ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เหมาะสมอย่างมากในการเรียน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางธุรกิจ การท่องเที่ยวหรือเหตุผลส่วนตัวอื่น ๆ แต่การเรียนภาษานั้น ไม่ว่าจะภาษาใดก็ตาม ก็ต้องใช้ความขยัน ความตั้งใจและไม่อายที่จะพูดหรือเขียนแม้ว่าอาจจะผิด บทความนี้จะพูดถึงเทคนิคในการเรียนภาษาอังกฤษ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การเพิ่มทักษะในการพูด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สมัครเรียนภาษาอังกฤษที่สอนให้หัดพูดเป็นกลุ่ม. การเข้าเรียนทำให้เราได้หัดพูดภาษาอังกฤษเป็นประจำ
    • นอกจากนี้ การเรียนคอร์สภาษาอังกฤษก็เป็นวิธีที่ดีในการหัดพูดภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง ในห้อง ครูจะสอนให้คุณพูดได้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และมักจะสอนโครงสร้างไวยากรณ์ ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ง่าย ๆ
    • การจับกลุ่มหัดพูดภาษาอังกฤษเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ โดยวิธีนี้จะเน้นให้คุณสามารถสื่อสารได้เข้าใจมากกว่าเน้นเรื่องความถูกต้องของไวยากรณ์ แต่การหัดพูดด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณกล้าพูดภาษาอังกฤษต่อหน้าคนอื่นได้มากขึ้น
    • การเรียนภาษาอังกฤษทั้งสองวิธีดังกล่าวนั้นมีข้อดีและข้อเสียต่างกันออกไป แต่ถ้าเป็นไปได้คุณควรลองเรียนทั้งสองแบบ
  2. วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนภาษาคือการพูดภาษานั้น ๆ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มพูดและรู้ศัพท์เพียงเล็กน้อยหรือคุณค่อนข้างพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว การพูดภาษาอังกฤษกับคนอื่นเป็นวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุด
    • อย่ารอจนกว่าคุณจะรู้สึกพร้อมที่จะพูดภาษาอังกฤษเพราะคุณมักจะไม่รู้สึกแบบนั้นถ้าคุณเพิ่งหัดพูด สิ่งที่คุณควรทำคือหัดพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะแปลกใจเมื่อได้เห็นว่าทักษะภาษาอังกฤษของคุณพัฒนาไปได้ขนาดไหน
    • ลองหาชาวต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ดูสักคน โดยหาคนที่สามารถให้เวลากับคุณในการฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ คุณอาจจะเสนอว่า คุณจะช่วยสอนภาษาไทยให้เขาเป็นการตอบแทน แล้วคุณก็อาจจะผลัดกันฝึกภาษาอย่างเช่น พูดคุยกันเป็นเวลา 30 นาทีด้วยภาษาอังกฤษ จากนั้นก็คุยกันด้วยภาษาไทยในอีก 30 นาทีต่อมา
    • หากคุณอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว คุณอาจจะลองฝึกพูดโดยเริ่มจากบทสนทนาง่าย ๆ กับคนที่คุณเจอ อย่างเช่น การคุณกับพนักงานในร้านขายของหรือถามทางกับคนแปลกหน้า
  3. แม้ว่าคุณอาจจะเข้าใจภาษาอังกฤษในระดับหนึ่งแล้วเพราะคุณรู้ไวยากรณ์ที่ถูกต้องและรู้ศัพท์มากมาย แต่ฝรั่งก็อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คุณพูดหากคุณยังออกเสียงได้ไม่ถูกต้อง
    • ดังนั้น การออกเสียงให้ชัดเจนก็เป็นสิ่งจำเป็นถ้าคุณต้องการเพิ่มทักษะด้านภาษาอังกฤษ ลองฟังว่าฝรั่งออกเสียงคำแต่ละคำว่าอย่างไรแล้วพยายามเลียนแบบเสียงที่คุณได้ยินให้ได้ใกล้เคียงที่สุด
    • สังเกตเสียงพยัญชนะหรือสระที่คุณไม่คุ้นเคยเพราะเสียงนั้นไม่มีในภาษาไทย อย่างเช่น หลายคนมีปัญหาในการออกเสียง “r” เพราะเสียงนี้ไม่มีในภาษาไทย หรือบางคนก็อาจจะมีปัญหากับเสียงจากพยัญชนะควบ “th”
    • ทั้งนี้การออกเสียงคำภาษาอังกฤษบางคำอาจจะออกเสียงได้หลายแบบโดยขึ้นอยู่กับสำเนียงนั้น ๆ เช่น สำเนียงของคนอเมริกัน สำเนียงของคนอังกฤษ เป็นต้น หากคุณจะไปเที่ยวหรืออยู่ที่ประเทศดังกล่าว คุณควรรู้วิธีในการออกเสียงคำต่าง ๆ ในสำเนียงนั้น ๆ ด้วยเช่นกัน
  4. จดจำและเรียนรู้ศัพท์รวมไปถึงสำนวนต่าง ๆ (Idiom) ในภาษาอังกฤษ. ยิ่งคุณรู้ศัพท์และสำนวนเหล่านี้มากเท่าไหร่ การพูดภาษาอังกฤษของคุณก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น
    • แน่นอนว่า วิธีหนึ่งในการจดจำและเรียนรู้สำนวนต่าง ๆ ก็คือ การพูดคุยกับฝรั่ง ซึ่งจะทำให้คุณสามารถใช้ศัพท์และสำนวนได้อย่างถูกต้องและฟังดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ คุณอาจจะลองฝึกจากการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ การดูทีวีและการฟังข่าวเป็นภาษาอังกฤษก็ได้เช่นกัน
    • เมื่อคุณเรียนรู้ศัพท์หรือสำนวนใหม่ ๆ คุณควรลองแต่งประโยคจากคำหรือสำนวนนั้น ๆ เพราะการแต่งประโยคเป็นวิธีที่ช่วยให้คุณจำคำหรือวลีเหล่านั้นได้ดีที่สุด
    • อีกวิธีนึงในการจดจำศัพท์คือ การแปะป้ายคำศัพท์ไว้ในสิ่งต่าง ๆ รอบบ้านของคุณ เมื่อคุณใช้สิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้ คุณก็จะเห็นคำศัพท์ของสิ่งของนั้น ๆ แล้วก็จะจำได้ในที่สุด
    • ลองหาสมุดเปล่าซักเล่มมาจดสำนวนภาษาอังกฤษต่าง ๆ ที่ฝรั่งใช้เป็นประจำ อย่างเช่น สำนวนที่ว่า “It’s raining cats and dogs.” แปลว่าฝนตกหนัก หรือ “cloud nine” ที่แปลว่ามีความสุขมาก หรือการเปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ ว่า “a piece of cake” ซึ่งแปลว่าสิ่งนั้นง่ายมาก การใช้สำนวนเหล่านี้ในบทสนทนาบ้างจะช่วยให้ภาษาอังกฤษของคุณดูดีและเป็นธรรมชาติขึ้น
  5. (โดยจะพกพจนานุกรมแบบเล่มหรือดาวน์โหลดพจนานุกรมลงในมือถือของคุณก็ได้)
    • การพกพจนานุกรมจะช่วยให้คุณไม่ติดกับคำศัพท์ ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่ต้องอายเวลาที่คุณกับฝรั่งแล้วลืมคำศัพท์ไป เพราะคุณสามารถค้นหาความหมายของศัพท์นั้นได้ทันที
    • นอกจากจะช่วยให้คุณไม่รู้สึกเคอะเขินแล้ว การค้นหาความหมายของศัพท์แล้วนำไปใช้ในประโยคทันทีจะช่วยให้คุณสามารถจำคำศัพท์นี้ได้ด้วย
    • การพกพจนานุกรมยังช่วยให้คุณสามารถท่องศัพท์ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อคุณมีเวลาวางระหว่างวัน เช่น ระหว่างที่คุณนั่งรถกลับบ้าน ระหว่างรอสัญญาณไฟข้ามถนนหรือระหว่างที่คุณจิบกาแฟยามเช้า คุณสามารถจำศัพท์เพิ่มได้มากถึง 20-30 คำต่อวันเลยทีเดียว
    • สำหรับผู้ที่เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ คุณควรใช้พจนานุกรมที่แปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยก่อน แต่เมื่อคุณเริ่มมีทักษะด้านภาษาอังกฤษมากขึ้นแล้ว คุณควรเปลี่ยนมาใช้พจนานุกรมแบบแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจะแปลคำภาษาอังกฤษด้วยคำอธิบายความหมายของคำนั้นด้วยภาษาอังกฤษ
    • ถ้าคุณต้องไปตามห้างแล้วคิดว่าคงเสียเวลาเปล่าประโยชน์ถ้าจะพกพจนานุกรมเล่มใหญ่ ก็แค่โหลดแอปแปลลงในโทรศัพท์มือถือ!
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การฝึกทักษะการฟัง เขียนและอ่านภาษาอังกฤษ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยอาจจะฟังจากวิทยุโดยตรงหรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชันวิทยุลงในมือถือเพื่อฝึกการฟังจับใจความภาษาอังกฤษ
    • พยายามฝึกฟังรายการเหล่านี้ให้ได้อย่างน้อยประมาณ 30 นาทีต่อวัน โดยอาจจะฟังระหว่างที่คุณออกกำลังกาย เดินทางไปหรือกลับจากที่ทำงานหรือระหว่างที่คุณนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ได้
    • นอกจากนี้ คุณควรจะพยายามเข้าใจสิ่งที่ฟัง ไม่ใช่ฟังผ่าน ๆ แม้อาจจะฟังไม่ทันบ้าง ก็พยายามจับคำหลักหรือวลีหลัก ๆ เพื่อเข้าใจว่ารายการนั้นกำลังพูดถึงอะไรอยู่
    • หากเป็นไปได้ ให้ลองจดคำหรือวลีที่คุณแปลไม่ได้แล้วลองค้นความหมายในพจนานุกรม แล้วฟังรายการนั้น ๆ อีกครั้งเพื่อสังเกตการใช้คำหรือวลีนั้น ๆ ในบริบท
  2. ฝึกจากการดูหนังหรือรายการทีวีภาษาอังกฤษก็เป็นอีกวิธีที่ทั้งสนุกและช่วยเพิ่มทักษะการฟังได้
    • เลือกหนังหรือรายการทีวีที่ชอบมาซักเรื่อง ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่เบื่อกับการฝึก หากเป็นไปได้ให้คุณพยายามเลือกหนังหรือรายการที่คุณคุ้นเคยอยู่แล้ว เช่น การ์ตูนหรือหนังชื่อดัง ถ้าคุณพอรู้เรื่องคร่าว ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่คุณดูแล้ว คุณจะฟังออกและเข้าใจได้มากขึ้น
    • แต่อย่างไรก็ตาม คุณก็ไม่ควรจะดูหนังหรือรายการทีวีโดยใช้คำบรรยาย (หรือ Subtitles) ที่เป็นภาษาไทยช่วย คำบรรยายเหล่านี้จะเบนความสนใจคุณ ทำให้คุณไม่ได้สนใจที่จะฟังภาษาอังกฤษให้เข้าใจและจะทำให้การฝึกไม่ได้ผล
  3. หรือไม่ก็หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษซักฉบับมาอ่าน การอ่านเป็นสิ่งจำเป็นในการเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ เช่นกัน
    • หาสิ่งที่คุณสนใจจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิยายภาษาอังกฤษชื่อดังซักเล่ม หนังสือพิมพ์ The New York Times หรือนิตยสารแฟชั่นแล้วก็เริ่มฝึกอ่าน หากสิ่งที่คุณอ่านไม่น่าสนใจ โอกาสที่คุณจะหยิบมาฝึกอ่านก็จะน้อยลง
    • และแน่นอนว่า คุณควรพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณกำลังอ่านจริง ๆ ไม่ใช่แค่อ่านผ่าน ๆ แต่ควรขีดเส้นหรือจดบันทึกคำหรือวลีที่คุณไม่เข้าใจแล้วไปค้นความหมายในพจนานุกรมด้วย
    • ถ้าคุณอยู่คนเดียว คุณอาจจะลองอ่านออกเสียงด้วยก็ได้เพื่อที่จะได้ฝึกทั้งการอ่านทำความเข้าใจและการฝึกออกเสียงไปพร้อม ๆ กัน
  4. นอกจากการอ่านและการฟังแล้ว การเขียนเป็นทักษะอีกอย่างที่ควรฝึกฝน
    • การเขียนนั้นอาจจะเป็นทักษะทางภาษาที่ค่อนข้างยากแต่ทักษะการเขียนก็จำเป็น การเขียนโดยใช้ภาษาอังกฤษจะช่วยให้คุณได้ไวยากรณ์และการสะกดคำ
    • พยายามเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษด้วยประโยคสองสามประโยคทุก ๆ วัน ประโยคที่เขียนไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องส่วนตัว คุณอาจจะเขียนเรื่องสภาพอากาศ สิ่งที่คุณเพิ่งกินไปตอนเย็นหรือกระทั่งแผนการของวันพรุ่งนี้
    • ถ้าเป็นไปได้ ลองให้ฝรั่งเช็คสิ่งที่คุณเขียนดูว่ามีจุดผิดพลาดตรงไหนหรือไม่ เพื่อช่วยให้คุณไม่เขียนผิดซ้ำอีก
  5. หาเพื่อนเป็นฝรั่งซักคนแล้วลองเขียนจดหมายหรืออีเมล์ถึงกันดู ถ้าภาษาอังกฤษคุณพัฒนาขึ้นถึงระดับหนึ่งแล้ว การลองหาเพื่อนคุยทางจดหมายก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการพัฒนาต่อไป
    • การมีเพื่อนทางจดหมายนอกจากจะได้ฝึกภาษาอังกฤษแล้ว ยังสร้างความตื่นเต้นที่จะได้รับจดหมายหรืออีเมลฉบับถัดไปด้วย
    • เพื่อนของคุณอาจจะเป็นคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกันหรือจะเป็นฝรั่งที่สนใจจะฝึกเขียนภาษาไทยก็ได้เช่นกัน
    • หากเพื่อนเป็นคนที่มาจากประเทศอย่าง อเมริกา, อังกฤษ, แคนาดา, ไอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์หรือแอฟริกาใต้ คุณอาจจะได้เรียนรู้ประเพณีและวัฒนธรรมเพิ่มเติมอีกด้วย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

สิ่งที่ควรทำในการเรียนภาษาอังกฤษ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งสำคัญในการเรียนภาษาใหม่ ๆ คือ ความกระตือรือร้นกับการเรียนภาษานั้น ๆ อยู่เสมอ
    • ตั้งเป้าหมายในการเรียนภาษาแล้วยึดมั่นในเป้าหมายนั้นโดยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า เราจะได้อะไรบ้างจากการเรียนภาษาหรือเราเรียนภาษาไปเพื่ออะไร นึกถึงเป้าหมายเพื่อผลักดันตนเองในการเรียนภาษาต่อไป
    • เช่น คุณสามารถนำทักษะภาษาอังกฤษนี้ไปใช้กับประเทศต่าง ๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทำให้คุณได้เพื่อนใหม่ ๆ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ และยังอาจจะทำให้คุณมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพของคุณอีกด้วย
  2. จะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วได้ในเวลาไม่นาน โดยเฉพาะเมื่อคุณฝึกทุกวัน
    • การเรียนภาษาให้ได้ผลนั้นขึ้นอยู่กับการใช้ภาษาบ่อย ๆ หากคุณไม่ได้ทบทวนนาน ๆ คุณจะลืมสิ่งที่คุณเรียนไปเมื่อครั้งก่อน ๆ แล้วต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการเสียเวลา
    • ทั้งนี้ คุณก็ควรจะเปลี่ยนวิธีการทบทวนภาษาอังกฤษบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่เบื่อเสียก่อน อย่างเช่นจัดเวลาในการทบทวนในแต่ละวันด้วยวิธีต่าง ๆ โดยวันแรกอาจจะทบทวนโดยการอ่าน วันถัดมาเป็นการฟัง วันที่สามเป็นการฝึกเขียนและวันที่สี่ทบทวนไวยากรณ์ เป็นต้น
    • แต่คุณก็ไม่ควรลืมเรื่องการพูดด้วยเพราะการพูดเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดของภาษา ดังนั้น คุณควรฝึกพูดทุกครั้งที่มีโอกาส
  3. จะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
    • การต้องแปลภาษาไทยไปเป็นภาษาอังกฤษและแปลกลับจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยอยู่ตลอดเวลานั้นทำให้คุณเหนื่อยและเสียเวลา ทุกภาษามีลักษณะเฉพาะเสมอ ซึ่งทำให้การแปลแบบตรงตัวนั้นไม่สามารถทำได้ตลอดเวลา
    • ดังนั้น ทางออกก็คือการคิดเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่ต้นซึ่งจะทำให้คุณพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยคิดเป็นภาษาอังกฤษทุกครั้งที่คุณต้องใช้ภาษาอังกฤษ
  4. วิธีทดสอบที่ดีที่สุดในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษก็คือ ให้คุณไปนั่งฟังบทสนทนาระหว่างฝรั่งด้วยกันเอง แล้วดูว่าคุณเข้าใจบทสนทนานั้นมากน้อยแค่ไหน
    • ลองหาเพื่อนฝรั่งหลาย ๆ คนแล้วพาไปตามสถานที่ที่เหมาะแก่การพูดคุย อย่างเช่น ตามร้านอาหารหรือในบาร์
    • การทำแบบนี้จะทำให้คุณต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อที่จะคุยกับเพื่อนของคุณ แต่การฝึกจะไม่น่าเบื่อเพราะคุณจะได้สังสรรค์กับเพื่อนไปด้วย
  5. อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการเรียนภาษาใหม่ ๆ ก็คือ ความกลัวที่จะพูดหรือเขียนผิด
    • นอกจากความกลัวนี้จะไม่ช่วยพัฒนาทักษะใด ๆ แล้วยังทำให้คุณใช้ภาษานั้นได้ไม่ดีอีกด้วย
    • จำไว้ว่าเราทุกคนย่อมผิดกันได้เมื่อเรียนภาษาใหม่ ๆ คุณคงจะประสบกับเหตุการณ์ที่น่าอายบ้างเวลาที่คุณพูดคำหยาบหรือพูดผิดโดยไม่ตั้งใจ แต่เหตุการณ์เหล่านี้นี่เองที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเรียนภาษาเป็นสิ่งที่สนุก
    • และจำไว้เสมอว่าเราไม่ได้ตั้งเป้าให้เราพูดภาษาอังกฤษได้ถูกต้องและใช้ภาษาได้เหมือนเจ้าของภาษาตลอดเวลา เราเน้นไปที่ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ภาษาของเรา ความผิดพลาดเป็นบทเรียนสำหรับการเรียนรู้ ซึ่งจะทำให้เราได้พัฒนาการใช้ภาษาของเรามากขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เรียนรู้วิธีการอ่านสัทอักษร (สัญลักษณ์ที่ใช้แทนการออกเสียง ซึ่งมักปรากฏอยู่ในพจนานุกรม) การรู้วิธีอ่านสัญลักษณ์เหล่านี้จะทำให้เราออกเสียงได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะจำเป็นหากคุณต้องการมีเพื่อนเป็นฝรั่ง และการออกเสียงในถูกต้องก็เป็นเรื่องที่ควรฝึกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่
  • การเขียนตามคำบอกเป็นวิธีที่ดีมากในการพัฒนาทักษะการฟังและการสะกดคำ ลองให้เพื่อนเลือกอ่านหนังสือหรือหนังสือพิมพ์ซักสองสามย่อหน้า จากนั้นให้คุณลองเขียนสิ่งที่คุณได้ยินแล้วลองนำสิ่งที่คุณเขียนไปเทียบกับตัวบทที่เพื่อนคุณอ่าน
  • เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ด้วย
  • หาฝรั่งที่สามารถสอนภาษาอังกฤษให้คุณได้ซักคนหนึ่ง แล้วให้เขาสอนไวยากรณ์และคำศัพท์ โดยการใช้ภาพ เสียงและการฝึกพูดปะปนกันกันไป
  • เรียนรู้การผันกริยาในภาษาอังกฤษ (หรือ Verb tense) โดยอาจลองค้นดูจากอินเตอร์เน็ตก็ได้ นอกจากนี้การใช้รูปของกริยาให้สัมพันธ์กับประธานของประโยค (หรือ Subject-verb agreement) ก็เป็นสิ่งจำเป็น หากคุณใช้กริยาไม่เหมาะกับรูปประโยค ประโยคจะฟังดูแปลก แต่ถ้าคุณใช้กริยาได้ถูกต้องเหมาะสม ประโยคจะฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นและจะทำให้ฝรั่งประทับใจในการใช้ภาษาอังกฤษของคุณ
  • หากคุณวางแผนจะไปอเมริกา ให้ลองหาคอร์สเรียนฝึกภาษาในย่านที่คุณจะไป คอร์สฝึกภาษาเหล่านี้มักจะฟรีและยังทำให้คุณมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติโดยตรงและหาเพื่อนเป็นชาวต่างชาติเพื่อฝึกภาษาได้
  • หาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตามวิทยาลัยหรือโรงเรียนสอนภาษาต่าง ๆ
  • อ่านหนังสือพิมพ์ที่เป็นภาษาอังกฤษหรือหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์ด้วยสองภาษา
โฆษณา

คำเตือน

  • หนังซิทคอมที่เก่า ๆ ของอังกฤษหลาย ๆ เรื่องจะมีการออกเสียงและสำเนียงที่ฟังยาก


โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. http://effortlessenglishclub.com/how-to-learn-english-very-fast
  2. http://www.antimoon.com/how/howtolearn.htm
  3. http://www.ecenglish.com/How-to-learn-english
  4. http://www.englishclub.com/learn-english/learn-english-how.htm
  5. http://www.teacherjoe.us/Learn.html Suggestions and exercises to help students become fluent in English
  6. http://news.bbc.co.uk/ For the BBC news site.
  7. http://www.bbc.co.uk/radio4/ For the BBC Radio 4 site, offering 'listen live' and 'listen again' options (down the right hand side).
  8. http://www.bbc.co.uk/worldservice/ For the BBC World (Radio) Service site (there's no point visiting it if you don't view it in English).
  9. http://www.loecsen.com/travel/0-en-67-2-2-free-lessons-english.html Useful expressions.

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 20,173 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา