด BitTorrent ที่ทำงานอยู่ในเบื้องหลังตอนจะดาวน์โหลดอัพเดทของ Windows
-
ปิดการ stream หนังหรือเพลงก่อน. Netflix, Hulu กระทั่ง YouTube ดึงความเร็วการดาวน์โหลดมาก ถึงจะไม่มาก แต่ถ้าปิด services พวกนี้ไป ก็ช่วยให้ดาวน์โหลดไวขึ้นแน่นอน
- แนะนำให้ปิดหน้าต่างหรือ tab เบราว์เซอร์ที่ยังไม่ใช้ไปก่อนด้วย
-
ลองเชื่อมต่อคอมกับเราเตอร์โดย ใช้สาย Ethernet . ถ้าคอมไม่ได้ต่อเน็ตผ่านสาย Ethernet ให้ลองใช้ โดยเสียบกับเราเตอร์ดูว่าทำให้ดาวน์โหลดเร็วขึ้นไหม
- ถ้าดาวน์โหลดแล้วเร็วขึ้น แสดงว่าเชื่อมต่อแบบไร้สายกับเราเตอร์นั้นได้ไม่ค่อยดี พยายามอยู่ใกล้ๆ เราเตอร์ หรือซื้อเราเตอร์ใหม่ที่สัญญาณแรงขึ้น
- ถ้าความเร็วในการดาวน์โหลดไม่เพิ่มขึ้น แสดงว่าปัญหาอยู่ที่เราเตอร์หรือคอมคุณเอง
- คุณล้าง cache ของเราเตอร์ได้โดยถอดปลั๊กทั้งเราเตอร์และโมเด็ม รอสัก 1 นาทีขึ้นไป แล้วเสียบปลั๊กกลับมาใหม่
-
6อย่า seed หรืออัพโหลดไปพร้อมๆ กับดาวน์โหลด. ถึงจะเป็นมารยาทการโหลดบิท ว่าดาวน์โหลดแล้วต้อง seed หรืออัพโหลดให้คนอื่นด้วย แต่ถ้าทำไปพร้อมๆ กันทั้ง 2 อย่าง เท่ากับถ่วงความเร็วในการดาวน์โหลด แนะนำว่าให้ดาวน์โหลดจนเสร็จ รอตอนไม่มีธุระต้องใช้เน็ต แล้วค่อย seed ให้คนอื่น (เช่น ตอนไปทำงาน หรือหลับอยู่)
-
บังคับการเข้ารหัส protocol เวลาโหลดบิท. เพื่อซ่อนการโหลดบิทจากค่ายเน็ตที่ใช้ จะได้ไม่โดนถ่วงเน็ต (ค่ายเน็ตนิยมลดความเร็วของเน็ต ถ้าจับได้ว่าใครใช้เน็ตโหลดบิท) โดย
- คลิก Options ในหน้าต่าง BitTorrent หรือ uTorrent
- คลิก Preferences
- คลิก BitTorrent
- คลิกช่อง "Outgoing" ให้ขยายลงมา
- เลือก Forced
- คลิก Apply แล้วคลิก OK
-
ซื้อเราเตอร์ใหม่. ถ้าใช้เราเตอร์มา 1 - 2 ปีขึ้นไป ก็อาจจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม ดาวน์โหลดได้ไม่เร็วเท่าเครื่องใหม่ๆ
- เวลาจะซื้อเราเตอร์ใหม่ พยายามเลือกรุ่นที่ทำความเร็วในการดาวน์โหลดสัมพันธ์กับแพ็คเกจเน็ตที่สมัครไว้ (หรือดาวน์โหลดได้เร็วกว่า)
-
อัพเกรดแพ็คเกจเน็ตให้เร็วขึ้น. บางทีแพ็คเกจที่คุณเลือกไว้ก็ดาวน์โหลดอะไรไม่ได้มากมาย ลืมไปเลยเรื่องดาวน์โหลดแล้วติดตั้งเกมคอมหรือเกมคอนโซล ให้ลองศึกษาดู เพราะปกติค่ายเน็ตจะมีแพ็คเกจสำหรับ "คอเกม" โดยเฉพาะ เน้นดาวน์โหลดแรงเร็ว แต่แน่นอนว่าค่าบริการก็แรงตามไปด้วย แพงกว่าแพ็คเกจสำหรับคนเล่นเน็ตปกติแน่นอน
-
ติดต่อ call center ของค่ายเน็ตที่ใช้. ถ้าลองทุกวิถีทางแล้ว แต่เน็ตยังอืด ดาวน์โหลดอะไรไม่ค่อยได้ แนะนำให้ติดต่อ call center ของค่ายเน็ตที่ใช้ เพื่อสอบถามและแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น
- บางกรณีอาจถึงขั้นต้องเปลี่ยนค่ายเน็ต ถ้าอยู่ขอบๆ พื้นที่ให้บริการจนส่งผลต่อสัญญาณเน็ต
โฆษณา
Windows
-
เปิด Start . คลิกโลโก้ Windows มุมซ้ายล่างของหน้าจอ หรือกด ⊞ Win
-
คลิก Settings . ด้านซ้ายล่างของหน้าต่าง Start
-
คลิก Network & Internet. ทางด้านบนของหน้า Settings
-
คลิก Change adapter options . ที่เป็นตัวเลือกล่างหัวข้อ "Change your network settings" ใน tab Status
-
คลิกชื่อสัญญาณเน็ตที่ใช้อยู่. จะอยู่ในหน้า Connections ให้คลิกเพื่อเลือก
-
คลิก Change settings of this connection . ที่เป็นปุ่มในแถวตัวเลือกบนสุดในหน้าต่าง เพื่อเปิด connection settings
-
คลิก "Internet Protocol Version 4 (TCP/IPv4)" ที่โผล่มา. ในหน้าต่างกลาง Wi-Fi Properties
- อาจจะต้องคลิก tab Networking ทางด้านบนของ Wi-Fi Properties ซะก่อน
-
คลิก Properties . ทางด้านล่างของหน้าต่าง
-
ติ๊กวงกลม "Use the following DNS server addresses". ทางด้านล่างของหน้าต่าง Properties
-
พิมพ์ DNS address ตามต้องการ. ในช่อง "Preferred DNS server" DNS server ที่ใช้ได้ผลก็เช่น
- OpenDNS - พิมพ์ 208.67.222.222
- Google - พิมพ์ 8.8.8.8
-
พิมพ์ DNS address สำรอง. ในช่อง "Alternate DNS server"
- OpenDNS - พิมพ์ 208.67.220.220
- Google - พิมพ์ 8.8.4.4
-
คลิก OK . เพื่อเซฟ DNS settings
-
คลิก Close . ทางด้านล่างของหน้าต่าง
-
รีสตาร์ทคอม. พอคอมบูทเครื่องเสร็จ ก็ทดสอบความเร็วในการดาวน์โหลดได้เลย ถ้าสัญญาณเน็ตเป็นตัวการทำดาวน์โหลดอืด ตอนนี้ก็น่าจะหมดปัญหาแล้วโฆษณา
Mac
-
เปิดเมนู Apple . คลิกไอคอน Apple มุมซ้ายบนของหน้าจอ
-
คลิก System Preferences . ทางด้านบนของเมนู Apple ที่ขยายลงมา
-
คลิก Network . ที่เป็นไอคอนลูกโลก ในหน้าต่าง System Preferences
-
คลิกสัญญาณ Wi-Fi ที่ใช้อยู่. ปกติจะอยู่ในกรอบทางซ้ายของหน้าต่าง
-
คลิก Advanced . ปกติจะอยู่กลางหน้าต่าง
-
คลิก tab DNS . ทางด้านบนของหน้าต่าง
-
คลิก + . ที่เป็นตัวเลือกล่างหน้าต่าง DNS Servers
-
พิมพ์ address ของ DNS server. ทั้ง OpenDNS และ Google ใช้ดีพอกัน ให้ใช้ DNS servers ต่อไปนี้
- Google - 8.8.8.8 หรือ 8.8.4.4
- OpenDNS - 208.67.222.222 หรือ 208.67.220.220
- ถ้าจะใส่ server address สำรอง หรือกรอกเอง ให้พิมพ์ address แรก (เช่น 8.8.8.8) ใส่ลูกน้ำ เว้นวรรค แล้วพิมพ์ address ที่ 2 (เช่น 8.8.4.4)
-
คลิก tab Hardware . ทางด้านขวาสุดของ tab ต่างๆ ทางด้านบนของหน้าต่าง
-
คลิกช่อง "Configure" แล้วคลิก Manually . ช่องนี้อยู่ด้านบนของหน้า Hardware
-
คลิกช่อง "MTU" แล้วคลิก Custom . ช่อง "MTU" อยู่ล่างช่อง "Configure" อีกที
-
พิมพ์ 1453 ในช่อง. ล่างช่อง "MTU"
-
คลิก OK . ทางด้านล่างของหน้า
-
คลิก Apply . ที่เป็นปุ่มทางด้านล่างของหน้า เพื่อเซฟ settings ใหม่ แล้วเริ่มใช้กับสัญญาณ Wi-Fi ปัจจุบัน
-
รีสตาร์ทคอม. พอคอมบูทเครื่องเสร็จ ก็ทดสอบความเร็วในการดาวน์โหลดได้เลย ถ้าสัญญาณเน็ตเป็นตัวการทำดาวน์โหลดอืด ตอนนี้ก็น่าจะหมดปัญหาแล้วโฆษณา
เคล็ดลับ
- download manager ต่างๆ ที่เจอตามเน็ตไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ แถมอันตราย ถ้าจะลองใช้จริงๆ ให้ดาวน์โหลดจากเว็บที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
โฆษณา
คำเตือน
- ต้องระวังเวลาจะอัพเดทคอมเก่าไปใช้ระบบใหม่ (เช่น Windows 7 เป็น Windows 10) เพราะด้วยปัจจัยทางโครงสร้าง จะเป็นการสร้างภาระให้เครื่องมากกว่า คอมจะทำงานอืด ไม่เต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะต่อเน็ตหรือไม่ก็ตาม
โฆษณา
โฆษณา