การประสบกับความไม่ซื่อสัตย์ ตั้งแต่ข้อความแชตที่เป็นความลับ บทสนทนาทางโทรศัพท์ หรือการพูดคุยกันในอินเทอร์เน็ต และความสัมพันธ์ทางกายหรือทางอารมณ์ไปจนถึงความสัมพันธ์นอกสมรสที่เกิดขึ้นมายาวนาน ล้วนเป็นประสบการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดทางใจเป็นอย่างมาก การนอกใจคนรักและโกหกกลบเกลื่อนความผิดย่อมทำให้คนรักที่ถูกหักหลังไม่ไว้ใจและสงสัยในตัวคุณอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามคู่รักสามารถสร้างความไว้ใจ ขึ้นมาใหม่ ได้ ซึ่งระยะเวลาและระดับของการกลับมาไว้ใจนั้นขึ้นอยู่กับการกระทำของคนรักที่เป็นฝ่ายนอกใจเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ฝ่ายที่นอกใจหลายคนกลับไม่เข้าใจความรู้สึกที่คนรักของตัวเองต้องเผชิญและไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะสร้างความไว้ใจขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง ขั้นตอนต่อไปนี้เป็นประโยชน์ต่อคนที่นอกใจคนรักที่ต้องการเรียกความไว้ใจกลับมาอีกครั้งและเยียวยาความสัมพันธ์อย่างจริงจัง
ขั้นตอน
-
เลิกโกหกและพยายามซื่อสัตย์. หลังจากที่ทำลายความไว้ใจของคนรักแล้ว การโกหก บิดเบือน ปิดบัง หรือปฏิเสธมีแต่จะซ้ำเติมการดูถูกเข้าไปในความเจ็บปวด รับความท้าทายที่จะซื่อสัตย์ในทุกระดับ วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่คุณจะเรียกความซื่อสัตย์ของตัวเองกลับมาได้
- เริ่มจากการมองว่าตัวเองเป็นคนที่คนรัก ควร และ สามารถ ไว้ใจได้ การมองตัวเองแบบนี้เป็นขั้นแรกของการเรียกความไว้ใจกลับคืนมา จากนั้นทำให้เขารู้ว่าคุณ อยาก ให้เขาไว้ใจคุณอีกครั้ง
- เล่าเรื่องทั้งหมดก่อนและเต็มใจที่จะเล่า การสารภาพอย่างเต็มใจเป็นขั้นตอนสำคัญของการเริ่มเรียกความไว้ใจกลับคืนมา คุณอาจจะไม่ได้เล่าเรื่อง/ความจริงทั้งหมดในตอนแรก แต่คุณต้องเล่าทุกอย่างแม้ว่าคุณจะปิดบังบางอย่างในตอนแรก คนรักของคุณรู้จักคุณและสัมผัสได้หากมีอะไรมากกว่านั้น เธออาจจะถามต่อหรือพูดเรื่องนี้เพราะเธอรอที่จะฟังความจริงทั้งหมดที่เหลือแต่รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถที่จะถามออกมาได้โต้งๆ เพราะฉะนั้นการเล่าเรื่องทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับคุณ
- อย่าข้ามหรือปิดบังบางมุมของความจริง การทำเช่นนี้ไม่ได้ปกป้องคนรักของคุณ เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพูดเรื่องความผิดหรือแก้ปัญหาโดยไม่เล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง แม้ว่าความจริงอาจทำให้คนรักของคุณเจ็บปวดในระยะสั้น แต่ความซื่อสัตย์ของคุณจำเป็นต่อการประนีประนอมในระยะยาว ตามที่กล่าวไปแล้วว่าคนรักของคุณอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ว่าคุณปิดบังบางอย่างอยู่ อาจมีหลุมดำในเรื่องที่คุณเล่าที่เธอยังไม่ค่อยเข้าใจและรอให้คุณเล่าให้เธอฟัง มันอาจทำให้เธอเจ็บปวด แต่คุณต้องบอกความจริงกับเธอ เพราะถ้าไม่บอกเรื่องนี้จะระเบิดในวันข้างหน้าและมันก็จะแย่กว่าเดิมมาก
- จากนี้ไปให้พูดความจริง เสมอ การโกหกเรื่องอื่นเพิ่มมีโอกาสจะถูกจับได้และยับยั้งไม่ให้กระบวนการคืนดีคืบหน้าต่อไปได้ คนรักของคุณอาจจะถามคำถามเพื่อพิสูจน์ความจริงที่จริงๆ แล้วเขาหรือเธอรู้อยู่แล้ว นอกจากนี้เขาหรือเธอยังอาจเรียนรู้ที่จะจับความไม่ซื่อสัตย์ของคุณจากภาษากาย รูปแบบการพูด และวิธีการอื่นๆ สุดท้ายแล้วการที่คุณโกหกจะทำให้คุณกับคนรักไม่สามารถดำเนินความสัมพันธ์ต่อไปได้
-
จบความสัมพันธ์กับคนที่คุณนอกใจ ด้วย อย่างเปิดเผยและชัดเจน. คนๆ นี้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาแม้ว่าเขาจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม แต่บทบาทของเขาในเรื่องนี้ก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้ ถ้าคุณไม่จบความสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมา มันก็อาจจะไม่มีวันจบเลยก็ได้
- กล้าหาญเข้าไว้ การยอมรับความผิดกับคนอื่นอาจทำให้รู้สึกอับอายเล็กน้อย โดยเฉพาะถ้าอีกฝ่ายไม่รู้ว่าคุณนอกใจคนรัก แต่ในระยะยาวมันอาจช่วยฟื้นคืนความไว้ใจของคนรักที่มีต่อคุณได้
- แม้ว่าคุณจะควรนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่ก็อย่าหาข้ออ้างว่าคุณไม่อยากผลักไสให้อีกฝ่ายต้องเข้าสู่การยุติความสัมพันธ์ จำไว้ว่าความรู้สึกของคนรักควรจะสำคัญกับคุณมากกว่า
- คุณอาจจะขอให้อีกฝ่ายขอโทษด้วยก็ได้ (ในกรณีที่อีกฝ่ายรู้ว่าคุณนอกใจและเต็มใจที่จะเป็นชู้กับคุณ) เรื่องนี้สำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอีกฝ่ายจะยังคงมีอิทธิพลต่อชีวิตของคุณอยู่
- ถ้าคุณเป็นชู้กับเพื่อนร่วมงาน จำไว้ว่าการที่คุณยังต้องเจอเขาหรือเธอทุกวันอาจทำให้คนรักเริ่มไว้ใจคุณอีกครั้งได้ยากมากๆ จัดลำดับความสำคัญในชีวิตและทำสิ่งที่ต้องทำ
- เอาข้อความ "บอกเลิก" ให้คนรักดูหรือให้เขาหรือเธอได้ยินตอนที่คุณบอกเลิกอีกฝ่าย ถ้าเขาไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นคุณบอกอีกฝ่ายว่าเรื่องระหว่างคุณสองคนจบลงแล้ว (หรือไม่เคยรู้เลยว่าคุณนอกใจตั้งแต่แรก) เขาก็อาจจะไม่เชื่อคุณก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นวิธีนี้ยังเป็นการบอกคนรักของคุณอีกด้วยว่าเขาหรือเธอสำคัญกับคุณมากกว่าผู้ชายหรือผู้หญิงคนอื่นๆ อย่าประเมินวิธีนี้ต่ำเกินไป
-
การนอกใจเป็นสิ่งที่คุณเลือก 100%. การนอกใจมาจากความคิดที่ว่าเรามีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้ คุณจึงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของคุณด้วย
- การสร้างความไว้ใจขึ้นมาใหม่คือการทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้คนรักของคุณรู้สึกปลอดภัยโดยไม่นึกถึงตัวเอง
- ถึงแม้ว่าคนรักของคุณอาจจะทำผิดพลาดหลายอย่างในเรื่องของความสัมพันธ์ แต่ก็อย่ากล่าวโทษคนรักว่าเป็นเหตุที่ทำให้คุณนอกใจ เพราะคุณสามารถแก้ไขปัญหานั้นๆ ด้วยวิธีการที่ซื่อสัตย์ได้โดยไม่ต้องนอกใจ ขณะที่คุยกันเรื่องความผิดพลาดของคนรัก อย่าพูดเป็นนัยว่าการที่คุณนอกใจหรือโกหกนั้นเป็นเพราะว่าเขาหรือเธอทำผิดพลาดในเรื่องต่างๆ เพราะความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น
- อย่าหวังว่าจะได้รับความเห็นใจ คนรักของคุณก็อาจจะไม่มีความสุขหรือคับข้องใจกับความสัมพันธ์เหมือนกันกับคุณ แต่ก็ยังเลือกที่จะไม่โกหก นอกใจ หรือหักหลังคุณอยู่ดี
- อย่าอ้างข้อแก้ตัวปลอมๆ ที่น่าเบื่อหน่ายอย่าง "การไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่" การเผลอไผล เขามายั่ว ความสับสน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น มันเป็นเรื่องของอารมณ์ไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางกาย หรือการตกเป็นเหยื่อจากการถูกคนอื่นปั่นหัว ถ้าคุณไม่ได้ถูกข่มขู่แล้วล่ะก็ คุณเป็นคนเลือกที่จะทำแบบนี้เองและคนรักของคุณก็รู้ความจริงข้อนี้ดีด้วย
- อย่าแก้ต่างให้ตัวเอง การแก้ต่างมีแต่จะทำให้สถานการณ์ลุกเป็นไฟและทำให้คุณไม่ได้แก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดว่า “การแก้ต่างที่ดีที่สุดคือการโจมตีที่ดี” แต่ตอนนี้ เป็น เวลาที่ต้องเสียใจ สำนึกผิด เข้าอกเข้าใจ เมตตา ซื่อสัตย์ และเป็นที่พึ่งทางอารมณ์ให้คนรัก
-
ตอบคำถาม. สำหรับคนรักที่ถูกหักหลังแล้ว การรู้ว่ามีผู้ชาย/ผู้หญิงอีกคนในโลกที่อาจจะรู้รายละเอียดส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตคู่ของเขามากกว่าตัวเขาเองนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากๆ
- คนรักของคุณจะต้องอยากรู้รายละเอียดมากมายและถามคำถามในเรื่องต่างๆ ที่คุณอาจจะไม่อยากตอบซ้ำแล้วซ้ำอีก แย่หน่อยนะ เพราะคนรักของคุณจะต้องเทียบกับเรื่องก่อนหน้านี้และถามเพื่อยืนยันว่า “เรื่องนี้” หรือ “เรื่องนั้น” เป็นเรื่องโกหกหรือเปล่า ถ้าคุณปิดบังเรื่องอะไรไว้ ระวังไว้ให้ดี เพราะมันอาจจะกลับมาแว้งกัดคุณทีหลัง!
- เธอ/เขากำลังพยายามเรียบเรียงความจริงจากสิ่งเล็กน้อยที่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือในช่วงที่คุณโกหกและนอกใจ และถ้าคุณเคยทำให้คนรักคิดว่าเขามโนเรื่องต่างๆ ขึ้นมาเอง ชวนทะเลาะ หรือโทษว่าเป็นความผิดของคนรัก ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นอีกบาดแผลที่ต้องเยียวยา ดังนั้นการถามคำถามต่างๆ มากมายจึงเป็นการช่วยให้คนรักฝ่ายที่ถูกหักหลังตามเรื่องทั้งหมดได้ทัน และได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการรับมือกับความรู้สึกที่เหมือนอยู่ในความมืดขณะที่อีกฝ่ายพยายามซ่อนบางอย่างเอาไว้ คนรักหลายคนรับมือกับความรู้สึกเหล่านี้จนนอนไม่หลับ เพราะใจของเขาวกไปเวียนมาและพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวของคุณเข้าด้วยกัน
- จำไว้ว่าคำถามเกี่ยวกับผู้ชาย/ผู้หญิงอีกคน ("เธอน่ารัก/เซ็กซี่/ฉลาด/เร้าใจหรือเปล่า) จริงๆ แล้วอาจจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกไม่มั่นคงที่เกิดจากการถูกนอกใจ แม้ว่าคุณไม่ควรจะโกหกว่าคุณชอบคนที่คุณเป็นชู้ด้วยเพราะอะไร แต่ก็ให้ใช้ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสในการเน้นย้ำว่าทำไมคุณถึงชอบคนรักของคุณ
-
อดทนขณะที่คนรักของคุณกำลังสร้างความไว้ใจขึ้นมาอีกครั้ง. ความสงสัยและความไม่ไว้ใจเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อเราถูกนอกใจหรือโกหก สุดท้ายแล้วหลักฐานต่างๆ มันก็มาสนับสนุนความเชื่อที่ว่าคุณเป็นคนไว้ใจไม่ได้ ความไว้ใจสร้างขึ้นใหม่ได้ เพียงแต่มันไม่ได้สร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้แต่กับคนที่จิตใจดีก็ตาม
- สารภาพ ขอโทษ และให้คำมั่นว่าจากนี้ไปจะซื่อสัตย์ แต่อย่าคาดหวังว่าการทำเช่นนี้จะเพียงพอต่อการทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ
- เตรียมใจไว้เลยว่าคนรักของคุณจะต้องอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อารมณ์แปรปรวน การนอนและความอยากอาหารผิดเพี้ยนไปจากเดิม สุขภาพทรุดโทรม และจู่ๆ ก็ร้องไห้ โกรธ หรือเหม่อลอย วันนี้เขาอาจจะโอเคแต่พออีกวันก็กลับไปหดหู่อีก อดทนขณะที่คนรักกำลังผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ต้องผ่านและมันต้องใช้เวลา
- อย่ากำหนดระยะเวลาที่คนรักของคุณควรจะต้อง “หายเป็นปกติ” และอย่าถามเขาด้วยว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ แต่ให้ทำทุกอย่างที่ทำได้และคอยถามเขาเป็นระยะเพื่อดูว่าตอนนี้เขาอยู่ในจุดไหนแล้ว
- ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักในช่วงนี้ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าความสัมพันธ์จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้เสมอไป ความสงสัยและความไม่ไว้ใจของคนรักที่มีต่อคุณอาจจะจางหายไปตามกาลเวลาก็ได้
-
อยู่เคียงข้าง. คนรักของคุณต้องการโอกาสที่จะได้ปรับปรุงสิ่งต่างๆ ร่วมกับคุณ อย่างน้อยที่สุดคุณต้องเป็นที่พึ่งทางอารมณ์ให้กับเธอ แต่การคอยอยู่เคียงข้างเธอตัวเป็นๆ นั้นช่วยได้มากกว่า เพราะมันขัดแย้งกับความรู้สึกของคนรักที่ว่าคุณไม่เห็นค่าเขาหรือเธอ
- อยู่เคียงข้างเพื่อรับฟัง แม้ว่าคนที่สร้างความเจ็บปวดนี้ขึ้นมาจะเป็นคุณเอง ไม่อย่างนั้นคนรักของคุณจะต้องสูญเสียคนที่สำคัญมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิตของเขาที่เขาจะหันหน้าเข้าหาเพื่อขอกำลังใจ คนๆ นั้นก็คือคุณ
- อยู่เคียงข้างเพื่อตอบคำถาม เพื่อที่คนรักของคุณจะได้ไม่รู้สึกหมดหวัง เติมรายละเอียดที่ถูกต้องแทนที่จะปล่อยให้คนรักเติมรายละเอียดที่ไม่ถูกต้องเอง และป้องกันไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงใจที่มักจะเกิดขึ้นเวลาที่ฝ่ายที่นอกใจไม่อยู่
- อดทน แม้ว่าการตอบคำถาม และการรับมือกับความสงสัยของเขา/เธอซ้ำแล้วซ้ำอีกอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่การทำเช่นนี้เป็นเวลาสั้นๆ จะช่วยป้องกันระเบิดที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า
- เข้าใจว่าจากนี้ไปสักระยะ คนรักของคุณอาจจะสงสัยเวลาที่คุณใช้เวลากับคนอื่น เช่นเดียวกัน อย่าบอกปัดความไม่ไว้ใจนี้ว่าเป็นเรื่องของการหวาดระแวงไปเอง แต่พยายามต่อสู้กับความไม่ไว้ใจนี้ด้วยการบอกความจริงอย่างเปิดเผย
- ถ้าคุณไม่สามารถอยู่เคียงข้างคนรักของคุณแบบตัวเป็นๆ ได้ ให้เปิดโทรศัพท์ไว้ตลอดเวลาเพื่อที่เขาจะได้ติดต่อคุณได้ เขาอาจจะไม่จำเป็นต้องโทรหรือส่งข้อความหาคุณจริงๆ แต่การรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนและรู้ว่าคุณสะดวกรับสายอาจช่วยให้เขาเห็นคุณในมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น ส่งข้อความบอกรักและบอกว่าคุณคิดถึงเขา/เธอตลอดทั้งวัน
- เป็นฝ่ายถามคนรักก่อนว่าเขาหรือเธอกินข้าว นอนหลับดี และอื่นๆ หรือเปล่า และเขาหรือเธอสบายดีไหม คำถามพวกนี้อาจฟังดูเป็นคำถามพื้นฐานทั่วไป แต่ถ้าหากสามี/ภรรยาของคุณกำลังอยู่ในภาวะจิตใจบอบช้ำ เขาหรือเธออาจจะไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ตามปกติและอาจว้าวุ่นใจเกินกว่าที่จะสื่อสารหรือแม้กระทั่งตอบสนองความต้องการส่วนตัวได้ ซึ่งส่วนหนึ่งมันก็เป็นความรับผิดชอบของคุณที่จะต้องพยายามคาดเดาและเป็นที่พึ่งในเรื่องของความต้องการเหล่านี้
- คอยอยู่เคียงข้างจากระยะห่างที่เหมาะสมแม้ว่าคนรักของคุณจะต้องการเวลาอยู่คนเดียวบ้างก็ตาม
- ถ้าคนรักของคุณพยายามที่จะจบความสัมพันธ์ คุณต้องแสดงความชัดเจน มากๆ ว่าคุณไม่ต้องการแบบนั้นและเสนอว่าจะแก้ไขตัวเองเพิ่มเติมเพื่อให้การกระทำสนับสนุนสิ่งที่คุณพูด แม้ว่าคุณอาจจะต้องเคารพการตัดสินใจที่จะแยกกันสักพักในบางรูปแบบ แต่ถ้าคุณไม่แสดงออกอย่างชัดเจน (และอย่างให้เกียรติ) ว่าคุณไม่อยากเสียเขาไป เขาจะคิดว่าคุณไม่ใส่ใจ นี่เป็นสารที่คุณต้องสื่อออกมาดังๆ และชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการนอกใจ
-
ทำให้คนรักของคุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นเบอร์ 1 อีกครั้ง. เวลาที่คุณนอกใจ คุณได้มอบความสนใจและคุณค่าที่ปกติแล้วคุณจะรักษาไว้ให้คนรักแก่คนอื่น ดังนั้นมันจึงอาจทำให้คนรักรู้สึกว่าคุณไม่เห็นคุณค่าของเขา หรือเขาขาดในสิ่งที่คุณหาได้จากคนที่คุณเป็นชู้ด้วย นอกจากนี้มันยังอาจทำให้คนรักของคุณเชื่อว่าคนอื่นๆ เองก็ไม่รู้ว่าคุณเห็นคุณค่าของเขา จึงเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องต่อสู้กับความรู้สึกเหล่านี้และโน้มน้าวให้เขาเชื่อให้ได้ว่าคุณจะไม่หักหลังเขาอีกแล้ว
- ถามตัวเองว่าคุณไม่ได้เห็นคุณค่าของคนรักหรือเปล่า มันอาจจะเป็นสิ่งที่คุณมองหานอกความสัมพันธ์ที่จริงๆ แล้วมีอยู่ในความสัมพันธ์เสมอมา เพียงแต่คุณแค่ไม่เห็นมันหรือไม่ได้ทำให้มันเกิดขึ้น
- เขียนรายการสิ่งที่พิเศษในตัวของคนรัก หาคุณค่าในตัวคนรักจากความคิดและจิตใจของคุณ บอกและแสดงความซาบซึ้งให้เขารู้ด้วย คำชมจะช่วยเยียวยาอัตตาที่บอบช้ำและหัวใจที่เป็นแผล แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ให้แสดงการยืนยันด้วยการกระทำที่ชัดเจนว่าคนรักมีค่ากับคุณ
- แสดงให้เห็นว่าคุณรักเขา สิ่งที่คุณทำลงไปอาจทำให้เขาสงสัยในความรักของคุณที่มีต่อเขา การอุทิศตนเพื่อเป้าหมายนี้สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องทำทันทีหลังเกิดเรื่อง
- แสดงและบอกให้คนอื่นรู้ว่าคนรักสำคัญกับคุณ การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คนรักของคุณรู้ว่าคุณเห็นคุณค่าของเขาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คนรักของคุณข้ามผ่านความรู้สึกอับอายได้ด้วย และมันก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นกับตัวเองด้วยเช่นกัน
-
เปิดเผย. ยิ่งคุณแสดงความเปิดเผยมากเท่าไหร่ คนรักของคุณก็จะรู้สึกว่าตัวเองจำเป็นจะต้องตามเช็กกิจกรรมของคุณน้อยลงเท่านั้น
- เวลาที่คุณอยู่คนเดียว คนรักของคุณอาจสงสัยว่าคุณอยู่ที่ที่คุณบอกว่าอยู่จริงหรือเปล่า คลายความรู้สึกไม่มั่นคงของคนรักด้วยการบอกให้เขารู้ว่าคุณทำอะไรอยู่และส่งข้อความหาหรือโทรศัพท์คุยกันสั้นๆ เวลาที่คุณไม่อยู่บ้าน
- ชวนคนรักไปที่ที่ปกติแล้วคุณจะไปคนเดียว (ฟิตเนส ไปกับเพื่อนๆ และอื่นๆ) ถึงเขาจะไม่ไปตามที่ชวน แต่การชวนก็เป็นการแสดงให้เขาเห็นว่าคุณ ไม่มีอะไร ปิดบังเอาไว้
- จำไว้ว่าโทรศัพท์ อีเมล ข้อความเสียง และแม้กระทั่งบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ อาจเป็นเหมือนแหล่งที่ซ่อนความลับและคำโกหกที่คุณบอกคนรัก ถ้าคุณเลือกที่จะให้คนรักของคุณเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ คนรักของคุณก็อาจจะเชื่อใจคุณเร็วขึ้นและง่ายขึ้นกว่าเดิม (แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็สมควรแล้วที่เขาจะตั้งคำถามว่าคุณปิดบังอะไรไว้) แม้ว่าคนรักของคุณอาจจะไม่เคยเลือกที่จะเข้าไปยุ่มย่ามกับข้อมูลเหล่านี้เลย แต่การที่เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ง่ายๆ อาจเป็นขั้นตอน ใหญ่ ในการเรียกความไว้ใจของเขากลับคืนมา
- บางขั้นตอนเหล่านี้อาจรู้สึกเหมือนเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว จำไว้ว่าความสัมพันธ์ที่จริงจังนั้น ควร เริ่มจากการเปิดเผยในลักษณะนี้ก่อน นอกจากนี้การยืนยันว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะปิดบังสิ่งเหล่านี้มีแต่จะยิ่งเพิ่มความไม่ไว้ใจที่คุณสร้างให้กับคนรักตอนที่คุณนอกใจอีกด้วย
- อย่าพยายามแอบไปใช้เวลากับคนอื่นอย่างลับๆ เพราะมันอาจทำให้คนรักของคุณเจ็บปวดที่รู้ว่าคนอื่นควรค่าแก่การได้เวลาลับๆ จากคุณมากกว่า และที่แย่ไปกว่านั้นคือมันจะยิ่งทำให้คนรักรู้สึกว่าคุณเป็นคนไว้ใจไม่ได้เลย
-
อย่าทำให้คนรักเจ็บช้ำน้ำใจมากกว่าเดิม.
- จำไว้ว่าแค่เพราะคนรักของคุณไม่ได้พูดเรื่องนอกใจก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ได้อยู่ในใจเขาตลอดเวลา เขาอาจจะไม่พูดเพราะรู้สึกอับอายและขายหน้ากับสิ่งที่คุณทำกับเขา/เธอ หรือกลัวว่าคุณอาจจะโกรธ
- อย่าเพิ่มความตึงเครียดในความสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่คนรักรู้เรื่องนอกใจ
- อย่าเห็นแก่ความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ หรือแฟนเก่าก่อนคนรัก อย่าใช้เวลากับเพื่อนๆ หรือเพื่อนร่วมงานที่เป็นเพศที่คุณชอบ อย่าชมความน่ารักของคนอื่น หรืออย่าสร้างความสัมพันธ์ใหม่ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากหักหลังคนรัก เพราะทั้งหมดนี้อาจยิ่งทำให้แผลใจเจ็บช้ำมากไปกว่าเดิม
- เลือกหัวข้อทะเลาะให้ดี จำไว้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาชวนทะเลาะกันเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวและการแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ คุณทำให้ความรู้สึกมั่นคงและความไว้ใจในความสัมพันธ์และในโลกใบนี้ของคนรักสั่นคลอน และมีแต่การเปิดเผยและความเข้าใจเท่านั้นที่จะเรียกความไว้ใจกลับมาได้ ไม่ใช่การเอาชนะและการโต้เถียงกัน
- อย่าให้คนรักมีโอกาสคิดว่า "ถ้าคุณอยู่ดึกดื่นและทำเรื่องพวกนี้กับคนที่คุณเป็นชู้ด้วยได้ คุณก็ทำแบบนี้กับฉันได้เหมือนกัน"
-
ใช้โอกาสนี้ในการสร้างความสัมพันธ์ให้กลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง.
- จงขอบคุณคนรัก สามี/ภรรยาของคุณพยายามที่จะอยู่เคียงข้างคุณและฟื้นฟูความสัมพันธ์กับคุณหลังจากถูกหักหลัง ไม่ว่าเขาจะโกรธ เจ้าอารมณ์ จุกจิก หรือผีเข้าผีออกขนาดไหน เขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่เขามีต่อคุณ และในหลายๆ กรณีก็แสดงให้เห็นถึงลักษณะของความเข้มแข็งในการเลือกที่จะสร้างความไว้ใจของเขา/เธอที่มีต่อคุณขึ้นมาใหม่ ฉะนั้นคุณจึงต้องให้เกียรติคนรักและซาบซึ้งในการตัดสินใจของเขา
- ตอนนี้คนรักอาจมองคุณเป็นคนแปลกหน้าอยู่บ้าง คุณเองก็อาจจะรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าของตัวเองด้วยเช่นกันเวลาที่คุณมองย้อนกลับไปถึงตอนที่คุณเลือกที่จะทำพฤติกรรมที่ตัวคุณเองก็ไม่ได้ภูมิใจกับมันนัก รวมไปถึงการหลอกลวงและความลับที่คุณปิดบังเอาไว้ จงเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่คุณ อยาก จะเป็น
- การคิดเรื่องการเริ่มต้นใหม่ให้เหมือนกับการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ก็อาจช่วยได้ เช่น หาสถานที่หรือกิจกรรมใหม่ๆ ทำร่วมกัน สำหรับบางคู่แล้วการกลับไปขอแต่งงานอีกครั้งอาจเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่อีกครั้ง วิธีนี้อาจช่วยให้คุณกับคนรักได้พูดถึงการหักหลัง (และปัญหาอื่นๆ ด้วย) นอกจากนี้หลายคู่ยังรายงานด้วยว่าพวกเขามีความสุขและเติมเต็มมากขึ้นหลังจากทำเช่นนี้ แต่ความรู้สึกแบบนี้ย่อมไม่เกิดในชั่วข้ามคืน
- คุณต้องแน่ใจว่าเขาหรือเธอและคนรอบข้างคุณทุกคน (เช่น ครอบครัว เพื่อนๆ เพื่อนร่วมงาน ลูกๆ) เห็นว่าคนรักของคุณคือโลกทั้งใบของคุณและเป็นคนที่คุณให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในชีวิต (อีกครั้งหนึ่ง) กล่าวยกย่องคนรักของคุณอย่างจริงใจ ระมัดระวังที่จะรักษาชื่อเสียงของคนรักเวลาที่คุณพูดเรื่องเขากับคนอื่น
- บอกเขาบ่อยๆ ว่าคุณรักเขาและพูดอย่างจริงใจ ออกมาจากใจ และมองเข้าไปในดวงตาของเขา การบอกเขาว่า "ผมรักคุณมากนะ" นั้นมีความหมายมากกว่า แต่อย่าบอกพร่ำเพรื่อ เพราะเขายังเจ็บปวดและพยายามที่จะเยียวยาตัวเองอยู่ ให้พื้นที่และเวลาที่เขาจะได้เยียวยาตัวเอง ให้เวลาเขาได้ทบทวน ให้เวลาเขาได้ปะติดปะต่อเรื่องราวของคุณเข้าด้วย คนรักของคุณอาจจะไม่ได้กล่าวคำนั้นกลับมา แต่จำไว้ว่าเขากำลังเยียวยาแผลใจอยู่ การบอกว่า "ฉันก็รักคุณเหมือนกัน" กลับมาอาจทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเปราะบาง พวกเขารู้สึกเหมือนถูกหักหลังและกำลังพยายามสร้างกลไกป้องกันตัวเองเพื่อปกป้องตัวเองอยู่ คุณเป็นคนนอกใจเขา เพราะฉะนั้นคุณจึงมีหน้าที่ที่จะต้องทะลาย "กำแพงต่อต้าน" ลงมา ไม่ว่ามันจะใช้เวลาแค่ไหนก็ตาม
- ขอบคุณที่ได้รับโอกาสที่สอง ทั้งในตอนแรกๆ และตลอดช่วงระยะ 2-3 ปีข้างหน้า การจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ไม่เพียงแต่ทำให้ความพยายามของคุณกับคนรักในการที่จะทำให้ความสัมพันธ์กลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้งเป็นรูปธรรมมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณไม่ตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดพลาดอีกในอนาคต
- อย่านอกใจอีก โอกาสครั้งที่สามนั้นมีน้อยกว่าครั้งที่สองมากๆ
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าสามี/ภรรยาของคุณขอให้คุณทำอะไรให้ (ในเรื่องที่สมเหตุสมผล) เพื่อช่วยให้เขาเยียวยาหัวใจตัวเอง (เช่น อ่านบทความ) ขอให้รู้ว่าการทำให้คนรักต้องย้ำเป็นครั้งที่สองหรือการผัดวันประกันพรุ่งเป็นการสื่อว่าคุณไม่ได้สำนึกผิดและไม่ได้สนใจความต้องการเขาเลย
- หาเวลาจีบสามี/ภรรยาอีกครั้ง ตอนที่คุณเป็นชู้กับคนอื่น คุณอาจจะทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณเคยทำกับสามี/ภรรยาให้อีกฝ่ายหนึ่ง เช่น ให้ดอกไม้ ให้เพลงที่มีความหมาย โน้ตสั้นๆ หรือของขวัญแบบไม่ต้องรอโอกาสพิเศษ บอกอีกฝ่ายว่าคุณรักอะไรในตัวเขา สามี/ภรรยาของคุณจะต้องสงสัยว่าทำไมคุณถึงโรแมนติกและเปิดเผยกับคนที่คุณเป็นชู้ด้วย แต่กลับไม่ทำแบบนี้กับเขาอีกแล้ว ถ้าคุณยังละเลยคนรักในเรื่องนี้อยู่ เขาก็จะรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาไม่พิเศษพอที่จะได้รับสิ่งนี้จากคุณในขณะที่อีกคนได้ คนรักของคุณจะไม่รู้สึกว่าคุณรักเขาเท่ากับที่รักคนที่คุณเต็มใจทำสิ่งเหล่านี้ให้ พวกเขาจะไม่ขอให้คุณทำสิ่งเหล่านี้เพราะเขาอยากรู้ว่าคุณจะทำออกมาจากใจหรือเปล่า สามี/ภรรยาอยากเห็นว่าเขามีค่ามากพอที่คุณจะพยายามขึ้นอีกนิด ใส่ใจมากกว่าเดิม หรือทำอะไรให้มากกว่านี้ ถ้าคุณต้องรอให้เขามาบอก เขาจะไม่มีวันรู้สึกว่าคุณทำออกมาจากใจและแสดงออกมาอย่างมีความหมายเพราะคุณต้องรอให้เขาบอกถึงจะทำ ไม่ใช่เพราะคุณอยากจะทำให้เขาเอง และจะยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นหากคุณทำสิ่งเหล่านี้ให้คนอื่น
- จำไว้ว่าจำนวนวันและสัปดาห์หลังจากรู้เรื่องนอกใจนั้นสำคัญอย่างยิ่ง และการกระทำของคุณในระยะนี้จะมีผลต่อความเร็วในการฟื้นฟูความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก ถ้าคนรักของคุณรู้สึกว่าตัวเองได้รับกำลังใจ ความรัก การให้เกียรติ และรู้สึกปลอดภัยที่จะพูดคุยเรื่องความรู้สึกของเขา/เธอในช่วงนี้ โอกาสที่ความสัมพันธ์จะกลับมาดีอีกครั้งจะสูงขึ้นมาก ในทางตรงกันข้ามถ้าสามี/ภรรยาของคุณรู้สึกเหงา ถูกละเลย และรู้สึกเหมือนถูกปล่อยอยู่ในความมืด การสร้างความไว้ใจกลับมาอีกครั้งจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ในภายหลัง
- เตรียมใจไว้ว่าจะต้องเจอการโต้เถียงในเรื่องที่ดูไม่ค่อยเกี่ยวกันเท่าไหร่ แต่อาจเป็นการแสดงออกของความรู้สึกในเรื่องการนอกใจ จำไว้ว่าแม้ว่าคุณอาจจะเถียงกันเป็นฟืนเป็นไฟว่าล่าสุดใครเป็นคนล้างจาน แต่จริงๆ แล้วคุณอาจจะกำลังเถียงกันเรื่องการนอกใจแบบอ้อมๆ ก็ได้แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ควรคุยกันในช่วงการให้คำแนะนำปัญหาชีวิตสมรสมากกว่า (เช่น คุณใช้เวลาไปกับความสัมพันธ์นอกสมรสมากแค่ไหน) บางครั้งมันก็ยากที่จะบอกว่าปัจจัยอะไรที่จะไปกระตุ้นความคิดของสามี/ภรรยาเรื่องการนอกใจ ที่จริงแล้วสามี/ภรรยาของคุณอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังแสดงความรู้สึกที่มีต่อประเด็นนี้ออกมาทางการโต้เถียงประจำวันทั่วไป กฎทั่วไปก็คือ การโต้เถียงที่ดูเผ็ดร้อนในเรื่องที่ดูเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยอาจจัดอยู่ในการทะเลาะประเภทนี้ ถ้ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น คุณไม่ควรยอมแพ้ไปเฉยๆ เพราะการทำเช่นนี้เป็นการสร้างรูปแบบการยอมอ่อนข้อที่คุณอาจเสียใจในภายหลัง แต่ให้จำไว้ว่าคนรักของคุณกำลังอยู่ใน 'สภาวะทางอารมณ์ที่คาดเดาไม่ได้และขึ้นๆ ลงๆ' และ เข้าใจเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- นึกถึงคำมั่นสัญญาและเหตุผลที่ทำให้คุณตกหลุมรัก/แต่งงานกับสามี/ภรรยาของคุณตั้งแต่แรก
- ผู้ให้คำปรึกษาที่ดีอาจช่วยให้คุณกับคนรักพูดคุยถึงปัญหาและฟื้นฟูความสัมพันธ์นี้ได้
- อย่าพยายามเร่งให้คนรักรู้สึกดีขึ้นเร็วๆ เขาต้องการเวลาในการประมวลทุกสิ่งอย่าง ความอดทนเป็นสิ่งที่ต้องมี ในฐานะคนที่นอกใจ คุณติดค้างเขาไว้มากนัก