ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเพิ่ม Random Access Memory หรือ "RAM" ของคอมระบบ Windows โดยติดตั้ง RAM memory card หรือแท่ง RAM ในเคสคอม ทำได้ทั้งในแล็ปท็อปและคอมตั้งโต๊ะ แต่คอมบางรุ่นอาจติดตั้ง RAM เพิ่มเติมไม่ได้ ก็ต้องใช้ portable drive (คือไดรฟ์พกพา เช่น แฟลชไดรฟ์ USB) เพื่อเพิ่ม RAM ชั่วคราว

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เตรียมตัวก่อนติดตั้ง RAM

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ที่ต้องรู้คือยี่ห้อ ประเภท และรุ่นของคอม หาได้ที่
  2. โดยพิมพ์ http://www.crucial.com/usa/en/advisor ในเบราว์เซอร์ ในเว็บจะมีข้อมูลชัดเจนว่าคุณอัพเกรด RAM ได้ไหม รวมถึงประเภทและจำนวน RAM ที่อัพเกรดได้
  3. โดย
    • คลิกช่อง select manufacturer แล้วคลิกชื่อยี่ห้อของคอม (เช่น Toshiba )
    • คลิกช่อง select product line แล้วคลิกชื่อผลิตภัณฑ์ของคอม (เช่น Encore )
    • คลิกช่อง select model แล้วคลิกหมายเลขรุ่นของคอม
  4. ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ใต้ช่องเลขรุ่น
  5. ในหน้าผลลัพธ์ จะมีข้อมูลสำคัญ 3 ข้อที่คุณต้องรู้
    • Maximum RAM - ที่ด้านซ้ายบนของหน้า จะเห็นหัวข้อ "Maximum Memory: # GB" เลขที่เห็นตรงนี้คือจำนวน RAM สูงสุดที่ติดตั้งได้
    • Type of RAM - ใต้หัวข้อ "Compatible Memory" ทางด้านบนของหน้า จะเห็นหนึ่งในประเภท RAM คือ SDRAM, DDR หรือ RDRAM ในชื่อผลิตภัณฑ์ของ RAM
    • RAM speed - จะมีหมายเลขทางขวาของประเภท RAM (เช่น DDR3 ) นี่คือความเร็วที่ใช้ได้กับคอมของคุณ ห้ามผิดไปจากนี้!
  6. พอรู้ประเภท RAM, จำนวนสูงสุดที่ติดตั้งได้ รวมถึงความเร็วที่คอมต้องการแล้ว ก็ถึงเวลาไปหาซื้อ RAM จากร้านคอมหรือออนไลน์
    • ปกติซื้อในเน็ตจะถูกกว่าตามร้าน แต่ถ้าไปแผนก IT หรือร้านคอมตามห้าง สงสัยตรงไหนอย่างน้อยก็มีพนักงานแนะนำให้ ว่าคอมรุ่นที่ใช้ต้องเป็น RAM ตัวไหน
    • คอมส่วนใหญ่ต้องติดตั้ง RAM เป็นคู่ เพราะงั้นถ้าจะติดตั้ง RAM 8 GB ก็ต้องซื้อ RAM 4 GB 2 แท่ง (หรือ 2 GB 4 แท่ง)
  7. 7
    ให้แผนก IT ช่วยติดตั้ง RAM ให้. พอซื้อ RAM มาแล้ว ถ้าไม่ให้ช่างช่วยติดตั้งให้ ก็อาจให้แผนก IT ของบริษัทติดตั้งให้แทน เพราะมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า แต่ถ้าไม่มี ก็ติดตั้งเองโดยอ่านวิธีการ 2 "ติดตั้ง RAM ของแล็ปท็อป" หรือวิธีการ 3 "ติดตั้ง RAM ของคอม"
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ติดตั้ง RAM ของแล็ปท็อป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 2
    ดึงสายไฟและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกันอยู่ออกให้หมด. ทั้งสายไฟ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่าน USB สาย Ethernet และอื่นๆ
  2. ground หรือต่อสายดินให้ตัวเอง . เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าสถิตจนทำชิ้นส่วนในแล็ปท็อปเสียหาย
  3. แล็ปท็อปบางรุ่นจะมีฝาของช่องใส่ RAM โดยเฉพาะ แต่รุ่นอื่นๆ ต้องไขสกรูแล้วถอดทั้งแผงข้างใต้ ยังไงให้อ่านคู่มือหรือเข้าเว็บยี่ห้อคอมดู จะได้รู้วิธีโดยละเอียด
  4. แล็ปท็อปส่วนใหญ่จะมี slot ใส่ RAM แค่ 2 ช่อง เพราะงั้นก็ต้องถอด RAM เก่าออกก่อน โดยมองหาสลักหรือปุ่มกด ไม่ก็ค่อยๆ เลื่อนหรือดึงแท่ง RAM ออกมาจาก slot แทน
  5. โดยคีบข้างๆ แท่ง RAM อย่าแตะขั้วด้านล่างหรือแผงวงจรตรงกลาง ไม่งั้นอาจเกิดคราบน้ำมัน สิ่งสกปรก หรือเศษผิวหนังติดจนเสียหายได้
  6. ให้รอยบากของ RAM ใหม่ ตรงกับของ socket ในแล็ปท็อป จากนั้นกดเข้าแล้วกดลงไปให้แน่น (แล้วแต่ช่อง) ให้แท่ง RAM เรียบสนิท ทำซ้ำแบบเดียวกันถ้าจะติดตั้ง RAM อีกแท่ง
    • RAM ของแล็ปท็อปจะต่างจากของคอมตรงที่ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเป็นคู่เท่ากันเป๊ะๆ แต่ความเร็วต้องสม่ำเสมอ
  7. คุณเช็คได้ว่าระบบปฏิบัติการสแกนเจอ RAM ใหม่หรือเปล่า โดยกด Win + Pause เพื่อเปิดหน้าต่าง System Properties จะเห็น RAM ที่ติดตั้งไว้ข้างหัวข้อ "Physical Memory"
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ติดตั้ง RAM ของคอม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 2
    ดึงสายไฟและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกันอยู่ออกให้หมด. ทั้งสายไฟ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่าน USB สาย Ethernet และอื่นๆ
  2. ground หรือต่อสายดินให้ตัวเอง . เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าสถิตจนทำชิ้นส่วนในแล็ปท็อปเสียหาย
  3. จะได้เห็น slot RAM และแท่ง RAM ที่ติดตั้งอยู่ชัดเจน ทำให้เลือก RAM ใหม่ง่ายขึ้น
    • ลองศึกษาวิธีการเปิดเคสคอมเพิ่มเติมในเน็ตดู
  4. ถ้าจะถอดแท่ง RAM เก่าให้ใส่แท่งใหม่ที่ใหญ่กว่าได้ หรือเพื่ออัพเกรดความเร็ว ก็ให้ถอดโดยปลดสลักที่ด้านข้างของ RAM หรือค่อยๆ ดึงออกมาถ้าไม่มีสลัก แต่ถ้ามีและปลดสลักแล้ว ก็ให้ดึงแท่ง RAM ออกมาตรงๆ
  5. โดยคีบข้างๆ แท่ง RAM อย่าแตะขั้วด้านล่างหรือแผงวงจรตรงกลาง ไม่งั้นอาจเกิดคราบน้ำมัน สิ่งสกปรก หรือเศษผิวหนังติดจนเสียหายได้
  6. คุณจะใส่ RAM ได้ทางเดียวเท่านั้น เพราะงั้นต้องจ่อแท่ง RAM ให้ตรงกับ slot
  7. ดันแท่ง RAM เข้าไปใน slot.กดเบาๆ แต่มั่นคง ถ้าฝืดอย่าฝืน ปกติจะมีสลักที่ 2 ข้าง ที่จะล็อคอัตโนมัติหลังใส่แท่ง RAM ถูกต้องแล้ว
  8. แท่งที่คู่กันต้องใส่ใน slot ที่คู่กันกับ RAM แท่งแรก ปกติจะเห็นชัดเพราะสี slot ต่างกันเป็นคู่ๆ หรือมีชื่อติดที่เมนบอร์ด สงสัยตรงไหนดูแผนผังในคู่มือเมนบอร์ดได้เลย
  9. ถึงตอนนี้ก็เสียบปลั๊กและสายไฟต่างๆ คืนได้เลย รวมถึงอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่าน USB และอื่นๆ ที่เสียบอยู่ตอนแรก
  10. คุณเช็คได้ว่าระบบปฏิบัติการสแกนเจอ RAM ใหม่หรือเปล่า โดยกด Win + Pause เพื่อเปิดหน้าต่าง System Properties จะเห็น RAM ที่ติดตั้งไว้ข้างหัวข้อ "Physical Memory"
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้ไดรฟ์ USB แทน RAM

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    เสียบไดรฟ์ USB ที่คอม. ให้เสียบแฟลชไดรฟ์หรือฮาร์ดไดรฟ์ที่ slot USB ของคอม
    • ถ้าใช้แล็ปท็อป slot USB จะอยู่ด้านข้างของเคสแล็ปท็อป
    • ถ้าใช้คอม slot USB จะอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังของเคส CPU หรือตำแหน่งอื่นใกล้เคียง เช่น คีย์บอร์ด
  2. ที่ด้านซ้ายสุดของหน้าต่าง File Explorer
  3. คลิกชื่อไดรฟ์ USB ที่เสียบไป ปกติตัวอักษรประจำไดรฟ์จะเป็น "F:" ถ้าเป็น external storage เดียวที่เชื่อมต่ออยู่กับคอม
  4. ที่เป็น tab ทางซ้ายบนของหน้าต่าง แล้วจะมี toolbar โผล่มาล่าง tab Computer
  5. ที่เป็นช่องสีขาวมีติ๊กถูกสีแดง ทางซ้ายสุดของ toolbar เพื่อเปิดหน้าต่าง Properties ของแฟลชไดรฟ์
  6. ทางด้านบนของหน้าต่าง Properties
  7. ตรงกลางหน้า เพื่อให้ Windows ใช้พื้นที่ทั้งหมดในแฟลชไดรฟ์แทน RAM
    • แต่จะมากกว่าความจุ RAM สูงสุดของคอมไม่ได้
    • อาจจะต้องรอ 2 - 3 วินาทีกว่า ReadyBoost จะแสดงข้อมูลของแฟลชไดรฟ์
  8. ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อเซฟ settings แล้วใช้ที่ว่างในไดรฟ์ USB แทน RAM
    • พอถอดไดรฟ์ USB แล้ว คราวหน้าต้องกลับไปที่เมนู ReadyBoost เพื่อตั้งกลับเป็น RAM ใหม่ ถ้าจะใช้อีก
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • บางระบบปฏิบัติการของคอมจะใช้ได้เฉพาะ RAM บางประเภท เช่น Windows เวอร์ชั่น 32-bit จะใช้ RAM มากกว่า 4 GB ไม่ได้ ติดตั้งไปก็เสียเปล่า
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคอมคุณอัพเกรดไม่ได้ก็อย่าฝืน เพราะนอกจากไม่ได้ทำให้คอมเร็วขึ้นแล้ว ยังอาจทำคอมเจ๊งแทน


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 27,355 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา